Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
9 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
จะสร้างวินัย ให้ลูกยอมรับได้อย่างไร

 แม่และเด็ก,สร้างวินัยให้ลูก

ทิพวรรณ หงุดหงิดมาก
เมื่อเห็นน้องส้ม ลูกชายวัย 8 ขวบ ของเธอนั่งเพลิดเพลินอยู่กับ รายการการ์ตูนทางโทรทัศน์
ทั้งๆ ที่เธอได้เคยห้ามแล้ว ว่าต้องทำการบ้านให้เสร็จเสียก่อน
จึงจะดูโทรทัศน์ได้ แต่น้องส้มก็ดูเหมือนจะไม่เคยทำตามคำสั่งของเธอแต่อย่างใด


ทวีศักดิ์ รู้สึกโกรธจนบอกไม่ถูกเมื่อได้ทราบว่า รอน ลูกชายวัยรุ่น แอบขโมยกุญแจรถของเขา
นำรถไปขับอวดเพื่อนสาว ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใบขับขี่ และเขาก็ได้เคยสั่งห้ามการกระทำเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

ท่านที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย คงเคยมีปัญหามาบ้างไม่มากก็น้อยในเรื่องของการสร้างวินัยให้ลูก
ไม่ว่าจะเป็นเด็กอายุ 3 ขวบ ไปจนกระทั่งถึงวัยรุ่น

ทำอย่างไร จึงจะให้ลูกยอมรับในกฎเกณฑ์ทางวินัยของพ่อแม่


ในการที่จะให้ลูกยอมรับในกฎหรือวินัยของบ้านนั้น วินัยทุกข้อต้องมีลักษณะ 3 ประการต่อไปนี้คือ
1. ต้องสมเหตุสมผล
2. ต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ
3. ต้องบังคับได้ คือพ่อแม่ต้องทำจริง

จะขอกล่ารายละเอียดในแต่ละข้อ คือ

กฎต้องสมเหตุผล
หมายความว่า สิ่งที่คุณอยากให้เขาทำนั้น ควรเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ จำเป็น และเป็นเรื่องที่เด็กทำได้ ในอายุของเขา
ยกตัวอย่างเช่น การที่คุณขอร้องให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนช่วยกันรักษาบ้าน ให้สะอาดสะอ้าน
อย่าทิ้งข้าวของเกลื่อนกลาด หรือเมื่อใช้อะไรแล้วให้เก็บเข้าที่เดิม เช่น
สอนให้ลูกวัย 5 ขวบ เก็บของเล่นของเขาเข้าที่แทนการทิ้งไว้เกลื่อนกลาด การขอร้องเช่นนี้ดูสมเหตุสมผล
และเป็นไปได้ แต่ไม่ควรให้ลูกวัย 3 ขวบ มาช่วยคุณล้างจานหรือกวาดบ้าน เพราะเขายังไม่สามารถทำได้

บางครอบครัว เราจะได้ยินคุณแม่พูดว่าต้องเคี่ยวเข็ญให้ลูกกินข้าว บางครั้งกว่าลูกจะกินหมด ก็เป็นชั่วโมง
เหนื่อยทั้งคุณและพี่เลี้ยงที่จะต้องคอยวิ่งตามป้อนข้าวเด็ก
จริงๆ แล้วเรื่องการกินข้าวนี้ ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่หนักใจของคุณพ่อคุณแม่เลย
ถ้าเราจะคิดตามกฎธรรมชาติง่ายๆ ว่า ถ้าเด็กไม่กิน เด็กก็จะหิวเอง แทนการวิ่งตามอ้อนวอนให้เด็กกินข้าว
คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำหนดเวลากินข้าวของบ้าน ให้แก่ลูกทุกคน
เมื่อถึงเวลา ถ้าใครไม่กินตามเวลา เขาก็จะไม่สามารถกินนอกเวลาได้


