เหตุเพราะ...จูบแห่งจักรวาล
วันนี้บังเอิญได้เจอ link ซึ่งเป็นบทความของ นพ. ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ที่เขียนเกี่ยวกับวัยรุ่น และมีพูดถึงหนังสือที่ไอซ์แปล "เรื่องใสๆ ของวัยซ่า" ตอน "จูบแห่งจักรวาล" ก็เลยเอามาแบ่งให้อ่านกันค่ะ ^^
..........
//www.elib-online.com/doctors48/teen_kiss001.html
จูบแห่งจักรวาล โดย นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงนะ อิช ฉันพอใจแค่จูบกัน แต่เขามักจะต้องการมากกว่านั้นเสมอ และฉันไม่อยาก ฉันยังไม่พร้อม เขาบอกว่านั่นเป็นเพราะฉันเด็กเกินไปสำหรับเขา และเขารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาบอกว่าอาจจะดีกว่าถ้าเราไม่เจอกันอีก และเขาจะได้ไปเป็นแฟนกับใครที่อายุใกล้เคียงกับเขามากกว่า"
"โธ่ ลูซี่" ฉันเริ่มเอ่ยปาก เขาหมายถึงใครก็ได้ที่จะไม่ปฏิเสธเขา แล้วฉันควรจะทำยังไง ถ้าฉันไม่ทำตาม ฉันก็จะสูญเสียเขาไป และเขาก็เป็นเด็กผู้ชายคนแรกที่ฉันชอบจริงๆ แต่ถ้าฉันทำตามใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เป็นไปได้ว่าเขาก็อาจจะทิ้งฉันไปอยู่ดี เนสต้าบอกเสมอว่า เขาจะหมดความสนใจ ถ้ายังไม่มีความท้าทายเหลืออยู่"
ที่ยกมาเป็นตอนใกล้จบของหนังสือเรื่อง จูบแห่งจักรวาล ของแพรวสำนักพิมพ์ แปลจากเรื่อง Mates, Dates and Cosmic Kisses ของ แคธี่ ฮอปกินส์ แปลโดย ภูวดี ตู้จินดา เป็นหนังสือเล่มที่ 2 ในชุดเรื่องใสๆ ของวัยซ่า เล่มแรกชื่อ ชุดชั้นในเป่าลม ขณะเขียนต้นฉบับนี้ลูกสาวผมอ่านไปห้าเล่มแล้ว เล่มหก รักอันตราย เพิ่งวางตลาด ผมขอยืมมาอ่านได้สองเล่ม
อิซซี่ ลูซี่ และเนสต้าเป็นเพื่อนรักกัน ลูกซี่ถูกพี่ชายของเนสต้าขอมีอะไรด้วย เขาขอมากกว่าจูบ ลูซี่จึงนำความมาปรึกษาอิซซี่ ถ้าให้ก็ไม่ดี ถ้าไม่ให้ก็ถูกเขาทิ้งแน่
ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะตัดสินว่า เด็กผู้ชายอายุขนาดนั้นคิดอย่างไร แบบว่าไม่มีประสบการณ์ ตอนนั้นเรียนหนังสืออย่างเดียวคร้าบ แต่ผมรู้สึกดีใจที่ลูกสาวได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะมีหลายตอนทีเดียวที่วัยใสวัยซ่าทั้งหลายควรได้อ่านผ่านตา กล่าวเฉพาะเรื่องที่ลูซี่เล่ามาก็ได้ยินมาว่า เป็นสิ่งที่เด็กผู้หญิงบ้านไหนๆ ต้องพบสักวัน ถ้าให้เขาก็อาจจะถูกทิ้ง ถ้าไม่ให้เขาก็อาจจะถูกทิ้ง
"ผมขออนุญาตถามหาความรู้นะ" ผมคุยกับนักศึกษาชายของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ถูกจับกุมเพราะเสพยาบ้า "อยู่กินกับเพื่อนนักศึกษาแบบนี้มีเยอะมั้ย" "เกือบทั้งหอครับ เยอะครับ" เขาตอบ "อยู่กันแบบนี้กะว่าจะแต่งงานกันมั้ยครับ หมายถึงเรียนจบแล้วก็แต่งงานมีลูก ช่วยกันทำมาหากิน" ผมหาความรู้ต่อ "ไม่ทราบครับ ยังไม่ได้คิด" เขาตอบ "คู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จบยังไง แต่งงานกันมั้ย หรือว่าเลิกกัน" ผมหาความรู้ต่ออีก "ไม่หรอกครับ ที่เห็นๆ ก็เลิกกันหมด อยู่กันแค่ตอนนี้ชั่วคราว" เขาตอบ
