กระดังงาไทย ควงคู่มากับ นนทรี มาดูกันว่า ใครจะน่าประทับใจกว่ากัน
กระดังงาไทย ควงคู่มากับ นนทรี มาดูกันว่า ใครจะน่าประทับใจกว่ากัน
กระดังงาไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lam.) Hook.f. &Thomson var. odorata ชื่อวงศ์ : Annonaceae ชื่อสามัญ : Ylang-ylang tree ชื่อพื้นเมือง : กระดังงา กระดังงาใบใหญ่ กระดังงาใหญ่ สะบันงา สะบันงาต้น ลักษณะทั่วไป (Characteristic) : ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปสามเหลี่ยม กิ่งแตก ตั้งฉากกับลำต้น แต่ปลายกิ่งลู่ลง เปลือกเรียบสีเทา มีรอยแผลใบกระจายทั่วไป ใบ(Foliage) : ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปรีหรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน กว้าง 4-8 เซนติเมตร ยาว 9-20 เซนติ- เมตร ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือเบี้ยว ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่น ใบแก่มีขนตามเส้นแขนงใบ และเส้นกลางใบ เส้นแขนงใบข้างละ 5-9 เส้น ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ดอก (Flower) : สีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกรวมกันเป็นช่อ แบบช่อซี่ร่มบนกิ่งเหนือรอยแผลใบ ช่อดอกห้อยลงมี 3-6 ดอก ก้านช่อดอกยาว 0.5-1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 3 กลีบ มีขน กลีบดอกเรียงเป็น 2 ชั้นๆละ 3 กลีบ ดอกใหญ่ ยาว 5-9 เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง 4-5 เซนติเมตร ผล (Fruit) : ผลสดเป็นกลุ่ม อยู่บนแกนตุ้มกลม 4-15 ผล ทรงไข่ กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-2.5 เซนติเมตร สีเขียวคล้ำเกือบดำ เมล็ดรูปไข่แบนสีน้ำตาลอ่อน กว้าง 5 มิลลิเมตร ยาว 6 มิลลิเมตร ระยะการเป็นดอก-ผล : มีดอกและผลเกือบตลอดปี นิเวศวิทยา : ป่าดิบแล้งทางภาคใต้ นิยมปลูกประดับทั่วไป การใช้งานด้านภูมิทัศน์ (Landscape Used):เจริญเติบโตเร็ว รูปทรงสามเหลี่ยมใช้บังสายตาหรือเป็นฉากกั้นบังวิวได้ ดอกหอมแรง ควรปลูกห่างตัวบ้าน 4-5 เมตร ประโยชน์ : เป็นสมุนไพร แก้ลม บำรุงเลือด ยาขับปัสสาวะ
[ขอบคุณข้อมูลจาก **ไม้ป่ายืนต้นของไทย**]
************
เคยนำต้นที่บ้านป่าของเรามาเข้าหมู่กระดังงาและสายหยุดไปครั้งหนึ่งแล้ว ช่วงนี้ กำลังมีดอกประชันกับนนทรีซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่า ใครจะน่าสนใจกว่ากัน
กระดังงาไทยของเราเป็นต้นเพาะเมล็ด แต่ความที่เป็นไม้โตเร็ว ปลูกมาสิบกว่าปี ก็ได้ต้นสูงใหญ่มาก โคนต้น คนเดียวโอบไม่รอบแล้ว จะสังเกตว่า ต้นไม้ บ้านป่าเบียดเสียดกันพอสมควร ถ่ายภาพเดี่ยวๆ ไม่ค่อยได้ แต่ต้นนี้ ยืนต้นสูงกว่าเพื่อน เลยดูสง่างามพอสมควร
ที่พามาอวดช่วงนี้ก็เพราะกำลังมีดอกเต็มต้น ปกติก็ออกทั้งปีแต่ไม่มากเท่าช่วงนี้
เพราะต้นสูงสุดกำลังคุณป๊อกแป๊กของผม ก็เลยได้ภาพมาตามนี้
เมล็ดนี้เป็นที่โปรดปรานของนกเงือกประเภทนกแก๊ก พอถึงเวลาก็จะแห่มากินเป็นฝูง บางครั้งถึงสิบตัว ส่งเสียงดังมากๆ ถ้ามาแต่เช้ามืดก็เป็นอันไม่ได้นอนแช่อยู่ใน เตียงทั้งที่อากาศน่าแช่เป็นที่สุด
กลิ่นหอมในยามค่ำขจรขจายจนเพื่อนบ้านเล่าว่า เวลามีแขกมาค้างด้วยต้องถาม กันทุกคนเลยว่า หอมอะไร เป็นที่เลื่องลือพอดู
เรื่องราวของกระดังงาในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ ตามไปชมต้นต่อไปครับ
นนทรี
ชื่ออื่นๆ : กระถินแดง, กระถินป่า, สารเงิน ชื่อสามัญ: Copper Pod, Yellow Flame ชื่อวิทยาศาสตร์: PELTOPHORUM PTEROCARPUM (Dc.)K.HEYNE วงศ์: CAESALPINIACEAE ถิ่นกำเนิด: ตามป่าเบญจพรรณ หรือชายหาด ลักษณะทั่วไป: ไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง เปลือกลำต้นแตกเป็นสะเก็ด ใบเป็นใบประกบ ใบย่อยมีขนาดเล็ก รูปมน ขอบใบขนาน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ตามกิ่งหรือปลายยอด ดอกมีสีเหลือง ฤดูการออกดอก: ออกดอกช่วงเดือนมี.ค. มิ.ย. การขยายพันธุ์: การเพาะเมล็ด หรือ ปักชำ ข้อดีของพันธุ์ไม้: เปลือกต้นนนทรีนั้น เมื่อนำไปต้มแล้วจะให้สีน้ำตาลเหลือง ใช้ในการ ย้อมผ้าฝ้ายบาติกในเกาะชวา อินโดนีเซีย นอกจากนี้เปลือกนนทรี ยังมีขายกันในร้านสมุนไพรในเกาะชวาด้วย เพราะเป็นแหล่งที่มาของแทนนิน ใช้รักษาโรคท้องร่วง หรือนำไปเคี่ยวเข้าน้ำมัน นวดแก้ตะคริว กล้ามเนื้ออักเสบ ปลูกเป็นไม้ประดับ ลำต้นไม้ ใช้ทำสิ่งก่อสร้าง เรื่องเรือน เปลือก มีรสรับประทานเป็นยากล่อมเสมหะ แก้โรคท้องร่วง เป็นยาขับลมปลูกเป็นไม้ประดับ ข้อแนะนำ : ต้นนนทรี เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุยืน กิ่งก้านใช้ทำเชื้อฟืนได้ดี แต่ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจโดยตรงอาจจะไม่มากนัก เป็นต้นไม้ที่ขึ้นเจริญใน สภาพดินทุกชนิด แต่ชอบกลางแจ้ง และต้องการความชื้นปานกลาง ข้อมูลอื่นๆ : ต้นนนทรีนิยมนำมาปลูกประดับในสวน หรือตามริมถนนสายใหญ่ ให้ทั้งร่มเงาและสีสันดอกสวยงาม เพราะมีระบบรากหยั่งลึกตรง ไม่ค่อยมีปัญหา กับฟุตบาธหรือถนน แต่นนทรีเป็นไม้กิ่งเปราะ ไม่ค่อยต้านทานลมแรง ช่วงหน้าฝนลมแรงอาจมีกิ่งหักลงได้ ไม่ควรปลูกใกล้อาคาร หรือผูกเปลโหนชิงช้า
[ขอบคุณข้อมูลจาก **พันธุ์ไม้ อุตสาหกรรมรวมใจภักดิ์ ปลูกต้นไม้ฟื้นผืนดิน**]
*************
ช่วงเดือนที่ผ่านมาก็เป็นเวลาของนนทรีเช่นกัน สวยสดใสด้วยดอกสีเหลืองทอง หอมหรือไม่ผมไม่ทราบนะครับ แต่แมลงผึ้งตอมกันเป็นร้อยๆ เวลาเข้าไปถ่ายภาพ ใกล้ๆ ต้องทำตัวดีๆ ให้มากเลย เพราะถ้าโดนเค้ารุม ไม่ตายก็ไม่โตล่ะครับ (หึหึ ยังคิดว่าจะโตอีกนิ หนูหล่อ)
ว่าแล้วก็นำขบวนพาเรดนนทรีเข้ามาเลย
แล้วก็ถึงกาลร่วงโรย อีกช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ภาพต่อไปนี้เพิ่งเริ่มร่วง
ภาพสุดท้ายนี้แทบไม่มีใครอยากกวาดทิ้งเลยครับ ประทับใจกันสุดสุด แต่เราก็จะได้เห็นเช่นนี้อีกในปีต่อๆไป ซึ่งอาจจะน่าประทับใจกว่านี้ เพราะต้นยิ่งใหญ่ก็จะให้ดอกมากยิ่งขึ้น
หากจะถามผมว่า แล้วผมประทับใจต้นไหนมากที่สุด ก็ยากจะตอบครับ กระดังงา ให้ต้นที่สง่างาม แม้ดอกไม่ให้สีสดใสเท่าใด แต่ก็ให้กลิ่นหอมทุกค่ำคืน ส่วน นนทรีนั้นก็คล้ายกันตรงที่ต้นสวยสง่าเช่นกัน แต่สีดอกเตะตาอย่างแรง ไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นหอม แต่เกสรล่อแมลงผึ้งมาก เวลาบานเต็มต้น อย่าไปใกล้ๆ น่าจะปลอดภัย แล้วเมื่อดอกโรยก็จากไปอย่าง dramatic และ classic มากจริงๆ
เพื่อนๆ ล่ะครับ ชอบต้นไหน
Create Date : 24 มิถุนายน 2556 |
|
80 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2556 14:14:47 น. |
Counter : 9188 Pageviews. |
|
|
|
พรมสีเหลือง สวยหยดย้อยค่ะพี่
แปะ มาก่อนค่ะ