|
เคลื่อนกองทัพสงครามไขมันวันที่ 12 (FAT WAR # 6) บทเรียนบทที่ 7 ประโยชน์หลากหลายจากผักผลไม้หลาก
วันศุกร์ที่ 21 ม.ค. 54 โปรตีนร่วมผักวันที่ 5
คำเตือน การลดน้ำหนักวิธีนี้ไม่ได้เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด หรือเหมาะกับคนทุกคน โปรดใช้สติปัญญาในการเลือกปฏิบัติ ตามสุขภาพของตัวเองเป็นหลัก และศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อน และเป็นแค่เพียงประสบการณ์การการลดน้ำหนักที่เจ้าของบล็อกได้ทดลองทำโดยอิงจากหนังสือ กินยังไงก็ไม่อ้วน เขียนโดยแพทย์ด้านโภชนาการมือหนึ่ง ดร.ปิแอร์ ดูกอง แปลโดย มณฑิชา
สิ่งที่ต้องตระหนักและปฎิบัติในการใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบพี่ปลา
1. ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เป็นโรคประจำหรือร้ายแรงใด ๆ 2. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตและตับหรือระบบการย่อยอาหารห้ามใช้วิธีการนี้เด็ดขาด 3. ต้องสามารถดื่มน้ำได้มากตามที่ร่างกายต้องการอย่างน้อย 3-4 ลิตรต่อวัน 4. ต้องออกกำลังกายได้อย่างน้อย 3 5 วัน 5. ต้องพร้อมที่จะทำตามคำแนะนำได้แบบไม่มีเงื่อนไข 6. ต้องมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งและมีความมุ่งมั่นอดทนอย่างแท้จริง 7. ตระหนักให้ได้ว่า เรากำลังทำสงครามกับไขมัน ไม่ใช่วิธีการลดแบบปกติทั่วไป 8. ต้องสามารถทำดีท็อกซ์โดยการสวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยกาแฟได้ 9. ต้องปรึกษาและได้รับคำแนะนำจากเจ้าของประสบการณ์ก่อน 10. ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง 11. และต้องหยุดใช้วิธีนี้ทันทีเมื่อพบว่าร่างกายผิดปกติ -----------------------------------------------------------------------------
บทที่ 7 ประโยชน์หลากหลายจากผักผลไม้หลากชนิด
น้อง ๆ ที่ลดน้ำหนักด้วยสูตรพี่ปลานาน ๆ คงรู้สึกคล้าย ๆ กันนะคะว่า เบื่อโปรตีนเหลือเกิน อยากทานผักสด และผลไม้ใจจะขาด พี่ปลาจะขอบอกเลยว่าตัวพี่ปลาเองก็เช่นกันจ้ะ เพราะเป็นคนชอบทานผักสด และผลไม้สุด ๆ ตอนตัดสินใจใช้สูตรนี้ครั้งแรก ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจเลยค่ะว่าจะผ่านไปได้ เพราะอะไรน่ะหรือคะ ก็สูตรนี้น่ะในช่วง 1 และ 2 ไม่อนุญาตให้ทานผลไม้เลยค่ะ (ด้วยเหตุที่ว่าผลไม้มีน้ำตาลสูง) แต่ทานผักได้ค่ะ เก็บกดมาก ๆ เลย ทำให้พี่ปลาต้องหันมาทานผักทีทานแล้วสดชื่นคล้ายผลไม้ค่ะ งงละซีว่าอะไร ก็มะเขือเทศราชินีไงคะ เป็นลูก ๆ สีแดงสด น่าตาน่าทานคล้าย ๆ เชอรี่ (เวลาทานก็นึกถึงว่าเป็นเชอรี่ซีคะ จะได้ทานได้ สำหรับน้อง ๆ ที่บอกว่าไม่ชอบทาน) ได้ทานมะเขือเทศราชินี แทนผลไม้ค่ะ ไม่งั้นคงตายแน่ ๆ ขาดใจตาย ทานจนเป็นนิสัย เดี๋ยวนี้เลยชอบทานไปเลยค่ะ แล้วจะเขียนบทความเรื่องมะเขือเทศมาให้อ่านนะคะ วันนี้เราคุยกันเรื่องการทานผลไม้และผักให้หลากหลาย เพื่อผลของการล้างพิษค่ะ สาเหตุก็คือ นักทานโปรฯ แบบพวกเรา จะมีสารพิษจากการเผาผลาญของโปรตีนตกค้างในร่างกายเยอะกว่าพวกทานผักนะคะ ฉะนั้นเพื่อเป็นการดูแลร่างกาย ในวันที่สามารถทานผักได้ เราก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกทานผัก หรือแม้แต่ผลไม้ให้หลาก หลาย ให้มีผลในการล้างพิษให้มากที่สุดค่ะ เราลองมาดูนะคะว่ามีผักผลไม้อะไรบ้างที่ควรทาน และเราเองได้ทานบ้างหรือยัง
1. กล้วย
มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความแข็งแรง แก่กระเพาะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือแร่ที่จำเป็นแก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกิดออกจากร่างกายโดยช่วยขับของเหลว หรือสารพิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย
2. อัลมอนด์
เป็น ถั่วที่มีใยอาหารสูง มีแคลเซียมและโปรตีนที่ดีต่อร่างกาย แม้จะมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ในระหว่างที่เราทำการล้างพิษจึง ควรกินอัลมอนด์ นอกจากนี้อัลมอนด์ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะเกิดอาการไฮเปอร์ไกลซีเมีย ( Hyperglycemia ) ทำให้รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ หายใจไม่ออก ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และหากน้ำตาลในเลือดต่ำที่เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย( Hypoglycemia ) จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม ใจสั่น ไม่มีแรง คิดอะไรไม่ออก
3. แอปเปิล
ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินแอปเบิลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิลช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งก่อให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก และทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้
4. ตำลึง
ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั้ว หาง่าย และราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใส่เนื้อสัตว์น้อยๆ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าแกงจืดตำลึงจะมีตำลึงอยู่ไม่กี่ใบ และมีหมูสับเต็มไปหมด ซึ่งตำลึงมีคุณสมบัติ ช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำไส้ขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ในตำลึงยังช่วยให้ตับสลายไขมันในร่างกายด้วย
5. อะโวคาโด
อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันเราก็สามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน( Glutathione ) ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ( University of Michigan ) พบว่าผู้สูงอายุซึ่งกินอาหารที่มีสารกลูตาไทโอนสูงจะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ ได้กิน และมีอัตราการเกิดโรคหัวใจน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
6. บีตรูต
ผักสีแดงที่นิยมใส่ในสลัดนี้นับเป็นผัก มหัศจรรย์ซึ่งประกอบไปด้วยไฟโรเคมีคอล ( Phytochemical ) วิตามินและเกลือแร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีตรูตมีคุณสมบัติต่อต้านชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ทำความสะอาดตับและระบบน้ำเหลือง อีกทั้งมีคุณสมบัติพิเศษที่ส่งเสริมให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มากขึ้น จึงช่วยกำจัดของเสียได้ง่ายและเร็วขึ้น ซึ่งจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้พบว่าบีตรูตช่วยปรับระดับกรด-ด่าง ในเลือดให้สมดุลด้วย
7. กะหล่ำ
เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งและอนุมูล อิสระ ( Antioxidant ) และช่วยตับขับฮอร์โมนที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นฮอร์โมนความเครียดที่มีผลเสียต่อร่างกาย ทั้งยังช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร รักษาและปกป้องกระเพราะอาหารจากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บรอกโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและช่วยกำจัดของเสียจากสิ่งแวดล้อม เช่น ของเสียจากควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย
8. บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิแดนต์ สูงมากชนิดหนึ่งและถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารรักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอร์รี่มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูเบอร์รี่สามารถเข้าไปขัดขวางแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
9. กระเทียม
จากหลายการศึกษาให้ผลตรงกันถึง คุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดร่างกาย นั่นคือ การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับและฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อไวรัส โดยเฉพาะทำความสะอาดเลือดและระบบลำไส้ ทำให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่นและลดแรงดันโลหิต นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดมะเร็งและทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น แต่ก็ควรระวังเรื่องการกินกระเทียมมากเกินไป ซึ่งก่อให้เกิดลมหายใจที่มีกลิ่นกระเทียมไปด้วย
10. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต
เป็นผลไม้รสชาติดีที่ได้รับ ความนิยมในอาหารมื้อเช้าของชาวตะวันตก สารเพกตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ประเภทหนึ่งในเกรปฟรุต สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ก่อนที่จะจับตัวเป็นก้อนและขวางทางเดินในหลอดเลือด นอกจากนี้เพกตินยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้โลหะหนักเหล่านี้ทำอันตรายต่อ ร่างกาย ส่วนเกรปฟรุตช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งกระเพราะอาหารและมะเร็งตับอ่อน สารต้านอนุมูลอิสระในเกรปฟรุตช่วยปกป้องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
11. มะเขือพวง
คนไทยนิยมใส่มะเขือพวงในอาหารประเภท ผัดเผ็ด แกงป่า แกงกะทิ และน้ำพริก สมัยก่อนแกงกะทิเช่นแกงไก่ใส่มะเขือพวงเต็มไปด้วย ใส่ไก่น้อยเน้นการกินมะเขือเป็นหลัก แต่ปัจจุบันกลับตรงกันข้าง แกงไก่มักใส่ไก่มากกว่ามะเขือ และคนก็เลือกกินแต่ไก่ จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนในปัจจุบันมีรูปร่างอ้วนกว่าคนสมัยก่อน มะเขือพวงเป็นผักที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมไขมันในอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยจับไขมันอิ่มตัว (ไขมันอันตราย) และขับออกจากร่างกายโดยระบบขับถ่าย ทั้งยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบทางเดินอาหารได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของเสีย
12. แครอท
เต็มไปด้วยสารอัลฟาและเบตาแคโรทีน ( Alpha and Beta-carotene ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ วิตามินเอ และถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมช่วยปกป้องร่างกายจากสารพิษใน สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะช่วยระบบทางเดินประสาท สายตา ผิวหนัง ที่ต้องสัมผัสแสงแดเป็นประจำ และจากการวิจัยพบว่าสารในแครอตช่วยลดการเกิดมะเร็ง และช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจ และหัวใจแข็งแรงขึ้น
13. ขึ้นฉ่าย
ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารในการทำความ สะอาดเลือดและช่วยลดความดันโลหิต สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงควรกินขึ้นฉ่ายเป็นประจำ หรือถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำคั้นจากขึ้นฉ่ายสดในตอนเช้า เพื่อช่วยควบคุมระดับแรงดันเลือดให้คงที่ ในขึ้นฉ่ายยังประกอบไปด้วยสารต้านการเกิดมะเร็ง และสารที่ช่วยขับของเสียจากบุหรี่ในคนที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ได้รับควัน บุหรี่ด้วย
14. พืชตระกูลถั่ว
(เช่นถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง และถั่วขาว) จากการศึกษาพบว่าผู้ที่กินถั่วเป็นประจำมีระดับคอเลสเตอรอลน้อยกว่าผู้ที่ ไม่ได้กิน และลดอัตราความเสียงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย พืชตระกูลถั่วนี้ประกอบด้วยไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้ ลดการสะสมของสารพิษในลำไส้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ อีกทั้งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วย
15. ทับทิม
ตำราแพทย์แผนโบราณของชาวเอเชียกล่าวไว้ ว่า การดื่มน้ำทับทิมสามรถรักษาอาการอักเสบและลดความปวดได้ เนื่องจากในทับทิมมีสารแอสไพรินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับแอสไพรินในยาแก้ ปวด ช่วยล้าง พิษลด การติดเชื้อของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย และลดอาการอักเสบ สำหรับผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบ ปวดบวม ช้ำ แนะนำให้กินทับทิม เพราะช่วยลดอาการปวดลงได้ ขณะเดียวกันยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น
16. กระเจี๊ยบ
น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยทำความ สะอาดแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีอาการปัสสาวะไม่ออกหรือมีเลือดปน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งสารในกระเจี๊ยบสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านั้นได้
17. เมล็ดแฟลกซ์
ประกอบไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น อย่างโอเมกา 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยบำรุงความจำ และมีผลดีต่อหัวใจเพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีสารอื่นที่ช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันร่างการแข็งแรงขึ้น
18. มะนาว
เป็นสุดยอดอาหารที่ช่วยทำความสะอาดตับ มีวิตามินซีสูง น้ำมะนาวสดเมื่อนำมาผสมกับน้ำอุ่นแล้วดื่มตอนเช้าหลังตื่นนอนจะช่วยล้างพิษและทำให้เลือดสะอาดขึ้น แต่ถ้านำน้ำมะนาวสดผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ก็จะเป็นอาหารที่ช่วยล้างพิษในลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
19. หัวหอม
ประกอบไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งหลายชนิด และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยทำความสะอาดเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งไม่ดีเพราะเป็นตัวการก่อให้เกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคหอบ โรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และที่สำคัญคือช่วยรักษาโรค เบาหวานโดยช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่
20. สาหร่าย
