Group Blog
All Blog
### ผลไม้เบอรี่ไทย..เปี่ยมด้วยคุณค่าต้านเซลล์มะเร็งได้ ###




ผลไม้พวกเบอร์ลี่ช่วยต้านมะเร็ง










ในปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยมากมายแสดงให้เห็นว่า

ผลไม้ในกลุ่มของเบอรี่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลาย

ไม่ว่าจะเป็น การลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

ดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งลำไส้

และมะเร็งเต้านม ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

และหลอดเลือด ลดความดันโลหิตในผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้เบอรี่ยังช่วยบำรุงสมองและความจำ

ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง

และที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากคือ เบอรี่สามารถต้านชราได้

ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า

เมื่อนึกถึงผลไม้ในกลุ่มเบอรี่ทั้งหลาย คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่ผลไม้

ที่มีชื่อลงท้ายด้วยเบอรี่ เช่น สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ เชอรี่

 ราสเบอรี่ แครนเบอรี่  แบล็กเบอรี่

โดยที่จะมองข้ามในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวของเรา 

ซึ่งในประเทศไทยก็มีผลไม้ในกลุ่มเบอรี่อยู่มากมาย

และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

โดยได้มีการนำมาศึกษาวิจัยทดลองให้ผลสนับสนุนแล้วว่า

มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าผลไม้กลุ่มเบอรี่ของต่างประเทศเลย

ผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มเบอรี่ที่เป็นผลไม้ไทย ก็ได้แก่ ลูกหว้า

เป็นผลไม้ที่เมื่อสุกจะมีผลสีม่วงเข้มจนถึงดำคล้ายองุ่น

รสชาติจะออกหวานและมีรสฝาดเล็กน้อย

นิยมนำมาทำแปรรูปเป็นน้ำลูกหว้า

เยลลี่ และแยม สารที่มีอยู่ในลูกหว้า

จะเป็น สารกลุ่มแอนโธไซยานิน (ไซยานิดิน)

กรดเอลลาจิก กรดเฟอรูลิก ซึ่งสารกลุ่มนี้จะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

ต้านฤทธิ์ของสารก่อมะเร็งโดยพบว่า สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้

 มะเร็งช่องปาก และมะเร็งเต้านมได้

ชนิดต่อมาคือ มะเกี๋ยง พบมากทางตอนเหนือของประเทศไทย

ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และน่าน

โดยผลจะคล้ายคลึงกันกับลูกหว้า แต่มีขนาดที่เล็กกว่า

และมีสีออกม่วงแดงส่วนรสออกเปรี้ยวมากกว่าลูกหว้า

จากการศึกษาพบว่า ผลของมะเกี๋ยง มีสารพฤกษเคมีที่สำคัญอยู่หลายตัว

เช่น สารประกอบฟีนอลิก ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ

มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มเบอรี่เช่นกัน ลักษณะเป็นผลสีเขียว

จัดเป็นหนึ่งในสมุนไพรพื้นบ้านที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน

รสชาติออกเปรี้ยวฝาด ๆ

 ตามตำราแพทย์พื้นบ้านจะนิยมนำมารักษาอาการไข้หวัด

 แก้เจ็บคอ ละลายเสมหะ

เมื่อศึกษาดูสารที่มีอยู่ในมะขามป้อมแล้วพบว่า

 มะขามป้อมมีปริมาณของวิตามินซีสูง

โดยในผลมะขามป้อม 1 ผลจะมีวิตามินซีมากกว่าส้ม 2 ลูก

และยังพบสารพฤกษเคมีอื่น เช่น สารกลุ่มแทนนิน เบนซินอยด์

 เทอร์ปีน  ฟลาโวนอยด์ อัลคาลอยด์ คูมาริน

ที่มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของร่างกาย 

สามารถช่วยลดการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย

นอกจากนี้ยังพบว่า การรับประทานมะขามป้อมเป็นประจำ

จะช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือแอลดีแอล

รวมถึง ไตรกลีเซอไรด์ จึงถือว่า

เป็นการป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 

และเมื่อไม่นานมานี้มีการศึกษาถึงแนวคิดว่า สารสกัดจากมะขามป้อม

จะช่วยลดการเกิดเซลล์มะเร็ง

โดยสามารถลดการเกิดเซลล์มะเร็งได้แล้วในสัตว์ทดลอง

ในส่วนของ ลูกหม่อน ปัจจุบันมีการนำเอาผลมาทำ

เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

โดยผลสุกของลูกหม่อนจะมีสีออกม่วงแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว

เมื่อเปรียบเทียบกับบลูเบอรี่ที่เป็นที่นิยมในเรื่อง

ของสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว

ลูกหม่อนของไทยหากเทียบในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน จะพบว่า

ลูกหม่อนมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าบลูเบอรี่ 2-3 เท่า

ซึ่งสารที่พบคือ สารในกลุ่มโพลีฟีนอล แอนโทไซยานิน และเรสเวอราทอล

สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มนี้จะช่วยลดความเสี่ยง

ต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็ง

“ลูกหม่อนเป็นผลไม้ที่มีกรดไขมันที่จำเป็น คือ โอลิอิกและไลโนลิอิก

ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ในระบบประสาท

และสมองช่วยให้ความจำดีขึ้น ยังมีการศึกษาว่า

สารสกัดจากลูกหม่อนช่วยควบคุมความหิวทำให้ช่วยควบคุมน้ำหนัก

อีกทั้งยังมีการนำเอาใบหม่อนมาทำเป็นชา โดยพบว่า

การดื่มชาใบหม่อนเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้”

