HR Management and Self Leadership
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
18 กุมภาพันธ์ 2557

ผลงานของพนักงานจะดีหรือไม่ดี มีที่มาจากไหนบ้าง

success555

ในการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ล้วนแต่ต้องการผลสำเร็จของงานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจส่วนตัว เป็นพนักงาน เป็นหัวหน้า เป็นผู้จดการ หรือเป็นผู้บริหาร ทุกคนที่ทำงานก็ล้วนต้องการความสำเร็จของงาน อยู่ที่ว่าใครต้องการความสำเร็จมากกว่ากัน คนที่มีความมุ่งมั่นต่อความสำเร็จมากหน่อย ก็จะเป็นคนที่มักจะสร้างผลงานได้ดีกว่าคนที่มุ่งมั่นน้อยกว่า

ในการบริหารผลงานของพนักงานเองก็เช่นกัน คนที่เป็นหัวหน้า หรือผู้จัดการที่ต้องบริหารผลงานของลูกน้องของตนเอง ต่างก็ต้องการให้ลูกน้องของตนเองทำผลงานให้ได้ดี เพราะการที่ลูกน้องทำงานได้ดี ย่อมส่งผลต่อผลงานของหัวหน้า และผู้จัดการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำถามก็คือ แล้วผลงานที่ดีของพนักงานนั้นมาจากไหน

ลองดู Model ที่ผมทำมาให้ดูง่ายๆ เกี่ยวกับที่มาของผลงานพนักงานว่าเป็นอย่างไร

performance come from

จาก Model ข้างต้น จะเห็นว่า ผลงานของพนักงานจะดีหรือไม่ดีนั้น มีที่มาอยู่ 3 ส่วนใหญ่ๆ ก็คือ

  • ความตั้งใจจริงของพนักงานเอง ซึ่งก็คือ อุปนิสัยส่วนตัวของพนักงานคนนั้นว่า มีความตั้งใจจริงมากน้อยเพียงใด โดยมากก็จะแสดงออกถึงพฤติกรรมบางอย่างให้เราเห็นได้ เช่น ทำงานแบบมุ่งมั่นตั้งใจมาก กัดไม่ปล่อย ต้องทำให้งานสำเร็จให้ได้ไม่ว่าจะยากสักเพียงใด ก็สู้อยู่เสมอ เรื่องของความตั้งใจนี้ เป็นด่านแรกของการทำผลงานที่ดีของพนักงานเลยครับ ถ้าเราสามารถคัดเลือกพนักงานที่มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และมีความรับผิดชอบต่อตนเองที่สูงหน่อยเข้ามาทำงานได้ งานนั้นก็สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะถ้าพนักงานคนนั้นมีความตั้งใจจริงๆ ย่อมมีความพยายามที่จะสร้างผลงานที่ดีให้ได้อย่างแน่นอน
  • การสร้างผลงานของพนักงาน โดยผ่านการใช้ความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมบางอย่างที่สอดคล้องกับการทำงานนั้นๆ ปัจจัยที่สองที่จะเป็นตัวบอกผลงานของพนักงานว่าจะดีหรือไม่ดีนั้น ก็คือ เรื่องของความรู้ ทักษะ และพฤติกรรมที่สอดคล้องกับการทำงาน ว่าพนักงานคนนั้นมีความรู้ในการทำงานสักแค่ไหน มีทักษะในการทำงานนั้นมากน้อยเพียงใด และมีพฤติกรรมในการทำงานที่สอดคล้องกับการสร้างผลงานมากน้อยแค่ไหน ถ้าพนักงานคนนั้นมีความรู้ที่ดี มีทักษะความสามารถที่พร้อม ประกอบกับความมุ่งมั่นตั้งใจที่ดีด้วยแล้ว แนวโน้มของผลงานของพนักงานก็น่าจะออกมาสำเร็จไปแล้วสัก 80%
  • เป้าหมายผลงานที่ชัดเจน ตัวสุดท้ายที่จะทำให้ผลงานของพนักงานออกมาดีหรือไม่ดี ก็คือ พนักงานคนนั้นมีความเข้าใจเป้าหมายความสำเร็จของตนเองมากน้อยแค่ไหน KPI ที่กำหนดระหว่างหัวหน้ากับพนักงานมีความชัดเจนหรือไม่ เข้าใจภาพเป้าหมายเหมือนกันหรือไม่ ถ้าพนักงานกับหัวหน้ามองเป้าหมายผลงานแตกต่างกันออกไป เข้าใจไม่เหมือนกัน สุดท้ายผลงานก็ไม่ออกมาอย่างที่หัวหน้าคาดหวังแน่นอน

เมื่อเห็นภาพองค์ประกอบของผลงานที่ดีของพนักงานแล้ว สิ่งที่จะต้องดำเนินการถัดไปก็คือ ถ้าเราต้องการให้ผลงานของพนักงานออกมาดี ในฐานะที่เราเป็นหัวหน้า หรือผู้จัดการ เราจะต้องทำอย่างไรใน 3 องค์ประกอบข้างต้น หรือถ้าผลงานของพนักงานที่เราดูแลอยู่นั้น ออกมาไม่ได้ดั่งใจ หรือไม่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ก็คงต้องมานั่งวิเคราะห์กันว่า สาเหตุน่าจะมาจากปัจจัยไหนจาก 3 ปัจจัยข้างต้น เพื่อที่จะได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาผลงานของพนักงานได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

