สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ

ตอนนี้ลี่อยู่ฮ่องกงมาได้ 12 วันล่ะค่ะ อยากจะบอกว่าเครียดมากมาย ข่าวออกเกี่ยวกับประเทศไทยเยอะมาก และเป็นช่วงเด่น ออกทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น ค่ำ ก่อนนอน และเป็นข่าวเด่นอันดับแรก ที่เอ่ยถึงก่อน วันนี้ข่าวยาวถึงเกือบครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

วันก่อนจะเปิดหาข่าวบันเทิงดูแก้เครียด หรือดูพวกเอ็มวีเพลงจีน แต่หมุนไปทุกช่องตอนดึกๆ ก็เจอแต่ข่าวเมืองไทย ขนาดลี่หมุนหนีข่าว ก็ยังออกมาอีก

เดี๋ยวก็ต้องกลับไทยวันที่สิบเจ็ดนี้แล้ว น้องต้องกลับไปเลือกคณะ ตั้งใจว่าจะต้องไปซื้อเพียงใจที่ผูกพันที่จตุจักรให้ได้ วางแผนไว้มากมายแล้วล่ะค่ะ แต่จะได้ออกไปไหนหรือเปล่าเนี่ย

วันนี้ข่าวออกภาพทุกช็อตที่เกิดขึ้นในวันนี้เลย เห็นและรับรู้ทุกรายละเอียดแบบสุดๆ ดูจนเครียดมากมาย ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะเป็นแบบนี้ได้

ลี่บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง เมื่อกี้เข้าห้องน้ำอาบน้ำก็แอบนั่งเครียดน้ำตาซึม ไม่อยากคิดเลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง


ข่าวออกมาคนที่นี่ก็กลัวกันนะคะ แถมเขายังถามคนฮ่องกงหลายๆ คนที่ตั้งใจไปไทยในช่วงนี้ (ตรงกับวันหยุดเทศกาลแลกไข่) เลยไปกันเยอะ ก็ยังไปกันอยู่ แต่ก็มีบ้างที่ยกเิลิกไป

ขอให้อย่าได้เลวร้ายกว่านี้เลย

ลี่เขียนยาวอ่ะ เล่าเรื่องเดืมๆ เลยก็อปแปะเหมือนที่ตอบที่บล็อกพี่ปุ้ย

ในห้องน้ำเมื่อกี้ร้องไห้น้ำตาซึมจริงๆ ค่ะ แบบว่าขนาดไม่อยู่ในประเทศยังเครียดได้ขนาดนี้เลย ข่าวออกเยอะไม่น้อยเลยค่ะ

นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น..
ถึงแม้อันจะยังเด็ก ไม่เข้าใจการเมืองเท่าไหร่
แต่รู้สึกเบื่อจัง เชื่อว่าหลายคนก็คงเบื่อ

..ต่างประเทศเค้ามองกันยังไง หลายๆประเทศเริ่มเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวที่ไทยแล้ว..คนไทยหลายๆคนก็หวาดหวั่นเองเลย..เหอะๆ

ขอโทษทีค่ะ กด enter เร็วไปหน่อย

สงสารประเทศและก็เศร้าไปกับการประท้วงด้วยค่ะ เกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ แล้วคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องล่ะ จะทำอะไรได้เพื่อให้เหตุการณ์ยุติซักที คิดว่าหลาย ๆ คนที่ไม่ได้ไปร่วมประท้วงทั้งเหลืองทั้งแดงก็คิดอยากจะทำอะไรซักอย่างเหมือนกัน ได้แต่สวดมนต์แผ่เมตตาให้ยุติเร็ว ๆ

สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับพี่ไอซ์ (13 เม.ย. 52)

ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ ทั้งดูทั้งอ่านข่าวแล้วรู้สึกเสียใจกับการกระทำของพวกเขาเหล่านี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าประเทศไทยที่เป็นที่เกิดของพวกเขา เป็นที่ให้พวกเขาทำกิน ให้อยู่อาศัย ไปทำร้ายอะไรพวกคุณ พวกคุณจึงมาทำลายประเทศอย่างนี้


