Group Blog
All Blog
### ดื่มน้ำมะพร้าว .ดื่มน้ำเต้าหู้ แล้วเกี่ยวอะไรกับประจำเดือน ###



ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วปวดประจำเดือน 

 ดื่มน้ำเต้าหู้แล้วไม่ปวดประจำเดือนจริงหรือ










ทั้งในน้ำมะพร้าว และ น้ำเต้าหู้ต่างก็มีส่วนประกอบ

หรือสารสำคัญ   ที่มีลักษณะโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมน

ในร่างกายมนุษย์ การดื่มน้ำมะพร้าวหรือน้ำเต้าหู้

มิได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอาการปวดประจำเดือน

ในสตรีเหมือนกันทุกคน

 บางคนดื่มน้ำมะพร้าวหรือน้ำเต้าหู้ในช่วงมีประจำเดือน

อาจมีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้นหรือน้อยลง

หรือบางคนอาจมีประจำเดือนขาดหายหรือมาน้อยกว่าปกติ

หรือมามากกว่าปกติได้ค่ะ

ในสภาวะปกติฮอร์โมน estrogen เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาท

ในการช่วยการเจริญเติบโตของเยื่อบุผนังมดลูก estrogen

 จะสูงสุดในช่วงก่อนการตกไข่เล็กน้อย 

หลังจากนั้นจะลดฮวบลง แล้วกลับค่อยๆสูงขึ้นและค่อยๆลดลง

ปริมาณ estrogen ที่ลดลงในช่วงท้ายของรอบเดือน

มีผลทำให้ผนังมดลูกฝ่อ

และหลุดลอกเป็นประจำเดือน ซึ่งอาการปวด

ก่อนช่วงมีประจำเดือน (Premenstrual syndrome) นั้น

ก็มีความสัมพันธ์กับการที่ระดับฮอร์โมนในร่างกาย

มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย

สำหรับในน้ำมะพร้าวอ่อน เชื่อว่ามีสาร phytoestrogen

 (สารสำคัญในพืชที่มีส่วนประกอบคล้าย estrogen)

มีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลองพบว่า

การป้อนน้ำมะพร้าวอ่อนให้กับหนูเมาส์ วันละ 3 ครั้ง

เป็นเวลา 7 วันพบว่า

มีผลทำให้น้ำหนักของมดลูกของหนูเพิ่มขึ้น

 แต่ผลนี้ไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ

 และยังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเซลล์เยื่อบุผิวชั้น

endometrium ของผนังมดลูกอีกด้วย

 แสดงให้เห็นว่า น้ำมะพร้าวอ่อนน่าจะมีฤทธิ์ agonist

กับ estrogen อยู่ด้วย

 และอีกหนึ่งการศึกษาที่ทำในหนูที่ตัดรังไข่

การศึกษานี้สรุปผลการศึกษาว่า

สารคล้ายฮอร์โมน estrogen ในน้ำมะพร้าวอ่อนมีฤทธิ์

antagonist effect

โดยแย่งจับกับ estrogen receptor

จากการศึกษาทั้งสองนี้อาจจะแสดงให้เห็นว่า

สารสำคัญในน้ำมะพร้าวอ่อนอาจมีฤทธิ์

ต่อการเปลี่ยนแปลงของผนังมดลูกได้บ้างค่ะ

สำหรับในน้ำเต้าหู้ ซึ่งทำมาจากถั่วเหลืองและมีสารสำคัญในถั่วเหลือง

ชื่อ Genistein เป็นสาร phytoestrogen เช่นกัน

จากผลการวิจัยที่มีอยู่มากมาย

 บางการศึกษาก็พบว่ามีฤทธิ์เป็น anti-estrogen โดยตัว Genistein

สามารถจับ (Block) กับ estrogen receptor ได้ดี

ในขณะที่บางการศึกษาก็พบว่าสามารถออกฤทธ์

agonist effect ได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประมาณและความเข้มข้นของ Genistein ที่รับเข้าไป

 รวมถึงสภาวะและความเข้มข้นของระดับ estrogen ที่มีอยู่ในร่างกายด้วย

ดังนั้นไม่ว่าจะมีผลในด้านกระตุ้นให้เพิ่มระดับหรือลดระดับ

การแสดงฤทธิ์ของเอสโตรเจนในร่างกาย

ก็อาจมีผลกระทบผลต่อการเปลี่ยนแปลง

ของการหนาตัวของมดลูกได้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการ

บีบตัวของมดลูกได้ด้วยเช่นกันค่ะ

จากข้อมูลของทั้งน้ำมะพร้าวและน้ำเต้าหู้ สรุปว่าทั้งสองอย่าง

อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย

แต่ไม่สามารถสรุปผลได้ว่าจะมีฤทธิ์ในทางเพิ่มหรือลดการบีบตัว

หรืออาการปวดประจำเดือนได้อย่างชัดเจนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก ภญ.พรยุพา ธัญภัทรกุล

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

#RamaChannel







Create Date : 13 มีนาคม 2557
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 13:11:13 น.
Counter : 2937 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