happy memories
Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
14 เมษายน 2559
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๔๙





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto








พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม



๙ พระพุทธรูปแห่งเการัตนโกสินทร์



การสักการะพระพุทธรูป ณ วัดต่าง ๆ ในช่วงวันสำคัญ เป็นประเพณีและความเชื่ออย่างหนึ่งของวัฒนธรรมไทยในเรื่องของความเป็นสิริมงคล การขอพร หรือเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต ทำมาค้าขาย และรับราชการ วัดสำคัญในเมืองหลวงของประเทศอย่าง กรุงเทพฯ โดยเฉพาะใน ‘เกาะรัตนโกสินทร์’ หลายคนทราบดีมีชื่อเสียงเรียงนามใดบ้าง แต่ทราบหรือไม่ว่า พระพุทธรูปประจำวัดแต่ละแห่ง คือพระพุทธรูปองค์ใด และมีความเชื่อในการขอพรด้านใด นี่คือ ๙ พระพุทธรูปชื่อดังประจำเกาะรัตนโกสินทร์ ลองมาทบทวนอีกสักครั้งเผื่อใครจะเก็บไว้เป็นข้อมูลสำหรับการเดินทางไปสักการะ





พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก
พระประธานในพระอุโบสถ ‘วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร’



๑. พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ ‘พระแก้วมรกต’ พระพุทธรูปปางสมาธิ พระคู่บ้านคู่เมือง มีความเชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรุ่งเรืองในชีวิตและการงาน เพิ่มพูนสติปัญญา และข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ ‘วัดพระแก้ว’ พระอารามหลวงประจำกรุงรัตนโกสินทร์





พระประธานยิ้มรับฟ้า วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร



๒. พระพุทธไสยาส (พระนอน) ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารของ ‘วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร’ พระอารามหลวงชั้นเอก เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปิดทองทั่วทั้งองค์ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน โดยที่พระบาทประดับมุกภาพมงคล ๑o๘ ประการ ตรงกลางเป็นรูปจักรตามตำรามหาปุริสลักขณะ โดยลวดลายของมงคล ๑o๘ ประการเป็นการผสมผสานกันระหว่างคติความเชื่อที่รับมาจากชมพูทวีปและจีน องค์พระนอนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศ นิยมขอพรเรื่องความรัก เสริมความเมตตา, ขณะที่ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐาน พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งรัชกาลที่ ๑ ทรงอัญเชิญมาจากวัดศาลาสี่หน้า ด้วยประสงค์ตั้งมั่นแน่วแน่ว่า นี่จะเป็นพระนครอย่างถาวร ‘ปางสมาธิ’ สื่อถึงการตั้งจิตมั่นแน่วแน่





พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร



๓. พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ‘วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร’ หรือ ‘วัดแจ้ง’ พระอารามประจำรัชกาลที่ ๒ ซึ่งจากความหมายตามชื่อ ‘อรุณรุ่ง’ ของวัดแห่งนี้ คนส่วนใหญ่จึงนิยมมาสักการะบูชาองค์พระประธานเพื่อเสริมบารมีให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง





พระไพรีพินาศ ‘วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร’



๔. พระประธานยิ้มรับฟ้า หรือ ‘หลวงพ่อยิ้มรับฟ้า’ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ‘วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร’ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก จนปรากฏว่าครั้งหนึ่งเมื่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จถวายผ้าพระกฐิน ได้มีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดว่า “ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที” ด้วยเหตุนี้จึงทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ และมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก แด่พระประธานองค์นี้เป็นพิเศษ และพระประธานองค์นี้ก็ได้นาม ‘พระประธานยิ้มรับฟ้า’ ตั้งแต่นั้นมา ประชาชนนิยมกราบไหว้ขอพรเพื่อเสริมดวงให้มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน วัดระฆังฯ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้รับการบูรณะครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ ๑ และยังเป็นวัดที่ประดิษฐาน ‘รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์โต’ อีกด้วย





พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ
‘วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร’



๕. พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือชื่อเต็มว่า ‘พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ’ หรือเรียกกันว่า ‘หลวงพ่อปู่’ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ‘วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร’ วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา นิยมสักการะบูชาขอพรให้ชีวิตประสบความสำเร็จและเอาชนะอุปสรรคในด้านต่าง ๆ


๖. พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม ขนาดหน้าพระเพลา ๓๓ เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปแบบธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร ประดิษฐานอยู่ ณ ‘วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร’ พระพุทธรูปองค์นี้มีผู้นำมาถวาย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ราวพ.ศ. ๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า ‘พระไพรีพินาศ’ ชาวพุทธส่วนใหญ่นิยมขอพรให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง





พระศรีศากยมุนี (พระโต)
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร



๗. พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ ปางทรงเครื่องจักรพรรดิ์ เป็นพระพุทธรูปประธานของ ‘วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร’ พระอารามหลวงชั้นโทตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สักการะบูชาเพื่อเสริมสร้างความคิดและสติปัญญา


๘. พระศรีศากยมุนี (พระโต) และ พระตรีโลกเชษฐ์ แห่ง ‘วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร’ รัชกาลที่ ๑ ทรงอัญเชิญ ‘พระศรีศากยมุนี’ มาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย มาประดิษฐานยังวิหารของวัดสุทัศนฯ ซึ่งสร้างเสร็จก่อนพระอุโบสถ ต่อมารัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างพระอุโบสถและทรงโปรดให้สร้าง ‘พระตรีโลกเชษฐ์’ พระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นประธานในพระอุโบสถ ชาวพุทธเชื่อว่าสักการะบูชาเพื่อเสริมสร้างบารมี และเพื่อให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล





พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ ‘หลวงพ่อโต’
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร



๙. พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ ‘หลวงพ่อโต’ พระพุทธรูปสมัยอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย พระพุทธรูปประธานแห่ง ‘วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร’ พระอารามหลวงชั้นโท ที่เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมไทยและจีน เพราะในสมัยก่อนพ่อค้าชาวจีนนิยมมากราบไหว้ขอพร จึงมี ‘อับเฉา’ ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย โดยในวิหารหลวงเป็นที่ประดิษฐาน ‘พระพุทธไตรรัตนนายก’ นิยมกราบไหว้บูชาเพื่อให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย หรือถ้ามีภัยก็จะผ่อนหนักเป็นเบา


เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ‘ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค’ อัญเชิญ พระพุทธรูปจำลอง ประจำ ๙ วัดชื่อดังแห่งเกาะรัตนโกสินทร์ มาให้ร่วมสักการะบูชาและสรงน้ำ เพื่อให้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ไทยด้วยความเป็นสิริมงคล ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๗ เมษายนนี้ ณ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ภายในงานยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอท็อป (OTOP) จากโครงการรวมไทย อาทิ ลูกตาลเชื่อม, ขนมเบื้องโบราณ, ข้าวยำกะปิชาววัง, ยำขนมจีนโบราณ, ข้าวหลามจิ๋ว บางคนที, ผ้าทอลายไทย ฯลฯ กิจกรรมรื่นเริงและมหรสพหลากหลายรูปแบบ เช่น วงดนตรีลูกทุ่งพร้อมหางเครื่องชุดใหญ่ ขบวนกลองยาว การแสดง ๔ ภาค การแสดงโปงลาง ลำตัด เพลงเรือ เพลงอีแซว การแสดงกระบี่กระบอง มวยคาดเชือก การแสดงโขนสด และการฉายหนังกลางแปลง



ภาพและข้อมูลจาก
dhammajak.net
FB กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์














นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
"วิศิษฎศิลปิน" ผู้ทรงรังสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจ



ในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ ๒ เมษายน สำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จึงได้จัดนิทรรศการ "วิศิษฏศิลปิน" ขึ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวพระปรีชาสามารถด้านศิลปะของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากจุดเริ่มต้นในการทรงงานศิลปะ ความรักและความสนพระราชหฤทัย ทรงเป็นแรงบันดาลใจแก่คนไทยทั้งปวง นอกจากนี้นิทรรศการยังรวบรวมผลงานฝีพระหัตถ์ทั้งทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และสังคีตศิลป์ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชมผลงานศิลปะของพระองค์อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

นิทรรศการ "วิศิษฏศิลปิน" จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ชั้น ๑ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์(หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๙.๐๐ น.