ไม่รู้ว่า คนที่คุณก็รู้ว่าใคร จะรู้สึกยังไงบ้างที่เห็นเป็นแบบนี้

โดบส่วนตัวแล้ว ธรอยากจะบอกว่า ถ้าเกินครั้งนี้แพ้ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ก็จะรอดตัวตามระเบียบ เพราะพี่แก่เป็น ซิสลอร์ด(Starwars) คอยวีดีโอลิงค์ สั่งการกองทัพ(มนุษย์) อย่างเดียว ตัวเองก็นั่งดูความพินาด อย่างเดียว

ส่วนตัวแล้วน้ำตาซึมตอนอ่าน "บันทึกคุณหญิงไอรีน" ที่ตอนสุดท้าย ว่า

" (สำเนา)

ปปร

บ้านโนล

แครนลีประเทศอังกฤษ

เมื่อพระยาพหลพลพยุหเสนากับพวกได้ทำการยึดอำนาจการปกครองโดยใช้กำลัง ทหาร ในวันที่ 24มิถุนายน พ.ศ. 2475 แล้วได้มีหนังสือมาอัญเชิญข้าพเจ้าให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งพระมหากษัตริย์ภาย ใต้รัฐธรรมนูญ ข้าพเจ้าได้รับคำเชิญนั้น เพราะเข้าใจว่าพระยาพหลฯ และพวกจะสถาปนารัฐธรรมนูญตามแบบอย่างประเทศทั้งหลายซึ่งใช้การปกครองตามหลัก นั้น เพื่อให้ประชาราษฎรได้มีสิทธิที่จะออกเสียงในวิธีดำเนินการปกครองประเทศและ นโยบายต่าง ๆ อันจะเป็นผลได้เสียแก่ประชาชนทั่วไป ข้าพเจ้ามีความเสื่อใสในวิธีการเช่นนั้นอยู่แล้ว และกำลังดำริจะจัดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศสยามให้เป็นไปตามรูปแบบ นั้น โดยมิได้มีการกระทบกระเทือนอันร้ายแรง เมื่อมามีเหตุรุนแรงขึ้นเสียแล้ว และเมื่อมีผู้ก่อการรุนแรงนั้นอ้างว่ามีความประสงค์จะสถาปนารัฐธรรมนูญขึ้น เท่านั้น ก็เป็นอันไม่ผิดกับหลักการที่ข้าพเจ้ามีความประสงค์อยู่เหมือนกัน ข้าพเจ้าจึงเห็นสมควรโน้มตามความประสงค์ของผู้ก่อการยึดอำนาจนั้นได้ เพื่อหวังความสงบราบคาบในประเทศ ข้าพเจ้าได้พยายามช่วยเหลือในการที่จะรักษาความสงบราบคาบเพื่อให้การเปลี่ยน แปลงอันสำคัญนั้นเป้นไปโดยราบรื่นที่สุดที่จะเป็นได้ แต่ความพยายามของข้าพเจ้าไร้ผล โดยเหตุที่ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองหาได้กระทำให้บังเกิดมีความเสรีภาพ ในการเมืองอย่างบริบูรณ์ขึ้นไม่ และมิได้ฟังความคิดเห็นของราษฎรโดยแท้จริง และจากรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับจะพึงเห็นได้ว่าอำนาจที่จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ นั้น จะตกอยู่แก่คณะผู้ก่อการและผู้ที่สนับสนุนเป็นพวกพ้องเท่านั้น มิได้ตกอยู่แก่ผู้แทนซึ่งราษฎรเป็นผู้เลือก เช่น ในฉบับชั่วคราว แสดงให้เห็นว่าถ้าผู้ใดไม่ได้รับความเห็นชอบของผู้ก่อการ จะไม่ให้เป็นผู้แทนราษฎรเลย ฉบับถาวรได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ตามคำร้องขอของข้าพเจ้าแต่ให้มีสมาชิกซึ่งตนเองเป็นผู้เลือกเอง เข้ากำกับอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรถึงครึ่ง 1 การที่ข้าพเจ้าได้ยินยอมให้มีสมาชิก 2 ประเภทก็โดยหวังว่าสมาชิกประเภทที่ 2 ซึ่งข้าพเจ้าตั้งนั้น จะเลือกจาบุคคลที่รอบรู้การงาน และชำนาญในวิธีดำเนินการปกครองประเทศโดยทั่ว ๆ ไปไม่จำกัดเป็นพวกใดคณะใด เพื่อจะได้ช่วยเหลือนำทางให้แก่สมาชิกซึ่งราษฎรเลือกตั้งขึ้นมา แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะตั้งสมาชิกประเภทที่ 2 ขึ้น ข้าพเจ้าหาได้มีโอกาสแนะนำในการเลือกเลย และคณะรัฐบาลก็เลือกเอกแต่ฉะเพาะผู้ที่เป็นพวกของตนเกือบทั้งนั้น มิได้คำนึงถึงความชำนาญ นอกจานี้คณะผู้ก่อการบางส่วนได้มีความคิดที่จะเปลี่นแปลงโครงการณ์เศรษฐกิจ ของประเทศอย่างใหญ่หลวง จึงเกิดแตกร้าวขึ้นกันเองในคณะผู้ก่อการและพวกพ้อง จนต้องมีการปิดสภาและงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา โดยคำแนะนำของรัฐบาลซึ่งถือตำแหน่งอยู่ในเวลานั้น

