ได้อ่านจากบล็อคของพี่พัท เรื่อง โนเบล Peace Prize ปีนี้ประทับใจที่สุดเพราะ Muhammud Yunus ผู้ก่อตั้ง Grameen Bank ได้ไปค่ะ เมื่อสองวันก่อน ก็อยากจะเขียนถึง Muhammud Yunus บ้างค่ะ

ไอซ์มีโอกาสได้พบตัวเป็นๆ ของลุง Yunus ((แอบเรียกซะสนิทสนมเชียว ฮี่ๆๆ)) เมื่อปีก่อน ((หรือสองปีก่อนก็ไม่แน่ใจค่ะ)) ไอซ์ถูกทางกรมฯ ส่งไปฟังสัมมนา...จำชื่อหัวข้อไม่ได้แล้ว และบอกตรงๆ ว่า จำผู้บรรยายคนอื่นไม่ได้เลย ((ก็มันไม่ค่อยน่าสนใจอะค่ะ แหะๆๆ)) จำได้แต่ Muhammud Yunus คนเดียว

ท่านสวมเสื้อผ้าแบบธรรมดามากๆ ไม่ต่างจากที่เห็นในรูปหรอกค่ะ ดูท่าทางเป็นคุณลุงใจดีคนหนึ่ง พอท่านขึ้นเอ็มโพเดียมก็เริ่มพูดคุยแบบไม่มีโพย เล่าถึงแรงบันดาลใจที่เริ่มทำ Grameen Bank อย่างสนุกสนาน

ต่อไปนี้ไอซ์เล่าจากความทรงจำนะคะ อาจจะมีความคลาดเคลื่อนบ้าง เพราะมันนานมาแล้วน่ะค่ะ แหะๆๆ

Muhammud Yunus เริ่มตั้งแต่เห็นชาวบ้านใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยที่สอนอยู่ลำบากเพราะไม่มีเงินทุนในการทำการเกษตร ท่านอยากช่วยเหลือ และก็เกิดไอเดียว่า จะให้ชาวบ้านยืมเงิน ตอนแรกก็ไปขอความช่วยเหลือจากธนาคารหลายแห่งมากๆ แต่ก็ถูกปฎิเสธหมด จนในที่สุดท่านก็บอกว่า "ทำเองก็ได้"

เริ่มจากเงินทุนเพียงเล็กน้อย และกลุ่มคนเล็กๆ ... ปรากฎว่าท่านได้กำไรแทนที่จะขาดทุน ... และทุกอย่างก็เริ่มขยายตัวตั้งแต่ตอนนั้น

ถ้าไอซ์จำไม่ผิด รู้สึกว่าจะทำกันในลักษณะสหกรณ์และชุมชนหมู่บ้านน่ะค่ะ ...

ท่านบอกว่า คนจนน่ะ ไม่โกงหรอก อยากหาเงินมาใช้จะแย่ ... ด้วยเหตุผลที่ว่า คนจนไม่ชอบติดค้างใครหนึ่ง และที่สำคัญ มันเป็นการกู้ยืมเงินในหมู่บ้าน ถ้าไม่ใช้เงินคืนล่ะก็ สังคมจะแอนตี้ ... อยู่ในสังคมไม่ได้ อิอิ

ธนาคารแต่ละสาขาก็ทำในลักษณะชุมชน สต๊าฟก็เป็นคนในชุมชน

สรุปก็คือ ให้คนในชุมชนควบคุมกันเอง

หลังจากกิจการด้านธนาคารไปได้ด้วยดี ท่านก็มองปัญหาอื่นๆ ของชุมชน เช่น

- ไฟฟ้า ... ท่านเห็นว่าบังคลาเทศมีแสงอาทิตย์เยอะ น่าจะเอาพลังงานตรงนี้มาใช้ เริ่มจาก solar panel อันแรกเพียงอันเดียว ... ถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้ Grameen Bank นี่แหละค่ะ ที่ขาย solar panel จนได้กำไรมากมาย

