happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๒๒





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto








รูปสลักหินรัชกาลที่ ๕



'ช่างสิบหมู่' ภูมิศิลป์ไทยแห่งประชาคมอาเซียน



ในประชาคมอาเซียนนั้น ทุกประเทศต่างมีผลงานช่างศิลป์แสดงเอกลักษณ์ของตนชัดเจน สำหรับประเทศไทยนั้น ผลงานของช่างสิบหมู่ที่สืบทอดฝีมือมาแต่โบราณนั้นถือเป็น “ศิลปคู่แผ่นดินสยาม” ทีเดียวซึ่งมีนิทรรศการและกิจกรรมให้ชมถึงวันท่ี่ ๓๑ สิงหาคมนี้ อาทิตย์นี้ จึงตามรอยหาภูมิศิลป์ไทยไป ที่สำนักช่างสิบหมู่ ของกรมศิลปากร ต.ศาลายา จ.นครปฐม ด้วยมีศูนย์ศิลปะและการช่างไทยที่สืบสานและเรียนรู้งานของช่างสิบหมู่ให้คงอยู่เป็นมรดกแผ่นดิน ดังปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์ในทุกครั้งในการสร้างและบูรณะศิลปกรรมในพระราชวังและสถานที่สำคัญ ด้วยงานประณีตศิลป์ตามอย่างช่างหลวงในสมัยโบราณ โดยมีผลงานไม่แตกต่างไปจากช่างศิลป์ไทยที่มีมาแต่เดิม ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นได้มีความห่วงใยกันว่าช่างศิลป์ไทยโบราณจะสูญสิ้นฝีมือไป เสียแล้ว บัดนี้องค์ความรู้และฝีมือช่างนั้นได้รับการถ่ายทอดฝีมือจนเชื่อว่า งานศิลปกรรมและประณีตศิลป์นั้นสามารถสร้างสรรค์สืบสานต่อไปจนกลายเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมในอนาคตได้





ภาพเขียนท้าวมาลีวราช



สำนักช่างสิบหมู่ แห่งนี้ได้ตั้งขึ้นจากชื่อเดิมซึ่งหมายถึง ช่างต่าง ๆ ได้แก่ ช่างเขียน ช่างแกะ ช่างสลัก ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างปั้น ช่างหุ่น ช่างรักช่างบุและช่างปูน เป็นต้น อันเป็นช่างทางวัฒนธรรมที่ต้องมีการอนุรักษ์ สืบสาน ถ่ายทอด ด้วยเป็นศิลปะเฉพาะในกระบวนช่างไทยที่ได้จำแนกฝีมือช่างไว้มากมาย และนำมาบูรณะร่วมกันสร้างผลงานต่าง ๆ ขึ้น





งานศิราภรณ์และแกะสลัก



สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงอธิบายถึงช่าง ประทานแก่พระยาอนุมานราชธน ในหนังสือบันทึกความรู้เรื่องต่าง ๆ ดังนี้ว่า“กระทรวงใดมีกิจจะต้องทำสิ่งซึ่งต้องอาศัยฝีมือช่าง ก็ต้องหาช่างชนิดที่ต้องการใช้ มารวบรวมตั้งไว้ในกระทรวงนั้นเพื่อใช้ จึงได้มีการช่างมากมายกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ หลายกระทรวงด้วยกัน ตามที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตรัสไว้ ดังจะยกตัวอย่างให้เห็น เช่น กระทรวงวังมีกรมทหารในกรมรักษาพระองค์ แต่มีกรมช่างทหารในขึ้นอยู่ในกรมทหารในนั้นอีกชั้นหนึ่ง เจ้ากรมคือหลวงประดิษฐ์นิเวศน์ เห็นได้ตามชื่อว่ามีหน้าที่ปลูกสร้างเรือนหลวงในพระราชนิเวศน์ คงมีขึ้นด้วยเหตุที่เจ้ากรมหรือปลัดกรมคนใดคนหนึ่งในกรมทหารในเป็นผู้เข้าใจการปลูกสร้างจึงตรัสใช้ ผู้รับสั่งนั้นก็ต้องเสาะหาช่างมาเป็นลูกมือ งานมากขึ้น ช่างมากขึ้นก็ต้องตั้งขึ้นเป็นกรมทหารใน แม้แต่กรมมหาดเล็กก็ยังมีกรมช่างมหาดเล็ก เป็นอีกกรมหนึ่งเหมือนกัน มีช่างเขียน ช่างปั้นและอื่นๆ ช่างสิบหมู่จึงเป็นชื่อกรมที่รวบรวมช่างไว้มีสิบหมู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าในบ้านเมืองมีช่างแค่สิบอย่างเท่านั้น ที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างที่ยกมารวมไว้เรียกว่า “ช่างสิบหมู่”





หัวโขนสินค้าของนักท่องเที่ยว



ดังนั้นบัญชีชื่อช่างที่ขึ้นทำเนียบ จึงถือเป็นช่างหลวง ซึ่งมีช่างต่าง ๆ ได้แก่ ช่างเลื่อย ช่างก่อ ช่างดอกไม้เพลิง ช่างไม้สำเภา ช่างปืน ช่างสนะ(จีน)ช่างสนะ (ไทย) ช่างขุนพราหมณ์เทศ ช่างรัก ช่างมุก ช่างปากไม้ ช่างเรือ ช่างทำรุ ช่างเขียน ช่างแกะ ช่างสลัก ช่างกลึง ช่างหล่อ ช่างปั้น ช่างหุ่น ช่างบุ ช่างปูนช่างหุงกระจก ช่างประดับกระจก ช่างหยก ช่างชาดสีสุก ช่างดีบุก ช่างต่อกำปั่น ช่างทอง เป็นต้น ทำให้เกิดช่างสิปปะ ตรงกับสันสกฤตแปลว่า “ศิลปะ”ดังนั้นช่างสิปปะจึงถูกจัดตั้งเป็นหมู่ เรียกว่า ช่างสิปปะหมู่ คือหมู่ของช่างนั่นเอง ไม่ได้หมายว่า มีช่าง ๑o หมู่ ๑o ประเภทเท่านั้น ในชั้นต้นได้รวบรวมคนที่มีฝีมือจากพื้นถิ่นพื้นบ้านเอามาเป็นช่างหลวงรวมไว้ในหมู่ของกรมช่างสิบหมู่เดิมคือ กรมช่างหลวงนั่นเอง ต่อมาเมื่อตั้งกรมศิลปากรแล้ว ช่างนั้นจึงมาอยู่ในกองหัตถศิลป์ และสำนักช่างสิบหมู่ในปัจจุบัน





รูปจำลองเรืออนันตนาคราชจากฝีมือช่างไทย



พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแถลง พระบรมราชาธิบาย แก้ไขการปกครองแผ่นดิน เมื่อพุทธศักราช ๒๔๓o ทรงมีพระราชดำรัสเรื่อง “กรมช่างสิบหมู่” ขึ้นไว้ดังนี้ “ส่วนซึ่งแบ่งปัน ฝ่ายทหารแต่ทำการฝ่ายพลเรือนนั้น คือ กรมช่างสิบหมู่ ซึ่งแบ่งไว้ในฝ่ายทหารนั้น ก็คงจะ เป็นด้วยช่างเกิดขึ้นในหมู่ทหาร เหมือนทหารอินเยอเนีย แต่ภายหลังมา เมื่อทำการต่างมากขึ้น จนถึงเป็นการละเอียด เช่น เขียน ปั้น แกะสลัก ก็เลยติดอยู่ในฝ่ายทหาร แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดในราชการทหาร ไม่ได้ขึ้นกรมพระกลาโหม มีแต่กองต่างหาก แม่กองนั้น มักจะเป็นเจ้านายโดยมาก เมื่อเกิดช่างอื่น ๆ ขึ้นอีกก็คงอยู่ในกรมเดิม ฝ่ายพลเรือนบ้าง ทหารบ้าง ไม่เฉพาะว่ากรมช่าง จะต้องเป็นทหาร”