เขาเล่าว่า ทั้งชายหญิงต่างคนก็ต่างรู้ว่าวันหนึ่งจะเลิกกัน ตอนนี้ก็นอนๆ เอ๊ย อยู่ๆ กันไปก่อน ไม่มีใครคิดอะไร ไม่รู้อนาคต แหม! อันที่จริงเสพยาบ้าแบบนี้ก็ต้องเรียกว่าไม่รู้ปัจจุบันด้วยเหมือนกัน
ผมเคยถามนักศึกษาหญิงด้วย เธอตอบแบบลูซี่ในเรื่อง "ไม่อยู่กับเค้า เค้าก็ไปหาคนอื่น"
นั่น! อะไรจะไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนั้น ไม่ self เล้ย ชวนให้สงสัยว่า เยาวชนสตรีบ้านเรากี่คนที่ไม่มีความภูมิใจในตนเองมากเพียงนี้ ไร้ความสามารถที่จะอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องพลีกายให้เพื่อนชายได้ ตอนจบลูซี่เธอทำได้นะครับ เธอไม่ยอมให้เพื่อนชายล่วงเกินมากกว่าจูบ
หรือเป็นเพราะว่าบ้านเราปิดกั้นเรื่องนี้มากเกินไปจริงๆ นักเรียนไม่ได้เรียนเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิง เรื่องจูบ เรื่องบนเตียงให้มากพอ แต่ละคนจึงต้องหาประสบการณ์กันเองนอกห้องเรียน ก่อนหน้านี้เป็นอิซซี่ที่เคยปรึกษาลูซี่
"ลูซี่" ฉันพูด "ฉันอยู่กับมาร์ค ฉันควรจะทำยังไงถ้า เขาอยากจะจูบฉัน" ลูกซี่หัวเราะ "โธ่ ก็จูบเขากลับสิ บ๊องจัง" "แต่ทำยังไงล่ะ" ฉันร้องโหยหวน ฉันกังวลจริงๆ นะ ว่าฉันจะไม่มีปัญญาจูบ และเขาก็จะไม่อยากเจอฉันอีกเลย" "ใจเย็นๆ น่า" ลูซี่แนะ แค่ทำตามเขาเท่านั้นเอง" "แล้วถ้าเขายื่นลิ้นเข้ามาในปากของฉันล่ะ ฉันจะต้องทำยังไง"
จะเห็นว่ากังวลเรื่องถูกทิ้งเอาเสียจริงๆ ลูซี่ไม่ยอมให้เพื่อนชายล่วงเกินมากกว่าจูบก็กลับมาปรึกษาเพื่อนว่ากลัวถูกทิ้ง อิซซี่กังวลว่าตัวเองจูบไม่เป็น ก็กลัวว่าเขาจะไม่อยากเจอหน้าอีกเลย บางทีเด็กๆ ควรมีโอกาสพูดคุยเรื่องแบบนี้ในห้องเรียนกันบ้างนะครับ คุณค่าของตนเองอยู่ที่ไหนจึงจะได้ไม่กลัวถูกทิ้ง
ฉันควานไปทั่วกระเป๋าและหาหมากฝรั่ง แล้วก็หาลิปสติก โอ๊ะ! เป็นความคิดที่ดีหรือเปล่านะ ถ้าเขาจูบฉันมันก็จะเลอะเทอะไปหมดน่ะสิ นี่ฉันควรจะลบมันออกไปหรือเปล่า พระเจ้า ช่างซับซ้อนอะไรอย่างนี้ เราควรจะมีชั่วโมงเรียนเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้ที่โรงเรียน แทนที่จะเรียนเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องใช้ อย่างเช่นมีพืชผลจำนวนเท่าไรที่เขาเพาะเลี้ยงกัน ในประเทศห่างไกลที่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