เด็กๆ อาจจะอยาก "ลองดี" (ดูว่าคุณพ่อคุณแม่จะเอาจริงหรือไม่)
ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากฝึกวินัยให้ลูก ก็จะต้องเอาจริง อย่าใจอ่อน
และถ้าเด็กรู้ว่าพ่อแม่ของเขาพูดจริง ทำจริง เขาจะไม่อยาก "ลองของ" กับคุณอีกเลย
คุณก็จะไม่ต้องเหนื่อยและคนใช้ก็จะได้มีเวลาทำสิ่งอื่นมากกว่ามานั่งไล่ป้อนข้าวให้ลูกคุณ


กฎต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ
ต้องแน่ใจว่ากฎที่คุณตั้งขึ้นให้แก่ลูกทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ชัดเจน
อย่าให้มีข้อสงสัย หรือโต้เถียงจากลูกได้ เช่น อย่าพูดว่า "ทำตัวให้ดีๆ หน่อย"
คำว่า "ดีๆ" เป็นคำที่มีความหมายไม่ชัดเจน ฟังดูคลุมเครือ คุณควรจะให้ลูกรู้ได้ทันทีว่า
เขาต้องมีพฤติกรรมอะไรที่คุณต้องการ เช่น แทนการพูดให้เขาทำตัวให้ดีๆ คุณอาจพูดใหม่ว่า
"เวลาแม่พาลูกไปข้างนอกให้ลูกอยู่ใกล้ๆ แม่ อย่าวิ่งซน อย่าหาเรื่องทะเลาะกันเอง"
หรืออย่าพูดกับลูกว่า "ไปเที่ยวได้ แต่อย่ากลับให้ดึกนัก" คำพูดนี้เป็นคำพูดคลุมเครือไม่ชัดเจน
เพราะว่า " ดึกของคุณและของเขาอาจไม่ตรงกัน"

ดังนั้น เมื่อคิดจะสร้างกฎเพื่อให้เขามีวินัย กฎของคุณต้องชัดเจน และไม่มีข้อที่จะโต้แย้งได้


กฎต้องบังคับได้
ไม่มีประโยชน์ที่จะตั้งกฎเกณฑ์อะไรที่คุณก็รู้อยู่ว่าใช้บังคับกับเขาไม่ได้ เช่น
คุณไม่สามารพบอกลูกสาววัยรุ่นของคุณได้ว่า "ไม่ให้เธอคบเพื่อนชาย" เพราะธรรมชาติของเด็กวัยนี้
ย่อมต้องมีเพื่อนทั้งหญิงและชาย การห้ามของคุณเป็นการห้ามที่ผิดธรรมชาติ คุณตามไปควบคุม บังคับเธอไม่ได้
เป็นกฎที่ไม่สมเหตุผลเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนเคยรู้จักเด็กวัยรุ่นที่ถูกคุณแม่ห้ามเธอเช่นนี้
ทำให้เธอไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนผู้ชายได้เลย และในที่สุดเธอต้องไปพึ่งเด็กผู้หญิงที่มาใกล้ชิด
และต้องกลายไปมีความสัมพันธ์ลักษณะของ ทอม-ดี้ กับเพื่อนหญิงด้วยกันในที่สุด

ทางที่ถูก ถ้าคุณห่วงลูกสาวของคุณ คุณก็ควรที่จะทำตัวเป็นที่ปรึกษาแนะแนวทางให้เธอ
เมื่อเธอมีปัญหากับการคบเพื่อนต่างเพศ เธอก็จะมาคุยกับคุณ และคุณก็จะช่วยชี้แนวทางที่ถูกให้
เพราะเด็กวัยรุ่นทุกคนไม่ต้องการให้พ่อแม่ทอดทิ้งเขา หรือบังคับด้วยกฎเกณฑ์ที่ไร้เหตุผล
คุณจึงน่าที่จะเล่นบทของที่ปรึกษามากกว่าการเป็นตำรวจคอยตามจับ "ผู้ร้าย"
เพราะว่า ธรรมชาติของวัยรุ่นเขามักจะติดเพื่อน และถ้ากลุ่มเพื่อนทำสิ่งใดกันเขาก็มักจะทำตามๆ กัน
เพราะเขาจะได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม


ถ้าคุณเห็นลูกชายริอ่านสูบบุหรี่ ก็ไม่ต้องโกรธจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายเขา
การห้ามไม่ให้เขา สูบบุหรี่เป็นกฎที่ปฏิบัติได้ยาก เพราะคุณไม่สามารถตามไปควบคุมดูแลเขาได้ทุกฝีก้าว
แต่คุณอาจจะบอกเขาได้ว่า คุณไม่ชอบให้เขาทำ และคุณไม่ต้องการเห็นพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นในบ้าน
บอกลูกถึงผลดีผลเสียโดยไม่ใช้อารมณ์ และพยายามเข้าใจเขาด้วยว่า
บางครั้งวัยรุ่นก็อาจจะชอบ "ลองของ" กับสิ่งแปลกและใหม่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเพื่อนในกลุ่มทุกคนเคยทำกันแล้ว
การอยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อน ก็อาจเป็นเหตุให้เขาต้องทำพฤติกรรมอะไรแปลกๆ ไปบ้าง
ถ้าเขาโชคดีมีพ่อแม่ที่เข้าใจคอยเป็นเข็มทิศ นำทางชีวิตให้เขา ก็จะทำให้เขาผ่านพ้นวิกฤติช่วงนี้ไปได้


อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณสร้างกฎหรือวินัยอะไรในบ้าน
พยายามอย่าเข้าไปอยู่ในสภาวะของการประลองอำนาจ ระหว่างตัวคุณและลูก
ทุกครั้งที่คุณใช้คำพูดประเภท "ขอห้ามเด็ดขาด…" "ถ้าแกลองทำละก็ เป็นได้เห็นดีกัน…" ฯลฯ
คำพูดประเภทนี้เป็นคำพูดของการแสดงพลังจากตัวคุณ ซึ่งผลก็คือ
อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ในทางลบจากลูกโดยไม่จำเป็นและเมื่อถึงวาระนั้น
จะไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ชนะเลย จะมีก็แต่ความพ่ายแพ้สูญเสียที่ไม่จำเป็นของทั้งสองฝ่าย

ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งของการสร้างวินัย ก็คือ ความสม่ำเสมอแน่นอนในกฎที่คุณสร้างขึ้น

อย่าพูดอย่างหนึ่ง ทำอย่างหนึ่ง
อย่าทำบ้าง ไม่ทำบ้าง แล้วแต่อารมณ์ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของคุณ
อย่าเลือกทำกับคนหนึ่ง แต่ไม่ทำกับอีกคนหนึ่ง
อย่าใจอ่อน ยอมผ่อนปรนทั้งๆ ที่ได้ตั้งใจแล้ว



เด็กที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพจะต้องผ่านการอบรมบ่มเพาะจากพ่อแม่
แต่การอบรมบ่มเพาะ โดยการสร้างวินัยนั้นจำเป็นต้องทำด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ของพ่อแม่

พ่อแม่บางคนไม่กล้า ตั้งกฎเกณฑ์ให้ลูก ปล่อยให้ลูกเติบโตไปในทิศทางที่น่าเกลียดน่ากลัว อย่างไรก็ได้
พ่อแม่ก็ยังเห็นว่า น่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอ จะห้ามอะไรสักเรื่องสักอย่างก็กลัวลูกโกรธ ไม่รักตน
แต่การปล่อยให้ลูก งอกงามเติบโตอย่างไรทิศทางนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับทั้งตัวเด็กเองและกับสังคม

โปรดถามตัวคุณเองว่า คุณรักเขามากพอที่จะตั้งกฎเกณฑ์
และใช้กฎเกณฑ์เหล่านั้นกับเขา ด้วยความเข้าใจหรือไม่ เมื่อเขาทำผิด คุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตอบได้

โดย รศ.ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์

ที่มา หนังสือก่อนจะถึงวันนั้น



สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ



Create Date : 09 กรกฎาคม 2552
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 18:50:00 น. 1 comments
Counter : 2079 Pageviews.

 
thank you very much.


โดย: craab IP: 68.151.255.226 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:18:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.