ภายในงานมีการจัดกิจกรรม Workshop “ระบายดิน” ให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมเรียนรู้และลงมือสร้างสรรค์ลวดลายบนจานเซรามิกตามรอยองค์วิศิษฏศิลปิน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ – ๒๔ เมษายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๖.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. ผลงานทุกชิ้นจะเป็นส่วนหนึ่งในการจัดแสดงภายในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีครั้งนี้ด้วย

กิจกรรมระบายดิน เปิดรับลงทะเบียนในวันที่ ๒๓ – ๒๔ เมษายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๖.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. รับจำนวน ๓๐ ท่านต่อวัน

งานจัดตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙
เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๙.๐๐ น. ชั้น ๑ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน



































พระฉายาลักษณ์ ภาพและข้อมูลจาก
บล็อกคุณสาว17
บล็อกคุณทิวสน ชลนรา
FB สนง.ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย














ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล



“ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง

“ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวลคิดถึงเจ็บกายฯ" จากเรื่อง “มัทนะพาธา” บทพระราชนิพนธ์ใน รัชกาลที่ ๖ กลายมาเป็นบทเพลง “บุพเพสันนิวสาส” ที่ครูเพลง ประพันธ์ สุนทรจามร นำส่วนหนึ่งมาแต่งเป็นเพลง ในท่อนแยกที่ว่า

“รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ ความรักเช่นนั้นให้โทษ จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้...” หรือบทเพลง “สาส์นรัก”ที่มาจากบทพระราชนิพนธ์ “ท้าวแสนปม”ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ครูเอื้อ สุนทรสนาน ประพันธ์ทำนอง ที่ขึ้นต้นว่า

“ในลักษณ์นี้ว่าน่าประหลาด เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า

เหตุไฉนย่อท้องรอรา ฤาจะกล้าแต่เพียงวาที…” ซึ่งในทุกบทกลอนในเพลงนี้จะซ่อนด้วยคำสอนเตือนสติ และแนวคิดไว้อย่างสวยงาม แยบยล

พระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นั้น นอกจากจะทรงเป็นนักปกครองแล้ว ยังทรงพระราชนิพนธ์ บทความ บทโขนและบทละครทั้งแบบโบราณ คือ โขน ละครนอก ละครใน และละครสมัยใหม่ อย่างละครร้อง เรียกได้ว่า เป็น “ยุคทองของการละครไทย” เพราะทรงปรับปรุงและส่งเสริมและนำละครสมัยใหม่ แบบชาวตะวันตกมาเผยแพร่

น่ายินดีที่ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีข่าวการจัดละครเพลงเฉลิมพระเกียรติ “ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล” ที่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยวันที่ ๒ ที่ผ่านมา มีการลองแต่งชุดของผู้แสดง หรือที่สมัยใหม่เรียกกันว่า ฟิตติ้ง ที่สตูดิโอ เจ เอส แอลฯ ลาดพร้าวซอย ๑o๗

ละครเพลง “ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล” จะนำผู้ชมย้อนยุคกลับไปในรัชสมัย รัชกาลที่ ๖ ยุคทองของการละครไทยสมัยใหม่ สานต่อพระราชปณิธานของรัชกาลที่ ๖ ในการจัดแสดงละครเรื่อง “เวนิสวาณิช” ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งละคร “เวณิชวาณิช” ทรงแปลมาจากวรรณคดีสุดคลาสสิกของโลกโดย วิลเลียม เชกสเปียร์ หลังจากทรงแปลเรื่องนี้ แล้วก็ยังมิได้นำออกแสดงเลยในรัชสมัยของพระองค์เลย

แต่การนำมาสร้างเป็นละครเพลงฉบับใหม่ครั้งนี้ ได้ดัดแปลงให้เป็นลักษณะ ละครซ้อน โดยมีแนวคิด “ละครสร้างชาติ” ของพระองค์ เชื่อมโยงอุดมการณ์สู่ยุคปัจจุบัน ที่คนไทยมีความรักชาติไม่เปลี่ยนแปลง

โครงเรื่องจะเป็นช่วงเวลาที่เป็นรอยต่อแห่งการเปลี่ยนแปลง คนไทยยุคนั้นกำลังตื่นตัวกับการติดต่อค้าขายและการศึกษาสมัยใหม่ และการถ่ายทอดความคิดเห็นผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ โดยมีตัวเอกเดินเรื่องชื่อ “ชัย” หรือ หลวงชัยพิเทศ ข้าราชการหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งคลังออมสิน ที่ได้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์จนโด่งดังในยุคนั้น ซึ่งมีคู่ปะทะคือ เทิด หรือ “หลวงเทิดบดินทร” ที่เป็นคู่อริกัน จนเป็นความขัดแย้งลุกลามใหญ่โต ผสมกับเรื่องราวความขัดแย้งในเรื่องความรักที่เป็นสีสันของเรื่อง

เรื่องราวย้อนอดีตผ่านการเล่าของชัย สะท้อนถึงความขัดแย้งในบ้านเมืองตั้งแต่ต้นรัชกาล เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงต้องรับศึกสองด้าน ทั้งจากขุนนางยุคเก่าที่เสียประโยชน์จากการผลัด แผ่นดิน และจากคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ที่สุดก็ทรงพาสยามรอดพ้นวิกฤตการณ์มาได้ และทรงสถาปนาคลังออมสินขึ้นเพื่อเป็นธนาคารแห่งชาติ (ธนาคารออมสิน ปัจจุบัน) ให้คงยืนหยัดท่ามกลางกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงของโลกจนถึงวันนี้

นักแสดงในละครเพลง ได้แก่ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ รอน ภัทรภณ โตอุ่น ฯลฯ โดยเฉพาะปาน ธนพร แวกประยูร ผมเคยได้ชมเธอแสดงละครเพลง “อินจัน เดอะมิวสิคัล” ได้พบว่า เธอเป็นสุดยอดของนักแสดงละครเพลงอีกคนหนึ่ง ส่วนท่านอื่น ๆ ก็คงล้วนมีประสบการณ์มาทั้งสิ้น

ละครเพลง “ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล” นี้จัดสร้างโดย ธนาคารออมสิน ปริดา มโนมัยพิบูลย์ เขียนบท และ พันพัสสา ธูปเทียน กำกับการแสดง ธิษณา เดือนดาว อำนวยการแสดง และกำกับดนตรีโดย รศ.จารุณี หงส์จารุ อำนวยเพลงโดย ศิลปินแห่งชาติพลเรือตรี วีระพันธ์ วอกลาง ด้านเครื่องแต่งกายมี โกมล พานิชพันธ์ นักสะสมผ้าโบราณชื่อดังของเมืองไทย ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น “โกมลผ้าโบราณ” มาดูแล ออกแบบ กำกับลีลาโดย ปริญญา ต้องโพนทอง ที่เคยฝากผลงานจากเรื่อง "ไกลกังวล มิวสิคัล” มาแล้ว ส่วนผู้ที่ออกแบบและควบคุมการแต่งหน้าทรงผม คือ อ.ขวด มนตรี วัดละเอียด ปรมาจารย์ด้านการแต่งหน้าลำดับต้น ๆ ของไทย และยังมีทีมงานคุณภาพอยู่เบื้องหลังอีกมากมาย