งานประดับมุก



วันนี้สำนักช่างสิบหมู่ได้ทำหน้าที่ช่างหลวงของแผ่นดิน จึงสร้างผลงานด้านช่างไว้มากมาย อีกทั้งต้องศึกษา เรียนรู้และสามารถถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ของช่างในทุกประเภท ผลงานช่างในปัจจุบันนั้นเทียบชั้นฝีมือครูในอดีต ด้วยมีการเรียนรู้มากขึ้นซึ่งมีช่างสำคัญที่ระบุไว้ในเอกสารว่ามี “เขียนกระดาษแกะหุ่นปั้นปูน รักบุฮากลึงหล่อไม้สูงสลักช่างไม้” นับเป็นแหล่งสร้างสรรค์งานศิลป์ของแผ่นดินให้ความงดงามของศิลปไทยนั้นเป็นที่รู้จักในประชาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี





หุ้นไทยที่สร้างขึ้นใหม่



ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














'มิวเซียมสยาม'แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก



มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ มีกิจกรรมและนิทรรศการเจ๋งๆ ที่สามารถดึงดูดให้ชาวไทยและชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานและรื่นรมย์ ล่าสุด สถานที่แห่งนี้ก้าวไกลไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เมื่อเว็บไซต์แนะนำสถานที่ยอดนิยมของโลก Trip Advisor ประกาศให้มิวเซียมสยามได้รางวัล "ประกาศนียบัตรชนะเลิศบริการยอดเยี่ยม ประจำปี
๒o๑๕" และนิตยสาร Real Parenting ยกรางวัลอันดับ ๑ "Best Playground 2015" สุดยอดแหล่งเรียนรู้สำหรับครอบครัวให้อีก


การให้ความสำคัญระดับโลกนี้ อย่างน้อยก็ทำให้สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) หน่วยงานกำกับดูแล และประชาชน ต้องเอาใจใส่ดูแลมิวเซียมและจับมือกันให้แน่นขึ้นอีก เชื่อแน่ว่ามิวเซียมสยามจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของเมืองไทยแน่นอน งานนี้ สพร.เตรียมต่อยอดขยายผลสร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่ในโลกโซเชียล พร้อมจับมือพันธมิตรพิพิธภัณฑ์ทั่วไทยร่วมสร้างสังคมและการเรียนรู้ด้วยวัฒนธรรมการเที่ยวพิพิธภัณฑ์


ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ ๑๑ ของ สพร. และก้าวสู่ปีที่ ๘ ของมิวเซียมสยาม ราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เผยว่า มีแผนการปรับปรุงมิวเซียมสยามครั้งใหญ่ด้วยการนำเสนอนิทรรศการในรูปโฉมใหม่ พร้อมปรับปรุงพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกของมิวเซียมสยามใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ชม ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้ามาใช้พื้นที่แห่งนี้ในกิจกรรมที่หลากหลาย


"บทบาทสำคัญของ สพร.คือสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ของไทย ด้วยการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ยกระดับการจัดการและพัฒนาเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศให้ทันสมัย สอดคล้องกับความสนใจและความต้องการของผู้มาเยี่ยมชมมากยิ่งขึ้น รวมถึงกระตุ้นความสนใจให้ผู้ชมเห็นความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ผ่านกลยุทธ์หลากหลาย ทั้งกิจกรรมหรือนิทรรศการที่มีเสน่ห์และรสนิยม โดยใช้สื่อที่ทันสมัยและเข้าถึงผู้ชมทุกช่วงอายุและเพศวัย เกิดการหมุนเวียนทางความรู้ เมื่อถึงจุดนั้น พิพิธภัณฑ์เครือข่ายและกลุ่มผู้มาใช้บริการจะถูกยกระดับและพัฒนาไปพร้อมกัน สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และเกิด Museum Culture ขึ้นในสังคมไทย" ราเมศกล่าว


สำหรับรางวัล Best Playground 2015 ที่มิวเซียมสยามได้รับจากนิตยสาร Real Parenting ครั้งนี้ เป็นผลโหวตที่ประชาชนลงคะแนนผ่านนิตยสาร, Facebook และเว็บไซต์ แสดงให้เห็นว่าสถาบันครอบครัวยุคปัจจุบันให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้ร่วมกันของคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น


ด้าน ทัศนีย์ เอื้อวิทยา บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Real Parenting กล่าวว่า รางวัลสุดยอดแหล่งเรียนรู้สำหรับครอบครัวที่มิวเซียมสยามได้รับเป็นกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ได้ร่วมโหวตในสิ่งที่ตนเองชอบและสนใจผ่านทางคูปองในนิตยสาร เว็บไซต์และเฟซ บุ๊ก ปีนี้เป็นปีที่ 3 มีผู้สนใจร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


"กิจกรรมนี้ทำให้ทราบว่าปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่สนใจสถานที่และองค์กรแบบใด ขณะเดียวกันทุกองค์กรที่ได้รางวัลก็เกิดความภาคภูมิใจและเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย ช่วยเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อคนในครอบครัว" ทัศนีย์กล่าว


นอกจากรางวัลแห่งความสำเร็จที่ได้รับแล้ว ปัจจุบันมิวเซียมสยามมีคนติดตามความรู้ข่าวสารในแฟนเพจ facebook.com/museumsiamfan กว่า ๑๕o,ooo คน และเว็บไซต์ของมิวเซียมสยามมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า ๑o,ooo คนต่อเดือน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สพร.และมิวเซียมสยามจัดนิทรรศการหมุนเวียนทั้งหมด ๑๔ ชุด มีผู้เข้าชมปีละ ๑๒o,ooo คน ตั้งแต่เปิดบริการปี ๒๕๕o เป็นต้นมา มีผู้เข้าชมกว่า ๘oo,ooo คน


ส่วนงานด้านส่งเสริม สนับสนุน สพร.สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ เพื่อการยกระดับมาตรฐานการจัดตั้งและการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ของประเทศไทยให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล โดยมีการจัดทำหลักสูตรที่เรียกว่า Discovery Museum Knowledge Model หรือ DMKM ที่ได้ขยายผลการจัดองค์ความรู้ในรูปแบบ Discovery Museum จากต้นแบบแห่งแรกที่มิวเซียมสยามไปยังพิพิธภัณฑ์และแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ ทั่วประเทศกว่า ๓๔๕ แห่งทั่วทุกภูมิภาค เมล็ดพันธุ์แห่งการเรียนรู้ก็จะผลิบานทุกพื้นที่ของไทย.







ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
tlcthai.com














การประกวดศิลปกรรยุวพัฒน์ ครั้งที่ ๒๒ "คนไทย...ไม่โกง"



ขอเชิญนักเรียน นักศึกษา ที่สนใจส่งผลงานเข้าประกวด ศิลปกรรมยุวพัฒน์ ครั้งที่ ๒๒ หัวข้อ "คนไทย...ไม่โกง" ร่วมชิงเงินรางวัลกว่า ๑๘o,ooo บาท ส่งภาพเข้าร่วมประกวดได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสามารถดาวน์โหลดระเบียบการประกวดและเอกสารอื่น ๆ ได้ที่มุมขวาของหน้าข่าวสารนี้


หมดเขตส่งผลงานประกวด ทางไปรษณีย์ ภายใน ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ หรือ ส่งผลงานด้วยตัวเองที่มูลนิธิยุวพัฒน์ ภายใน ๔ กันยายน ๒๕๕๘ นี้


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. o๒-๓o๑-๑o๘o, o๒-๓o๑-๑๑๔o







ภาพและข้อมูลจาก
blog.eduzones.com
yuvabadhanafoundation.org














"สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" ครั้งที่ ๙


เฉลิมพระเกียรติ ๘๓ พรรษา สม เด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ งาน "สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" ครั้งที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๗-๑๓ ส.ค. มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกับ ๑๘ องค์กร จัดนิทรรศการโครงการพระราชดำริแน่นสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และชวนร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลพร้อมคนไทยทั้งประเทศ ๑๒ สิงหา.นี้ เวลา ๑๙.oo น.


งานแถลงข่าวที่ห้องเทเวศร์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บรรยากาศภายในงานถูกออกแบบตกแต่งเป็นนิทรรศการรูปแบบมีชีวิต ให้ชิมข้าวป่าที่เป็นข้าวแม่พันธุ์แรกก่อนวิวัฒนาการมาเป็นข้าวในปัจจุบัน ชมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีพันธุ์พืชผัก ไก่ ไข่ นำมาปรุงอาหารครบหมู่ให้เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ซาบซึ้งกับคุณค่าของป่า ประโยชน์จากป่าเพื่อชุมชน ได้มารู้จักต้นหม่อนพันธุ์แปลก และชมผ้าไหมโบราณอายุกว่า ๑oo ปี พร้อมยังได้สัมผัสสัตว์น่ารักหลากหลายสายพันธุ์ เช่น แพรี่ด็อก นกเค้าแมว เต่าซูคาต้า ฯลฯ แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


คุณหญิงปราณี เอื้อชูเกียรติ กรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กล่าวว่า ทั้ง ๑๘ หน่วยงานได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ โดยดำเนินโครงการพระราชดำริจนสัมฤทธิ์ผล ในโอกาสครบ ๘๓ พรรษา แต่ละหน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมมากมายในงาน "สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" ประจำปี ๒๕๕๙ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดโครงการเยาวชน...รักษ์พงไพร เฉลิมพระเกียรติ ๖o พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ จำลองหลักสูตรค่ายเยาวชนที่จัดขึ้นทั่วประเทศไว้ที่ศูนย์สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จะมีนักเรียน ๖,๕๔๙ คน ที่เคยร่วมโครงการร่วมปฏิบัติจริงในค่ายเรียนรู้คุณค่าทรัพยากรดิน ตลอดจนเศรษฐกิจพอเพียง เป็นนิทรรศการมีชีวิต ทุกหน่วยงานสุดตั้งใจร่วมเฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน


กรมป่าไม้ไม่น้อยหน้า ธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยไฮไลต์ว่า กรมจัดนิทรรศการ "พิทักษ์ป่า พัฒนาคุณภาพชีวิต" เน้นให้ผู้มาชมนิทรรศการได้รู้สึกถึงคุณประโยชน์ของป่าทั้งทางตรงและทางอ้อม สอดแทรกความรู้ผ่านนิทรรศการที่จัดแสดง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีพระราชกรณียกิจเป็นที่ประจักษ์ในการฟื้นฟูป่า อนุรักษ์ดินและน้ำ แบ่งการจัดแสดงเป็น ๑o โซน อาทิ บ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าไม้อย่างยั่งยืน เรื่องราวคนรักษ์ป่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนโชว์ผลงานของกรมป่าไม้ที่ประชาชนนำไปใช้ได้จริง และมารอรับแจกกล้าไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ อาทิ พะยูง กฤษณา มะฮอกกานี ไม้ป่าดอกสวย ไม้ใบ ไม้ดอกผล กินได้ ทั้งมะขาม ยอบ้าน ขี้เหล็กบ้าน มะรุม สะเดา มีการแสดงวงจรชีวิตแมลงป่าจำลองเหมือนจริง แล้วยังเปิดมุมถ่ายภาพที่ระลึก จำลองภาพสถานที่สวยงามในพื้นที่ป่าไม้ด้วย


ขณะที่กรุงเทพมหานคร ผู้ดูแลสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ปีนี้ร่วมตกแต่งงานด้วยไม้ดอกไม้ประดับคับคั่ง สองแสนต้น ให้สมชื่อสีสรรพรรณไม้ ทั้งต้นบานชื่น ดาวกระจาย แวววิเชียร แววมยุรา ซัลเวีย ดาวเรือง หงอนไก่ สร้อยไก่ และปทุมมา แล้วยังมีไม้ใบอีกสามหมื่นต้น อภิรัฐ ตราดุษฎี รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวชวนคนไทยมาชื่นชมความสวยงามของดอกไม้ และนิทรรศการเกี่ยวกับการจัดการขยะ การนำขยะเหลือใช้แปรรูปเป็นสิ่งประดิษฐ์ ร่วมลงนามถวายพระพรตลอดงาน


ส่วนกรมหม่อนไหมก็เตรียมนิทรรศการ "มรดกหม่อนไหมในชาวสยาม" โชว์พันธุ์หม่อนโบราณ พันธุ์หม่อนแปลก แสดงผ้าไหมโบราณควรค่าแก่การอนุรักษ์ มีแจกพันธุ์หม่อนไหม ดักแด้คั่วเกลือ ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย หรือกรมการข้าวออกแบบนิทรรศการ "ข้าวป่า มากคุณค่า หลากสีสัน พันธุ์ข้าวไทย" ก็ให้ประชาชนมารู้จักข้าวกล้องทับทิมชุมแพ ข้าวพันธุ์ใหม่ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงจากศูนย์วิจัยข้าวชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่ได้รับรองขึ้นทะเบียนปีแรก เรียกว่าคัดผลงานเจ๋ง ๆ มาไว้ในที่แห่งเดียวจริง ๆ


อยากรู้ว่าโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะซาบซึ้งขนาดไหน ไปเที่ยวชมในงานสีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ" กันได้ ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานวันที่ ๙ ส.ค. เวลา ๑๗.๓o น. ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
matichon.co.th














ธนาคารกรุงไทยชวนคนไทยประกวดศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ



ธนาคารกรุงไทยจัดประกวดศิลปกรรมกรุงไทย ครั้งที่ ๒ เชิญชวนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ หรือสร้างสรรค์ผลงานเรื่องราวความเป็นไทย โดยสื่อถึง “กรุงไทย” ที่อุดมสมบูรณ์ ชิงโล่พระราชทานและเงินรางวัล ส่งผลงาน ๑๑-๑๕ พฤศจิกายนนี้ ที่หอศิลป์กรุงไทย


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการธนาคารกรุงไทย และ ประธานโครงการประกวด Krungthai Art Awards เปิดเผยว่า จากเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อพัฒนาศักยภาพของศิลปินไทย ธนาคารจึงได้จัดการประกวด ศิลปกรรมกรุงไทย (Krungthai Art Awards) ครั้งที่ ๒ โดยปีนี้แบ่งผลงานที่เข้าร่วมประกวดเป็น ๒ แนวเรื่องได้แก่ ศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ ศิลปกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นไทย


