Group Blog
All Blog
### ผลฟักข้าว ###















ผลฟักข้าว

....

สรรพคุณเด็ดมากมาย ผลอ่อน มีทั้งวิตามินซี

แคลเซียม เหล็ก ไฟเบอร์ แต่สารอาหารที่พบมาก

คือ เบต้าแคโรทีน โดยพบว่า

เยื่อเมล็ด มีปริมาณเบต้าแคโรทีนสูงกว่าแครอทถึง 10 เท่า

ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารตั้งต้นของวิตามิน C

ส่วนช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดี

และยังทำหน้าที่ เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

 รายงานการศึกษาของต่างประเทศ ยังพบด้วยว่า

 ในเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว สีแดงมี Lycopene

มากกว่ามะเขือเทศ ถึง 70 เท่า

แต่สำหรับฟักข้าวสายพันธุ์ไทย มีปริมาณ Lycopene

มากกว่ามะเขือเทศเพียง 12 เท่า

ซึ่งก็ถือว่ามากแล้ว


ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า Lycopene

จากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว เป็นสารต้านมะเร็ง

มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกาย

 มีส่วนช่วยลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

 โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร

"ฟักข้าว" คนนิยมนำผลอ่อน มาปรุงอาหาร

เพราะรสชาดอร่อยออกขมนิด ๆ แต่นุ่มลิ้น

เป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น เช่นเดียวกับพืชตระกูลแตง

การรับประทาน "ฟักข้าว"

จึงช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ด้วย

ซึ่งวิธีปรุงอาหารจาก "ฟักข้าว" ก็ไม่ยาก

แค่นำ "ฟักข้าว" มาลวก หรือต้มให้สุก

แล้วจิ้มกินกับน้ำพริก หรือใส่ในแกง

เช่น แกงเลียง แกงส้ม ก็ได้เมนูอร่อยเด็ด

" ฟักข้าว " เป็นพืชไม้เลื้อย อยู่ในวงศ์แตงกวาและมะระ

 มีชื่อสามัญว่า Spring Bitter Cucumber

เป็นพืชที่ขึ้นตามรั้วบ้าน หรือตามต้นไม้ต่าง ๆ

 มีมือเกาะคล้ายกับตำลึง ใบเป็นรูปหัวใจคล้ายใบโพธิ์

 ขอบใบหยักเว้าลึก เป็นแฉก 3-5 แฉก

ดอกจะมีสีขาวแกมเหลือง ตรงกลางมีสีน้ำตาลแกมม่วง

ผลของฟักข้าว 2 ลักษณะ คือ ทรงกลม และทรงรี

ผลกลม ๆ จะยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร

ส่วนผลรี จะยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร

ถ้ายังเป็นผลอ่อนอยู่ ผลจะมีสีเขียวอมเหลือง

 มีหนามถี่ ๆ อยู่รอบผล แต่เมื่อสุกแล้ว ผลจะมีสีแดง

 หรือแดงอมส้ม และหากผ่าผลฟักข้าวออกดูข้างใน

 ก็จะเห็นเมล็ดจำนวนมาก เรียงตัวกันคล้ายเมล็ดแตง

 แต่ละผลหนักประมาณ 0.5-2 กิโลกรัม

ชื่อที่เรียกกันในท้องถิ่น ปัตตานี เรียก "ขี้กาเครือ"

 ตาก เรียกว่า "ผักข้าว" แพร่ เรียก "มะข้าว"

นอกจากในประเทศไทยแล้ว

พบ "ฟักข้าว" ในอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย

ซึ่งแต่ละประเทศก็รู้จักสรรพคุณของ "ฟักข้าว" เป็นอย่างดี

 และนำ "ฟักข้าว" มาใช้ประโยชน์ต่าง ๆ กัน อย่างเช่น

จีน นิยมนำเมล็ดแก่ของฟักข้าว มาบดให้แห้ง

 นำไปผสมน้ำมัน หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย

 แล้วทาผิวหนัง บริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม

จะช่วยรักษาอาการบวมได้

นอกจากนั้น ยังช่วยรักษาโรคกลาก เกลื้อน ฟกช้ำ

แก้อาการผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ด้วย

เวียดนาม นำฟักข้าวมาปรุงอาหาร ในเทศกาลปีใหม่

และงานมงคลสมรส

โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮานอย พบว่า

น้ำมันจากเยื่อเมล็ดฟักข้าว

มีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งตับ

ฟิลิปปินส์ นำรากฟักข้าวมาบด แล้วนำไปหมักผม

 เพื่อช่วยให้ผมดก และยังสามารถกำจัดเหาได้ด้วย

 ชาวล้านนาของไทย มีการนำฟักข้าวไปสระผมเช่นกัน

เพื่อช่วยแก้อาการคันศีรษะ แก้รังแค แก้ผมร่วง

 และช่วยให้ผมดกดำขึ้น

ญี่ปุ่น มีการวิจัยพบว่า โปรตีนจากสารสกัดน้ำของผลฟักข้าว

ช่วยยับยั้งการเจริญ ของก้อนมะเร็งลำไส้ใหญ่

มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ในเมล็ดฟักข้าว มีโปรตีน

ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญ ของเชื้อ HIV

และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ด้วย
























ขอบคุณที่มา fb. Siriwanna Jill

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ




Create Date : 09 พฤษภาคม 2558
Last Update : 13 พฤษภาคม 2558 13:16:55 น.
Counter : 1955 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