Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ทำอย่างไรให้ลูกเรียนเก่ง




เห็นมีการพูดถึงความเครียดกันโครมๆ แต่ส่วนใหญ่ มุ่งเน้นไปที่ความกังวลและไม่สบายใจของผู้หลักผู้ใหญ่กันซะเยอะ ทั้งๆที่เด็กๆ ก็มีความเครียดในส่วนลึกของจิตใจของพวกเขาเหมือนกันนะ

ให้แซมเปิ้ลก็ได้ว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้เด็กๆ ไม่สบายใจ เช่น...

1.เมื่อพ่อแม่ทะเลาะกัน แล้วมีปากเสียงกันโดยนึกไม่ถึงว่าลูกจะได้ยิน แต่เชื่อไหมว่า เด็กๆน่ะฉลาดจะตาย บางทีพ่อแม่ไม่ได้ทะเลาะให้เห็นเป็นเรื่องใหญ่โตด้วยซ้ำ แค่พูดประชด หรือเสียดสี ถากถางกัน ทำหน้าบึ้งใส่กัน เด็กๆก็สามารถจับทางได้แล้วว่า สถานการณ์ของครอบครัวนั้นไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวกันเท่าไหร่ แบบนี้ สามารถทำให้เด็กๆ ไร้สุขและอมทุกข์ได้นะเออ

2. ถูกย้ายโรงเรียนกลางคัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการโยกย้ายถิ่นฐานของพ่อแม่ เนื่องจากต้องย้ายไปทำงานในพื้นที่ที่เด็กไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตมาก่อน เด็กจึงรู้สึกขัดเคืองใจ แต่ขณะเดียวกันก็พูดไม่ออกได้นะเอ้า

3. เกิดทะเลาะกับเพื่อนขึ้นมา เพราะถูกเพื่อนล้อ ถูกเพื่อนแกล้ง ถูกเพื่อนเอาเปรียบ เข้ากับเพื่อนไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน หรือถ้าจะเข้ากับเพื่อนบางก๊วนบางก๊กที่มีลักษณะเกเรเกตุงให้ได้ ก็ต้องถูกทดสอบ หรือถูกเพื่อนกดขี่ข่มเหง อย่างนี้ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ใกล้ชิดกับลูกจริงๆ เด็กคงไม่กล้านำเรื่องเหล่านี้มาเล่าให้ฟัง แถมพ่อแม่บางคนชอบพูดกับลูกซะที่ไหน บางบ้านก็เอาแต่ทำงานกันทั้งคู่ บางบ้านก็สื่อสารกับลูกไม่เป็น เห็นหน้าลูกแล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับลูกอย่างไรดี ดังนั้น พอเด็กๆมีประเด็นในใจก็ต้องทนเก็บไว้ เห็นมะ ใครว่าเป็นเด็กแล้วสบายบรื๋อ เพราะไม่มีเรื่องมีปัญหาให้คิดมาก คงไม่จริงมั้ง

แม้เด็กส่วนใหญ่ไม่ต้องซีเรียสกับการหารายได้มาเลี้ยงตัวเองก็เถอะ แต่รู้ไหมว่า เป็นเด็กน่ะต้องลำบากลำบนกับการที่ผู้ปกครองชอบเผลอไปวัดความเป็นเด็กดีกับผลการเรียนของลูกบ่อยๆ อย่างว่า ผู้ใหญ่ก็อยากให้ลูกหลานเป็นคนเรียนเก่ง เรียนดี เป็นศรีของวงศ์ตระกูล แต่หารู้ไม่ว่า ถ้าไปกดดัน พวกเขามากๆ เพื่อให้ได้เกรดดีๆ จะทำให้เด็กเครียดขึ้นมาได้นะเออ แต่แหม เด็กๆควรเข้าใจนะว่า ที่พ่อแม่ทำอย่างนี้ก็เพราะหวังดี ไม่ได้ประสงค์ร้าย เพียงแต่ผู้ปกครองอย่าไปเคร่งให้มาก ผ่อนปรนได้ก็ผ่อนกันไป และฟังปัญหาของเด็กๆบ้างก็แจ๋วไปเลย เกี่ยวกับเรื่องการเรียนของคุณหนูๆนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของเด็กในสหรัฐอเมริกาแนะไว้ว่า

1. ถ้าอยากให้เด็กเรียนหนังสือดี เรื่องการนอนถือเป็นสิ่งสำคัญ นะจะบอกให้ สังเกตเถอะ ถ้าเด็กนอนหลับไม่พอ จะส่งผลกระทบไปยังคุณภาพการจำและการเรียนรู้ในชั้นเรียน โถ อย่าว่าแต่เด็กอดนอนจะไม่แจ่มใสเลย แม้แต่ผู้ใหญ่ขืนอดนอนร่างกายก็ไม่สดชื่นเช่นกัน

2. พ่อแม่ควรตบมือและแสดงออกว่าภูมิใจในตัวลูก เมื่อเด็กทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เด็กทำอะไรดีๆ ขึ้นมาสักอย่าง พ่อแม่ก็ทำเป็นเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ชมเชย การไม่สื่อสาร กันอย่างนี้แหละควรเปลี่ยนซะ

3. อาหารการกินก็สำคัญ เน้นบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ และทางที่ดีทางบ้านควรหุงหาอาหารให้ลูก ไม่ใช่ปล่อยให้เด็กฝากท้องไว้กับร้านข้าวแกงหรือซื้ออาหารถุงมาทานที่บ้านทุกวั้น ทุกวัน ไม่ไหวนะ

ส่วนคุณหมออำนาจ รัตนวิลัย จิตแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า แนะเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ควรเล่าถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จให้ลูกฟังบ่อยๆ เด็กจะได้อยากเจริญรอยตาม ส่วนพ่อแม่ก็จะได้สบายใจ.


คนสมถะ : thairath.th.com


Create Date : 09 มกราคม 2555
Last Update : 9 มกราคม 2555 17:55:25 น. 1 comments
Counter : 1412 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคะ


โดย: skylion วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:10:31:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.