“เนื่องจากปีนี้ เป็นปีมหามงคลในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ ธนาคารจึงได้เพิ่มแนวเรื่อง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงมีพระอัจฉริยภาพในศาสตร์และศิลป์ ทรงมีพระจริยาวัตรอันงดงามเป็นแบบอย่างอันประเสริฐ ซึ่งธนาคารได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่รางวัล สำหรับผู้ได้รับรางวัล ยอดเยี่ยมศิลปกรรมกรุงไทย และพระราชทานพระราชานุญาตให้ประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ในโครงการ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลศิลปกรรมกรุงไทย ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ ด้วย”


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กล่าวต่อไปว่า จากนโยบายที่ส่งเสริมความเป็นไทย ตามวิสัยทัศน์ของธนาคารที่อยู่เคียงข้างและเติบโตพร้อมกับคนไทยและสังคมไทย ธนาคารจึงยังคงส่งเสริมการสร้างสรรค์งานศิลปะที่แสดงออกถึงเรื่องราวความเป็นไทย ในด้านศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ โดยประกวดแนวเรื่องความเป็น “กรุงไทย” ที่อุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดความสุข ความดีงาม นำพาสังคมสู่ความเจริญรุ่งเรือง ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒


สำหรับรางวัลแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มตามแนวเรื่อง รวม ๒o รางวัล ประกอบด้วย รางวัล ยอดเยี่ยมศิลปกรรมกรุงไทย โล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล ๕oo,ooo บาท จำนวน ๒ รางวัล รางวัลที่ ๑ เงินรางวัล ๆ ละ ๓oo,ooo บาท จำนวน ๔ รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ ๒ เงินรางวัล ๆ ละ ๒oo,ooo บาท จำนวน ๔ รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ ๓ เงินรางวัล ๆ ละ ๑oo,ooo บาท จำนวน ๑o รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น ๔,ooo,ooo บาท โดยได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ ๙ ท่าน ได้แก่ อาจารย์ชำเรือง วิเชียรเขตต์ อาจารย์ทวี รัชนีกร อาจารย์อินสนธิ์ วงศ์สาม อาจารย์พิชัย นิรันต์ อาจารย์ธงชัย รักปทุม ศาสตราจารย์เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ ศาสตราจารย์อิทธิพล ตั้งโฉลก ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง และศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัล


ผู้สนใจสามารถส่งผลงานประเภทจิตรกรรม ภาพพิมพ์ และประติมากรรม เข้าร่วมประกวดได้คนละไม่เกิน ๓ ชิ้น โดยประเภทจิตรกรรมและภาพพิมพ์ Image Size ไม่เกิน ๒ เมตร ผลงานประเภทประติมากรรม Image Size ไม่เกิน ๒ เมตร โดยส่งผลงานเข้าประกวดระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo – ๑๗.oo น. ณ หอศิลป์กรุงไทย อาคารธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช ธนาคารจะประกาศผลการตัดสินทางเว็บไซต์ //www.ktb.co.th ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ และจะจัดแสดงนิทรรศการ ระหว่างวันที่ ๕ มีนาคม – ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ที่หอศิลป์กรุงไทย สอบถามรายละเอียด โทร. o-๒๒๒๒-o๑๓๗


ทั้งนี้ ธนาคารได้ให้การสนับสนุนการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ พร้อมจัดตั้ง “รางวัลสนับสนุนโดยธนาคารกรุงไทย” ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เพื่อสนับสนุนให้ศิลปินมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวด จัดตั้งหอศิลป์กรุงไทย โดยปรับปรุงพื้นที่อาคารสาขาเยาวราชสำนักงานใหญ่แห่งแรกของธนาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส เป็น แกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัย สำหรับแสดงผลงานศิลปกรรมสะสมของธนาคาร และเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้แสดงนิทรรศการหมุนเวียน รวมทั้งจัดกิจกรรมสอนศิลปะ สนับสนุนกิจกรรมเสริมแก่โรงเรียนในบริเวณใกล้เคียงและเผยแพร่กิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งจัด สวนประติมากรรมกรุงไทย เพื่อจัดแสดงประติมากรรมขนาดใหญ่ในสวนแบบ Open-air Museum ที่ศูนย์ฝึกอบรมพนักงานที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา















ภาพและข้อมูลจาก
ktb.co.th














ประกวดศิลปะเพื่อคนตาบอด เทิดพระเกียรติราชินี



กระทรวงท่องเที่ยวฯ จับมือจุฬาฯ-ม.ศิลปากร เปิดโครงการศิลปะเพื่อคนตาบอด เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หวังสร้างจินตนาการท่องเที่ยวอาเซียนเเก่ผู้พิการทางสายตาเท่าคนปกติ เน้นรับรู้จากการสัมผัส-สื่อผสมแสง สี เสียง


วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการประกวดศิลปะเพื่อคนตาบอด หัวข้อ ความสุข...ที่สัมผัสได้ ‘ท่องไปในอาเซียน’ Feel the happiness ‘ASAEN Travel’ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุ ๘๓ พรรษา และเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงโอกาสด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส


นายขจร วีระใจ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้ผู้พิการเข้าถึงศิลปะและสนับสนุนการท่องเที่ยวจัดขึ้นเป็นปีที่ ๓ โดยแต่ละปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี ดังนั้นปีนี้จึงมีการพัฒนารูปแบบให้น่าสนใจอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวผู้พิการเริ่มมีมากขึ้น


ทั้งนี้ ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นการประกวดผลงานจากศิลปินต่าง ๆ ให้ผู้พิการทางสายตาได้เข้าถึง และจะนำผลงานของศิลปินเหล่านั้นมาจัดแสดง อีกส่วนหนึ่งจะเป็นการประมูลผลงานของศิลปินเพื่อนำรายได้ทูลเกล้าฯ อีกด้วย


ด้านรศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศิลปะนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะคนปกติเท่านั้น แต่ผู้พิการทางสายตาก็สามารถเสพศิลปะได้ ดังนั้นในการจัดงานครั้งนี้จุฬาฯ ได้ให้ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ พัฒนาแอพพลิเคชันอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมงาน โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันมาไว้ในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเดินชมงานไปถึงแต่ละบูธกิจกรรมจะมีเสียงบรรยายประกอบคำบรรยายรายละเอียดของงานศิลปะชิ้นนั้น ๆ ซึ่งขณะนี้ได้วางโครงร่างของแอพพลิเคชันไว้แล้วเหลือเพียงรอข้อมูลของผลงานจากกผู้เข้าประกวดแต่ละทีมเท่านั้น


ขณะที่ผศ.สยุมพร กาษรสุวรรณ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวถึงผลงานศิลปะเพื่อผู้พิการทางสายตาที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ว่า เน้นความรู้สึกทางด้านการสัมผัส จึงอยากให้ผู้พิการทางสายตาสร้างสรรค์ผลงานและส่งเข้าประกวดด้วย เพราะจะเป็นศิลปะที่สร้างการสัมผัสอย่างแท้จริง ทั้งนี้ จากการจัดงานที่ผ่านมายังไม่มีผู้พิการทางสายตาส่งผลงานเข้าประกวด ดังนั้นอยากให้เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการนำผลงานของผู้พิการทางสายตามาจัดแสดงในนิทรรศการก่อน เพื่อถ่ายทอดจินตนาการของผู้พิการทางสายตา