เป็นพืชสีเขียวในทะเลที่หลายคนมองข้าม คุณประโยชน์ แต่จากการศึกษาของ Mcgill University ที่ Montreal แสดงผลว่าสาหร่ายสามารถจับของเสียจากรังสีที่สะสมในร่างกาย ในปัจจุบันเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงรังสีต่างๆ จากคลื่นวิทยุ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นไมโครเวฟทั้งหลายได้ ซึ่งพลังงานความร้อนเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งสาหร่ายจะช่วยดูดซึมคลื่นรังสีเหล่านั้น และสามารถจับกับพวกโลหะหนักได้ด้วย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโปรตีนและเกลือแร่ในปริมาณมาก ลองมาเช็ดดูกันนะคะว่า เราทานอะไรไปบ้างใน 20 อย่าง นี้และมีแนวโน้มจะต้องหาอะไรทานเพิ่มบ้างนะคะ เริ่มจากพี่ปลาค่ะ ที่ทานแล้วและเป็นประจำ 1. แอปเปิล (ประจำบ้าน) 2. ตำลึง (สัปดาห์ละ 1 ครั้ง) ยังน้อยไปค่ะ จะต้องทานมากกว่านี้ 3. กะหล่ำ (สัปดาห์ละ 5 ครั้ง) 4. กระเทียม (ทุกวัน) 5. ส้มโอ หรือเกรปฟรุต ( 2 ครั้ง) 6. แครอท (ทุกวัน ๆ 1 หัว) 7. ขึ้นฉ่าย(สัปดาห์ละ 3 ครั้ง) 8. พืชตระกูลถั่ว (สัปดาห์ละ 5 ครั้ง) 9. มะนาว (ทุกวัน) 10. หัวหอม (สัปดาห์ละ 3 ครั้ง) 11 อัลมอนต์ (วันละ 10 เม็ด) 12. บีตรูท (ปั่นร่วมกับแครอทและแอปเปิลสัปดาห์ละ 3-4 วัน) 13. ทับทิม ( ทานวันละ 5 ช้อนโต๊ะ ) 14. บลูเบอร์รี่ (ปั่นร่วมกับสตรอเบอรี่ เป็นน้ำสูตรต้านอนุมูลอิสระ ดื่มเช้าวันละ 1 แก้ว ) 15. มะเขือพวง (ใส่ในแกงป่าเจ หรือน้ำพริกกระปิ ทานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง) 16. สาหร่าย (ทานเป็นยำสาหร่าย) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 15. กล้วย (ทานเป็นกล้วยอบ หรือกล้วยตาก วันละ 1-2 ลูก) และจะทานกล้วยสดเพิ่มค่ะ
ยังมีผลไม้ที่พี่ปลาจะต้องพยายามหามาทานบ้างคือ
1. อโวคาโด (อันนี้พยายามแล้ว ไม่ไหวจริง ๆ ) 2. เมล็ดแฟลกซ์ (หาซื้อไม่ได้ ไม่รู้จัก) 3. กระเจี๊ยบ (ว่าจะหาเป็นชากระเจี๊ยบแห้งมาชงดื่ม) และทานผักอื่น ๆ เพิ่มอีกให้ได้ 5 ส่วนและ 5 สีต่อวันค่ะ ลองเข้ามาเช็ดดูกันนะคะว่าวันนี้เราทานผักอะไรกันแล้วบ้าง และที่มีโปรแกรมว่าจะทานคืออะไรบ้างนะคะ
Create Date : 20 มกราคม 2554 |
|
43 comments |
Last Update : 22 มกราคม 2554 18:01:36 น. |
Counter : 560 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 182.52.99.19 20 มกราคม 2554 22:31:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 8:18:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 8:34:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 21 มกราคม 2554 8:44:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 8:52:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูหิ่น ไม่ได้ล้อก IP: 58.8.5.223 21 มกราคม 2554 9:46:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 21 มกราคม 2554 10:01:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 10:03:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 10:04:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: choco-latte IP: 192.168.0.4, 124.120.162.253 21 มกราคม 2554 11:12:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 11:47:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 15:09:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 15:10:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 21 มกราคม 2554 16:37:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ping IP: 202.183.176.65 21 มกราคม 2554 16:57:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ. 21 มกราคม 2554 16:59:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: art IP: 58.8.32.221 21 มกราคม 2554 19:13:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: โบว์ (Niiziie ) 21 มกราคม 2554 19:14:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: PeTaLpe 21 มกราคม 2554 19:20:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: นุ้ย 6_9 Healty fit IP: 202.44.7.81 21 มกราคม 2554 19:50:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ๋ (ญ.) IP: 182.232.51.60 21 มกราคม 2554 21:05:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ๋ (ญ.) IP: 182.232.51.60 21 มกราคม 2554 21:10:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ๋ (ญ.) IP: 182.232.51.60 21 มกราคม 2554 21:17:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ๋ (ญ.) IP: 182.232.51.60 21 มกราคม 2554 21:20:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ๋ว (lllewlll ) 21 มกราคม 2554 22:49:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูหิ่น IP: 182.232.59.31 21 มกราคม 2554 23:12:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: เปิ้ล (Apple Poon ) 22 มกราคม 2554 13:00:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: choco-latte IP: 192.168.0.20, 124.120.235.189 22 มกราคม 2554 16:04:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: mai_z2 22 มกราคม 2554 21:17:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|