อีกราวสองเดือนกว่า ๆ “ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล” จะได้จัดแสดงให้ได้ชมกัน ซึ่งน่าจะเป็นละครเพลงที่ยิ่งใหญ่ประจำปีนี้อีกเรื่องหนึ่ง เพราะทีมงานล้วนแต่มืออาชีพและมีประสบการณ์เฉพาะด้านมาอย่างยาวนาน

“ธีรราชา เดอะ มิวสิคัล” เปิดการแสดง ๕ วัน ๕ รอบ ตั้งแต่วันที่ ๑๘-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ เมืองไทย รัชดาลัย เธียเตอร์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.gsb.or.th หรือ facebook : GSB society หรือ ADD Application line ของธนาคารออมสิน



















ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net
bangkokbiznews.com














ตลาดกลางกรุงวังสวนผักกาด



นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และรองโฆษก กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครกำหนดจัดงาน “ตลาดกลางกรุงวังสวนผักกาด” ขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ เม.ย.๕๙ เวลา ๑o.oo-๑๙.oo น. ณ ลานสนามหญ้าหน้าหอเขียน วังสวนผักกาด เขตราชเทวี โดยภายในงานจัดจำหน่ายและจัดแสดงสินค้าคุณภาพจากผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) และผลิตภัณฑ์ชุมชนกรุงเทพมหานคร (OTOP) อาทิ ผ้าไทยและเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าไหมบ้านครัว ผ้าฝ้ายทอมือป้านาง รองเท้าสตรีหนังปลานิล สารี่ไหมไทย ชุดเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีร้านผ้าเงินผ้าทอง กระเป๋าหญ้าสามเหลี่ยมกลุ่มแม่บ้านเขตห้วยขวาง อีกทั้งของใช้ ของตกแต่งและของที่ระลึก เช่น กรอบรูปประกอบทราย ชุดบัวน้ำรินจากสเตนเลส อัจฉราไข่วิจิตร เซรามิกรูปกล้วยใบตอง (โอ่งน้ำล้น) ชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารจากไม้และสเตนเลส ฯลฯ ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ซึ่งเป็นสินค้า

จากภูมิปัญญาไทยและใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ครีมหมักผมผสมสมุนไพรน้ำมันมะพร้าวจากวิสาหกิจชุมชนสายบัว สบู่สมุนไพร ครีมอาบน้ำขมิ้นชันจากวิสาหกิจชุมชนกุสุมา เครื่องประดับ การจำหน่ายอาหารไทยและขนมไทยที่สะท้อนถึงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ ขนมจีนโบราณ ข้าวห่อใบบัว หมี่กรอบ ขนมเทียนแก้ว ข้าวหมาก ทองม้วนสด เมี่ยงคำ ลูกชุบ น้ำตาลสด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการสาธิตกรรมวิธีในการผลิต ผลิตภัณฑ์ชุมชนจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เช่น การทอผ้าไหมด้วยมือจากชุมชนบ้านครัว นิทรรศการการผลิตขันลงหินบ้านบุ

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) และผลิตภัณฑ์ชุมชนกรุงเทพมหานคร (OTOP) ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนมากยิ่งขึ้นตามนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้สนับสนุนการจัดงานโดยอนุเคราะห์ให้ใช้พื้นที่วังสวนผักกาด บริเวณลานสนามหญ้าหน้าหอเขียน ที่มีบรรยากาศร่มรื่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมืองเป็นสถานที่จัดงาน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเดินทางมาเที่ยวชมงานได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) โดยลงที่สถานีพญาไท ทางออกที่ ๔ และรถประจำทางสาย ๑๔, ๗๔, ๗๗ และ ๒o๔ สำหรับสถานที่จอดรถสามารถจอดได้ที่สำนักงานเขตราชเทวี และที่ศูนย์โตโยต้าหรือศูนย์ฮอนด้า สาขาราชเทวี.







ภาพและข้อมูลจาก
thairath.co.th
wikipedia.org/
travel.truelife.com














ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๔ ปี กรุงรัตนโกสินทร์



ครบรอบ ๒๓๔ ปี วันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๙ นี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมรัตนโกสินทร์ "ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๔ ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ระหว่างวันที่ ๒o-๒๔ เมษายนนี้ ที่บริเวณท้องสนามหลวง โรงละครแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รวบรวมศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่เจริญงอกงามภายใต้ร่มพระบารมีแห่งราชวงศ์จักรีทั้ง ๙ พระองค์ เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวชมงานสนุกสนานพร้อมซึมซับวิถีไทย

วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นมหานครที่มีเสน่ห์และยิ่งใหญ่อลังการ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นอันดับ ๒ ของโลก รองจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร่ำรวยด้วยศิลปวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เถลิงถวัลยราชสมบัติของรัชกาลที่ ๑ มรดกศิลปวัฒนธรรมตกทอดมายาวนาน จึงส่งเสริมให้คนในสังคมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และอนุรักษ์วัฒนธรรมผ่านงานฉลอง ๒๓๔ ปีครั้งนี้ และเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗o ปี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา พระบารมีสองพระองค์แผ่ไพศาล วธ.ได้รวมวัฒนธรรมไทย-อาเซียน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยจัดมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียนในช่วงเวลาเดียวกันที่สนามหลวง ผู้มาร่วมงานจะได้พบมหกรรมรามายณะอาเซียน ว่าวอาเซียน เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร และภาพยนตร์คลาสสิกอาเซียน ที่สนามหลวงยังสร้างเมืองจำลองอาเซียน สร้างความเข้าใจวัฒนธรรมอาเซียนมากขึ้น

วิมลลักษณ์ ชูชาติ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตลอดการจัดงานทั้ง ๕ วัน เตรียมจัดกิจกรรมหลัก ๆ บริเวณสนามหลวง ได้แก่ พิธีบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ในวันที่ ๒o เม.ย. การทำบุญตักบาตร สักการะศาลหลักเมือง และการสักการะพระปฐมบรมราชานุสาวรีย์ และพิธีทางศาสนามหามงคล ๕ ศาสนา ในวันที่ ๒๑ เม.ย. ไหว้พระ ๙ วัด สืบสิริสวัสดิ์ ๙ รัชกาล เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และเข้าวัดปฏิบัติธรรม ได้แก่ วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดเบญจมบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดสุทัศนเทพวราราม และวัดพระราม ๙ กาญจนภิเษก เข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา ๘.๓o-๑๖.๓o น. ขึ้นรถที่จัดเตรียมไว้หน้าวัดทั้ง ๙ วัด โดยจุดปล่อยรถจุดแรกจะอยู่ที่สนามหลวงด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ได้นำการแสดงถึงความเป็นไทยจากทุกภูมิภาคของไทยมาแสดงบนเวทีกลาง และเวทีย่อยทั้ง ๒ เวที อาทิ การแสดงโขน โดยกรมศิลปากร การแสดงลีลาศโดยวงสุนทราภรณ์ ด้าน ชาญณรงค์ ลักษณียนาวิน ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงรัตนโกสินทร์ประกอบด้วยชุมชนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การจัดงาน ๒๓๔ ปี กรุงรัตนโกสินทร์ จะโชว์วิถีชุมชนรัตนโกสินทร์ที่มีการอนุรักษ์และสืบทอดอย่างต่อเนื่องด้วยความเข้มแข็งและอุตสาหะ ทั้ง ๑๑ ชุมชน พร้อมด้วยวิทยาลัยในวังหญิงและวิทยาลัยในวังชายมาสาธิตงานหัตถกรรมที่หาชมได้ยาก เปิดประตูให้ผู้มาเที่ยวงานได้รู้จักกรุงรัตนโกสินทร์ชัดเจนขึ้น