- โทรศัพท์ ... ชุมชนชนบทห่างไกลไม่มีโทรศัพท์ ท่านก็ริเริ่มให้มี phone lady อิอิ คือ ผู้หญิงสักคนกู้เงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือ ให้คนอื่นๆ ในหมู่บ้านมาเช่าโทร. น่ะค่ะ ท่านเล่าอย่างสนุกสนานมากว่า จากผู้หญิงสูงวัยธรรมดาในหมู่บ้าน พอกลายเป็น phone lady แล้ว ก็ป๊อบปูล่ามากเลย ใครๆ ก็รู้จัก ได้รับเชิญไปทุกงานแต่งงาน ทุกงานศพ และงานสำคัญอื่นๆ ...ไอเดียนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ... ตอนนี้ Grameen Bank มีเครือข่ายโทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดในบังคลาเทศเลยมั้ง ((จำไม่ได้แม่นๆ ค่ะ ขี้เกียจไปหาข้อมูล แหะๆๆ))

ท่านเล่าเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่ไอซ์จำมาได้ไม่หมด

หลังจากนั้นก็มีช่วงให้ถามคำถาม

ก็มีคนถามว่า มีปัญหาการใช้หนี้บ้างไหม ท่านบอกว่า น้อยมากๆ ส่วนใหญ่รีบใช้กันทั้งนั้น ท่านบอกว่า คนจนน่ะ ไม่โกงหรอก เพราะต้องการมีเงินเอาไปลงทุนแค่พอมีพอกิน ไอ้รวยๆ น่ะ โกงสะบัด

ไอซ์ถามด้วยล่ะ ^^

Ice : อย่างที่รู้ๆ กันนะคะว่าบังคลาเทศมีภัยธรรมชาติบ่อยมาก หลายครั้งน้ำท่วม ไร่นาเสียหาย สมมติว่าผู้กู้โดนภัยธรรมชาติ ไม่สามารถใช้เงินได้จะทำยังไง

Muhammud Yunus : ถ้าใช้ไม่ได้แบบนั้น ก็ให้ทิ้งหนี้เก่าไปเลย เริ่มให้กู้ใหม่ เพราะจะไปรีดเลือดจากคนที่ไม่มีเงิน ยังไงๆ ก็รีดไม่ได้หรอก

ท่านตอบยาวกว่านี้ เล่าท้าวความและยกตัวอย่าง แต่ใจความก็ประมาณข้างบนล่ะค่ะ

ไอซ์ประทับใจท่านมากๆๆๆๆๆ ค่ะ ท่านคุยสนุกมากๆ ตอบคำถามอย่างตั้งใจ และที่สำคัญ สัมผัสได้ถึงความพยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้ยากจนจริงๆ

ท่านมองปัญหาของชุมชนออกอย่างถ่องแท้ ก่อนจะแก้ไขปัญหาจากต้นตอ

การช่วยเหลือของท่านไม่ใช่แค่หยิบยื่นสิ่งจำเป็นให้เป็นครั้งคราว แต่เป็นการช่วยเหลือให้ชุมชนเติบโต เข้มแข็ง และอยู่ด้วยตัวเองได้ ... เป็นสิ่งที่วิเศษจริงๆ ค่ะ

ดีใจกับรางวัลที่ Muhammud Yunus ได้มากๆ

แอบปลื้มนิดๆ ที่เคยได้คุย ((เอ่อ ถามคำถามจากฟลอร์)) กับคนดังด้วย ฮี่ๆๆๆๆ

^_______________^




Muhammad Yunus, with his wife (L) and daughter (R) greets colleagues upon learning he won the 2006 Nobel Peace Prize, outside his residence at Mirpur, Dhaka.

* ภาพจาก CNN ค่ะ

Create Date : 02 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2549 8:55:54 น.		15 comments
Counter : 1212 Pageviews.
Share Tweet