เรื่องของความสุขในการทำงานนั้น พนักงานทุกคนล้วนต้องการพบกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน เวลาที่เรามาทำงานแล้วเราไม่มีความสุขเลย มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีปัญหาไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มีงานวิจัยมากมายที่พิสูจน์แล้วว่า ถ้าพนักงานมีความสุขในการทำงานจริงๆ ผลงานของพนักงานคนนั้นก็จะดีตามไปด้วย ยิ่งมีความสุข ผลงานก็ยิ่งดี

พอทราบแบบนี้ เจ้าของธุรกิจ หรือผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ก็ต้องการที่จะสร้างความสุขในการทำงานให้กับพนักงานที่มาทำงาน แต่ เรื่องของความสุขในการทำงานนั้นมันไม่ใช่แค่ผู้บริหารคนเดียวที่จะสร้างได้ มันต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของผู้บริหารทุกคน และทุกระดับในองค์กร องค์กรจึงจะสามารถสร้างความสุขให้กับพนักงานได้จริงๆ

จากบทความของ Val Matta ซึ่งเป็น vice president of business development ของบริษัท CareerShift ซึ่งเป็นบริษัททางด้านการให้คำปรึกษาทางด้านการหาพนักงาน ได้สรุปประเด็นที่จะทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานได้ดังต่อไปนี้ ซึ่งผมเห็นว่ามันมีความน่าสนใจดีเลยเอามาต่อยอดและเรียบเรียงใหม่เป็นแบบไทยๆ กัน

• ประเด็นเรื่องของค่าตอบแทน ประเด็นแรกที่พนักงานมักจะพูดถึงเสมอ และเป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องการก็คือ เรื่องของค่าตอบแทนนั่นเอง การที่พนักงานจะทำงานอย่างมีความสุขได้ ก็แปลว่าเรื่องของค่าตอบแทนก็ต้องมีความเป็นธรรมในการจ่ายในองค์กร ไม่ใช่จ่ายแบบไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป ถ้าเป็นแบบนี้ พนักงานก็จะเกิดคำถามคาใจไปตลอด ยิ่งถ้าบริษัทตอบไม่ได้ด้วย หรือตอบแบบไม่มีเหตุผลที่เป็นที่น่าเชื่อถือ พนักงานก็จะรู้สึกไม่เชื่อถือการบริหารของบริษัททันที เมื่อไม่เชื่อถือ ความสุขในการเข้ามาทำงานกับบริษัทก็จะเริ่มลดน้อยลงไป เพราะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าบริษัทจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานให้กับพนักงานในอัตราที่แข่งขันได้กับตลาด ก็จะทำให้พนักงานไม่ต้องมาคิดมากเรื่องของเงินเดือนค่าจ้าง เพราะรู้ว่าไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนก็จะได้ประมาณนี้เช่นกัน แต่ถ้าบริษัทจ่ายต่ำกว่าที่ควรจะเป็น พนักงานก็จะเริ่มไม่มีความสุขในการทำงาน เพราะวันๆ จะคิดแค่เพียงว่า จะเปลี่ยนงานไปที่ไหนดี ที่ทำให้เงินเดือนค่าจ้างของเราสูงขึ้นกว่านี้ และถ้าเขารับรู้ว่าเราจ่ายต่ำกว่าตลาดจริงๆ เขาก็จะรู้สึกไม่ดีกับบริษัท เพราะจะคิดว่าบริษัทเอาเปรียบเขา ความสุขในการทำงานก็จะหายไปอีกเช่นกัน ดังนั้น ถ้าจะแก้ไขในจุดนี้ ระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือนที่ดี และเป็นธรรม ก็น่าจะเข้ามามีส่วนช่วยทำให้พนักงานรู้สึกมีความสุขในเรื่องของค่าตอบแทนได้ดีขึ้น