ด้านศ.วิโชค มุกดามณี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์(สื่อผสม) ในฐานะผู้แทนคณะกรรมการตัดสินการประกวดในครั้งนี้ กล่าวว่า ศิลปะเพื่อคนพิการของไทยนั้นก้าวล้ำมากโดยเฉพาะศิลปะแบบผสม ไม่ใช่แค่การสัมผัสเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการใช้กลิ่นและเสียงเข้ามาผสมผสานให้ผู้พิการเกิดจินตนาการและการรับรู้อีกด้วย อย่างไรก็ตามฝากไปยังผู้ที่จะส่งผลงานเข้าประกวดว่า จากประสบการณ์ปีที่แล้วมีผู้พิการทางสายตาบางคนไม่ได้ตาบอดสนิท แต่ยังสามารถมองเห็นได้ราง ๆ ขอร้องให้ศิลปินใส่สีสันในผลงานเยอะ ๆ เพื่อจะได้มองเห็นชัดและสวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้การเตรียมตัวนำเสนอผลงานมีส่วนสำคัญในการตัดสินไม่น้อยกว่าการสร้างสรรค์ผลงาน อยากให้ศิลปินเตรียมการนำเสนอและการตอบคำถามให้ดีด้วย


สุดท้ายนายวีรศักดิ์ ตั้งพูลพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าว สนับสนุนให้จัดแสดงผลงานศิลปะแบบผสมผสาน มีการใช้สื่อมัลติมีเดียมาช่วย เพราะสามารถเข้าถึงได้ทั้งคนปกติและคนพิการ และจากการการเข้าชมนิทรรศการเมื่อปีที่แล้วรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ชื่นชมผลงานศิลปะ โดยปกติแล้วผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงงานศิลปะได้นั่นก็คือดนตรี แต่ผู้พิการแต่ละคนมีความละเอียดอ่อนทางด้านดนตรีไม่เท่ากัน ดังนั้นศิลปะทางด้านการสัมผัสจึงเป็นศิลปะสากลที่ทุกคนสามารถเสพร่วมกันได้


“ภายในงานยังมีกิจกรรมการแสดงดนตรีและร้องเพลงจากนักเรียนผู้พิการทางสายตาจากโรงเรียนศึกษาคนตาบอดและคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน จ.ลพบุรี และน.ส.อธิศรี สงเคราะห์ ผู้พิการทางสายตาซึ่งขับร้องบทเพลง "แก้วกัลยา" ด้วย” ประธาน คกก.บริหารสมาคมคนตาบอดฯ กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดศิลปะเพื่อคนตาบอด ในหัวข้อ ความสุข...ที่สัมผัสได้ ‘ท่องไปในอาเซียน’ Feel the happiness ‘ASAEN Travel’ เป็นการประกวดจัดทำประติมากรรมประเภทนูนต่ำ นูนสูง หรือนูนสูง ที่แสดงออกด้วยการปั้น แกะสลัก หล่อ และการแสดงศิลปะในลักษณะงานสื่อผสม เช่น แสง สี เสียง วิดีโอ เป็นต้น ที่สามารถสื่อถึงสิ่งต่าง ๆ ผ่านผลงานศิลปะ เพื่อนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในอาเซียน ในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่งต่อไปนี้


๑. สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น วัด วัง โบราณสถาน เป็นต้น ๒. สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่นน้ำตก ภูเขา ทะเล บึง ป่า เป็นต้น และ ๓. สิ่งมีชีวิตทางธรรมชาติ โดยกำหนดขนาดของชิ้นงานกว้าง ๑๒o ซม. สูง ๘o ซม. จัดแสดงในบูธขนาด ๓x๓ ม. ภายในงานนิทรรศการศิลปะเพื่อคนตาบอด ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒-๙ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์


สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมประกวดจะต้องเป็นนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาหรือบุคคลทั่วไป ทีมละ ๓-๕ คน สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานแต่ละแห่งสามารถส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันได้ไม่จำกัดจำนวน ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า ๖๔o,ooo บาท


ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ //www.facebook.com/ArtForTheBlind โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๑๖ กรกฎาคม-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ และจะตัดสินผลงานในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจาก
isranews.org














“ดอกไม้เริงระบำ” ชีวิตที่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระของ “กฤติกา บัวบุศย์”



การเคลื่อนไหวของสีหน้าและท่าทางของนักเต้นระบำปลายเท้าในสวนพฤกษชาติ สุนทรียะเชิงภาษากายในภาพเขียนสีน้ำของ กฤติกา บัวบุศย์ ถูกนำมาจัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกผ่านนิทรรศการ Floral Choreography : ดอกไม้เริงระบำ


กฤติกา เกิดที่กรุงเทพฯ เคยย้ายไปใช้ชีวิตในช่วงมัธยมและอุดมศึกษาที่เมืองซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย งานทุกชิ้นที่เธอทำมีความเชื่อมโยงกับความรู้และทักษะที่ได้มาจากงานศิลปะอันเป็นความถนัดและเป็นสิ่งที่รักจะทำมาตั้งแต่เล็ก ๆ รวมถึงสาขาวิชาแฟชั่นและสิ่งทอ ซึ่งเป็นวิชาที่เลือกเรียนเพื่อประกอบอาชีพ กฤติกาเคยเป็นทั้งนักวิชาการและอาจารย์ประจำที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและโอ้คแลนด์ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟเทคโนโลยี (Auckland University of Technology) ประเทศนิวซีแลนด์ เคยทำงานออกแบบ เป็นผู้ค้นหาแหล่งผลิต จัดแสดงสินค้า จัดสัมมนา เป็นที่ปรึกษา และเขียนบทความลงนิตยสาร


เคยทำงานให้กับบริษัทในเครือ สหกรุ๊ป (ICC International PCL) กลุ่มเดอะมอลล์ เซ็นทรัล สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ(THTI) กรมส่งเสริมการส่งออก (DEP) นิตยสาร Art4D และ The Magazine ในเครือบางกอกโพสต์ เนื่องจากต้องปฏิบัติหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายในช่วงที่ผ่านมา การมีเวลาให้กับการทำงานศิลปะโดยตรง จึงเปรียบเสมือนสิ่งที่ต้องเก็บใส่ลิ้นชักเพื่อรอเวลาที่เหมาะ แต่เธอก็ยังฝึกฝนวาดรูปมาตลอด เวลานี้กฤติกาได้ย้ายไปพำนักอยู่ที่เขาใหญ่ นอกจากจะลงมือทำงานศิลปะอย่างจริงจัง ยังได้สร้างสตูดิโอภายใต้ชื่อ ยูเรธา อเทลิเยร์ (Euretha Atelier)


ผลงานศิลปะของกฤติกาทั้งภาพเขียนทั้งสีน้ำและสีน้ำมัน ต้องการสื่อถึงความสุนทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์และธรรมชาติเป็นหลัก และมันเป็นภาพสะท้อนชีวิตที่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ


นิทรรศการ Floral Choreography : ดอกไม้เริงระบำ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม - ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ



































































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














“นัดดาว” นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ ระดมทุนทำหนังสือภาพศิลป์ Inseparable



อณูเล็ก ๆ ในกายเราตอนนี้
ครั้งหนึ่งอาจเคยเป็นส่วนประกอบของชีวิตอื่น
สิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติมาจากจุดเริ่มเดียวกัน
การสลายกลายธาตุของสิ่งหนึ่ง อาจหมายถึงการกำเนิดของอีกสิ่ง
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีความสัมพันธ์
พึ่งพิงอิงรวม ยากที่จะแยกจาก


ความฝันบางอย่างทำคนเดียวไม่ไหว ต้องการคนร่วมฝัน ณัฐพงศ์ ดาววิจิตร หรือ นัดดาว(Nut.Dao ) นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ เชิญชวนผู้สนใจร่วมทุน เพื่อผลิตหนังสือภาพ Inseperable ซึ่งเป็นภาพลายเส้นอันอ่อนโยนผลงานของเขาเอง และถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งในจักรวาล


