มีนาคม 2566

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 1 หน้า 1
ผมชื่อ กฤษ หรือชื่อ ทางราชการในบัตรประชาชน กฤษณะ เป็นบุตรคนเล็ก ของคุณนายวรรณคดี
ใช่....ทุกคนฟังไม่ผิด แม่ผมชื่อ วรรณคดี จริงๆมีลูก ชาย 2 คน ก็คงกะจะตั้งชื่อ

เหมือนละครในวรรณคดี แน่ๆ พี่ชายผมเกิดก่อน 8 ปี เขามีชื่อว่า วิศณุ หรือพี่ณุ

แม่เป็นคนเข้มงวดกับลูกๆ มากจะค่อนข้างวางกรอบระเบียบให้กับลูกๆ ทั้งจู้จี้ขี้บ่น ซึ่งตรงข้ามกับพ่อทุกอย่าง

พี่เป็นคนหัวแข็ง ส่วนผม ถูกพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กด้วยความที่พ่อเป็นคนใจเย็น ใจดี และ อ่อนโยน ผมเลยเป็นคนใจเย็นเหมือนพ่อ พอพี่ชายผมโต ทำมาหากินได้

เขาก็แยกบ้านเอาตัวรอดไม่อยู่กับแม่ เพราะทั้งสองชอบประกาศสงครามกันไม่ว้างเว้น จนพี่ชายที่ว่าหัวแข็ง

น่าจะเลยการเป็นคอนกรีตไปแล้ว ก็เหลือแต่ผมที่เป็นลูกคนเล็กยังเรียนหนังสืออยู่

แม้ผมจะเป็นคนใจเย็นไม่ค่อยตอบโต้แม่เราจึงอยู่ด้วยกันได้ แต่กระนั้น ก็เคยหนีไปบวช ละทางโลกแล้วไม่สึก

แต่แม่วรรณคดีกับพี่ชายตอนนั้นก็ตามไปขอให้สึกกลับบ้านมาเรียนต่อ ด้วยกล้วว่าไม่มีผู้มาสืบทอดกิจการ เพราะพี่ชายไปเอาดีด้านกรมป่าไม้หนีเข้าป่าไปแล้ว

ผมเลยจบล่าช้ากว่าเพื่อน  การศึกษาของผมนั่นเหรอ ตอนนี้ปริญญาโทเฉพาะทางด้านสมอง ตอนนี้ก็เรียน ทั้งปริญญาเอกและเป็นนักศึกษาแพทย์แผนไทยภาค ข ปีสุดท้ายของการเรียนการสอนแล้ว  

ปีสุดท้ายนี้ล่ะกิจกรรมโคตรจะเยอะอาจารย์บอกไว้ว่า

ก่อนจะสิ้นปี 3 เมื่อปีก่อนที่เขาจะละทิ้งทางโลก

"เทอมหน้าเราต้องไปฝึกงานเมื่อขึ้นปี 4"  วันสุดท้ายอาจารย์ได้กล่าวอำลาเอาไว้ มาปีนี้หนีชะตาไม่พ้น แต่จะว่าไปบรรยากาศนี้เขาเองก็เคยเมื่อตอนเป็นนักศึกษาแพทย์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

เพื่อความมั่นใจว่าเมื่อปลายปีก่อน เขาไม่ได้ฟังอาจารย์ผิดไป เขาเข้าไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาที่คณะ แม้เขาจะไม่มีเพื่อนนัก  ยังมีข้อดีที่เขายังพอจำ อาจารย์ผู้สอนได้

อาจารย์ “ ไปหาที่ฝึกงานเองนะ”

อ้าว .... ทำไมอาจารย์ถึงได้ปล่อยเกาะนักศึกษาไว้แบบนี้ ยังไม่ถามอะไรเลย อาจารย์ทำไมไม่คิดถึงหัวอกนักศึกษาบ้าง จะสอนๆ ให้จบ แล้วมาปล่อยลอยแพแบบนี้

แพทย์แผนโบราณ เขาเองยังไม่ค่อยชำนาญมากพอที่จะมาผสมผสานกับศาสตร์แผนปัจจุบันที่เขาทำงานอยู่ และอีกอย่างหาที่ฝึกงานแสนยาก

เท่าที่ดู ถ้าไม่ออกต่างจังหวัด ก็ต้องไปอยู่ตามอนามัย นี่เขาจะไปทางไหนดีล่ะ ไม่ได้การแล้ว คราวที่แล้วแม่หาที่ฝึกงานให้ เขาต้องอยู่กับแม่ตลอด 24 ชั่วโมง มันคือฝันร้ายกาจที่เขาแทบจะไม่อยากเข้านอนแล้ว


เมื่อบอกเรื่องฝึกงานด้านแพทย์แผนไทยไป แม่บอกมันช่างเป็นเรื่องง่าย แต่จะขอยังไงที่จะไม่ไปฝึกงานที่เดิมอีก

ลูกคงไม่ต้องการมาอยู่ภายใต้การควบคุมขอบแม่ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน การจะหาที่ให้ลูกไปเสียบ เอ้ย ฝึกงานไม่เกินกำลังแม่ได้หรอก..


