ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง
ที่ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่รู้จักกันดี
ในอดีตที่ผ่านมา หลายประเทศก็รู้จัก
ใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย
มานานหลายศตวรรษแล้ว อย่างเช่นโรมัน ตูนิเซีย กรีซ อินเดีย
หรืออย่างประเทศจีนก็มีรายงานการใช้ว่านหางจระเข้
ในการทำเป็นยาเช่นกัน แต่รายงานที่เป็นหลักฐานเก่าแก่ที่สุด
เห็นจะเป็นของชาวอียิปต์ได้กล่าวถึงสรรพคุณไว้อย่างมากมาย
เป็นที่ทราบกันดีครับว่าสรรพคุณของวุ้นว่านหางจระเข้นั้น
เป็นยาฆ่าเชื้อ ฝาดสมานแผล ห้ามเลือด
ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต
ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
ในปัจจุบันประเทศสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรีย
ได้ทดลองพบว่า ว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้รักษาแผลธรรมดา
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลที่เกิดจากการฉายรังสี
ลดอาการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค ป้องกันผิวไหม้เพราะแดด
บำรุงผิวหน้า กำจัดฝ้า ยาระบาย แก้ไอ เจ็บคอ รักษามะเร็ง
แก้พิษแมงกะพรุน ช่วยประสานกระดูก
รักษาโรคตับและรักษาสมองผิดปกติ
ด้วยสรรพคุณที่มากมายนี้เอง
"ว่านหางจระเข้" จึงถูกขนานนามว่า
"สมุนไพรมหัศจรรย์จากธรรมชาติ"
สารสำคัญที่ช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็ว
และยังช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
ทางบาดแผลได้อีกด้วย คือ
"สารโพลียูโรไนด์และโพลีแซคคาไรด์"
กระบวนการผลิตที่ดี (GMP) เท่านั้น
ที่จะคงตัวยาเหล่านี้ไว้ได้ ในประเทศไทย
ศาสตราจารย์นายแพทย์วิวัฒน์ วิสุทธิโกศล และคณะ
แห่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วย บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
จำนวน ๑๓ ราย ที่มีบาดแผลไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒
เมื่อได้ทาว่านหางจระเข้และตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์
พบว่าแผลหายเร็วกว่าการทายาชนิดอื่น
นอกจากนี้ยังมีส่วนทำให้แผลสะอาด
และกระตุ้นเนื้อเยื่อที่เสียให้เจริญเติบโตขึ้นใหม่ได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม บาดแผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
และใช้ว่านหางจระเข้นั้นจะต้องเป็นบาดแผลไหม้ไม่เกินระดับ ๒
ซึ่งแผลไหม้แบ่งได้เป็น ๔ ระดับ คือ
ระดับที่ ๑ ผิวหนังไม่แตก
ระดับที่ ๒ มีตุ่มพองและหนังแตก
ระดับที่ ๓ ผิวหนังทุกชั้นถูกทำลายและเป็นแผลเปิด
ระดับที่ ๔ ผิวหนังมีรอยไหม้ดำ
ดังนั้น ว่านหางจระเข้จึงเป็นสมุนไพร มหัศจรรย์
ที่ช่วยรักษาบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
แผลที่เกิดจากการฉายรังสีได้ดี
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในลักษณะ ของเครื่องสำอางได้ด้วย
คือป้องกันผิวไหม้เพราะแดดและบำรุงผิว
จึงมีคุณประโยชน์มากกว่ายาแผนปัจจุบันทั่วไป
ด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และการควบคุมคุณภาพ
ในปัจจุบันจึงมีผู้ผลิตที่สามารถผลิตว่านหางจระเข้
เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปของ "เจล" ได้เป็นผลสำเร็จ
เป็นรายแรกในประเทศไทย
และประกอบด้วยวุ้นว่านหางจระเข้เข้มข้นถึงร้อยละ ๘๗.๔๐
เนื้อเจลคงตัวนานและปราศจากการปนเปื้อนจุลินทรีย์
จำหน่ายในราคาย่อมเยา เหมาะที่จะเป็นยาประจำบ้านของคุณจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารหมอชาวบ้าน
โดย ภก.สุดเหมือนฝัน ธนธัญญา
และ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิวัฒน์ วิสุทธิโกศล
และคณะ แห่งคณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี
#RamaChannel