ทั้งนี้เป็นเหตุให้มีการปั่นป่วนในการเมือง ต่อมาพระยาพหลฯ กับพวกก็กลับเข้าทำการยึดอำนาจโดยกำลังทหารเป็นครั้งที่ 2 และแต่นั้นมาความหวังที่จะให้การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นไปโดยราบรื่นก็ลดน้อยลง

เนื่องจากเหตุที่คณะผู้ก่อการมิได้กระทำให้มีเสรีภาพในการเมืองอัน แท้จริงและประชาชนไม่ได้มีโอกาสออกเสียงก่อนที่จะดำเนินนโยบายอันสำคัญต่าง ๆ จึงเป็นเหตุให้มีการกบฎขึ้น ถึงกับต้องต่อสู้ฆ่าฟันกันเองระหว่างคนไทย

เมื่อข้าพเจ้าได้ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูให้เข้ารูปประชา ธิปตัยอันแท้จริงเพื่อให้เป็นที่พอใจแก่ประชาชน คณะรัฐบาลและพวกซึ่งกุ่มอำนาจอยู่บริบูรณ์ในเวลานี้ ก็ไม่ยินยอม ข้าพเจ้าได้ร้องขอให้ราษฎรได้มีโอกาสออกเสียงก่อนที่จะเปลี่ยนหลักการและ นโยบายอันสำคัญ มีผลได้เสียแก่พลเมืองรัฐบาลก็ไม่ยินยอม และแม้แต่การประชุมในสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องสำคัญ เช่นเรื่องคำร้องขอต่าง ๆของข้าพเจ้า สมาชิกก็มิได้มีโอกาสพิจารณาเรื่องโดยถ่องแท้และละเอียดละออเสียก่อน เพราะถูกเร่งรัดให้ลงมติอย่างรีบด่วนภายในวาระประชุมเดียว นอกจากนี้รฐบาลได้ออกกฎหมายใช้วิธีปราบปรามบุคคลซึ่งถูกหาว่าทำความผิดทาง การเมืองในทางที่ผิดยุตติธรรมของโลก คือไม่ให้โอกาสต่อสู้คดีในศาล มีการชำระโดยคณะกรรมการอย่างลับไม่เปิดเผยซึ่งเป็นวิธีการที่ข้าพเจ้าไม่เคย ใช้ ในเมื่ออำนาจอันสิทธิขาดยังอยู่ในมือของข้าพเจ้าเองและข้าพเจ้าได้ร้องขอให้ เลิกวิธีนี้ รัฐบาลก็ไม่ยอม