ผลไม้ไทยชนิดต่อมา คือ มะยม เป็นผลไม้รสเปรี้ยว

นิยมนำมารับประทานโดยการนำมาทำตำมะยม

ใส่ในน้ำพริกเพื่อให้ออกรสเปรี้ยว

 และปัจจุบันนิยมนำมาทำเป็นแยมส่งออกต่างประเทศ

เพราะมะยมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง

เช่น สารในกลุ่มแทนนินที่ช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง

ช่วยลดการเกิดการอักเสบในร่างกาย

รวมทั้งมีใยอาหารสูงช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ

และลดการสะสมของของเสียในลำไส้

ทั้งนี้ เนื่องจากใยอาหารในมะยมมีทั้งชนิดที่ไม่ละลายน้ำ

และละลายน้ำ โดยใยอาหารที่ละลายน้ำ

จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลจึงช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ

และหลอดเลือด มีการใช้มะยมในผู้ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน

หลังจากได้รับประทานมะยมแล้วจะมีอาการดีขึ้น

ดร.ฉัตรภา กล่าวต่อว่า มะเม่าหรือหมากเม่า

 จัดเป็นผลไม้ไทยในตระกูลเบอรี่

ที่พบมากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นิยมนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ ทำไวน์

และแยม มะเม่านอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง

เหมือนกับผลไม้ในตระกูลเบอรี่ทั้งหลายแล้ว มะเม่ายังมีแร่ธาตุเหล็กสูง

ซึ่งทางตำรายาไทยจะใช้รักษาภาวะโลหิตจางและบำรุงเลือด

รวมไปถึง โทงเทงฝรั่งหรือเคพกูสเบอรี่ ผลไม้ขนาดเล็กสีเหลืองทอง

มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานมีกลิ่นหอมเฉพาะ

เป็นผลไม้ตระกูลเดียวกันกับมะเขือ โดยข้างในผล

จะมีเมล็ดเล็ก ๆ อยู่มากมาย สารอาหารสำคัญที่พบ คือ 

เบต้าแคโรทีนซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย

จึงช่วยในเรื่องการมองเห็น

ทำให้ผิวพรรณดี นอกจากนี้ยังมีสารกลุ่มไฟโตรสเตอรอล

ที่ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกาย

ส่งผลให้ลดระดับคอเลสเตอรอลส่วนเกิน

และบริเวณเปลือกของโทงเทงฝรั่ง

ยังมีใยอาหารประเภทเพคตินที่ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น

มาที่ เชอรี่ไทย ผลไม้สีแดงสด รสเปรี้ยว มีกลิ่นหอม

 ในหนึ่งลูกจะแบ่งออกเป็น 3 พู

นิยมนำมาแปรรูปเป็นไอศกรีม เชอร์เบท แยม สารที่มีอยู่ในเชอรี่ไทย คือ

สารในกลุ่มแอนโธไซยานินมีส่วนช่วยในการลดการอับเสบ

การเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ จากการศึกษาพบว่า

ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารกลุ่มแอนโธไซยานินเป็นประจำจะมีอารมณ์ดี

และรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ยังมีการใช้เชอรี่ไทยในผู้ที่มีอาการท้องผูก

เพื่อเป็นตัวที่ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี

ผลไม้เบอรี่ไทยอีกชนิดหนึ่งก็คือ ตะขบ เป็นต้นไม้ที่ขึ้นง่ายพบได้ทั่วไป

ในบริเวณทุกภาคของประเทศไทย

ตะขบถือว่าเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูงชนิดหนึ่ง

 โดยใน 100 กรัมหรือประมาณ 25 ผล จะมีใยอาหารมากกว่า 6 กรัม

ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน

สำหรับคนไทยอยู่ที่ 25 กรัม

การกินตะขบ 1 ถ้วยเท่ากับได้ปริมาณ 1 ใน 4 ของใยอาหารที่แนะนำแล้ว

“จากการศึกษาพบว่า ตะขบมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น

โพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส

นอกจากนี้ ตะขบจะมีสารที่ให้สีแดงคือสารไลโคปีน 

กรดเอลลาจิก แอนโธไซยานิน และกรดแกลลิก

ที่ช่วยทำให้ระบบการทำงานของต่อมลูกหมากดีขึ้น

ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด

รวมถึงปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม

 โดยเฉพาะช่วยดูแลหัวใจ

นอกจากนี้ แพทย์แผนไทยยังใช้ตะขบในการรักษาอาการไข้

 และเป็นยาบำรุงกำลังอีกด้วย”

หลังจากที่ได้รู้แล้วว่าประเทศไทยเรามีเบอรี่อยู่หลากหลายชนิด

และแต่ละชนิดล้วนมีคุณประโยชน์มากมาย

ดังนั้น การหันมารับประทานเบอรี่ไทย จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

สำหรับคนรักสุขภาพ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพดี

มีหัวใจที่ดี ในแบบวิถีไทยนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล

อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

#RamaChannel










Create Date : 15 มีนาคม 2557
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 14:01:58 น.
Counter : 2038 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