  • ถ้าสาเหตุมาจากพนักงานขาดความตั้งใจ สาเหตุนี้จะเป็นสาเหตุที่แก้ไขได้ยากที่สุด เพราะลึกๆ แล้วต้องมานั่งวิเคราะห์ว่าทำไมพนักงานคนนั้นถึงไม่มีใจในการทำงาน ทำไมถึงขาดแรงจูงใจในตนเองในการทำงานให้สำเร็จ ทั้งๆ ที่โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ทุกคนต้องการความสำเร็จอยู่แล้ว แต่พนักงานคนนี้กลับไม่ค่อยอยากทำงานให้สำเร็จ แสดงว่าจะต้องมีปัจจัยที่เป็นสาเหตุหลัก ซึ่งถ้าหาไม่เจอ เราก็จะไม่สามารถที่จะดึงพนักงานคนนั้นกลับมาได้เลย ส่วนใหญ่ก็คือ หัวหน้าจะต้องสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานให้ได้ อาจจะต้องเรียกพนักงานมาพูดคุย สอบถาม หาสาเหตุอย่างจริงจัง ทักษะของหัวหน้าในการนี้ก็คือ ทักษะการฟังอย่างเข้าใจ เทคนิคการถาม การให้คำปรึกษาหารือ เพื่อค้นให้เจอถึงสาเหตุที่แท้จริง อย่างไรก็ดี สาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานที่เคยมีความตั้งใจดีมาก กลายเป็นพนักงานที่ไม่สนใจสร้างผลงานอีกเลย ก็คือ ตัวหัวหน้าเองที่ไม่เอาใจใส่ ไม่ให้ความใส่ใจในผลงานของพนักงานที่ออกมา เลยทำให้แรงจูงใจของพนักงานลดลงไปเรื่อยๆ จนไม่อยากจะทำอะไรอีกต่อไป
  • ถ้าสาเหตุมาจากการขาดความรู้ ทักษะ และความสามารถในการทำงาน ในกรณีนี้การแก้ไขจะง่ายกว่าสาเหตุแรกมากหน่อย ก็คือ เราสามารถที่จะร่วมกันกำหนดแนวทางในการพัฒนากับพนักงานคนนั้นได้ว่า ถ้าจะทำผลงานให้ดีขึ้นนั้น จะต้องเติมความรู้ เติมทักษะ และสร้างความสามารถอะไรเพิ่มเติมบ้าง จากนั้นก็วางแผนในการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งเรื่องสาเหตุนี้ การใช้ Competency Base HRD ก็จะเข้ามาช่วยได้มาก มีการกำหนดแผนการพัฒนาพนักงานเป็นรายบุคคล หรือที่เรียกกันว่า IDP เข้ามาเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถของพนักงานได้อย่างดี
  • ถ้าสาเหตุมาจากเป้าหมายไม่ชัดเจน ก็คงต้องมานั่งแก้ไขกันที่ตัวหัวหน้าเยอะหน่อย การที่พนักงานไม่เข้าใจเป้าหมาย หรือเข้าใจเป้าหมายไม่ตรงกับที่หัวหน้าสื่อไป ก็คงต้องย้อนกลับมาดูว่า หัวหน้าสื่ออย่างไร ทำไมทำให้ลูกน้องเข้าใจผิดกันไปหมด ดังนั้นการแก้ไขเรื่องนี้ คงไปแก้ที่พนักงานไม่ได้ เพราะต้นเหตุมาจากหัวหน้ามากกว่า เพราะเป็นคนกำหนดเป้าหมายร่วมกันกับลูกน้อง ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ หัวหน้าเองก็ไม่ชัดเจนในเป้าหมายของตนเอง ก็เลยทำให้เป้าหมายของลูกน้องไม่ชัดเจนตามไปด้วย หรือบางครั้งหัวหน้าก็มักจะคิดไปเองว่า พูดแค่นี้ลูกน้องก็น่าจะเข้าใจ ซึ่งอันตรายมากครับ หัวหน้าที่ดีไม่ควรคิดไปเองในเรื่องของเป้าหมายผลงานนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรจะสอบถาม และให้พนักงานทบทวนถึงเป้าหมายที่คุยกันไปว่าเข้าใจอย่างไร ตรงกันหรือไม่ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน

ถ้าพอทราบถึงที่มาของผลงานของพนักงานแล้ว ก็ลองกลับไปพิจารณาผลงานของพนักงานของเราแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ที่ไม่ดีนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ จะได้กำหนดแนวทางในการแก้ไข และพัฒนาผลงานของพนักงานได้อย่างตรงประเด็นครับ




Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2557 7:25:00 น. 0 comments
Counter : 971 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]