"ชุมชนเยาวราชโดดเด่นวัฒนธรรมจีนจะจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ประชาชน ชุมชนนางเลิ้งที่ตั้งบ้านบาตรสาธิตวิธีทำบาตรโบราณ มรดกวัฒนธรรมที่อาศัยความเพียร ชุมชนบางลำพูเด่นเรื่องดนตรีไทย ปัจจุบันมีการเรียนการสอนดนตรีไทย ชุมชนกุฎีจีนสอนเรื่องวัฒนธรรมอาหาร ชุมชนบางไส้ไก่สาธิตการทำขลุ่ยบ้านลาว ในงานยังได้เรียนรู้วิถีมอญจากชุมชนบางกะดี่ ถือเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ให้คนได้รับรู้และส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้ลูกหลาน เพราะบางคนไม่มีโอกาสไปเที่ยวชมชุมชน" ประธานสภาวัฒนธรรม กทม.กล่าว

วันที่ ๒o-๒๔ เมษายนนี้ ไปเที่ยวงานใต้ร่มพระบารมี ๒๓๔ ปี กรุงรัตนโกสินทร์ และงานมหกรรมวัฒนธรรมอาเซียนภายใต้งานใต้ร่มพระบารมี ตั้งแต่เวลา ๙.oo-๒๒.oo น.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com














ผนึกศิลปะอาเซียน ฉลองสงกรานต์ “เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน”



กลับมาอีกครั้งงานมหกรรมแห่งปี “เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน ครั้งที่ ๑๑” ที่จัดโดยจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ ททท.สำนักงานเพชรบุรี และวัดขนอน นำวัฒนธรรมประเทศกลุ่มอาเซียน“หนังใหญ่” จากกัมพูชา และ “การแสดงหุ่นเงา วายัง กูลิต” จากอินโดนีเซียร่วมแลกเปลี่ยนผสมผสานความเป็นอารยะแห่งภูมิภาคอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ ตื่นตาด้วยการแสดง Light & Sound “หนังใหญ่วัดขนอน” การแสดงผสมผสาน ชุด “นางสงกรานต์” การแสดงหนังตะลุง อ.วาที ทรัพย์สิน หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง ฯลฯ พร้อมเลือกซื้อสินค้าจากตำนานเมืองราชบุรี และเลือกชิมอาหารจากตลาดย้อนยุค ในวันที่ ๑๓-๑๔ เม.ย.นี้ ที่วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี






เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนซึ่งมีการจัดแสดงเป็นประจำทุกปี เพื่อโชว์ศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าไว้ให้ลูกหลานได้รับชมกัน และในปีนี้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เมื่อคณะผู้จัดงานฯ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรจากประเทศกลุ่มอาเซียน มาร่วมแสดงที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีเสมือนเป็นการต้อนรับ AEC ภายใต้ธีมการแสดงการเล่นเงา “มรดกร่วมแห่งอุษาคเนย์” เป็นวัฒนธรรมร่วมแห่งอาเซียนมาเผยแพร่ให้ชื่นชมคือ “สะแบกธม” หรือหนังใหญ่ศิลปะการแสดงเก่าแก่ของกัมพูชา จากคณะศิลปะสะแบกธมวัดโบ เมืองเสียมเรียม และ “วายังกูลิต” ศิลปะการแสดงหุ่นเงาของชาวอินโดนีเซีย ที่คล้ายกับหนังตะลุงของไทยพร้อมด้วยการแสดงหุ่นเงา Light & Sound “หนังใหญ่วัดขนอน” และการแสดงต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วมีคุณค่าทางวัฒนธรรมทั้งสิ้น เช่น“หนังตะลุง” จากคณะวาที ทรัพย์สิน(ทายาทอ.สุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงพื้นบ้าน), การแสดงหุ่นกระบอกจากครูจุ๋ม ศิษย์ศิลปากร, เรื่องเล่า ..ตำนานนางสงกรานต์ โดย อ.กฤษฎิ์, กลุ่มเยาวชนพี่สอนน้อง ละครหุ่นคนแม่เพทาย จ.เพชรบุรี หุ่นละครเล็ก บ้านศิลปินคลองบางหลวง และการแสดงจากคิดบวกสิปป์ เป็นต้น







































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














เปิดบ้านช่างเงินนครน่านบุญช่วย หิรัญวิทย์



'นครน่าน' ถือได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นและเสน่ห์อันน่าหลงใหล ในการมาท่องเที่ยว จ.น่านครั้งนี้มีจุดหมายปลายทางที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักเมืองน่านเพิ่มมากขึ้น จากแต่เดิมที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับวัดพระธาตุแช่แห้ง วัดภูมินทร์ ที่มีภาพเขียนจิตรกรรมกระซิบรักบันลือโลก บ่อเกลือโบราณ แต่เมืองน่านยังมีเครื่องเงิน หัตถกรรมล้ำค่า ภูมิปัญญาชาวน่าน

ปัจจุบันมีแหล่งเรียนรู้เพื่อศึกษาเรื่องราวเครื่องเงินนครน่าน เป็นบ้านของ พ่อครูบุญช่วย หิรัญวิทย์ ช่างฝีมือแกะสลักเครื่องเงินคนแรกที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์) ซึ่งปีนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้เปิดเป็นบ้านหลังที่ ๒๑ ในโครงการเปิดบ้านศิลปินแห่งชาติและผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่เลขที่ ๓๗/๑ ถ.ใจผาสุข ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน แบ่งออกเป็นส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้านกับส่วนหน้าที่จัดเป็นพื้นที่เรียนรู้ มีอุปกรณ์และเครื่องมือของช่างเงินโบราณ สามารถใช้ทำเครื่องเงิน รวมทั้งให้ผู้สนใจฝึกหัดทำขันเงิน ทั้งยังเป็นร้านจำหน่ายเครื่องเงินโบราณที่งดงามอีกด้วย

ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ประธานพิธีเปิดบ้านศิลปินแห่งชาติครั้งนี้ กล่าวว่า ใครมาเที่ยวเมืองน่านไม่ควรพลาดที่จะมาบ้านของศิลปินแห่งชาติ บุญช่วย ท่านเป็นช่างฝีมือผู้อนุรักษ์เครื่องเงิน ภูมิปัญญาของท้องถิ่น เครื่องเงินโบราณมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ควรค่าแก่การอนุรักษ์และให้เด็กเยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ ถ้ามีแววสามารถเป็นช่างเงินได้ ทาง สวธ.จะสนับสนุนต่อยอด ตอนนี้บ้านศิลปินแห่งชาติพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้สืบสานภูมิปัญญาเครื่องเงินโบราณ