ฉันทาลิปสติกเขากับริมฝีปาก ลิปสติกจะได้ไม่ส่องประกายมากเกินไป ตอนที่ฉันเดินกลับไปหาเขา อ๊าย!! เขากำลังเคี้ยวหมากฝรั่งด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวต้องมีการจูบเกิดขึ้นแน่นอน ฉันดันหมากฝรั่งของฉันไปด้านหลังของฟัน เขาจะได้ไม่เห็นว่าฉันกำลังเคี้ยวอยู่เหมือนกัน ฉันไม่อยากให้เขาคิดว่า ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่
มิน่าหมากฝรั่งถึงได้ขายดีมีทั่วทุกร้ายสะดวกซื้อ เวลาขับรถผ่านไปหน้ามหาวิทยาลัยตอนเช้าๆ เห็นเด็กยืนคุยกันเป็นกลุ่มๆ ก็สังเกตว่าเคี้ยวหมากฝรั่งกันเกือบทุกคน เตรียมพร้อมกันแต่เช้าเลยหรือเปล่าหว่า
ก่อนหน้าที่อิซซี่จะกังวลเรื่องจูบ เธอก็เอาแต่รอโทรศัพท์เพื่อนชายที่สัญญาว่า จะโทรมาหาจนกระทั่งไม่เป็นอันกินอันเรียน เหตุเกิดเพราะเธอปิ๊งเขาและเขาบอกว่าจะโทรมาหา พอเขาไม่โทรมาเธอก็ทำอะไรไม่ได้อีกเลย สามสาวเพื่อนรักจึงได้คุยกันถึงภาษาผู้ชาย หากภาษาผู้ชายว่า "จะโทรหาเธอทีหลัง" แปลว่า "ประมาณศตวรรษหน้า" หากภาษาผู้ชายว่า "ฉันเป็นคนรักอิสระมาก" แปลว่า "ฉันชอบทำอะไรตามใจตัวเองในเวลาที่อยากทำ" อิซซี่ถึงกับทำรายการภาษาผู้ชายขึ้นมาหนึ่งหน้ากระดาษ วัยใสวัยสาวทั้งหลายลองไปหามาอ่านกันสิครับ
นอกจากเรียนหนังสือ เรื่องที่วัยใสวัยสาวอยากรู้คือ เรื่องผู้ชาย พวกเธอใฝ่ฝันถึงความสัมพันธ์แบบโรแมนติกกับผู้ชาย
นอกจากเรียนหนังสือ เรื่องที่วัยรุ่นชายอยากรู้คือเรื่องผู้หญิง พวกเขาอยากรู้ใจพวกเธอ แม้ว่าพวกเขาอยากฟันเธอด้วยก็ตาม
หากโรงเรียนไม่ยอมพูดเรื่องเหล่านี้กับลูกๆ ของเราเลย เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องเพิ่มค่าขนมไปโรงเรียนให้ลูกๆ แล้วล่ะครับ ...ไว้เป็นงบซื้อหมากฝรั่ง เตรียมเหรียญบ้างก็ดี ...ไว้หยอดตู้ซื้อถุงยางอนามัย
(update 8 กรกฎาคม 2005) [ ที่มา.. kids & family ปีที่ 10 ฉบับที่ 117 ธันวาคม 2548]
...............
เลยอ่านเจออีก link เป็นคอลัมภ์เกี่ยวกับวัยรุ่นเหมือนกันค่ะ
จาก //www.raklukefamilygroup.com/kfstory1.php?story_id=778&month=11&year=2548
ลองดูภาพข้างบนแล้วทำข้อสอบต่อไปนี้ว่า ภาพที่เห็นเป็นภาพอะไร ก.โมเลกุลของสารประกอบชนิดหนึ่ง ข.แผนผังของสถานที่แห่งหนึ่ง ค.ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนชายหญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
คำตอบคือข้อ ค. ภาพนี้แสดงความสัมพันธ์ระดับ แลกเปลี่ยนของเหลวซึ่งกันและกัน ระหว่างนักเรียนชายหญิงโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งของเจฟเฟอร์สันซิตี้ในสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ประกอบบทความเรื่อง A Snapshot of Teen Sex โดย Claudia Wallis ในนิตยสารTIMEฉบับวันที่14กุมภาพันธ์2005 ซึ่งตรงกับวันแห่งความรักพอดี