แม่ “โรงพยาบาลสาขาอำเภออุทัยเขามีแผนกแพทย์แผนไทยนะ เปิดมาได้ 5 ปีแล้ว อยากจะไปไหมล่ะ”


เมื่อได้ยินชื่ออำเภอที่ตั้งไม่เคยคุ้นหู ก็ทำเอาคนปอดแหกอย่างเขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน


กฤษ “แล้วอำเภออุทัยนี่ มันอยู่ที่ไหนล่ะแม่”


เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นชื่อจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง ก็น่าจะไกลพอสมควร


แม่ “พระนครศรีอยุธยาไงล่ะ”


สมองส่วนหน้าก็พยายามพิจารณาแผนที่ประเทศไทย สมัยประถม มัธยม เขาก็ได้ยินชื่อ

จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาบ้างแล้ว เมืองหลวงเก่าของเราแต่ก่อน อยู่ห่างจาก กทม ไป น่าจะราวๆ 80-100 กิโลเมตร

ที่มีเรื่องราวตามประวัติศาสตร์ ตามตำราพระโอสถพระนารายณ์ มีมิชชันนารี่ชาวฝรั่ง และการนวดที่รุ่งเรือง และเรื่องราวความรักของแม่กาดระเกดกับหมื่นสุนทรเทวา

แต่ก็เชื่อเถอะว่า เขาเกิดมาจนอายุ 26 ปี ผ่านไป ก็ยังไม่เคยไปเหยียบถิ่นเมืองเก่าเลย เขาเคยนั่งรถผ่านไป สมัยบวช แล้วต้องไปจำวัดที่เชียงใหม่ แต่ก็แค่ผ่านไม่ได้เคยลงเหยียบเลย

..ไหนๆ ก็จะไปล่ะ ขอศึกษาสถานที่ก่อนล่ะกัน


แม่ “เพื่อนแม่เขาเป็นหัวหน้าพยาบาลที่นั่น เขาจะได้ช่วยดูแลแกได้?”


เวลานี้ จะให้คนที่รู้โลกน้อยแบบเขาต้องไปวิ่งหาที่ฝึกงานก็คงจะไม่ทันการหรอก

เพราะเดือนหน้าหลังปีใหม่ใครได้ที่ฝึกแล้วก็ต้องไปขอทำจดหมายที่มหาวิทยาลัยและส่งตัวไปฝึก


เวลาที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แม้แฟนก็ไม่เคยมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง

เป็นเรื่องรู้โลกน้อยอย่างไม่น่าให้อภัยนัก จึงทำให้เขาไม่มีคนเข้าใกล้ แม้จะหน้าตาดีระดับนายแบบแถวหน้าเมืองไทย

สาวๆ แอบส่องแอบมองตามโซเซียล แต่เขาก็ไม่รู้สึกใจกระตุกกับสาวใดสักคน หน้าก็ใสใจก็ชา ถึงจะมีคนพยายามเข้าหาพอได้เจอมาดนิ่งแบบเฉยชาก็ต้องถอยห่างออกไป


ด้วยความที่ไม่ได้ปรึกษาเพื่อนๆ คนอื่น เพราะไม่ได้สนิทกับใคร เพราะเขาดรอปไปตอนจบปี 3 กลับมาก็ไปเรียนแล้วไม่ได้สุงสิงกับใครนัก

เพื่อนรุ่นเดียวกันก็จบปี 4 ไปหมดแล้ว เขาก็ลืมการติดต่อเพื่อนๆ ไปสิ้น ครั้นจะโทรไปถามสักคน

โทรศัพท์ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ เขาก็ทิ้งตอนไปบวช เขาเหมือนจะเป็นคนเรียบร้อย แต่ตอนที่เขาหนีแม่ไปบวชนั้น ถึงขนาดถอดซิมหักทิ้งโทรศัพท์เพื่องดการติดต่อไปเลยทีเดียว กรรมของโทรศัพท์ที่ไม่รู้เรื่องราวเลยจริงๆ


เวลานี้ อะไรคว้าได้ก็คว้าไปก่อน อย่างน้อย แม้จะไม่อยากถูกแม่ควบคุมทุกสิ่งอย่าง แต่การไม่ได้อยู่ที่บ้านก็เป็นสื่งที่เขาเองก็ยินดี ไปต่างจังหวัดขนาดนั้น การที่จะขอไม่เดินทางไป-กลับ แม่คงยอมเขาอย่างเป็นแน่


แต่การทิ้งแม่อยู่บ้านลำพังเป็นเวลา 6 เดือนแบบนี้ก็อดที่จะห่วงไม่ได้ นอกเสียจากพ่อจะกลับมาอยู่บ้านช่วงที่เขาไม่อยู่ ตั้งแต่เขากลับมาเรียนต่อ ทั้งพ่อและพี่ชายต่างก็หนีเอาตัวรอด ไปอยู่ที่อื่นเสียหมด


