บางที ชีวิตที่เนิบช้า ก็แฝงความสุขในความเงียบสงบ และดูเหมือนว่าความสงบ จะเปี่ยมด้วยเสน่ห์ชวนให้มาสัมผัส…
ลาว เมืองมรดกโลก ติดกับประเทศไทย ที่ดูเหมือนว่าจะแวะไปเที่ยวได้ไม่ยากนัก นอกจากเมืองมรดกโลกอย่างหลวงพระบางแล้ว ที่นี่ยังมีเมืองเล็กๆ ติดกับชายแดนไทยที่น่าจะแวะชมวิถีที่แสนสงบฝั่งลาว ก่อนจะเดินทางข้ามฝั่งกลับไทย
เที่ยวท่าลี่ – แก่นท้าว เสน่ห์เมืองสงบ 2 วิถี ไทย-ลาว 
ถือเป็นความโชคดี ที่การเที่ยวลาวของผมครั้งนี้มีเวลามากพอ ผมจึงแวะเที่ยวได้เรื่อยๆ และทำให้ผมได้มาพบสองเมืองชายแดนไทย- ลาว อย่างเมืองแก่นท้าว (สปป.ลาว) และเมืองท่าลี่ (ไทย) ที่เมืองหนึ่งเป็นเมืองเก่า และอีกเมืองหนึ่งคือเมืองแสนสงบ แต่ทว่า มีเสน่ห์…

หลังจากที่ผมตะลอนเที่ยวเวียงจันทน์ และหลวงพระบาง จนหนำใจ มันก็ถึงเวลาเดินทางกลับ แต่ก็อยากที่บอก ผมพอมีเวลา ผมก็เลยถือโอกาสแวะ เมืองแก่นท้าว ใกล้ๆ กับ ด่านชายแดนไทย- ลาว ซะเลย
“เมืองแก่นท้าว” เมืองเก่าของด่านชายแดน สปป.ลาว อยู่ในแขวงไชยะบูลี เป็นเมืองเล็กๆ ที่ให้เราได้แวะเที่ยว แวะดูวิถีเรียบง่าย เงียบสงบ
วัดศรีภูมิ (วัดสีพูมประดิดถาราม) คือวัดแห่งเดียวในเมืองแก่นท้าว เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแก่นท้าว อายุอานามกว่า 600 ปี ภายในวัดศรีภูมิดูเรียบง่ายตามสไตล์งานพุทธศิลป์พื้นบ้านแบบลาว ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ (สิม) หลังคาสังกะสี เจดีย์ พระพุทธรูป ภาพจิตรกรรม งานปูนปั้น และองค์ประกอบอื่นๆ ทว่าในความเรียบง่าย ก็มีเสน่ห์ที่น่าสนใจแฝงเร้นอยู่ โดยเฉพาะพื้นผิวของ ลำตัวพญานาคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นที่ราวบันไดทางเข้าโบสถ์ หรือพญานาค 7 เศียรที่แผ่พังพาน และใช้ลำตัวเป็นฐานให้กับพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งพื้นผิวของลำตัวของพญานาคเหล่านั้น ล้วนทำด้วยเปลือกหอยแครงทาสีที่ดู แล้วเก๋ไม่หยอกทีเดียว

ส่วนที่ผมชอบเป็นพิเศษ ก็คือ รอยยิ้มน้ำมิตรจิตใจของชาวลาวในวัดที่พอเห็น อาคันตุกะต่างถิ่นอย่างพวกเรามาก็นำน้ำมาบริการ เข้ามาต้อนรับขับสู้ พูดคุย ตอบคำถาม และเดินพาชมโน่นชมนี่อย่างยินดีปรีดา
นอกจากวัดเก่าแก่แล้ว ที่นี่ก็ยังมีบ้านไม้เก่า โดยเฉพาะบ้านไม้สักโบราณหลังมหึมาอายุกว่า 100 ปี ของเจ้าของโรงเลื่อยไม้ขนาดใหญ่กลางเมืองแก่นท้าว ที่สวยงามมากๆ แล้วก็แวะลิ้มรสอาหารลาว เดินทางน่องชมวิถีเมืองแสนสงบสักหน่อย ก่อนเดินทางกลับมาตะลุยฝั่งไทยต่อ

หลังจากข้ามไปเที่ยวเมืองมรดกโลก ฝั่งลาว อย่างหลวงพระบาง หรือไปเที่ยวชมอารยมธรรมของฝั่งลาวเหนือ ด้านฝั่งไทยที่เมืองท่าลี่ เมืองที่มีชายแดนติดกับประเทศลาว มักจะเป็นทางผ่านก่อนข้ามด่านสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย-ลาว เสมอ

“ท่าลี่” ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี ที่นอกจากจะมีสถานที่เที่ยวสำคัญๆ ภายในตัวอำเภอและบริเวณใกล้เคียงอย่าง สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ที่ข้ามลำน้ำเหือง บ้านนากะเซ็ง หรือบรรยากาศแบบขุนเขาและสายน้ำพรมแดนไทย-ลาวอย่าง “แก่งโตน” แล้ว อำเภอแห่งนี้ยังมีปูชณียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่าง “พระธาตุสัจจะ วัดลาดปู่ทรงธรรม” ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้อาถรรพณ์พระธาตุพนมที่เคยหักโค่นลงมาในอดีตให้ได้ สักการะด้วยเมื่อมาถึงผมตรงเข้าวัดลาดปู่ทรงธรรม เพื่อสักการะพระธาตุสัจจะก่อนจะทำสิ่งอื่นใด บันไดหัวพญานาคนำทางขึ้นสู่พระธาตุ เมื่อสุดทางบันไดศิลา องค์พระธาตุสัจจะตั้งเด่นเป็นสง่างดงาม

ลักษณะขององค์พระธาตุสัจจะ คล้ายกับพระธาตุพนม สูงราวๆ 30 เมตร ยอดสุดประดิษฐานด้วยเศวตฉัตร 7 ชั้น ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีฆ้องใหญ่ ให้ได้ตีเอาโชคเอาชัย ให้เทวดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาพระธาตุ อำนวยอวยชัยให้ผู้นั้นประสบแต่ความสุขความเจริญ
หลังจากสักการะพระธาตุ ผมเดินทอดน่องในเมืองท่าลี่ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวาย บ้านเรือนในตัวเมืองท่าลี่ยังคงเป็นทรงบ้านสไตล์เก่าอย่างเรือนไทยยกพื้น 2 ชั้น ตัวเรือนบ้านไม้ยังคงมีให้เห็นอยู่มาก วิถีการสัญจรไปมาของคนท่าลี่ก็ยังมีการนำรถไถนาต่อพ่วง เพื่อบรรทุกสิ่งของไปมาวิ่งสัญจรในถนนตามวิถีชีวิตชนบท แตกต่างกับวิธีเมืองอย่างถนัดตา
ที่นี่ยังมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันดีงาม หากใครผ่านมาท่าลี่ก็อย่าลืมแวะมาเก็บความทรงจำที่ดีๆ บรรยากาศแบบเดิมๆ ไว้ ไม่วุ่นวาย เป็นธรรมชาติแบบเดิมๆ ของคนไทยริมด่านชายแดนไทยลาว
ที่มา://travel.mthai.com/blog/79954.html