ข่าวแจ้งว่าทั้งหมดนี้เป็นความสัมพันธ์ในระยะเวลา 18 เดือน วงกลมสีฟ้าคือเด็กผู้ชาย วงกลมสีชมพูคือเด็กผู้หญิง ความสัมพันธ์ที่โยงใยกันเป็นลูกโซ่แห่งการแลกเปลี่ยนของเหลวนี้มักเป็นกลุ่มละ 3-8 คนดังที่แสดงในรูปเล็กๆด้านล่าง แต่เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดคือรูปข้างบน
ผมเอารูปนี้ให้ลูกชายลูกสาวดู ให้เขาทายว่ารูปอะไรแล้วก็เล่าให้ฟัง สังเกตว่าทั้งสองคนสนใจกันมาก ลองนำรูปนี้ไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆ ก็สามารถเรียกความสนใจได้ทุกครั้งไป จึงนำมาฝากผู้อ่านTKFด้วยครับ
เป็นโอกาสที่ผมได้สอนลูกชายลูกสาวเรื่อง การแลกเปลี่ยนของเหลว อีกครั้ง ภาพนี้ทำให้เขาสองคนดูจะเข้าใจมากขึ้นว่าความรักที่เห็นกันเป็น คู่ๆ ในโรงเรียนนั้น ที่แท้แล้วมิจำเป็นต้องเป็นคู่ๆดังตาเห็นเสมอไป อาจจะเป็น กลุ่มๆ"ดังภาพนี้ก็ได้ เวลาที่เราคิดถึงการติดเชื้อเอดส์เรามักคิดว่ามีคนพัวพันกันแค่สามคน แต่ที่แท้แล้วนักเรียนอาจจะกิ๊กกันเป็นทอดๆได้มากกว่าสามไปตั้งเยอะ ตามรูปบางคนกิ๊กทีเดียวตั้งห้าตั้งหก ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนชายหรือนักเรียนหญิงก็ตาม
เวลาว่างๆ เพื่อนๆทำอะไรกัน ผมถามขึ้นกลางอากาศ
แข่งจูบค่ะ ลูกสาวตอบ ลูกชายนั่งเงียบ เดาว่าสมองกำลังทำงาน ฮอร์โมนกำลังไหลไปมา
ทำไงน่ะ ผมชวนคุยต่อ
เดี๋ยวนี้เพื่อนตั้งหลายคนเอาลิปมาโรงเรียน ทาลิปแล้วก็แข่งประทับรอยจูบลงบนกระดาษ ดูว่าของใครสวยกว่ากัน ลูกสาวมอสองเล่าต่อ
อ้อ ผมว่า
บอกป๊าแล้ว มอสองนอขึ้นกันทุกคน ลูกชายพูดขึ้นบ้าง
จูบกับตัวเองหน้ากระจกก็มีนะป๊า กระจกเปียกหมดเลย ลูกสาวสาธยายปรากฏการณ์วัยรุ่นต่อ
อุบาทว์ ลูกชายตอบสนอง
ทำทำไมน่ะ ผมชวนคุยอีก
ฝึกไว้ก่อนไงป๊า กระจกเปียกหมดเลย ลูกสาวพูดซ้ำ ชวนให้นึกภาพว่าจูบยังไงกระจกถึงเปียก
วันนั้นครอบครัวได้คุยกันเรื่องSEXพอหอมปากหอมคออีกครั้งหนึ่ง คุยกันเรื่องการแลกเปลี่ยนของเหลวและการตั้งครรภ์ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องร่างกาย จากร่างกายนำไปสู่เรื่องของจิตใจ อย่าลืมว่าเพศศึกษาที่แท้เป็นเรื่องของใจ ก่อนหน้านั้นไม่นานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลงข่าวชายคนหนึ่งนัดนักศึกษาสาวคู่กิ๊กมาพบที่หน้าวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขาแทงนักศึกษาตายแล้ววิ่งขึ้นสะพานลอยกระโดดลงมาให้รถทับตายตาม ข่าวแบบนี้เอามาสอนลูกสาวได้สบายๆว่าการมีสัมพันธ์กับผู้ชายบางคนนั้นอาจจะนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างไร
ประเด็นคือลูกๆต้องรู้วิธีจับสังเกตความไม่ชอบมาพากลของความสัมพันธ์แล้วรีบตัดไฟแต่ต้นลม อย่าปล่อยให้เลยเถิด ถ้าไม่เข้าใจพฤติกรรมของเพื่อนๆให้มาถามพ่อแม่ได้ สอนลูกให้รู้จักวิธีรับโทรศัพท์ของเพื่อนชายและวิธีตัดบทสนทนา สอนลูกให้รู้จักวิธีวางตนในระดับเพื่อนเพื่อมิให้ก่อความเข้าใจผิดแก่ฝ่ายชาย