"เครื่องเงินเหล่านี้เป็นงานฝีมือบวกกับภูมิปัญญา กว่าจะได้ขันเงิน พานเงิน ต้องใช้ความวิริยอุตสาหะ แต่ละชิ้นถือเป็นหนึ่งเดียวของโลกที่ศิลปินทำ นอกจากยกย่องครูช่างโบราณ เชื้อเชิญท่านถ่ายทอดวิชาความรู้แล้ว ยังขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้วย" ผู้ช่วย รมว.วธ.กล่าว

ความวิจิตรงดงามของเครื่องเงินนครน่าน ทำให้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ที่ไปร่วมแสดงความยินดีวันเปิดบ้าน ไม่พลาดการซื้อเครื่องเงินสวย ๆ ใส่

คุณหญิงปัทมากล่าวว่า บ้านครูบุญช่วยเป็นแหล่งสั่งสมองค์ความรู้และสืบสานการทำเครื่องเงินแบบดั้งเดิม ที่นี่เหมาะแก่การเผยแพร่การทำเครื่องเงินให้กับชาวน่านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมสนับสนุนโครงการเปิดบ้านตลอด ๑o ปี หลังจาก จ.น่าน เตรียมจะเปิดอีก ๒ แห่งคือ บ้านณรงค์ จันทร์พุ่ม สาขาศิลปะการแสดง (หนังตะลุง) จ.ตรัง และบ้านช่วง มูลพินิจ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กรุงเทพฯ นอกจากนี้ เดือน พ.ค.จะจัดงานใหญ่ ๓ ทศวรรษอัครศิลปินและศิลปินแห่งชาติ ในโอกาสครบ ๓o ปี กองทุนฯ และขอเชิญชวนบริจาคเงินสมทบกองทุนฯ ลดหย่อนภาษีได้

ในวันเปิดบ้าน ครูบุญช่วยวัย ๘๒ ปี ไม่ได้โชว์ตีขันเงิน แกะสลักลวดลาย แต่ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มสดใส ช่างเงินคนแรกของน่านเล่าว่า บ้านหลังนี้สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเมื่อปี ๒๕๔๔ รับสั่งไม่อนุรักษ์ไว้จะสูญหาย ให้สอนการทำเครื่องเงินแก่คนในหมู่บ้าน เกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เครื่องเงินน่าน ก่อนจะไปสอนวิชาความรู้ให้ชาวเขาในโครงการพระราชดำริในพื้นที่ อ.ปัว จ.น่าน

"ถ้าขยันหมั่นเพียร อดทนฝึกฝน ๖ เดือน ก็สามารถเป็นอาชีพได้ เป็นงานละเอียด ใช้เวลาทำหลายวันถึงจะได้ ๑ ชิ้น ช่างเงินโบราณปัจจุบันเหลือไม่กี่คน ส่วนลวดลายเครื่องเงินก็สืบทอดจากผู้เฒ่าผู้แก่ มีลายกระถิน ลายเทพพนม ลาย ๑๒ ราศี ลายพญานาค แล้วก็มีที่คิดลายตอกให้แปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ลายดอกไม้นก ลายดอกพิกุล เป็นเอกลักษณ์ จ.น่าน ตนเองจะสนองพระราชดำริรักษาภูมิปัญญาเครื่องเงินจนกว่าจะหมดลมหายใจ" ครูบุญช่วย ศิลปินแห่งชาติ กล่าว และบอกทุกปีครอบครัวจะนำเครื่องเงินที่ได้จัดทำขึ้นเป็นพิเศษน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พ่อหลวงและเจ้าฟ้าหญิงองค์นี้เสมอด้วยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
nanpr.go.th














๗ เส้นทางผ้าทอไทย สืบสายใยพระราชปณิธาน



พาณิชย์ เทิดพระเกียรติ "พระราชินี" เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา จับมือ ศศป. เปิดนิทรรศการ ๗ เส้นทางผ้าทอไทย สืบสายใยพระราชปณิธาน ที่สนามบินดอนเมือง โชว์นักท่องเที่ยว หวังกระตุ้นท่องเที่ยว พร้อมเชิญทูต ๒๖ ประเทศในไทย ลงดูพื้นที่จริงที่อุบลฯ-สุรินทร์...

วันที่ ๘ เม.ย. ๕๙ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดนิทรรศการ ๗ เส้นทางผ้าทอไทย สืบสายใยพระราชปณิธาน ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) จัดงานเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ องค์อุปถัมภ์หัตถศิลป์ไทย เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ โดยจะมีการเผยแพร่การผลิตผ้าทอมือ ๗ เส้นทางใน ๔ ภูมิภาค แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางผ่านสนามบินดอนเมือง ที่อาคารผู้โดยสารขาออก เทอร์มินัล ๒ ซึ่งจะจัดไปถึงสิ้นเดือน ส.ค. ๒๕๕๙ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ สนใจเดินทางไปสัมผัสแหล่งผ้าทอในแต่ละพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน รวมทั้งยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมผ้าทอของไทย

"ได้ตั้งเป้าหมายนำผ้าทอมือ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย จากจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย มาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เห็น และกระตุ้นให้เดินทางไปท่องเที่ยว เยี่ยมชมแหล่งผลิต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกแนวทางหนึ่ง และยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่เป็นแหล่งผลิต อันจะทำให้เศรษฐกิจในระดับฐานรากมีการขยายตัวได้เพิ่มขึ้นด้วย สำหรับ ๗ เส้นทางแหล่งผลิตผ้าทอมือ ได้แก่ เส้นอีสานเหนือและอีสานตอนล่าง ภาคเหนือตอนบนและเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง และเส้นทางภาคกลาง"

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้เชิญเอกอัครราชทูตจาก ๒๖ ประเทศประจำประเทศไทย เช่น ปากีสถาน เบลเยียม โรมาเนีย เป็นต้น ลงพื้นที่เยี่ยมชมแหล่งชุมชนช่างทอไทยในเส้นทางภาคอีสาน ที่จังหวัดอุบลราชธานี และสุรินทร์ เพื่อดูขบวนการผลิต และร่วมชื่นชมความงดงามของผ้าทอไทย และเสน่ห์แห่งชุมชนช่างทอในพื้นที่จริง

สำหรับยอดการส่งออกผ้าไหมไทยในปี ๕๘ มีมูลค่าประมาณ ๔๖o-๕oo ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมตัวเลขจากนักท่องเที่ยวที่ซื้อติดมือกลับบ้านอีก ซึ่งปัจจุบัน เริ่มมีนักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมพัฒนาและออกแบบผ้าไหมไทย ให้สามารถใช้จริงได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ จึงมั่นใจว่า ในปีนี้การส่งออกผ้าไหมไทย จะเกินกว่า ๕oo ล้านบาทแน่นอน



ภาพและข้อมูลจาก
thairath.co.th
thaigov.go.th














จิตรกรรมสีน้ำ ในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๓๔ ปีกรุงรัตนโกสินทร์



333 แกลอรี่ จัดแสดงนิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ ในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๓๔ ปีกรุงรัตนโกสินทร์ โดย 333 แกลเลอรี่ รวบรวมผลงานจิตรกรรมสีน้ำของศิลปินไทยและศิลปินรับเชิญจากต่างประเทศ เช่น อิตาลี อเมริกา เนปาล เวียดนาม มาเลเซีย ลาว สิงคโปร์ เมียนมาร์ จำนวน ๒๓๔ ผลงาน นำมาจัดแสดงร่วมกัน เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๒๓๔ ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางศิลปวัฒนธรรม และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิด เทคนิควิธีการสีน้ำ การเรียนรู้ภูมิปัญญาทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

จัดระหว่างวันที่ ๒- ๓o เมษายน ๒๕๕๙ ณ 333 แกลอรี่ ชั้น ๑ อาคาร เคแอนด์วาย เลขที่ ๑๖ ถนนสุรศักดิ์ บางรักกรุงเทพมหานคร















































































