วิธีฝึกให้เด็กมีความสุข
ความสุขที่แท้จริงย่อมเกิดขึ้นที่ใจ การให้จึงเป็นวิธีที่ทำให้เกิดสุขที่ง่ายที่สุด คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกเด็กรู้จัก การให้ตั้งแต่ที่บ้าน โดยทั้ง 2 ลองให้อาหาร หรือขนมแก่เด็กน้อยดู แล้วเราลองให้คุณหันกลับ โดยที่คุณแสดงท่าดีอกดีใจอย่างมาก ทำให้เขารู้สึกว่าการกระทำของเขาก่อนให้เกิดความสุขแก่ทั้งตัวคุณ และสามี
เมื่อนั้นเขาจะรู้สึกเป็นสุขเช่นกันที่เห็นคุณทั้งสอง ยิ้มแย้ม ส่งเสริมให้คุณหยิบยื่นสิ่งของ อาหาร หรือขนมที่เขาชอบ ให้แก่พี่ ๆ น้อง ๆ หรือเครือญาติ เด็กน้อยจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่าการให้นั้นทำให้ทั้งเขา และผู้รับเป็นสุขอย่างยิ่ง ท้ายสุดเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขทางใจได้
★ เมื่อลูกแพ้อาหาร ทุกครั้งที่ลูกรักมีตุ่มแดง ๆ ขึ้นข้างแก้ม หากมีการระคายเคืองในลำคอ ควรสงสัยว่ามีอาการแพ้อาหารเกิดขึ้น อาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะคุณอาจให้อาหารเสริม หรืออาหารบางชนิดเร็วจนเกินไป ระบบดูดซึมอาหารของเขา ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ เมื่อร่างกายดูดซึมโปรตีนบางชนิดเข้าไป ร่างกายจะสร้างระบบต่อต้านโปรตีนชนิดนั้น ๆ ขึ้น
อาหารประเภทนี้ ได้แก่ โปรตีนจากนมวัว หรือในไข่ขาว เมื่อเด็กรับประทานอาหารซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะเกิดอาการดังกล่าว ยากที่จะหาย หากระบุไม่ได้ว่าเป็นอาหารชนิดไหนในหมู่เมนูอาหารชั้นยอด ให้ลอง ทานอาหารทีละอย่างติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเมื่อรู้ว่าเป็นอาหารรับประทานอาหารประเภทใดก็ควร ให้หยุดทันที หรือเริ่มให้หลังจากที่เขาโตราว ๆ อายุ 1 ปี ในกรณีที่มีอาการรุนแรงให้ปรึกษากุมารแพทย์โดยด่วน
★ หนูท้องผูกอีกแล้ว วิธีง่าย ๆ เพื่อแก้อาการท้องผูกให้ลูกน้อย ก็คือควรฝึกให้เขาได้ทานผักผลไม้ เพื่อให้ได้ใยอาหารอยู่เป็นประจำ ผลไม้ ปรเภท ฝรั่ง มังคุด ผักบุ้ง ผักคะน้า ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ให้ประโยชน์ และช่วยระบบชับถ่ายด้วยกันทั้งสิ้น หรือคุณแม่ต้องต้มน้ำมะขามให้เขาทานวันละ 2-3 ครั้ง หรือละลายน้ำผึ้งลงในน้ำต้มสุกวันละนิด อาการท้องผูกก็จะถ่ายได้ ในส่วนผสมของการผมนมได้ให้สัดส่วนพอดี ไม่เจือจางเกินไป ก็สามารถบรรเทา อาการท้องผูกได้เช่นกัน
★ ผมอยากดื่มนมเปรี้ยวแทนนมสด เด็กในวัยที่กำลังเจริญเติบโต ไม่ควรได้รับการสนับสนุนให้ดื่มนมรสเปรี้ยวแทนนมสด เพราะในนมเปรี้ยวมี เปอร์เซ็นต์ของน้ำผลไม้มากกว่านมสด และมีปริมาณน้ำตาลสูง สามารถทำให้ตัวเด็กมีน้ำหนักตัวที่มากเกินความพอดี และเกิดโรคอ้วนได้ง่าย
★ ดูแล ฟ.ฟัน ชุดแรกของลูกวัยซน ฟ.ฟัน นั้นมีความสำคัญอย่างไร คุณแม่ทุกท่านคงทราบกันดี แต่ปัญหาก็คือคุณแม่มักมองข้ามความสำคัญไป อย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะในฟันของเด็ก ทั้งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ฟันที่จะดีได้ก็ต้องเริ่มจากกรวางรากฐาน ในช่องปาก หากไม่มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง จะมีผลทำให้เด็กมีฟันที่ไม่สวยอย่างที่ควรจะเป็น หรืออาจทำให้ถึงขั้นฟันผุ ฟันเสียก็เป็นได้
โดยปกติแล้วเราจะมีฟันขึ้นตั้งแต่ตอนที่อายุ 4 เดือนที่อยู่ในท้องแม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีฟันโผล่ออกมาให้เห็น อย่างชัดเจน ฟันน้ำนมจะขึ้นมาทีละซี่จนเต็มปาก สำหรับประโยชน์ของฟันนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยงาม แล้ว ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการเจริญของกระดูกขากรรไกรและกล้ามเนื้อ ช่วยให้เด็กพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ และฟันน้ำนมยังช่วยให้ฟันแท้ขึ้นมาใหม่ ขึ้นมาในแนวทาง ที่ถูกต้องอีกด้วยค่ะ
★ ควรพาลูกไปพบหมอฟันเมื่อไร เมื่อ ฟันน้ำนมซี่แรกของลูกขึ้น หรือเมื่อมีคุณพ่อแม่ต้องการไปหาหมอฟันก็อาจจะพา ลูกไปด้วยก็ได้ เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับหมอฟัน และจะไม่กลัวหมอฟัน เวลาที่จะต้องไปพบกับหมอฟันจริง ๆ และควรขอคำแนะนำในการดูแล รักษาฟัน การทำความสะอาดฟัน การแปรงฟันที่ถูกวิธี หรืออาจจะเป็นคำขอปรึกษาว่าจำเป็นต้องรับประทาน ฟลูออไรด์เสริมหรือไม่
★ รู้จักอายุขัยของฟันแต่ละวัย อายุ: 6-8 เดือน ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันหน้าซี่กลางล่าง ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 7 ปี
อายุ: 9-13 เดือน ฟันขึ้นครั้งแรก: มีฟันหน้าซี่ข้าง ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 8 ปี
อายุ: 12-15 เดือน ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันกรามซี่ที่ 1 ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 10 ปี
อายุ: 16-18 เดือน ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันเขี้ยว ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 11 ปี
อายุ: 20-30 เดือน ฟันขึ้นครั้งแรก: ฟันกล้ามซี่ที่ 2 ฟันหลุดครั้งแรก: อายุประมาณ 11 ปี
ข้อมูลจาก บันทึกคุณแม่ ที่มา : //women.sanook.com
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 25 มกราคม 2553 |
Last Update : 25 มกราคม 2553 20:51:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 681 Pageviews. |
|
|
|
|
|