HR Management and Self Leadership
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
25 สิงหาคม 2556

อัตราการลาออกของพนักงานควรเป็นเท่าไหร่

ในการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้น มีตัวชี้วัดอยู่ 1 ตัวซึ่งผู้บริหารมักจะให้ความสำคัญ และให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็คือ อัตราการลาออกของพนักงานในองค์กร มีคำถามเยอะมากกว่า จริงๆ แล้วอัตราการลาออกของพนักงานควรเป็นเท่าไหร่ดี ถึงจะเป็นอัตราที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์กรในการบริหารทรัพยากรบุคคล

ในวิชาชีพการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้น ทุกองค์กรจะมีการคำนวณอัตราการลาออกของพนักงานของตนไว้ โดยทั่วไปก็จะมีการคำนวณเป็นรายเดือน และรายปี เพื่อดูว่าเป็นสักกี่เปอร์เซ็นต์ แต่พอคำนวณแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้บริหารมักจะถามว่า อัตราการลาออกที่คำนวณมาได้นั้น มันแปลว่าอะไร มันบอกอะไรเราได้บ้าง เปอร์เซ็นต์ที่ออกมานั้น มันมาก หรือน้อย หรืออย่างไร

โดยหลักการในการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้น เรื่องของอัตราการลาออกของพนักงาน เราจะต้องเปรียบเทียบกับธุรกิจเดียวกันกับเรา ว่าเขาเป็นอย่างไร และเราเป็นอย่างไร จึงจะพอตีความได้ว่า อัตราของบริษัทที่เราคำนวณได้นั้น มีความหมายว่าอะไรกันแน่ เหมือนกับที่กูรูทางด้านบริหารทรัพยากรบุคคล Dave Ulrich ได้กล่าวไว้ในเรื่องของอัตราการลาออกของพนักงานว่า วิธีที่จะทำให้เรารู้ว่า อัตราการลาออกของบริษัทเรานั้นอยู่ในระดับที่รับได้ มากไป หรือน้อยไป ก็ต้องไปเปรียบเทียบกับข้อมูลอัตราการลาออกของธุรกิจเดียวกับเรา ซึ่งแปลว่า HR ก็ต้องไปหาข้อมูลเหล่านี้มาเพื่อทำการเปรียบเทียบ และตีความหมายอัตราลาออกให้กับผู้บริหารของบริษัทได้เข้าใจ

ถ้าองค์กรสามารถที่จะเก็บรักษาพนักงานในตำแหน่งงานหลักของบริษัทไว้ได้มากที่สุด ก็ย่อมทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีสถาบัน AMA Enterprise ได้ทำวิจัยเรื่องของอัตราการลาออก โดยสอบถามจากองค์กรต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะดูว่า อัตราการลาออกในมุมมองของบริษัทต่างๆ นั้น เขามองกันที่สักเท่าไหร่ ที่น่าจะเป็นตัวบอกได้ว่า องค์กรยังไม่มีปัญหาในเรื่องของการรักษาพนักงานภายใน ซึ่งผลก็ออกมาดังนี้ครับ

  • องค์กรจำนวนถึง 46% บอกว่า อัตราการลาออกที่ดีน่าจะอยู่ในช่วง ไม่เกิน 10%
  • องค์กรจำนวน 19% บอกว่า อัตราการลาออกที่ดีน่าจะอยู่ในช่วง 10-20%
  • องค์กรจำนวน 4% บอกว่า อัตราการลาออกที่ดีน่าจะอยู่ในช่วง 20-30%
  • และองค์กรจำนวนเพียง 2% บอกว่าอัตราการลาออกที่ดีน่าจะอยู่ในช่วงมากกว่า 30%

จากการศึกษาครั้งนี้ เป็นตัวช่วยบอกเราได้ว่า อัตราการลาออกที่องค์กรส่วนใหญ่คาดหวังก็คือ ไม่ควรเกิน 10% แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของอัตราการลาออกของพนักงานก็หนีไม่พ้นที่จะต้องนำไปเทียบกับกลุ่มธุรกิจที่เราแข่งขันด้วย เพื่อเป็นการเปรียบเทียบผลงานทางด้านการรักษาบุคลากรขององค์กรว่า เราอยู่ในระดับใด

ประเด็นที่สำคัญมากกว่าตัวอัตราการลาออกที่เราคำนวณได้ก็คือ

  • การเลือกว่าอัตราการลาออกของพนักงานที่เราจะคำนวณและเปรียบเทียบกับธุรกิจเดียวกันนั้น จะต้องเลือกสาเหตุการลาออกที่ชัดเจน และเป็นสาเหตุที่บอกได้ถึงผลงานทางด้านการรักษาบุคลากรของบริษัทอย่างแท้จริง คงไม่ใช่เอาทุกสาเหตุเข้ามาคำนวณทั้งหมด
  • สูตรในการคำนวณ สูตรในการคำนวณเรื่องอัตราการลาออกพนักงานนั้น มีอยู่มากพอสมควร ซึ่งก็ไม่มีถูกไม่มีผิด ขึ้นอยู่กับเราจะเลือกใช้ การจะเลือกใช้สูตรใดนั้นคงต้องพิจารณาจากอัตราการลาออกของกลุ่มธุรกิจที่เราเปรียบเทียบด้วย โดยต้องดูว่าเขาใช้สูตรใดและวิธีการคำนวณอย่างไร เพื่อจะได้เป็นฐานเดียวกันในการเปรียบเทียบ

อัตราการลาออกของบริษัทจะเป็นเท่าไหร่นั้น ไม่สำคัญเท่ากับตัวคนที่ลาออก ถ้า 10% ของคนที่ออกส่วนใหญ่เป็นคนเก่งของบริษัทแล้ว ปัญหาการเติบโตและความก้าวหน้าขององค์กร และปัญหาในการหาคน สร้างคนใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทนจะเป็นปัญหาหลักขององค์กร ซึ่งจะทำให้องค์กรเติบโตอย่างช้าๆ

แต่ถ้า 10% นั้นเป็นพนักงานที่ผลงานไม่ดีนัก แบบนี้ให้ออกมากว่า 10% ก็ยังได้ จริงมั้ยครับ




Create Date : 25 สิงหาคม 2556
Last Update : 26 สิงหาคม 2556 6:53:19 น. 0 comments
Counter : 2760 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]