ข้าพเจ้าเห็นว่าคณะรัฐบาลและพวกพ้อง ใช้วิธีการปกครองซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการของเสรีภาพในตัวบุคคลและหลักความ ยุติธรรมตามความเข้าใจและยึดถือของข้าพเน้า ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะยินยอมให้ผู้ใด คณะใด ใช้วิธีการปกครองอย่างนั้นในนามของข้าพเจ้าต่อไปได้

ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร

บัดนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่า ความประสงค์ของข้าพเจ้าที่จะให้ราษฎรมีสิทธิออกเสียงในนโยบายของประเทศโดย แท้จริงไม่เป็นผลสำเร็จ และเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกว่าบัดนี้เป็นอันหมดหนทางที่ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือให้ ความคุ้มครองให้แก่ประชาชนได้ต่อไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอสละราชสมบัติและออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์แต่บัดนี้เป็นต้น ไป ข้าพเจ้าขอสละสิทธิของข้าพเจ้าทั้งปวง ซึ่งเป็นของข้าพเจ้าอยู่ในฐานะที่เป็นพระมหากษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าสงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งปวงอันเป็นของข้าพเจ้าแต่เดิมมา ก่อนที่ข้าพเจ้าได้รับราชสมบัติสืบสันตติวงศ์

อนึ่ง ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์ที่จะบ่งนามผู้ใดผู้หนึ่ง ให้เป็นผู้รับราชสมบัติสืบสันตติวงศ์ต่อไปตามที่ข้าพเจ้ามีสิทธิที่จะทำได้ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์

อนึ่ง ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์ที่จะให้ผู้ใดก่อการไม่สงบขึ้นในประเทศเพื่อ ประโยชน์ของข้าพเจ้าถ้าหากมีใครอ้างใช้นามของข้าพเจ้า พึงเข้าใจว่ามิได้เป็นไปโดยความยินยอมเห็นชอบ หรือความสนับสนุนของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้ามีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ไม่สามารถจะยังประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติของข้าพเจ้าต่อไปได้ ตามความตั้งใจและความหวัง ซึ่งรับสืบต่อ กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ยังได้แต่ตั้งสัตยอธิษฐานขอให้ประเทศสยามจงได้ประสบความเจริญ และขอให้ประชาชนชาวสยามจงได้มีความสุขความสบาย


(พระปรมาภิไธย) ประชาธิปก ปร

วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477

เวลา 13 นาฬิกา 55 นาที "


ย้ำอีกรอบ ท่องให้ขึ้นใจ

"
ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"

"

ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร"

กระทู้นี้ใช้พื้นที่เยอะ ขออภัย มา ณ ที่นี่ครับ

ทำใจเถอะค่ะ ประเทศเราต่อจากนี้ไปคงวนเวียนเป็นวัฎจักรอยู่แบบนี้

พอเหลืองได้ แดงก็ไม่ยอม

พอแดงได้ เหลืองก็ไม่ยอม

แล้วเผอิญการเมืองเราต่อจากนี้ก็มีแค่เหลืองกับแดงเสียด้วยสิ



ขี้เกียจคิดแล้วล่ะพี่ไอซ์ คิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาแล้วล่ะตอนนี้

คิดเหมือนพี่ไอซ์เลยค่ะ
ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงยังเดินตามกันต่อไปได้
เดินตามคนที่ก่อนหน้านี้ทิ้งลูกเมียไว้ข้างหลัง ใช้เป็นหมากจนวินาทีสุดท้ายให้ออกหนังสือเชียร์ตัวเอง เดินตามคนที่ยุให้ออกไปสู้ บอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งที่แอบอยู่ซอกมุมไหนในโลกก็ไม่รู้

พูดตามจริงก็ไม่เห็นด้วยกับฝ่ายไหนเลย เหลืองก็เอาแต่ใจ นายกฯก็ใจอ่อน แต่อย่างน้อยเขาก็ยังอยู่ในประเทศนี้นะ (หรือเพราะหนีไม่ได้ 55) ไม่ได้ไปมุดหัวอยู่ไหนแล้วส่งคนอื่นไปตาย