ภาพและข้อมูลจาก
FB Direk Kingnok














เทศกกาล Songkran 2016 Bangkok Symbolic
(สงกรานต์ ๒o๑๖ แบงค็อก ซิมโบลิค)



ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ พื้นที่ทางศิลปะส่วนใหญ่ปิดทำการไม่แตกต่างจากหน่วยงานอื่นๆทั้งของราชการและเอกชน แต่สำหรับผู้ที่อยากชมงานศิลปะ ยังมีบางพื้นที่เป็นทางเลือกให้ไปชมอยู่บ้าง

เพื่อร่วมสืบสานประเพณีไทย ชวนสัมผัสวิถีงาม ฉลองเทศกาลมหาสงกรานต์ ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๒๔ เมษายนนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี จัด เทศกกาล Songkran 2016 Bangkok Symbolic (สงกรานต์ ๒o๑๖ แบงค็อก ซิมโบลิค)

นอกเหนือจากหลากหลายกิจกรรม ที่จัดขึ้นตามชั้นต่าง ๆ ของศูนย์การค้าฯ อาทิ กิจกรรมการสรงน้ำพระ เพื่อความเป็นศิริมงคล ในเทศกาลปีใหม่ไทย, สาธิตการร้อยพวงมาลัย, การทำดินสอพอง, การสวมชุดไทยถ่ายภาพที่ระลึก, การละเล่นแบบโบราณ, อร่อยคล้ายร้อน กับเมนูอาหารไทย ทั้งคาวและหวาน ฯลฯ

บริเวณชั้น G ของศูนย์การค้าฯ ยังมีการจัดแสดง “ผลงานศิลปะสะท้อนวิถีไทย” ของ 15 ศิลปินไทย ได้แก่ วราวุฒิ โตอุรวงศ์, แก้วตระการ จุลบล, วิสิทธิ์ เตชสิริโกศล, พิพัฒน์ ศักดิ์สิริเกษมกุล, ณเรศ จึง, สุริยะ ฉายะเจริญ, เพียงขวัญ คำหรุ่น, ชญานิษฐ์ ม่วงไทย, นวัต เลิศแสวงกิจ, มาดี พัฒนศรี, ภาณุพงศ์ อ่อนรักษ์, ไกรสิงห์ สุดสงวน, ธนาเทพ พรหมสุข, ธรรมศักดดิ์ เอื้อรักษ์สกุล และ ปฐม สุปรียาพร

ขณะที่โซนบัลโคนี่ ชั้น ๒ ของศูนย์การค้าฯ จัดแสดง “ประติมากรรมทราย” หลายชิ้นที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่หลายคนรู้จัก อาทิ ยักษ์วัดโพธิ์, เสาชิงช้า ฯลฯ

ดังนั้นใครที่อยากชมศิลปะในบรรยากาศสงกรานต์ เชิญพกอาวุธครบมือจำพวก ปีนฉีดน้ำ ขัน หรือแม้แต่ ฟ็อกกี้ ที่รัฐบาลรณรงค์ให้ใช้เล่นสงกรานต์ปีนี้เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ เดินเข้าห้างไปชมกันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














เกียรติจิตรกร ของนายผงชูรส “สุขกับศิลป์” ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์



ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ไม่อยากไปเดินห้าง ไม่อยากไปดูหนัง เบื่อกิจกรรมอื่นที่เคยทำอยู่ซ้ำ ๆ อยากไปดูงานศิลปะบ้าง!!

ถ้าคนทำงานศิลปะได้ยินได้ฟังแบบนี้ คงรู้สึกชื่นใจไม่น้อย และนิทรรศการศิลปะตามที่ต่างๆซึ่งตลอดทั้งเดือนมีเปิดแสดงให้ชมมากมายเป็นดอกเห็ดคงไม่ร้างผู้ชม หรือมีแต่พรรคพวกกันเองไปให้กำลังใจ

เพราะฉะนั้น นับแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการสนับสนุนศิลปิน โดยเฉพาะศิลปินรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงาน และเป็นการไกด์ผู้ชมซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคนทั่วไปที่อาจจะไม่ค่อยทราบข่าวคราวในแวดวงศิลปะว่า ในช่วงสุดสัปดาห์มีนิทรรศการหรือกิจกรรมด้านศิลปะที่ไหนให้ไปชมบ้าง

ART EYE VIEW จะมาแนะนำนิทรรศการและกิจกรรมศิลปะเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ที่สนใจได้ไป “สุขกับศิลป์” อาทิตย์ละครั้ง ชิมลางด้วย ๓ นิทรรศการของศิลปะของศิลปินรุ่นใหม่และส่วนหนึ่งยังไม่พ้นรั้วมหาวิทยาลัย ดังต่อไปนี้






เกียรติจิตรกร ของนายผงชูรส



ไม่ได้คิดที่จะล้อเลียน แต่ได้ยินชื่อศิลปินท่านนี้แล้ว หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงผงชูรสยี่ห้อหนึ่ง ที่มาที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไปกระซิบถามเจ้าตัวได้ในนิทรรศการ เกียรติจิตรกร หรือ Painter Prestige ระหว่างวันที่ ๘ - ๓o เมษายน ๒๕๕๙ (หยุดจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ๑ - ๔ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เขต พระนคร หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “หอศิลป์เจ้าฟ้า”

เพราะ อายิโน๊ะ หรือ วีรพงษ์ ศรีตระกูลกิจการ ศิลปินหนุ่มผู้นิยามตัวเองว่าเป็น “จิตรกรนักวาดรูปและทำภาพพิมพ์แกะไม้นอกขนบ” ผู้ผ่านการแสดงผลงานมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีหลายรางวัลการันตี อาทิ รางวัลเหรียญทอง ประเภทภาพพิมพ์ การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๑, เหรียญเงิน การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๔,เหรียญทองแดง การแสดงศิลปกรรม แห่งชาติ ครั้งที่ ๕๒ ,ครั้งที่ ๕๓,ครั้งที่ ๕๕ และรางวัล Honorable Mentions จาก 10th International Biennial Engraving "Josep de Ribera" Xativa, Spain มีผลงานจิตรกรรมและภาพพิมพ์มาจัดแสดงให้ชม ซึ่งผลงานทั้งหมดนี้ ศิลปินกล่าวว่าคือถ้อยแถลงแห่งสุนทรียะแห่งการงานที่พากเพียรเพื่อคุณค่าของชีวิตที่ใช้การวาดรูปในการทำความเข้าใจในความจริงและคุณค่าของสุนทรียภาพ

“คำถามที่ว่าทำไมจึงวาดรูป คำตอบนั้นมีอยู่ในการทำ คุณค่าของมันคือชีวิต มันช่วยสร้างคุณค่าให้กับชีวิตผม หลายคนอาจพูดว่าศิลปินอาชีพคือการเลี้ยงชีพด้วยผลงานศิลปะ แต่ผมจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้วาดรูป เพราะถ้าผมวาดรูปไม่ได้ก็คงเป็นแค่ขยะ

แต่บางครั้งก็มีคำถามในใจว่า แล้วเราจะช่วยสังคมประเทศชาติอย่างไร อันนี้ผมขอยังไม่ตอบแต่ของยกประโยคหนึ่งที่ผมได้อ่านจากจดหมายที่ อาจารย์ ศิลป์ พีระศรี เขียนถึง อาจารย์ เฟื้อ หริพิทักษ์ ซึ่งเพื่อนผมไปพบโดยบังเอิญว่า...