เด็กๆสนใจเรื่องเพศตามอายุและสภาพแวดล้อม สมองของพวกเขาหล่อลื่นด้วยฮอร์โมนมากกว่าด้วยสติปัญญา ความยับยั้งชั่งใจเป็นเรื่องสำคัญของเยาวชนวัยนี้ หากสังเกตว่าเขายับยั้งชั่งใจได้ยากก็ต้องช่วยเหลือหาทางระบาย
การเล่นกีฬาเป็นวิธีระบายแรงขับดันทางเพศที่ดีที่สุด แต่ก็มีวิธีอื่นด้วยนั่นคือการอ่านหนังสือ เลือกหนังสือเยาวชนดีๆให้ลูกๆได้อ่านบ้าง
ช่วงนี้อ่านอะไรน่ะ ผมถามลูกสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านนิยายเล่มใหม่
จูบแห่งจักรวาลค่ะ ลูกสาวหมายถึงหนังสือแปลของ แคธี่ ฮอปกินส์ ในชุด เรื่องใสๆของวัยซ่า ของแพรวสำนักพิมพ์ เล่มที่สอง ตอน จูบแห่งจักรวาล แปลไทยโดย ภูวดี ตู้จินดา
ป๊าขอยืมอ่านเล่มหนึ่งหน่อยสิ
นี่ค่ะ หนุกนะ ตอนชุดชั้นในเป่าลม
หากเลือกให้ลูกอ่านไม่เป็น ก็เห็นทีจะต้องให้ลูกเลือกให้เราอ่านครับ
..............
แฮะๆๆ อ่านแล้วก็รู้สึกปลื้มเล็กๆ ที่ยังมีผู้ปกครองและน้องๆ วัยรุ่นได้อ่านหนังสือชุด "เรื่องใสๆ ของวัยซ่า" นี้ค่ะ เป็นหนังสือแปลชุดที่ไอซ์เชียร์สุดตัวจริงๆ เพราะมีเนื้อหาที่เหมาะกับวัยรุ่นมากๆ สอนเรื่องต่างๆ ตั้งแต่เรื่องความรัก เซ็กส์ เพื่อนฝูง ความสัมพันธ์กับคนในครอบครับ การปรับตัวเข้ากับสังคม ยาเสพติด ความคิด อนาคต ฯลฯ แทบทุกเรื่องที่วัยรุ่น ... หรือแม้กระทั่งคนที่เลยวัยรุ่นมาแล้ว จะต้องพบเจอ เพื่อเติบโตต่อไปในอนาคต
แฮะๆ ว่าแล้วก็ขอเชียร์อีกรอบ อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านหนังสือชุดนี้จริงๆ ^^
........
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาทักทายกันนะคะ ใครไปงานหนังสือ วันที่ 8 เจอกันน้าาาาาาา
ขอบคุณทุกคนที่อ่านงานของไอซ์ด้วยค่ะ ดีใจมากๆ เลย แล้วจะฝันเฟื่องมาเขียนให้อ่านกันอีกนะคะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆ
ใครที่บอกว่า ฝันแล้วลืม ... ต้องตื่นขึ้นมาแล้วจดอ้ะ ไอซ์เองก็ลืมไปหลายเรื่องเหมือนกัน ตอนฝันอยู่รู้สึกว่ามันสนุกมาก แต่พอตื่นมาลืมหมด เหอๆๆๆ
เวลาเรียบเรียงความคิดไม่ถูก หรือจิ้มดีดได้ช้า ... การเขียนลงกระดาษช่วยได้มากเลย เมื่อก่อนไอซ์ก็ขี้เกียจ มัน cut copy paste ไม่ได้ ฮา...แต่หลังๆ มาเห็นประโยชน์ของการเขียนลงกระดาษเยอะมาก โดยเฉพาะเวลาที่หัวตัน แหะๆๆๆ
^^
Create Date : 30 มีนาคม 2549 |
|
7 comments |
Last Update : 30 มีนาคม 2549 10:58:32 น. |
Counter : 1848 Pageviews. |
|
|
|
จะรอซื้อแบบครบชุดอ่ะ
มะวานไปดูบรรยากาศงานมาแล้วนะ
บูทแจ่มใสคนแน่นหนาอย่างเคย
แต่เดินไม่ทั่วงานเลย ได้แต่ในฮอลล์ใหญ่(ก็ยังไม่ทั่ว)
ก็หมดเวลาละเพราะไปถึงจะทุ่มนึงแล้ว
เจอพนักงานแจ่มใสก็ทักทายคุยโม้กันนานด้วย5555