|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
▷..เจดีย์ทรงลอมฟาง...◁
คอลัมน์ คติ-สัญลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย ชวพงศ์ ชำนิประศาสน์
คลิกเม้าส์ที่ภาพ ภาพจะเปลี่ยนขนาด..
เจดีย์ทรงนี้มีรูปแบบแตกต่างกัน 3 รูปแบบ คือ 1.เจดีย์ทรงลอมฟางไม่มีบัลลังก์ 2.เจดีย์ทรงลอมฟางมีบัลลังก์ และ 3.เจดีย์ทรงลอมฟาง ไม่มีบัลลังก์ฐานเหลี่ยม
จากหนังสือพุกามของอาจารย์เกรียงไกร เกิดศิริ อ้างว่าสมเด็จกรมพระยา ดำรงราชานุภาพ ประทานคำอธิบายของเจดีย์แบบนี้ว่า "ทำองค์ระฆังสูงเหมือนรูปฟัก ตั้งแต่ปากระฆังจนมาถึงพื้น มีฐานเตี้ยเหมือนขั้นบันไดเดียวรองย่อทำอย่างเตี้ย"
เจดีย์ทรงนี้เป็นเจดีย์เก่าแก่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 11-12 ในยุคสมัยที่เรียกกันว่าศรีเกษตร
เจดีย์ในรูปที่เห็นชื่อ เจดีย์บุพยา หรือ โบโดคยา (Bupaya Pagoda) อยู่ใน พุกาม พม่า ซ่อมปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยคงในรูปแบบเดิม
ในประเทศไทย เจดีย์รูปแบบนี้มีอยู่ที่จังหวัดลำพูนชื่อ กู่ช้าง เพราะเป็นตำนานเล่าว่า เป็นที่บรรจุซากช้างของเจดีย์โบโดคยา พระนางจามเทวีชื่อ "ผู้ก่ำงาเขียว" มีข้อสงสัยในเรื่องนี้ก็คือ ในสมัยโบราณนั้นสิ่งที่จะบรรจุในสถูปต้องเป็นพระบรมศพหรืออัฐิของพระมหากษัตริย์หรือพระอริยสงฆ์ ซึ่งในรูปแบบของกู่ช้างน่าจะมิใช้บรรจุซากช้าง "ผู้ก่ำงาเขียว" ดังกล่าว แต่มีลักษณะมียอดแหลมน่าจะเป็นเจดีย์มากกว่า
ในรูปแบบของเจดีย์นี้ก็ยังปรากฏคติ และสัญลักษณ์ อันได้แก่ ตัวฐาน ที่น่าจะยังหมายถึงอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ ที่เป็นฐานของความเป็นตัวตน คือ เจดีย์ที่ยังหมายถึง โลก หรือตัวตน เหมือนเจดีย์อื่นๆ เพียงแต่รูปแบบสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง แต่เค้าโครง คติ สัญลักษณ์ก็ยังคล้ายหรือเหมือนกับเจดีย์อื่นๆ
credit : khaosodnews
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 10:02:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1357 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |