HR Management and Self Leadership
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
7 พฤษภาคม 2556

โบนัส กับความเข้าใจของพนักงาน

หยุดไป 3 วันได้มีโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้าอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ขึ้นไปไม่นาน ก็ได้ยินคน 3 คนคุยกันเรื่องของการตัดสินใจทำงานว่าจะเลือกทำงานที่ไหนดี เหตุผลส่วนใหญ่ที่ได้ยินมาก็เป็นเรื่องของค่าตอบแทนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินเดือน ค่าวิชาชีพ ค่าครองชีพ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ “โบนัส”

สิ่งที่ผมได้ยินต่อก็คือ เขาคุยกันถึงเรื่องของโบนัสค่อนข้างเยอะว่า ปีที่ผ่านมาที่นี่ให้ 3 เดือน ที่นั่นให้ 2 เดือน อีกที่ให้แค่ 1.5 เดือน โดยที่ไม่มีการพูดถึงเงินเดือนมูลฐาน หรือองค์ประกอบของค่าตอบแทนอื่นๆ โดยที่เพื่อนอีกคนก็แนะนำไปว่า ก็น่าจะเลือกบริษัทที่ให้โบนัสเยอะที่สุดน่าจะดีที่สุด ผมได้ฟังแค่นี้ผมก็เอามาคิดต่อเองเป็นตุเป็นตะในสมองของตนเองในเรื่องของความเข้าใจเรื่องการให้โบนัสของพนักงานว่า จริงๆ แล้วพนักงานมีความเข้าใจในเรื่องของ โบนัสอย่างไรกันบ้าง

  • เข้าใจว่าโบนัสเป็นสิ่งที่บริษัทต้องให้อยู่แล้ว พนักงานบางคนเข้าใจเสมอว่า โบนัส เป็นสิ่งที่บริษัทต้องให้พนักงานอยู่แล้ว พอครบปี บริษัทก็ต้องมีการจ่ายโบนัสให้พนักงานตามรอบปี โดยไม่เคยคิดเลยว่า เงินโบนัสที่ให้นั้น มาจากไหน หรือทำไมต้องให้กันด้วย แต่คิดเพียงว่า นี่คือสิ่งที่เขาต้องได้ ถ้าไม่ได้ก็จะไม่พอใจบริษัทอย่างมาก
  • เข้าใจว่าโบนัสต้องได้มากขึ้นทุกๆ ปี พนักงานกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจว่าโบนัสที่ตนเองได้รับนั้น ถ้าปีนี้ได้ 1 เดือน ปีหน้าต้องได้มากกว่า 1 เดือน และปีถัดๆ ไปก็จะต้องได้มากขึ้นไปเรื่อยๆ จะน้อยลงไม่ได้
  • เข้าใจว่าโบนัสเป็นเรื่องผลงานของบริษัท ซึ่งพนักงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ พนักงานบางกลุ่มก็เข้าใจว่า เงินโบนัสที่ให้กับพนักงานแต่ละปีนั้น เป็นเงินที่มาจากผลงานของบริษัท ซึ่งพนักงานเองมองว่า ผลงานของบริษัทนั้น เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร ส่วนตนเองไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย ดังนั้นถ้าปีนี้โบนัสน้อยลง ก็จะโทษผู้บริหารว่าทำผลงานได้ไม่ดี ทำให้พนักงานต้องได้โบนัสน้อยลงไปด้วย ซึ่งจริงๆ ก็แปลกดีนะครับ เพราะผลงานขององค์กรล้วนแล้วแต่มาจากผลงานของพนักงานทุกคนในองค์กรอยู่แล้ว ถ้าองค์กรผลงานออกมาไม่ได้ พนักงานก็มีส่วนทำให้ผลงานไม่ดีอยู่แล้ว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
  • เข้าใจว่าโบนัสจะต้องได้เท่ากันทุกคน กล่าวคือ พนักงานบางกลุ่มจะมีความเข้าใจว่า เงินโบนัสที่ได้นั้น พนักงานทุกคนในองค์กรจะต้องต้องได้เท่ากัน เช่น ถ้าได้ 3 เดือน ทุกคนในองค์กรก็ต้องได้ 3 เดือนเท่ากันหมดทุกคน

กับความเข้าใจข้างต้น ก็เลยทำให้หลายองค์กรจ่ายโบนัสให้พนักงานแล้ว กลับมีปัญหาตามมา ว่า พนักงานไม่ happy บ้าง พนักงานรู้สึกหมดกำลังใจบ้าง หรือพนักงานรู้สึกว่าบริษัทกำลังเอาเปรียบเขาอยู่ ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้ล้วนอยู่ที่ความเข้าใจเรื่องของโบนัส และที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องมีการสื่อสารเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนระหว่างพนักงานกับบริษัท ว่าเรื่องของโบนัสนั้น เราจ่ายเนื่องจากอะไร จ่ายทำไม จ่ายเท่าไหร่ และเงินเหล่านี้มาจากไหนถึงมีเงินโบนัสมาจ่ายให้กับพนักงานได้

โดยปกติลักษณะของโบนัสปัจจุบันที่ให้กับพนักงานมีลักษณะดังนี้

  • จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับผลงานของบริษัท เรื่องของโบนัสที่ให้กับพนักงานนั้น ส่วนใหญ่จะคิดมาจากกำไรที่ได้มาจากการดำเนินงานในแต่ละปี ซึ่งถ้าปีไหนมีกำไรมากบริษัทก็สามารถตัดส่วนของโบนัสให้กับพนักงานได้มาก ปีใดที่กำไรน้อย หรือขาดทุน ก็จะทำให้โบนัสน้อยลง หรือไม่มีโบนัสในปีนั้นๆ ได้ นี่คือที่มา ซึ่งพนักงานจะต้องมีความเข้าใจที่มาของเงินโบนัสก้อนนี้เป็นอย่างดี
  • ผลงานของพนักงานมีผลต่อผลงานขององค์กรด้วย การที่เงินโบนัสมาจากผลงานของบริษัท คำถามก็คือ ใครที่ทำให้บริษัทมีผลงานที่ดีขึ้น หรือ แย่ลง ใช่อยู่ที่เจ้าของ หรือผู้บริหารกลุ่มเดียวหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ใช่ ผลงานของบริษัท มาจากการที่พนักงานทุกคนช่วยกันทำงานให้ไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ใครที่ทำหน้าที่อะไร ก็ทำหน้าที่ของตนไปให้ดีที่สุด เพื่อให้ไปบรรลุเป้าหมายขององค์กรอันเดียวกัน บริษัทที่มีผลงานที่ดี ก็แปลง่ายๆ ว่า พนักงานทุกคนช่วยกันทำให้ผลงานออกมาดี ซึ่งผลงานออกมาดี ก็มีส่วนที่ทำให้เราได้เงินโบนัสเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ดังนั้น ต้องสื่อสารให้พนักงานเข้าใจด้วยว่า โบนัสแต่ละปีอาจจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงได้ ขึ้นอยู่กับผลงานของบริษัท ซึ่งเชื่อมโยงลงมาหาผลงานของพนักงานในมุมใดบ้าง
  • พนักงานแต่ละคนได้โบนัสไม่เท่ากัน ปัจจุบันนี้การจ่ายโบนัสให้กับพนักงานนั้น ส่วนใหญ่จะให้พนักงานแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ ผลงานของแต่ละคนด้วย ใครที่ผลงานดี ก็จะได้มากหน่อย ใครที่ผลงานไม่ดี ก็จะได้น้อยหน่อย ใครแย่มากๆ ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้โบนัสเลยก็มี เนื่องจากยุคนี้ เราเน้นไปที่เรื่องของการสร้างผลงานมากขึ้น หรือที่เราเรียกว่า Pay for Performance เอาผลงานเป็นที่ตั้ง ถ้าทำได้ดี ก็จะใช้เป็นเหตุผลในการให้รางวัลตอบแทน ซึ่งก็จะสร้างความเป็นธรรมให้กับการบริหารคน และบริหารงานได้ดีขึ้น

การที่องค์กรจะบริหารเงินรางวัลผลงานแบบไหนก็ตามให้เกิดความเป็นธรรมนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ เรื่องของการสื่อสารให้พนักงานทุกคนเข้าใจถึงหลักการ และวิธีการในการให้ ไม่ควรเก็บเงียบ หรือคิดแค่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความลับ เพราะถ้าคิดแบบนี้ พนักงานก็จะคิดกันไปเอง ยิ่งไปกว่านั้น ปากต่อปากไปเรื่อยๆ จะยิ่งเกิดความเสียหายมากขึ้น

แทนที่บริษัทจ่ายเงินรางวัลให้แล้วพนักงานจะรู้สึกดี กลับทำให้พนักงานได้รับแล้วร้อง “ยี้” แบบนี้ ก็ถือว่า การให้เงินรางวัลนั้นไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาพนักงาน ทั้งๆ ที่องค์กรเสียเงินงบประมาณไปตั้งเยอะ




Create Date : 07 พฤษภาคม 2556
Last Update : 7 พฤษภาคม 2556 5:52:07 น. 0 comments
Counter : 1619 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]