โดยรูปแบบหนังสือภาพเป็น Accordion Book ๔ เล่ม ๔ เรื่องราว บรรจุใน box set ที่ออกแบบมาพิเศษ พิมพ์จำนวนจำกัด ขณะนี้หนังสือเล่มนี้อยู่ในขั้นตอนระดมทุนเพื่อผลิต หากระดมทุนสำเร็จ หนังสือจะถูกส่งมอบให้กับผู้ที่ร่วมระดมทุน ผู้ที่สนใจและอยากให้มีหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้น สามารถสนับสนุนได้ที่ เว็บไซท์ระดมทุนผลิตหนังสือดี afterword //afterword.co/inseparable/


นัดดาวเป็นที่รู้จักในนามนักวาดภาพประกอบที่ฝากฝีมือไว้กับหนังสือและนิตยสาร เช่น ความทรงจำอยู่ที่ไหน ความคิดถึงอยู่ที่นั่น, เราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียว,ภาพประกอบงานสถาปนิกในปี ๒o๑๔, และนิตยสาร Sook


นอกจากนั้น ยังเป็นนักออกแบบกราฟิกที่ Practical Design Studio และร่วมงานกับสตูดิโอออกแบบ The Archivist ในผลงานชื่อ The Trace of Memory











ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














เงินสด...รสหอมหวาน



เงินตรา ในรูปแบบธนบัตรหรือแม้กระทั่งเหรียญนั้นล้วนเป็นสิ่งสมมติ เป็นตัวแทนชาติต่างๆที่รวมเอาสัญลักษณ์ต่างๆที่สำคัญ ผ่านการคิดใคร่ครวญ เป็นอย่างดีมาตีตราไว้เพื่อแสดงให้เป็นถึงคุณค่า ประวัติศาสตร์และภูมิหลังของชาตินั้น ๆ ในธนบัตรสิ่งที่เป็นภาพปรากฏแรกที่จับตาจับใจเราคือภาพบุคคลสำคัญที่ปรากฏในธนบัตร จากนั้นเป็นสถานที่ที่ชนชาตินั้นคัดสรรมาลง รวมถึงข้อความที่เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกว่า คนในชนชาตินั้นอาจจะคิดอย่างไร


ในธนบัตรที่นิยมใช้ที่สุดในโลก ปรากฏคำว่า IN GOD WE TRUST เป็นคำที่พัฒนาจากความคิดของ อับราฮัม ลินคอล์น จนกระทั่งได้รับการตีพิมพ์ในสมัย ดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ จากความหมายดั้งเดิมคือการประกาศว่าเราจะเป็นชนชาติที่เชื่อมั่นในพระเจ้า ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศีลธรรม


จนกระทั่งในปัจจุบันการใช้สกุลเงินแพร่หลายและเป็นตัวกำหนดทิศทางวิถีชีวิตคนแทบจะเรียกได้ว่าทั้งโลก ทำให้เงินตราของประเทศอเมริกาได้ถูกเทียบเคียงถึงความหมายของการใช้เงินที่เป็นตัวกำหนดทุกสิ่งที่เจ้าของเงินต้องการ ราวกับว่าเงินคือพระเจ้าไปแล้วจริง ๆ


Yosuke Hasegawa(โยซึเกะ ฮาเซกาวา) และ วิทยา จันมา สองศิลปินจากญี่ปุ่นและไทย นำรูปสัญลักษณ์ในเงินตรา มาตีความผ่านผลงานศิลปะ


ผลงานศิลปะของ Yosuke Hasegawa นอกจากภาพ collage เหรียญบาทยังมีผลงานการพับธนบัตรด้วยวิธีการพับกระดาษญี่ปุ่นโบราณ ผสมผสานกับวิธีการพับใหม่ ๆ ในแบบฉบับของศิลปิน ให้เกิดเป็นรูปทรงต่าง ๆ แล้วนำมาตัดปะ (Collage) จนเป็นชิ้นงานที่สื่อความหมายใหม่และบางชิ้นทำอาจทำให้จินตนาการไปยังประเทศที่ตีพิมพ์เงินตราเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น ประธานเหมา เจ๋อ ตุง กับฮิปฮอป,แบงค์ ๑,ooo เยน กับภาพลักษณ์ทีมเบสบอลที่หน้าตาดูขึงขัง ฯลฯ


ขณะที่ผลงานศิลปะของ วิทยา จันมา เป็นผลงานจัดวางวีดีโอ(Video installation- Interactive) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมที่เข้ามาชมงานมีส่วนร่วมกับผลงานโดยตรงด้วยการลงมือปฏิบัติจริง



วิทยาใช้ทักษะการเขียนโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์มาเป็นพื้นฐาน ในการทำงาน มีการฉายแสงและภาพขึ้นบนผนังขนาดใหญ่ นำเสนอเรื่องราวและรูปลักษณะของเงินตราในอีกมิติหนึ่ง ที่ทั้งล้อเล่น และเชื้อเชิญให้ผู้ชมรับรู้ถึงความหอมหวานของเงินตรา ในอีกรูปแบบหนึ่ง


นิทรรศการ เงินสด...รสหอมหวาน (The Art Exhibition :Moneylicious) เปิดแสดงระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม -๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ หอศิลป์ตาดูไทยยานยนตร์ ถ.สุขุมวิท ๘๗ โทร. o๘๖-o๓๖-o๗๖o จากนั้นมีแผนจะสัญจรไปจัดแสดงในต่างจังหวัดที่นครศรีธรรมราช, หาดใหญ่, ภูเก็ต และ เชียงใหม่



















ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














My Home by Worawit Kaewsrinoum



นิทรรศการจิตรกรรมชุด “เฮือน” เปิด ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๕๘ ๑๙.oo น. นิทรรศการแสดงตั้งแต่ ๔ กรกฏาคม ถึง ๓o กันยายน ๒๕๕๘ Bar Bali Bistro ถ.พระอาทิตย์ ท่าพระอาทิตย์ กรุงเทพ ศิลปิน : วรวิทย์ แก้วศรีนวม ( Worawit Kaewsrinoum ) ชื่อนิทรรศการ : เฮือน (My Home) แนวความคิด : ข้าพเจ้าเดินหลงทางหา… ความฝัน ข้าพเจ้าเดินหลงทางหา…ความสุข ข้าพเจ้าเดินมุ่งหา…ตัวเอง ข้าพเจ้าหยุด…ตัวเอง ข้พเจ้าหันกลับ มาใน…. “เฮือน” ข้าพเจ้าเดินเข้าตามหา…ความสุข ที่อยู่ใน… “เฮือน” ข้าพเจ้าเห็น…ความจริง อยู่ใน…”เฮือน”























ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














“ต้นไม้คือคำตอบของทุกสิ่ง” (Trees are answers)



นิทรรศการ“ต้นไม้คือคำตอบของทุกสิ่ง” (Trees are answers)

ศิลปิน
อาจารย์จตุรงค์ หิรัญการณ์
ผศ.วุฒิกร คงคา
รศ.อริยะ กิตติเจริญวิวัฒน์
ผศ.ดร.ม.ล.บุศยมาศ นันทวัน
อาจารย์หทัยรัตน์ มณีรัตน์
อาจารย์สุรชัย ดอนประศรี
อาจารย์ยุทธนา นิ่มเกตุ
อาจารย์ชัชวาล อ่ำสมคิด
อาจารย์กันต์ สุสังกรราญจ์
นายฉันทวุฒิ สุวรรณหงส์
นายนที มลฑลวิทย์
นางสาวไปรมาศ นุชอ่อง
นายสรัล สุวรรณ
Mr.Makoto Matsubayashi
Ms.Tumiko Matsubayaski