• ประเด็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกเรื่อง และเป็นเรื่องที่พนักงานส่วนใหญ่รู้สึกได้ถึงความสุข หรือไม่มีความสุขในการทำงาน เคยมีหลายคนที่กล่าวไว้ว่า พนักงานไม่ได้อยากลาออกจากองค์กรเลย แต่จริงๆ แล้วที่ออก ก็เพราะอยากลาออกเพราะหัวหน้าของตนเองมากกว่า พนักงานหลายคนที่ผมเคยพูดคุยด้วยบางคนบอกว่าทำงานที่นี่ทำแล้วมีความสุขมากๆ สาเหตุไม่ใช่เพราะเรื่องค่าตอบแทน แต่เป็นเพราะมีนายที่เข้าใจทุกเรื่อง และสนับสนุน สอนงาน และยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นนายที่พยายามสร้างให้ลูกน้องเติบโตขึ้นอย่างไม่มีกั๊กกันเลย ส่วนพนักงานที่มาบ่นว่าทำงานที่นี่แล้วไม่มีความสุขเลย ก็สาเหตุหลักก็มาจากนาย และผู้บริหารที่ไม่ใส่ใจพนักงาน ไม่สนใจ ใช้แต่อารมณ์ในการทำงาน ไม่มีเหตุผล อะไรที่รู้สึกว่าไม่ชอบ ก็จะพาลไปทุกเรื่อง ฯลฯ พนักงานที่เจอกับนายแบบนี้ แม้ว่าจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงเพียงใด ก็มักจะทนไม่ได้ ที่จะต้องไปหางานที่อื่น บางคนยอมลดเงินเดือนตัวเองลงไปบ้าง เพื่อที่จะแลกกับนายที่ดีก็มีครับ ดังนั้นถ้าเราอยากให้พนักงานมีความสุขจริงๆ ก็คงต้องพัฒนานายๆ ทั้งหลายให้รู้จักที่จะสร้างความสุขให้กับพนักงานได้ด้วย

• ประเด็นเรื่องของงาน ปัจจุบันการที่พนักงานจะทำงานแล้วมีความสุขก็คือ จะต้องทำงานแบบที่มี Work Life Balance จริงๆ การทำงานที่หนักเกินไป หรือน่าเบื่อเกินไป หรือไม่มีอะไรทำเลย ว่างมากๆ ฯลฯ อะไรที่สุดโต่งเกินไปด้านใดด้านหนึ่ง ก็มักจะทำให้พนักงานไม่มีความสุขในการทำงานได้เช่นกัน กล่าวคือ อะไรที่มันไม่อยู่ในสายกลาง สุดท้ายก็มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ พนักงานบางคนบ่นนะครับว่า งานน้อยเกินไป วันๆ ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ แทนที่จะรู้สึกสบาย แต่คนเราส่วนใหญ่มักจะรู้สึกว่าตนเองหมดคุณค่าเวลาที่ไม่มีอะไรทำจริงๆ แล้วเราก็จะเริ่มไม่มีความสุขในงาน หรือถ้างานมากเกินไป ก็จะเหนื่อยล้า ได้พักน้อย ทำนานๆ เข้าร่างกายก็เริ่มล้าไปเรื่อยๆ ความสุขก็ค่อยๆ หดหายไปเช่นกัน อีกประเด็นก็คือ ตัวงานเองก็ควรจะมีความท้าทายซ่อนอยู่ด้วย ซึ่งความท้าทายที่กำลังดีนี่แหละครับที่จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงความสุข และความสนุกในการหาทางออก และแก้ไข หรือสร้างสรรค์ผลงานที่ดีขึ้น

• ประเด็นเรื่องของการสื่อสารภายในองค์กร การที่องค์กรขาดระบบการสื่อสารภายในที่ดี ข้อมูลก็มักจะไม่ถึงกัน หรือคนหนึ่งรู้อย่าง อีกคนหนึ่งรู้อีกอย่าง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ข้อเท็จจริงมันคืออะไรกันแน่ แบบนี้ความสุขในการทำงานก็เกิดได้ยาก หรือในองค์กรพนักงานกับผู้บริหารไม่เคยสื่อสารกันเลย ต่างคนต่างทำงาน ไม่คุยกัน ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกัน ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ บรรยากาศในการทำงานก็คงไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ พนักงานเองก็จะทำงานด้วยความไร้เป้าหมาย ไร้ทิศทาง และไร้ซึ่งคนมาพูดคุยด้วย เมื่อเป็นแบบนี้ ความสุขในการทำงานก็จะหายไป และจะมีความอึมครึมขึ้นมาแทน และจะทำงานด้วยความรู้สึกหดหู่ท้อถอย แบบนี้จะมีความสุขได้อย่างไร

เมื่อเราทราบประเด็น 4 ประเด็นหลักๆ ง่ายๆ ประมาณนี้แล้ว ก็อยากให้ท่านผู้อ่านลองประเมินองค์กรของตนเองดูคร่าวๆ ก็ได้ครับ ว่าพนักงานส่วนใหญ่ของเราทำงานด้วยความสุขจริงๆ สักกี่เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าพนักงานไม่มีความสุขในการทำงาน ก็วิเคราะห์ต่อว่า ประเด็นไหนที่เป็นประเด็นหลัก จะได้ลงลึกในประเด็นนั้น และหาทางแก้ไขให้ถูกจุด

ทั้งนี้ก็เพื่อให้พนักงานที่เข้ามาทำงาน เป็นพนักงานที่ทำงานอย่างมีความสุขจริงๆ

Create Date : 21 เมษายน 2558
Last Update : 22 เมษายน 2558 6:20:05 น.		0 comments
Counter : 670 Pageviews.
Share Tweet