ผู้หญิงรอบๆกาย กับเรื่องราวหลากหลายรอบๆเธอ
เรื่องนี้ไม่มีบทสรุป
ตี 5 ครึ่ง วันอาทิตย์ เสียงโทรศัพท์กรีดดังเป็นเพลงที่ตั้งไว้เป็นเสียงเรียกเข้า ไม่ใช่เสียงที่ตั้งไว้เพื่อปลุก ซึ่งยิ่งวันยิ่งจะมีความสามารถน้อยลง ในการทะลวงดวงตาหงอยง่วงให้เบิกโพลง ระบบประสาทอันเคยเฉยชาด้วยความคุ้นชินจึงกูกรบกวน และนั่นทำให้คนนอนข้างๆผู้หญิงเจ้าของโทรศัพท์ ต้องตื่นขึ้นมาด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ผู้หญิงเจ้าของโทรศัพท์คว้าโทรศัพท์มาอือๆออๆอยู่ครู่นึง ก็ลุกขึ้นแต่งตัว เพื่อลงไปหาบุคคลอันเป็นที่รัก ผู้ต้นเหตุของเสียงโทรศัพท์เมื่อกี้ แล้วก็ตาสว่างเกี่ยวก้อยกันไปวิ่งที่สวนลุม
ช่วงบ่ายแล้ว ชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ยากที่จะคาดเดาว่าทั้งคู่เป็นอะไรกัน ผู้ชายเป็น choreographer ผู้ออกแบบท่าเต้น และผู้หญิงเป็น contemporary dancer ทั้งคู่กำลังเตรียมการแสดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 นี้ เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงในห้องซ้อม ฝ่ายชายเดินยิ้มออกมาจากในห้อง แล้วเฮฮาร่าเริงตามปกติ ฝ่ายหญิงยังคงใช้ห้องซ้อมต่อไป จนกระทั่งผ่านไปอีกชั่วโมงกว่าจึงพบว่า ฝ่ายหญิงร้องไห้จนเป็นไข้อยู่ในห้อง ด้วยพิษสงของคำว่า I love you, but I love you as a friend. มันช่างคล้ายคลึงกับรักแรกของเธอ ที่จบลงด้วยคำว่า I love you, but I'm not in love with you. คงยากที่จะปลอบใจ จึงทำได้เพียง กอดเธอไว้นิ่งๆ ถึงแม้ว่าจะเคยโกรธ เคยไม่พอใจเธอแค่ไหน แต่สิ่งที่อยากทำตอนนี้คือ กอดเธอไว้ ในฐานะคนที่รู้จักกันจนหมดไส้หมดพุง
เย็นแล้ว ชายหญิงอีก 1 คู่ กำลังเข้าสู่พิธีวิวาห์ คำพูดของฝ่ายชายประกาศก้อง ไม่ใช่คำบอกรักผู้หญิงคนนั้นของเขา แต่เป็นคำสัญญาที่เขาให้ไว้แก่เธอ ต่อหน้าพยานนับร้อยว่า ...ต่อไปนี้ ผมจะเป็นคนที่ดีที่สุด... แล้วช่อดอกไม้ก็ถูกโยนจากผู้หญิงคนนี้....พี่สะใภ้คนใหม่ ลอยข้ามศีรษะเข้าสู่อุ้งมือของลูกสาวคุณป้าขายขนมครกชื่อดัง ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว
ในงานเลี้ยง หลานสาวคนโตของครอบครัว ต้องคอยตอบคำถามญาติมิตรว่าเมื่อไหร่จะถึงตาเธอมั่ง รอยยิ้มระบายใบหน้า ประกายตาสดใส ฤกษ์ยามกำหนดชัดว่าปลายปีหน้า เลยวันเกิดน้องสาวไปหน่อย ...สาธุ...อย่าให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ค่ำคืนนั้น งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน หากมีความมึนตึงของหญิงชายอีกคู่หนึ่งแฝงอยู่ ไม่มีใครเห็นเพราะถูกบดบังไว้ด้วยรอยยิ้มของงานรื่นเริง ไม่มีใครสนใจนอกจาก(เด็ก)ผู้หญิงสองคนที่ถูกฟ้ากำหนด ให้ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมใจชายหญิงคู่นี้ วันนี้ผู้หญิงที่ทำหน้าที่ "กาว" ทั้งสองคนกลับรู้สึกว่าเต็มกลั้น หนึ่งในนั้นพยายามหาความรักแท้ของตัวเอง และอีกหนึ่งในนั้น พยายามอย่างยิ่ง ที่จะไม่ให้ "สิ่งที่เรียกกันว่า" ความรักนั้นเกิดขึ้น
วงสนทนาระหว่างญาติสนิทถูกคั่นด้วยเสียงโทรศัพท์ เป็นโทรศัพท์ทางไกลจากอังกฤษของหลานสาวอีกคน การพูดคุยค่อนข้างติดขัดเนื่องจากสัญญาณไม่ดี แฟนหนุ่มของเธอที่เป็นที่คุ้นเคยจนได้รับเชิญมาด้วย อธิบายอย่างคุ้นชินว่า "เขาโทรฟรีทางอินเทอร์เน็ตน่ะครับ เลยสัญญาณไม่ดี" อดคิดในใจไม่ได้ว่า ปีหน้าก็พี่สาวคนโตแต่ง คงไม่นานนัก ก็คงจะพี่สาวคนที่อยู่อังกฤษคนนี้แหละ แล้วคนต่อไปใครหว่า.... แล้วก็เป็นน้องสาวที่กำลังอยู่ในวัยเอ็นทรานซ์ น้องๆผู้ชายยังไม่ต้องพูดถึง เรียนให้จบ สร้างฐานะก่อน เป็นผู้ชาย มั่นคงเมื่อไหร่แล้วค่อยแต่งงาน ท่าทางจะอีกนาน (จงใจทำตัวเราหายไปจากสารบบซะงั้น)
กลับถึงบ้าน ที่อบอวลไปด้วยความมึนตึงของเขาทั้งคู่ ชินเสียแล้ว ชินเกินกว่าจะไปใส่ใจวิตกกังวล ก็มันควรจะจบไปตั้งแต่เกือบ 20 ปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อทนกันมาได้ ก็ทนกันต่อไปแล้วกัน ผู้หญิงหนึ่งในสามคน ออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง เล่าให้ฟัง ระบายให้หายอึดอัด แล้วเรื่อยไปจนถึงเรื่องการเตรียมงานของตัวเอง เดินกลับเข้ามายิ้มแย้มมีความสุขดี แล้วก็อาบน้ำนอนหลับไป
ผู้หญิงอีกคนของบ้านนี้ ยังเหมือนทุกวัน เปิด internet มาเป็นเพื่อน เล่น msn บ้าง ไม่เล่นบ้าง online บ้าง ไม่ก็ appear offline อยู่บ่อยๆ หนังสือกางอยู่ตรงหน้า แต่จิตใจลอยไปไหนก็ไม่รู้ ง่วงนิดหน่อย แต่ไม่นอน คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนง่วงจัด
ใกล้สว่างแล้ว ตื่นมาตอนความฝันประหลาดใกล้จะถึงบทสรุป ความรู้สึกในความฝันประหลาดยังชัดเจนจนถึงเวลานี้
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 15:07:09 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1188 Pageviews. |
 |
|
|
somehow..