ลักษณะงาน : จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม
ระยะเวลาที่จัดแสดง : วันที่ ๒๔ กรกฎาคม – ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๘
พิธีเปิดนิทรรศการ : วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น.
ห้องนิทรรศการ : ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๒
ติดต่อศิลปิน : o๘๗-๖๙๙-๙๓๙๔ ผศ.ดร.ม.ล.บุศยมาศ นันทวัน


แนวความคิด

สืบเนื่องจากโครงการแสดงผลงานศิลปะ “ต้นไม้คือคำตอบของทุกสิ่ง” (Trees are answers) จัดให้มีการเชิญวิทยากร คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพณิช เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๖ ก็ส่งผลให้นักศึกษาผู้เข้าร่วมฟังได้รับความคิด ความรู้และประสบการณ์จากวิทยากร รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าฟังที่ให้ประโยชน์แก่โครงการ “ต้นไม้คือคำตอบของทุกสิ่ง” (Trees are answers) เป็นอย่างดี


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องร่วมกันศึกษาและเรียนรู้ก็คือสังคมไทยมีรากฐานมาจากสังคมเกษตรกรรมดำเนินไปตามกระบวนการที่เป็นธรรมชาติ สังคมไทยพัฒนาจากอดีตที่เรียบง่ายมาเป็นความซับซ้อน ความเชื่อมั่นในเส้นทางทางอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จึงได้รับผลกระทบเป็นอันมาก คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มการละเลยและทอดทิ้งสิ่งแวดล้อมที่ดีในกระแสสังคมปัจจุบัน การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อสะท้อนอารมณ์ความรู้สึก วิวัฒนาการทางสังคม เพื่อหาตอบคำถามในเชิงประยุกต์หรือเชิงสัมพันธ์


โครงการนี้จึงตระหนักถึงภารกิจในการแสวงหาคำตอบเชิงวิชาการศิลปวัฒนธรรมเพื่อสร้างฐานความรู้ความคิดในการพัฒนาสังคม มีบทบาทที่จะนำความรู้ทางศิลปะที่แสดงหามาได้จากการสัมมนาเสวนาระดมความคิด Brainstorming บริการส่งผ่านไปสู่สังคมและร่วมมือกับสังคมสืบสานวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม โดยมีศิลปินที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน ๑๕ ท่าน



ภาพและข้อมูลจาก
chamchuriartgallery.blogspot.com














นิรรศการแสดงปริญญานิพนธ์



นิรรศการแสดงปริญญานิพนธ์ ‘CommDe Creative Walk'15 in Chiang Mai’ ผลงานโดยนิสิต สาขาวิชาออกแบบเพื่อการสื่อสาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ : CMU Art Center


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ CommDe Chula ขอนำเสนอ 'CommDe Creative Walk'15 in Chiang Mai' งานแสดงปริญญานิพนธ์ของนิสิตสาขาวิชาออกแบบเพื่อการสื่อสาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ตลอดสี่ปี พวกเราที่ CommDe ได้ก้าวย่างเข้าไปในพรมแดนใหม่ ๆ สำรวจความเป็นไปได้มากมายมหาศาลในสาขาวิชาออกแบบเพื่อการสื่อสาร ทดลองกับเครื่องมือและสื่อต่าง ๆ หลากชนิด และสั่งสมทักษะความเชี่ยวชาญในการสื่อสารข้อความออกไปผ่านงานออกแบบ งาน ‘'CommDe Creative Walk'15 in Chiang Mai' เป็นบทสรุปของประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเราผ่านสื่อทางศิลปะและการออกแบบหลากหลายตั้งแต่ งานออกแบบกราฟิก งานออกแบบเสียง งานภาพเคลื่อนไหว งานภาพถ่าย งานภาพประกอบ ไปจนถึงงานแนวทดลอง เราขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมสำรวจแนวทางที่พวกเรานักออกแบบรุ่นใหม่ได้ค้นหาวิธีที่ต่างกันออกไปในการตีความและสื่อสารความคิดออกไปยังผู้คนในโลกกว้าง


‘CommDe Creative Walk'15 in Chiang Mai’ จะถูกจัดแสดง ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
วันเปิดนิทรรศการ วันเสาร์ที่ #* กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.oo - ๑๙.oo น.
เสวนาเปิดนิทรรศการ โดย คุณเคลวิน หว่อง และนักออกแบบรับเชิญ เวลา ๑๔.oo น.
ในหัวข้อ "You Have To Be Possessed Which You Can't Will, But How?"


"You Have To Be Possessed Which You Can't Will, But How?"
เป็นคำพูดที่ถูกหยิบยกมาจากคำแนะนำต่อศิลปินรุ่นเยาว์โดย John Baldessari ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกัน


จริงอยู่ที่พวกเรานิสิตที่ CommDe ไม่ได้ถูกฝึกฝนโดยตรงให้เป็นศิลปิน แต่เราคิดว่าคำพูดประโยคนี้สามารถถูกนำมาใช้ในบริบทของกิจกรรมที่ต้องใช้ความสร้างสรรค์ทุกประเภท โดยเฉพาะในขอบเขตการออกแบบสื่อสารที่พวกเราเรียน เพื่อทำความเข้าใจแง่มุมความคิดเรื่องการถูก 'ครอบงำ' โดยแนวทางการสร้างสรรค์ของตัวเอง เราได้เชิญ คุณเคลวิน หว่อง นักออกแบบกราฟิคจาก kkelvinstudio (และอาจารย์ที่น่ารักของพวกเรา) และแขกรับเชิญ มาเล่าเรื่องราวของการที่พวกเขาถูก 'ครอบงำ' โดยแนวทางการสร้างสรรค์ของตนเองตลอดเส้นทางสายอาชีพ ตั้งแต่การตัดสินใจแรกเริ่มสู่ปัจจุบัน

เวลาเข้าชมนิทรรศการ ๙.oo - ๑๗.oo น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์)



ภาพและข้อมูลจาก
wikalenda.com














"Overlap - ทด / ซ้อน / ทอน / ลวง"



นิทรรศการศิลปะ "Overlap - ทด / ซ้อน / ทอน / ลวง" ผลงานโดย สินา วิทยวิโรจน์ (Sina Wittayawiroj) และ มาฆะ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (Makha Sanewong Na Ayuthaya) จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓ สิงหาคม - ๑o กันยายน ๒๕๕๘ และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. ณ ตำหนักพรรณราย ห้อง P1 และ P2 หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ


ความกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นพร้อมกับความต้องการจะอธิบายสภาวะร่วมสมัยที่ไม่ สามารถสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมา ภายใต้เงื่อนไขความซับซ้อนทางสังคม กลไกทางความคิดและตรรกะของมนุษย์ ประสบการณ์การรับรู้ของผู้คนที่แตกต่าง ส่งผลต่อการแปรเปลี่ยนหน้าที่จากสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ทำให้เกิดการต่อยอดทางความคิด และพัฒนาไปสู่ผลงานศิลปะของสองศิลปินร่วมสมัย ในแง่มุมของการตั้งคำถามและหาคำตอบ โดยกล่าวถึงความซับซ้อนนั้น ด้วยการตีความ การให้ความหมาย ซึ่งถูกตัดทอน บิดเบือน โดยศิลปิน