หดหู่เหมือนกันเลยค่ะ ยิ่งที่ออสเตรเลียออกข่าวทุกๆ ชม.เลยอ่ะ แล้วพวกเพื่อนก็แอบแซวว่า เฮ่ยู คราวที่แล้วเสื้อเหลือง คราวนี้เสื้อแดง แล้วคราวหน้ายูว่าเค้าจะใส่เสื้อสีอะไร.....แอบค้อนเพื่อนปากมอมไปหนึ่งที เหอะๆๆๆ เศร้าจริงๆ หนูยังคิดเลยนะว่า ถ้าเบื่อเรียนกะทำงานที่นี่ อาจจะกลับไปทำงานที่ไทยซักพัก แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ก็ต้องพักโครงการอีกยาวเลยค่ะ คงจะไม่มีงานอะไรให้หนูทำ....อยู่ก็คงเครียดอีกต่างหาก นี่ขนาดออกข่าวทุกชม. แบบที่เป็นภาพเดิมๆ หนูยังเครียดขนาดนี้ แล้วถ้าอยู่เมืองไทยเห็นทุกช็อต คนพูดกันตลอดเวลา ก็คงไมเกรนขึ้นแน่ๆ
สงสารอยู่อย่างเดียวค่ะ

สงสารในหลวงของเรา....ปากเราก็บอกว่ารักท่าน แต่ไม่เห็นจะพยายามปรองดองกัน หาทางทำให้บ้านเมืองสงบสุขเสียที มัวแต่ห่วงอำนาจ ห่วงเก้าอี้ ขอสาปส่งพวกคนเลวๆ ขอให้กรรมตามสนองโดยเร็ว

วันนี้ไม่เป็นอันทำอะไรเลย ตามข่าวตลอดวัน มันกลายเป็นจลาจลกลางเมืองไปแล้ว ดูแล้วเศร้ามากๆ


พวกเสื้อแดงยังหน้าด้าน กล้าถวายฎีกาอีก กล้ามาก กล้าจริงๆ


กลัวเหตุการณ์ต่อไปจริงๆ

วันนี้ลี่ไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ ภาพเหตุการณ์อยู่ที่ฮ่องกงเนี่ย เห็นทุกช็อตเหมือนกันค่ะ ไฟไหม้ ยิงกัน เผายาง ทุกๆ อย่าง เห็นแล้วหดหู่สะเทือนใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย ถ้าไม่ติดว่าน้องสาวต้องกลับมาเลือกคณะก่อนวันที่ยี่สิบ จะอยู่้ฮ่องกงยาวถึงเปิดเทอมเลย

จะนั่งอ่านนิยายในเน็ตก็ยังอ่านต่อไม่ได้ ทั้งที่กำลังสนุกอยู่แท้ๆๆๆๆ

ประเทศไทยเราจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย ภาพพจน์เสียหมดแล้ว คนฮ่องกงยกเลิกทัวร์มาไทยเกือบหมดแล้ว แถมเขายังกลัวว่าคนของเขาจะกลับมาไม่ได้ด้วยแหละค่ะ

ข่าวออกเป็นข่าวเด่นข่าวแรก และยาวนาน เห็นจนทนดูไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะ

สงสารประเทศไทยจัง อนาถแท้ รบราฆ่าฟันกันเพื่ออะไร ทุกคนอ้างแต่เหตุผลของตนเอง ทะเลาะกันให้ลูกหลานดูอยู่ได้ ไม่มีใครยอมใคร รู้กันไหมเราคนไทยทุกคนต่างก็สูญเสียด้วยกันทุกฝ่าย

ขอให้ ใครที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน จงไม่มีแผ่นดินจะกลบหน้า

กลายเป็นสงครามกลางเมืองไปแล้วครับ

แย่ทั้งนั้นไม่ว่าฝ่ายไหนก็เหอะ เฮ้อ...

