ดอกแค
......
ชื่อสามัญ Agasta, Sesban, Vegetable Humming bird,
Humming bird tree, Butterfly tree, Agati
ชื่อท้องถิ่น แคขาว แคแดง แคดอกขาว
ดอกแคแดง แคดอกแดง (กรุงเทพ-เชียงใหม่)
แค แคบ้าน ต้นแค แคบ้านดอกแดง ดอกแคบ้าน (ภาคกลาง)
แคแกง ถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
หรือ ในแถบเอเชีย ตอ.ต.
แค จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง
แตกกิ่งก้านสาขามาก ไม่เป็นระเบียบ
มีความสูงประมาณ 3-10 เมตร เนื้อไม้อ่อน
ที่เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลปนเทา เปลือกหนาและมีรอยขรุขระ
แตกเป็นสะเก็ด สามารถเจริญเติบโตได้ทั่วไปในเขตร้อนชื้น
แค เป็นพืชที่ปลูกง่าย สมัยก่อนชอบปลูกไว้ทำเป็นรั้วบ้าน
ปลูกตามคันนา หรือปลูกไว้ริมถนน
ส่วนใหญ่จะนำ ดอกแค มาทำอาหาร
แกงส้มดอกแค นอกจากจะอร่อยแล้ว
ยังมีประโยชน์ และมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย
ส่วนที่นิยมนำมาทานนั้น จะเป็นบริเวณยอดอ่อน ดอกอ่อน
ใบอ่อน และฝักอ่อนซึ่งจะออกในช่วงฤดูฝน
ส่วนดอกอ่อน จะออกในช่วงฤดูหนาว
ดอกแค 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานต่อร่างกาย
10 กิโลแคลอรี มีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส
เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง
และวิตามินซี
สรรพคุณช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
ห่างไกลโรคมะเร็ง มีดวงตาที่สุขภาพดี
และผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่น
ชะลอความแก่ชราได้อีกนาน
หากรับประทานดอกแคและยอดแคอย่างสม่ำเสมอ
ดอกแคและยอดแค เป็นผักที่มีคุณสมบัติ
ในการต่อต้านความชราได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะดอกแคและยอดแคมีสารอาหารที่มีส่วนสำคัญ
ในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ให้กับร่างกาย
ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี1 2 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน
แคลเซียม ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็ก
สารอาหารทั้งหมดนี้ มีคุณสมบัติในการชะลอความแก่
และทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย
ดอกแค ลักษณะของดอกคล้ายดอกถั่ว
ออกดอกเป็นช่อบริเวณซอกใบ 2-3 ดอก ดอกมีกลิ่นหอม
ดอกเป็นสีขาวหรือสีแดง มีก้านเกสรตัวผู้สีขาวอยู่ 60 อัน
กลีบเลี้ยงเป็นรูประฆังหรือรูปถ้วย
ดอกแค หากไม่ชอบรส ขม ให้เด็ดเกสรดอกแค
ที่อยู่ข้างในของดอก มีสีเหลืองออกเสียก่อน
จึงนำมาทำอาหาร โบราณว่ากินแกงส้มดอกแคแก้ไข้หัวลม
ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