นิทรรศการ ศิลปะ Overlap - ทด / ซ้อน / ทอน / ลวง เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง กลุ่ม ‘Eight Days a Week’ นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาทฤษฎีศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สินา วิทยวิโรจน์ และ มาฆะ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา งานศิลปะของพวกเขาจะชวนให้เกิดการตั้งคำถามปลายเปิดต่อสิ่งต่าง ๆ การแสวงหาความจริงในสิ่งที่เป็นอยู่ กับความสัมพันธ์ระหว่าง สังคม ความคิด วัฒนธรรม และร่วมฟังเสวนา ในหัวข้อ “ความจริงกับศิลปะเชิงทดลอง” จากวิทยากรรับเชิญ ที่จะช่วยต่อยอดการหาคำตอบเกี่ยวกับทิศทางของศิลปะสมัยใหม่ในบ้านเรา เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาการทางความคิดไปสู่สิ่งใหม่


ภัณฑารักษ์ : กลุ่ม Eight Days a Week
ศิลปิน : สินา วิทยวิโรจน์ และ มาฆะ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
เปิดให้เข้าชม : ตั้งแต่วันที่ ๓ สิงหาคม - ๑o กันยายน ๒๕๕๘
ณ ห้องนิทรรศการ P1 & P2 ตำหนักพรรณราย หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
พิธีเปิด : วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น.
เวลาลงทะเบียน : ๑๖.oo น.
กิจกรรมเสวนาศิลปะจากวิทยากรรับเชิญ : ในหัวข้อ “ความจริงกับศิลปะเชิงทดลอง” เวลา ๑๖.oo น. เป็นต้นไป



ภาพและข้อมูลจาก
exhibition.contestwar.com














เรา…….ต่างเดินทาง



ขอเชิญชมนิทรรศการ “เรา…….ต่าง เดินทาง” (Differrent /Pathway)
โดยศิลปินชัยณรงค์ (จานย์สีน้ำ) โภชาธาร (Chainarong Phochathan)
ลักษณะงาน จิตรกรรม
ระยะเวลาที่จัดแสดง ๒๒ มิถุนายน – ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ณ หอศิลป์จามจุรี ห้องนิทรรศการชั้น ๒















ภาพและข้อมูลจาก
FB สมาคมศิลปินทัศนศิลป์แห่งประเทศไทย














นิทรรศการ “มากกว่าคำว่าสมุด DO MORE FOR THE GREATNESS”



งานเสวนา พลังนักสร้างสรรค์: “ยิ่งกว่าเต็มที่ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด” The Power of Creator: “Do more for the greatness”

พิเศษ! ร่วมค้นหาสูตรลับสู่ความสำเร็จในงานเสวนา พลังนักสร้างสรรค์: “ยิ่งกว่าเต็มที่ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด” The Power of Creator: “Do more for the greatness” ประกอบนิทรรศการ “มากกว่าคำว่าสมุด” กับแขกรับเชิญ ๓ ท่านที่มีพลังของนักสร้างสรรค์ในหัวข้อ....

- การบันทึกให้มีคุณภาพด้วย Mind Map โดย อาจารย์ธัญญา ผลอนันต์ ผู้บุกเบิกหลักสูตร Mind Mapping ของประเทศไทย และผู้อำนวยการ Buzan Centre (Thailand)

- การสเก็ตช์ภาพ เครื่องมือชั้นยอดในการบันทึก โดย อาจารย์อัสนี ทัศนเรืองรอง สถาปนิกอาวุโส และสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่ม Bangkok Sketcher (Thailand)

- จดอย่างไรให้ได้ที่ ๑ โดย คุณศิรดา ไตรตรึงษ์ทัศนา นิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ได้คะแนนสอบแอดมิชชั่นสูงที่สุดในประเทศไทยปี ๒๕๕๘

กำหนดการ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ห้องออดิทอเรียม TCDC

๑๓.oo เปิดลงทะเบียน
๑๔.oo เริ่มงานเสวนา
๑๖.oo จบงานเสวนา

ไม่เสียค่าใช้จ่าย
**ลงทะเบียนล่วงหน้า (จำกัดจำนวน ๑๕o ที่นั่ง) ตั้งแต่วันนี้ถึง ๗ สิงหาคม ๒๕๕๘

สำรองที่นั่งผ่านระบบ Online Reservation หรือที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC โทร. o๒ ๖๖๔ ๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓, ๒๑๔ เวลา ๑o.๓o – ๒๑.oo น. (ปิดวันจันทร์)


บริษัท ซีนิธ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (ZEQUENZ) ร่วมกับ TCDC (ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ) นำพาท่านวิเคระห์เจาะลึกความมหัศจรรย์ของสมุดในการสร้างสรรค์ความสำเร็จ ตั้งแต่ที่มา วิธีการผลิต ประสบการณ์ที่ได้จากกระดาษแต่ละชนิด และการจดบันทึกลงบนสมุดในรูปแบบต่างๆ ที่จะพาคุณต่อยอดความคิดไปได้อย่างไม่รู้จบ

พิเศษ! ร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ “มากกว่าคำว่าสมุด DO MORE FOR THE GREATNESS” ในวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.oo - ๑๖.oo น. ณ โถงทางเข้าห้องสมุด TCDC เพื่อค้นหาสูตรลับสู่ความสำเร็จจากสมุดด้วยกัน

กำหนดการ
๑๓.๓o : เปิดลงทะเบียน
๑๔.oo : พิธีเปิดนิทรรศการ
คุณอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ประธานนิทรรศการ และผู้อำนวยการ TCDC (ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ)
คุณสินี ดำรงค์กิจการ ประธานนิทรรศการ และกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีนิธ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (ZEQUENZ) และแขกรับเชิญพิเศษ3

๑๖.oo : กิจกรรมพิเศษสำหรับผู้ร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ “มากกว่าคำว่าสมุด DO MORE FOR THE GREATNESS”

• Write on Post Card Set จาก ZEQUENZ ร่วมเขียนและส่งโปสการ์ดในหัวข้อ One Greatness for Yourself เพื่อรับรางวัลพิเศษจาก ZEQUENZ ในวันปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๙

หมายเหตุ: ไม่ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า
** รับส่วนลด ๑o% เมื่อซื้อสินค้า ZEQUENZ ที่ THE SHOP@TCDC ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม – ๓o กันยายน ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจาก
tcdc.or.th














จากเส้น...เป็นศิลป์



นิทรรศการศิลปะ "จากเส้นเป็นศิลป์" ครั้งที่ ๓ ผลงานโดย กลุ่มศิลปินบ้านจิตรกรรม จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑ - ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ และจะมีพิธีเปิดในในวันเสาร์ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๗.oo น. ณ หอศิลป์ต้นตาล : TonTann ArtSpace and Gallery


หอศิลป์ต้นตาล ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปะ "จากเส้นเป็นศิลป์ " ครั้งที่ ๓ โดยกลุ่มศิลปินบ้านจิตรกรรมระหว่างวันท่ี่ ๑-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ.หอศิลป์ต้นตาล (ตลาดต้นตาล) ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ. ขอนแก่น


และขอเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันเสาร์ที่ ๑ ส.ค. ๒๕๕๘ ภายใน ห้องนิทรรศการ อาคารหอศิลป์ต้นตาล ตั้งแต่เวลา ๑๗.oo น. เป็นต้นไป


**** หอศิลป์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ และ วันนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓o -๒๒.oo น.



ภาพและข้อมูลจาก
exhibition.contestwar.com




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 31 กรกฎาคม 2558
Last Update : 31 กรกฎาคม 2558 21:57:36 น. 0 comments
Counter : 6376 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.