เก่งแต่รบกันเอง แต่พอไปสู้กับคนอื่นล่ะง่อย เอ้อ

สวัสดีวันเนา(วันเน่า-ภาคเหนือเรียก)

วันนี้ก็เริ่มคลี่คลาย แล้ว

วันว่า จะสงบสุขเสียที TT___TT

ขอให้เพื่อนๆพี่ๆ มีความสุข ในวันสงกรานต์ กัน อีก 1 วันที่เหลือ ^^

มาเพิ่มครับพี่ไอซ์

ได้ยินประกาศให้หยุดต่อ 16-17 หยุดยาวเลย

พี่ไอซ์หยุดไหมครับ ^^

ตอนนี้เซ็งมากๆเลยค่ะ

ที่เยอรมนีก็ออกข่าวเยอะเหมือนกัน

คนที่นี่ยิ่งชอบเที่ยวเมืองไทยอยู่...ไม่รู้จะยังกล้าไปกันมั้ย - -"

.
.

เห็นคนสัญชาตืเดียวกันทำแบบนี้แล้วอายจัง TTwTT

นี่หรือคือคนไทย (ส่วนที่เสื้อมีสีี...น่ะค่ะ)

ช่วงนี้ก็เลิกดูข่าวไปเลยโดยปริยาย ไม่อยากรับรู้เรื่องแย่ๆ

.
.

เรื่องสีเสื้อนี่ก็กลายเป็นประเด็นร้อนของเด็ก AFS ไปซะแล้ว

รุ่นหนู "เสื้อสีแดง" อ่าค่ะ...

ไม่มีใครอยากใส่วันเดินทางกลับกันเลยทีเดียว

แถมหนักเข้าไปอีก เสื้อ AFS Leipzig (เขตที่หนูอยู่) สีเหลือง !

โอ้ว ! อยากรู้จริงๆว่าวันเดินทาง AFS จะยังบังคับให้ใส่เสื้อนี้มั้ย ?

วันเดินทางมาก็เสี่ยงกันไปรอบนึงแล้ว !

เห็นด้วยกันพี่ไอซ์ทุกอย่างเลยฮับ ทำไปทำไมเพื่อคนๆ เดียวที่แทบไม่มีคุณค่าใดๆ กับประเทศไทยเลย

แต่จริงๆ จะว่าที่พวกนั้นทำไปเพื่อคนๆ เดียวมันก็ไม่ถูกสักเท่าไร จริงๆ ส่วนใหญ่ทำเพื่อตัวเองกันทั้งนั้นแหละฮับ ที่ออกมาเต้นแร้งเต้นกา เผาบ้านเผาเมืองก็เพื่อสนองตัณหาให้ตัวเอง พอเห็นช่องทางหาเงินแบบง่ายๆ จะทำชาวบ้านชาวเมืองเดือดร้อนก็ไม่เป็นไรหรอก

เสียใจอยู่อย่างเดียวว่าผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับพวกทำลายบ้านเมือง แต่พวกเขาเป็นเพียงผู้ที่ออกมาปกป้องที่อยู่อาศัย ปกป้องความปลอดภัยของครอบครัวเขาเท่านั้น

เสียใจด้วยกับครอบครัวของพวกเขาจริงๆ ฮับ

ขอให้ประเทศไทยสงบสุขจริงๆ สักที

วันนี้ตั้งใจจะเข้ามาแปะว่า ตอนนี้บ้านเมืองสงบขึ้นมากแล้ว ต่อไปข่าวคราวจะมีแต่เรื่องดีๆ ก็มีเรื่องยิงคุณสนธิเสียก่อน @_@

เมื่อไหร่บ้านเมืองจะสงบสักทีก็ไม่รู้ T^T หวังว่าจะสงบก่อนน้องเฟิร์นจะกลับนะ ไม่อยากให้แบ่งคนในชาติด้วยสีเสื้อเลยจริงๆ

ขอบคุณที่แวะเข้ามากันนะคะ ไอซ์อ่านทุกคคห.เลย แต่ห่อเหี่ยวเหลือเกิน เฮ่อ