SO WORK HARD, AS HARD AS
YOU CAN FOR THE GLORY of SIAM.

ผมขอใช้อุดมคตินี้ของอาจารย์ด้วยคน สำหรับผมด้วยเกียรติและอุดมคติของจิตรกร
ขอใช้การวาดรูปเพื่อเข้าถึงความจริงในการงาน อันเป็นคุณค่าแห่งชีวิต”






ปรีชาทำอะไร?



อยากรู้ไหมว่าปรีชาเขาทำอะไร และทำอะไรมาบ้างบนเส้นทางศิลปะ

ปรีชาที่กำลังถูกพาดพิงถึงคือ ปรีชา รักซ้อน เจ้าของ นิทรรศการศิลปะ What’ s PREECHA done ซึ่งกำลังจัดแสดงให้ชม ระหว่างวันนี้ - ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ (อังคาร-อาทิตย์ เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น.) ณ People's Gallery - ห้อง P1 - P2 ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน

ปรีชารวบรวมผลงานศิลปะของตัวเองที่คิดว่าโดดเด่นด้วยเทคนิค, องค์ประกอบศิลปะ มีมุมมองการนำเสนอที่แปลกใหม่ และกลั่นกรองออกมาเป็นผลงานผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบทั้งภาพวาดสีน้ำมัน ภาพพิมพ์ดิจิตอล และภาพวาดลายเส้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาจัดแสดงให้ชมในนิทรรศการเดียว.....What’ s PREECHA done ซึ่งเป็นนิทรรศการเดี่ยวศิลปะครั้งที่ ๒ ของเขา






อินเนอร์ของเด็ก ปี ๑ ศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ



“ความคิดและความรู้สึกนั้น ส่วนใหญ่จะมาด้วยกัน ความคิดเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลของของบางอย่าง ในระหว่างที่ความรู้สึกเป็นการวิเคราะห์ความแตกต่างของของจากภายใน เมื่อความคิดเชื่อมโยงถึงสาเหตุของความแตกต่างของของบางอย่าง ความหยั่งรู้จึงเชื่อมกับลักษณะซึ่งถูกเลือกโดยประสบการณ์จากในอดีต และถ่ายทอดออกมาด้วยความคิดสร้างสรรค์ผ่านผลงาน”

ชวนแวะเข้ามหาวิทยาลัยไปชมผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ที่ยังไม่พ้นรั้วมหาวิทยาลัย เมื่อ นิสิตชั้นปีที่ ๑ ภาคทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมใจกันนำผลงานจิตรกรรมและวาดเส้น มาจัดแสดงให้ชมผ่าน นิทรรศการ อินเนอร์ (inner)

ระหว่างวันนี้ - ๒o เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน ชั้น ๑ พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้ชมทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา ๙.oo - ๑๖.๓o น. และปิดให้บริการวันเสาร์,อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ไปไม่ถูกโทร.ไปสอบถามได้ที่ คุณประเสิรฐ โทร. o-๒๒๑๘-๓๖๔๕















ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














TODAY IS THE DAY : The Proposition of our future



แกลลอรีเล็กๆที่เปิดตัวไม่เล็กสักนิด สำหรับ โนวา คอนเทมโพรารี แกลลอรี ด้วยนิทรรศการ TODAY IS THE DAY : The Proposition of our future ที่มีทั้งผลงานของศิลปินระดับโลก ได้แก่ ลอเรนซ์ เวย์เนอร์ โยชิโมโตะ นารา มาร่วมแสดง

สุทธิมา สุจริตกุล หรือ จุนโกะ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโนวา คอนเทมโพรารี แกลลอรี บอกว่าหลังจากจบปริญญาโทสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ จากมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ และไปทำงานวิจัยที่พิพิธภัณฑ์ เดอะ เมโทรโพลิแทน นิวยอร์ก นาน ๒ ปี เมื่อกลับมาบ้านก็อยากจะเปิดแกลลอรีในรูปใหม่ คือ เป็นสถานที่สำหรับชื่นชม ศึกษาศิลปะร่วมสมัย ในขณะเดียวกันก็อยากให้มาถกเถียง ตั้งคำถาม พร้อมทั้งรับเป็นที่ปรึกษาในการลงทุนด้านศิลปะ

“โกะชอบงานพิพิธภัณฑ์และแกลลอรี อยากนำเสนอแกลลอรีที่ไม่ใช่แค่รูปภาพสวยงาม แล้วซื้อนำกลับไปติดที่บ้าน แต่อยากให้คนไทยได้เห็นว่าศิลปะร่วมสมัยมันอิมแพคกับสังคม ทำอะไรให้คนเราหันมาสนใจศิลปะที่ไม่ใช่แค่รูปภาพ

สังคมเราเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป มีไอโฟน มีเทคโนโลยี ในนิทรรศการครั้งนี้มีวีดิโออาร์ตด้วย โกะอยากให้คนเข้ามาแล้วถามว่านี่คืออะไร เป็นที่ให้คนมาถกเถียงกันเรื่องงานศิลปะ เราไม่ได้เน้นเรื่องงานขายแต่เราเน้นเรื่องให้การศึกษาควบคู่กันไป”

ด้วยเหตุนี้เองสุทธิมาจึงร่วมมือกับ มร.เดวิด เอ. รอส อดีตผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วิทนี่ ณ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และ มร.โนริโตชิ ฮิรากาวา ผู้ก่อตั้งองค์กรทูเดย์ อีส เดอะ เดย์ นำนิทรรศการ TODAY IS THE DAY : The Proposition of our future มาจัดแสดงพร้อมการเปิดตัวครั้งแรกของแกลลอรี

นิทรรศการการนี้เป็นการสื่อถึงภัยพิบัติที่เกิดจากเหตุการณ์สึนามิและการระเบิดของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น

ประกอบไปด้วยผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง ๑o คน ได้แก่ เฮนค์ วิสช์ (เนเธอร์แลนด์) ฌอง-ลุค วิลเม้าธ์ (ฝรั่งเศส) คาซูมิ ทานากะ (ญี่ปุ่น) ลอเรนซ์ เวย์เนอร์ (สหรัฐอเมริกา) ลุค ทันแมน (เบลเยี่ยม) รินโกะ คาวาอูชิ (ญี่ปุ่น) เรียวสุเกะ อิโตะ (ญี่ปุ่น) ทสึโยชิ โอซาวา (ญี่ปุ่น) ยูเคน เทรุยะ (ญี่ปุ่น) และ โยชิโมโตะ นารา(ญี่ปุ่น)

“บางคนมาดูงานบางชิ้น เช่น ผลงานเปียโนไม้ที่มีผมอยู่ ของ คาซูมิ ทานากะ อาจมีคำถามว่านี่คืองานศิลปะหรือเปล่า โกะอยากเล่าว่า ผมที่เห็นเป็นผมจริงของแม่ของศิลปินที่เสียชีวิตจากผลกระทบจากสารกัมมันตรังสีจากการทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมา เป็นความสวยงามของเสียงเปียโนที่อ้างอิงถึงภาพยนตร์เรื่องฮิโรชิมา มอง อามัวร์ แต่ความจริงมันเป็นความเศร้า ผลงานบางชิ้นมันเป็นความทรงจำที่ชวนให้คิดถึงเหตุการณ์บางอย่าง และนี่คือเสน่ห์ของศิลปะร่วมสมัยที่โกะอยากให้ผู้ชมได้สัมผัส” จุนโกะ ยกตัวอย่าง

