เวลาปวดท้องเราก็ฝันร้ายเหมือนกัน

ที่จริงเราว่าที่ไม่ค่อยได้ฝันเพราะมันไม่มีเวลาจะให้ฝันนะ

สังเกตว่าเวลานอนเยอะเกินไปถึงจะได้ฝันซักทีนึง

ครับ ขอแนะนำให้อารยะขัดขืนเผื่อจะหลับต่อ

good things will come...be positive na..

ก็มองในด้านดีว่าในเรื่องร้ายมันมีเรื่องดีอยู่ด้วย หรือมองในด้านดีอีกว่าสักวันมันต้องสิ้นสุดและเรื่องดีๆ ก็จะมาครับ ตอนเราฝัน เราไม่สามารถคิดหรือปรับทัศนคติได้อย่างนี้

ถ้าเป็นเพียงฝันร้าย

ก็ขอให้ตื่นมาพบความจริงที่ดีแล้วกันนะคะ

"ความจริงอาจเจ็บปวด ดีกว่าหลอกลวงกัน"

ชอบประโยคนี้ค่ะ

“ฝันร้ายมีที่สิ้นสุดคือตอนตื่นนอน
แต่ในความเป็นจริงนั้น
สิ่งที่แย่ที่สุด ยังมีสิ่งที่แย่กว่าได้อีกเรื่อยๆ
การฆ่าเวลาด้วยการรอคอยและความคาดหวัง
ยิ่งทำให้วันเวลาหลังจากพลาดหวังไปแล้วเจ็บปวดยิ่งกว่า”

อ่านแล้วทรมานจัง เพราะ....
เฮ้อ...นั่นซินะ

ปล.ไปเจออะไรที่ไม่ดีมารึเปล่าค่ะ

อากาศ

ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่สามารถตื่นมาพบว่าเป็นความฝัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวต่างกลับกลายเป็นดี เมื่อนั้นมันก็เหมือนตื่นจากฝันร้ายแล้วละค่ะ

..


พรุ่งนี้เช้า
ขอให้เกิดฝันดี .. ดีในชีวิตนะ

^^


..

แม้เราจะตื่นมาไม่พบความฝัน
แต่ ตื่นมาแล้ว เราก็ทำฝันของเราให้เป็นจริงได้นะ

ความฝันบางเรื่องผ่านมาแล้วก็
ควรปล่อยวาง ..

มาทักทายนะ
ขอบใจที่แวะไป blog เรา
พอดีเพิ่งหัดทำ blog นะ
แล้วก็เพิ่งมีเวลา เลยแวะมา

ส่วนมากหนูไม่ค่อยได้ฝันบ่อยนักหรอก แต่...ก็สนุกดีตามแบบของตัวเราเอง...และอีกอย่างนะ...คนที่หนูฝันถึงน่ะ...หน้าตาก็ดี รวยก็รวย เป็นพวกนักดนตรีล่ะมั้ง คนนึงชื่อ"ไทจิ"ส่วนอีกคนชื่อ"ไรอัน" แต่...ทุกๆครั้งที่หนูเจอพวกเขา...หนูจะหาทางรับมือกับพวกเขาเสมอ...เพราะสองคนนี้น่ะร้ายมากยกกำลังสี่TOT!(คูณอีกสอง-_-^^^)
อ๊ะ!พูดออกมาจนได้เนอะ-*- แต่ก็ไม่เป็นไร^-^ งั้นขอจบคำพูดเหล่านี้ด้วยการ...
...ลาล่ะ สวัสดี...=3=^