HR Management and Self Leadership
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
15 มิถุนายน 2557

นายจ้างอยากได้พนักงานแบบไหนเข้าทำงาน

interview2

วันศุกร์ที่ผ่านมาผมได้ไปร่วมงานเสวนาเล็กๆ ในงาน e-job expo2014 @fortune town ซึ่งในงานก็มีบริษัทต่างๆที่ต้องการรับสมัครพนักงานเข้ามาเปิดบูธ เพื่อรับประวัติและรายละเอียดของผู้สมัครแต่ละคน รวมทั้งยังมีการสัมภาษณ์เบื้องต้นก่อนด้วย ผมเองก็เห็นผู้ที่เข้ามาสมัครงานมากมาย ทั้งนิสิตนักศึกษาจบใหม่ และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานเข้ามาเดินในงานมากพอสมควร

ประเด็นที่ผมได้เข้ามาร่วมเสวนาในงานครั้งนี้ทางผู้จัดงานเขาตั้งชื่อว่า HR รุ่นเก๋า เล่าประสบการณ์ ก็คือหน้าที่ของผมกับผู้ร่วมเสวนาอีกท่านหนึ่งก็คือ คุณปฐม อินทโรดม เจ้าพอ commart ของบ้านเรา จะต้องให้ข้อคิด และแนวทางในการสมัครงานให้กับน้องๆ ในงานว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ที่จะทำให้เราได้เปรียบมากกว่าคนอื่น และสามารถได้งานเกือบทุกที่ที่สมัครไป ซึ่งผมก็สรุปประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญๆ มาไว้ในบทความนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่สนใจสมัครงาน นิสิตนักศึกษาที่ไม่ได้ไปร่วมงานนั้น รวมทั้งผู้สนใจทั่วไปได้มองเห็นมุมมองของผู้ประกอบการมากขึ้นว่า เขาต้องการพนักงานแบบไหนเข้าทำงานในองค์กร

  • มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี (EQ) ประเด็นแรกที่สำคัญที่ได้กล่าวถึงในการเสวนาวันนั้นก็คือ ระหว่าง IQ กับ EQ อะไรที่สำคัญกว่ากันในการคัดเลือกพนักงาน ซึ่งคำตอบก็ออกมาค่อนข้างชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ว่า EQ สำคัญกว่า IQ เพราะในการทำงานในองค์กรนั้น จะต้องทำงานร่วมกับคนอื่น จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกองค์กร ดังนั้นคนที่จะทำงานได้ดี และได้เปรียบคนอื่นก็คือ คนที่มี EQ ที่ดีกว่าคนอื่นนั่นเอง แต่ก็มีประเด็นสอบถามมาว่า แล้ว IQ สูงๆ ไม่ดีกว่าหรือ คำตอบก็คือ IQ สูงๆ ดีครับ เพียงแต่ถ้า IQ สูงแต่ EQ ไม่ค่อยดีนัก ก็จะทำงานได้แค่เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะงานทางด้านสายเฉพาะทางที่ไม่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่น ก็จะพอได้อยู่ แต่ถ้าต้องการเติบโตไปเป็นผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องดูแลทั้งเรื่องงาน และเรื่องคนด้วยแล้ว คนที่มี EQ ที่สูงจะสามารถบริหารจัดการสิ่งเหล่านี้ได้ดี และสามารถที่จะใช้คนที่มี IQ สูงให้ทำงานได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าต้องการจะได้เปรียบในการหางาน สมัครงาน ก็คงต้องพยายามพัฒนา EQ ของตนให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
  • มีความอดทน ในงานวันนั้นได้พูดถึงเรื่องของเด็กรุ่นใหม่ที่เป็น Gen Y ว่าไม่อดทนในการทำงาน เวลาเจองานที่ยาก หรือมีปัญหา ก็มักจะท้อแท้ และไม่อยากที่จะทำงานต่อไป ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นที่แต่ละคนมากกว่า แต่อย่างไรก็ดี ประเด็นของทางนายจ้างที่เขาต้องการพนักงานเข้าทำงานก็คือ ต้องการพนักงานที่มีความอดทนต่อแรงกดดันในการทำงาน มีความอดทนต่อความยากลำบากในการทำงาน จริงๆ แล้วการทำงานทุกแห่งล้วนแต่มีความยากลำบากด้วยกันทั้งสิ้น เพราะต้องสร้างผลงานให้กับนายจ้าง ทำให้นายจ้างเห็นถึงความสำคัญของเรา ดังนั้นถ้าเราไม่สู้งาน ไม่แสดงให้เห็นถึงความอดทนต่อเรื่องต่างๆ ก็จะทำให้เสียเปรียบในการทำงาน เราอาจจะได้งานแต่เรื่องของการเติบโตอาจจะมีปัญหา เพราะคนที่จะเติบโตได้ในการทำงานนั้น จะต้องเป็นคนที่มีความอดทนในการทำงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เพราะการที่เราจะไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการได้นั้น มันไม่มีทางไปได้แบบสบายๆ อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราขาดความอดทนที่มากพอ เราก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยากเช่นกัน
  • มีความมุ่งมั่น อีกประเด็นหนึ่งที่นายจ้างต้องการจากพนักงานก็คือ คนที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน ความมุ่งมั่นก็คือ การที่ทำงานแล้วยึดเป้าหมายและความสำเร็จไว้ จากนั้นก็พยายามหาทางที่จะไปสู่เป้าหมายนั้นให้ได้ โดยที่ไม่ล้มเลิกกลางทาง

นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องระวังสำหรับผู้สมัครงานรุ่นใหม่ ที่มักจะใช้ Social network ในชีวิตประจำวัน อาทิ facebook หรือ twitter ซึ่งปกติก็มักจะมีการ post ข้อความหรือสิ่งที่ตนเองรู้สึกลงไปในนั้น เพื่อเป็นการแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ แต่หารู้ไม่ว่า การแชร์สิ่งต่างๆ ที่เรารู้สึกนั้น มันเป็นเหมือนดาบสองคม ก็คือ ถ้าเราแชร์สิ่งที่ดี มันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราแชร์แต่สิ่งที่ไม่ดี สิ่งเหล่านั้นจะเป็นเครื่องมือที่ย้อนกลับมาทำร้ายเราภายหลังได้ ดังที่จะเห็นได้จากข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มากมาย

การบ่น หรือ แชร์ความรู้สึก ที่ต้องระวังอย่างมากที่จะทำให้มีผลต่อการทำงานของเราเอง ก็คือ การต่อว่า หรือตำหนิองค์กรที่เราทำงานอยู่ หรือการบ่นแรงๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้านายของเราเอง ผมเคยเจอบางคนบ่นถึงนายใน facebook ว่า “เมื่อไหร่จะตายๆ ไปได้ซะที” สิ่งที่บ่นไปนั้นอาจจะทำให้เราสบายใจ แต่กลับส่งผลร้ายต่อตัวเราเองอย่างมากมาย ซึ่งมีผลต่ออนาคตในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นผู้สมัครงานใหม่ คนรุ่นใหม่ที่ใช้สื่อสังคมต่างๆ ก็คงต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี จะแชร์อะไร ก็คงต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อนเพราะแชร์ไปแล้วมันเปลี่ยนแปลงได้ยากมากครับ

นอกจากนั้นก็คงต้องพยายามสร้างตัวเราเองให้เป็นที่ต้องการขององค์กรต่างๆ โดยพิจารณาจากคุณสมบัติข้างต้นเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง เพื่อสร้างความได้เปรียบของตัวเราเอง

เวลาสมัครงานที่ไหน ก็จะมีแต่คนต้องการให้ไปทำงานด้วย




Create Date : 15 มิถุนายน 2557
Last Update : 16 มิถุนายน 2557 7:50:49 น. 0 comments
Counter : 1004 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]