ในขณะที่ เรียวสุเกะ อิโตะ ศิลปินและอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ที่เดินทางมาร่วมในงานเปิดนิทรรศการและแกลลอรี อธิบายถึงผลงานวีดิโออาร์ตที่นำมาร่วมแสดงในครั้งนี้ว่า ปกติแล้วงานวีดิโอส่วนใหญ่จะถ่ายเสร็จสิ้นแล้วนำมาฉาย หากผลงานของเขาเป็นงานวีดิโอที่กำลังถ่ายทำ โดยมีการซูมเข้าและซูมออกผ่านกล่องขนมที่เด็กญี่ปุ่นรับประทานกันในชีวิตประจำวัน โดยเจาะช่องให้เห็นหุ่นจำลองภายในของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

“สิ่งที่ผมต้องการจะบอกก็คือ เราใช้ชีวิตอยู่ควบคู่กับกับอันตราย บางครั้งเราแทบไม่รู้เลยว่าอันตรายที่จะเกิดขึ้นนั้นจะมีขึ้นเมื่อไหร่ และร้ายแรงเพียงใด และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของเรา” ศิลปินกล่าว

นิทรรศการ TODAY IS THE DAY : The Proposition of our future นำเสนอมุมมอง แนวคิด และความคิดที่น่าสนใจหลายด้าน แน่นอนว่ามีทั้งความเศร้า ความหวัง และคำถาม ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่โนวา คอนเทมโพรารี่ แกลลอรี (ชั้นล่างบ้านสมถวิล) ซอยมหาดเล็กหลวง ๓ ถนนราชดำริ วันนี้ – ๓o มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. o๙-o๙๑o-๖๘๖๓



























ภาพและข้อมูลจาก
FB กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์














งานประติมากรรมใน Modern Art Gallery มิลาน



งานประติมากรรมเป็นสาขาหนึ่งของทัศนศิลป์ที่มีลักษณะเป็น ๓ มิติ ในสมัยโบราณงานประติมากรรมมักเกิดจากการแกะสลักวัสดุต่าง ๆ เช่น หิน โลหะ เซรามิก หรือไม้ แต่ปัจจุบันวัสดุที่ถูกนำมาแกะสลักมีความหลากหลายมากขึ้นงานประติมากรรมที่มีอายุยืนยาวที่สุดที่หลงเหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นงานประติมากรรมจากหิน และมักเป็นผลงานที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา ตัวละครในนิยายปรัมปรา และเรื่องราวเกี่ยวกับกรีกโบราณ





Allogorical Figure



ใน Modern Art Gallery มิลานก็มีผลงานประติมากรรมเด่น ๆ อยู่หลายชิ้น เช่น Amore and Psyche ของ Giovanni Maria Benzoni นักประติมากรรมชาวอิตาเลียน Giovanni Maria Benzoni เกิดใน Songavazzo ในเดือนสิงหาคมปี ๑๘o๙ หลังจากที่บิดาเสียชีวิต เขาก็ย้ายไปอยู่กับลุงซึ่งเป็นช่างไม้และได้ฝึกฝนการแกะสลักไม้ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อผลงานของเขาเป็นที่เตะตาของ Camplani of Riva di Solto มาก Solto จึงได้แนะนำ Benzoni ให้รู้จักกับ Fontana เพื่อนสนิทของ Luigi Tadini, Count of Crema ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงานศิลปะรายใหญ่ในช่วงเวลานั้น Benzoni จึงได้รับคำสั่งให้ลองแกะสลักไม้ตามตัวอย่างมาให้ Tadini ดูซึ่งเป็นที่พอใจของ Luigi Tadini มาก แต่เมื่อ Tadini พยายามจะส่ง Benzoni เข้า Carrara Academy in Bergamo และ Brera Academy เขากลับถูกปฏิเสธและไม่สามารถหาโรงเรียนเข้าเรียนได้





Achilles



Tadini จึงตัดสินใจเสียเงินส่ง Benzoni ไปโรมเพื่อไปฝึกงานกับ Giuseppe Gabbris นักประติมากรรมที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น และเข้าเรียนต่อที่ St.Luca Academy แทน Tadini ก็ไม่ผิดหวังเพราะ Benzoni สามารถชนะการแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยได้ เมื่อ Tadini เสียชีวิตระหว่างที่ Benzoni ยังเรียนไม่จบ Tadini ก็ยังทำพินัยกรรมให้เงินทุน Benzoni เรียนต่อไปอีก ๓ ปี หลังจบการศึกษา Benzoni สามารถเปิดร้านรับงานประติมากรรมทุกชนิด และมีลูกค้าเป็นชนชั้นสูงมากมาย เช่น สันตะปาปา Gregorio XIV ผู้นำรัฐบาล จักรพรรดิรัสเซีย และราชวงศ์อิตาลีและฮอลแลนด์ ผลงานของ Benzoni ได้รับถูกนำไปจัดแสดงในมิวเซียมหลากหลายแห่งทั่วโลก Amore and Psyche ในห้องภาพแห่งนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของศิลปินได้อย่างเด่นชัด สังเกตจากท่วงท่าที่ดูมีชีวิตชีวาและเหมือนจริงอย่างยิ่งของทั้ง Amore and Psyche นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นว่าส่วนเสื้อผ้าของ Psyche นั้นดูพลิ้วไหวราวกับผืนผ้าจริง ๆ เลยทีเดียว

Allogorical Figure ของ Giacomo Spalla นักประติมากรรมชาวอิตาเลียนที่ทำงานให้กับพระเจ้านโปเลียนและ Carlo Felice แม้ส่วนใบหน้าของผลงานนี้จะดูไม่เนียนเท่าใดนัก แต่ศิลปินก็แกะสลักส่วนของเสื้อผ้าได้ดูพลิ้วไหวได้ราวกับผืนผ้าจริง





Minerva infuses the soul to Prometheus



Minerva infuses the soul to Prometheus ของ Camillo Pacetti นักประติมากรรมชาวอิตาเลียน ประธาน Brera Academy ต่อจากGiuseppe Franchi ผลงานชิ้นนี้ศิลปินจับเอาตอนที่ Minerva เทพีแห่งสติปัญญาได้ประทานวิญญาณให้กับ Prometheus ยักษ์ในนิยายปรัมปรากรีกที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างมนุษยชาติ และเป็นผู้ขโมยไฟจากเทือกเขาโอลิมปัสมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงาน ผลงานชิ้นนี้แสดงอัจฉริยภาพของศิลปินได้อย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัดส่วนของตัวละคร กล้ามเนื้อของ Prometheus หน้าตาของ Minerva และรอยพับเสื้อผ้าของนางล้วนกลมกลืนอ่อนไหวราวกับผืนผ้าที่นักท่องเที่ยวอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปแตะต้อง

นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานประติมากรรมจะรู้สึกสนุกและชื่นชอบห้องภาพนี้มากเพราะไม่เพียงห้องภาพนี้จะมีผลงานประติมากรรมของศิลปินทั้ง 4 ข้างต้นแล้ว ที่นี่ยังมีผลงานประติมากรรมสวย ๆ แนว Neoclassicism จากศิลปินอีกหลายท่านให้ชมกันอย่างจุใจ เช่น Angel ของ Giovanni Pandiani, The Leggitrice ของ Pietro Magni ซึ่งรับรองได้ว่านักท่องเที่ยวจะรู้สึกอิ่มเอมจนลืมกินข้าวอย่างแน่นอน





Angel





Angel ด้านหลัง



ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 14 เมษายน 2559
Last Update : 14 เมษายน 2559 18:16:45 น. 0 comments
Counter : 2225 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.