กฤษ “แล้วจะติดต่อเขาไงล่ะแม่ ว่าเขาเอาคนไหม”


แม้ฟังดูอาจจะเป็นคำถามที่ดูโง่ๆ ด้วยเหตุผลใด ที่ที่นั่นจะไม่รับเขาไปฝึกงาน


แม่ “ไม่เห็นยากเลยแก โทรศัพท์ก็มี”


มันก็เรื่องจริง สมัยนี้แค่มีโทรศัพท์ ทุกอย่างก็ง่ายแค่อยู่ในมือ พูดแล้วแม่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากกดหาเบอร์เพื่อนที่รู้จักกันมานาน


แม่ “โสม ว่าไงแก สบายดีไหม?”


ป้าโสม “สบายดี พี่วรรณเป็นไงบ้าง สบายดีไหม ตั้งแต่เปิดแกรนโอเพ่นนิ่งก็ไม่มาหากันอีกเลยนะ”


แม่ “ฉันก็สบายดี ทางนี้มันยุ่ง ตอนนี้ ผอ เขาก็รายงานทุกอาทิตย์”


ป้าโสม “ใช่ๆ เขาพึ่งปรับปรุงงานเสร็จ เดี๋ยวนี้คนมารับบริการเยอะจากเมื่อก่อนมาน้อย ยิ่งมีแผนกแพทย์แผนไทยด้วยนะ”


แม่ “ดี ดี ดี”

แม่ยิ้มอิ่มเอิบใจกับการรายงานผล

ป้าโสม “ยิ่งแผนกแพทย์แผนไทยคนไข้มีแทบทุกวัน จากที่เมื่อก่อนไม่มีใครมารับบริการนอกจากแม่หลังคลอด?”

แม่ “พอดีลูกชายมันจะฝึกงานแล้ว รับไหม?”

ป้าโสม “อ้อ พูดอะไรแบบนั้นก็ คนไหนคะ”

แม่ “ก็คนเล็กไง”

ป้าโสม “ที่เคยเห็นตอนเล็กๆนะคะ ที่ว่าเรียนแพทย์ศัลยกรรมสมองใช่ไหมคะ อ้าวแล้วไงจะมาฝึกงานแพทย์แผนไทยล่ะ”

แม่ “ก็เขาเรียนแผนไทยด้วยน่ะสิ ที่นี่ไม่มีแผนกนี้”

ป้าโสม “ ดีๆๆ เดี๋ยวพี่วรรณ ก็ส่งไลน์ฉันให้ลูกชาย ฉันจะส่งไลน์หัวหน้าแผนกให้ เขาจะได้ทำความรู้จักกัน”


แม่ “ได้”


กฤษ นั่งฟังแม่สนทนาอย่างใจจดจ่อ


กฤษ “เขารับไหมแม่?”


แม่ “เขาบอกให้แอดไลน์ เขาจะส่งไลน์หัวหน้าแผนกให้”


แม่เอาเบอร์ป้าโสมให้เขา เพื่อทำการแอดไลน์ กฤษ เอาเบอร์ของป้าโสมมาเพื่อทำการแอดไลน์ป้าโสมเสร็จแล้ว บอกป้าโสมตามที่แม่บอก ว่าเป็นลูกชายแม่วรรณ ป้าโสมส่งคอนแทค ชื่อ Mek มาให้ เป็นรูปเมฆ บนฟ้า


ป้าโสม “พี่เขาชื่อ เมฆ เป็นฟัวหน้าแผนกแพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลสาขาอุทัย บอกเขาว่า เป็นหลานป้าโสม พี่รับเด็กฝึกงานแพทย์แผนไทยไหม?”


กฤษ “ครับ ขอบคุณครับป้าโสม”


เมื่อกฤษ ทำการแอดไลน์เรียบร้อยแล้ว ก็รีบส่งข้อความทักสวัสดี


กฤษ “สวัสดีครับพี่เมฆ ผมชื่อ กฤษ เป็นหลานป้าโสม ครับ พี่รับเด็กฝึกงานแพทย์แผนไทยไหมครับ”


 



Create Date : 29 มีนาคม 2566
Last Update : 2 ตุลาคม 2566 6:59:31 น.
Counter : 549 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณnewyorknurse

  
แฟนคลับแวะมาเยี่ยมชมแล้วค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 29 มีนาคม 2566 เวลา:9:46:37 น.
  
โดย: ขอบคุณค่ะ (unitan ) วันที่: 29 มีนาคม 2566 เวลา:17:10:05 น.
  
อ่านแล้วแอบสงสารระคนเอ็นดูคุณกฤษ 55555
โดย: คนอ่อนไหวที่แกล้งใจแข็ง (npsr_gb ) วันที่: 1 ตุลาคม 2566 เวลา:1:32:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]