Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
19 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
3 วิธี สร้างบรรยากาศสบาย..สไตล์แม่ท้อง

3 วิธี สร้างบรรยากาศสบาย..สไตล์แม่ท้อง

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพกายที่แข็งแรงของแม่ท้องแล้ว
อีกปัจจัยที่สําคัญไม่แพ้กันต่อสุขภาพและลูกน้อยก็คือ ที่อยู่อาศัยและบรรยากาศรอบตัว
ลองมาดูกันว่าห้องที่แม่ท้องอยู่ควรจะเป็นอย่างไร จึงจะดีต่อสุขภาพทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในท้อง

1. ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท
บรรยากาศรอบห้องที่ปลอดโปร่งจะช่วยให้แม่ท้องรู้สึกสบายขึ้นค่ะ
เนื่องจากในช่วงตั้งท้องนั้น คุณแม่จะรู้สึกร้อนและเหงื่อออกได้ง่าย
ห้องที่คุณแม่อยู่จึงควรเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
มีหน้าต่างให้แสงแดดอ่อนๆ ส่องถึงและระบายอากาศได้ดี เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป

ภายในห้องอาจทาสีผนังด้วยสีอ่อนๆ อย่างสีขาวหรือสีฟ้าอ่อน เพื่อให้ห้องสว่าง สบายตาและดูกว้างขึ้น
แต่ไม่ควรจะเป็นห้องที่เพิ่งทาสีเสร็จใหม่ๆ
เพราะสารตะกั่วจากสีทาบ้านที่คุณแม่สูดดมเข้าไปนั้น จะมีผลต่อทารกในครรภ์ได้
ซึ่งหากได้รับสารตะกั่วเป็นปริมาณมาก อาจจะทําให้เกิดการแท้งหรือคลอดก่อนกําหนด
เด็กที่เกิดมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ และการทํางานของสมองจะพัฒนาช้าอีกด้วย
รวมถึงห้องไม่ควรติดกับถนนใหญ่
เพราะจะทําให้ฝุ่นละอองและควันพิษจากท่อไอเสียรถ ฟุ้งกระจายเข้ามาภายในห้อง รวมถึงเสียงดังรบกวน

หากภายในห้องของคุณแม่ติดเครื่องปรับอากาศและเปิดใช้งานตลอดวัน
ก็อย่าลืมเปิดเครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยกรองอากาศภายในห้องให้สะอาดบริสุทธิ์

รวมถึงไม่ควรเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในห้อง
เพราะขนสัตว์และไรฝุ่น จะเป็นสาเหตุทําให้เกิดโรคภูมิแพ้และมีอาการระคาย เคืองบริเวณตาหรือจมูก

สําหรับพื้นห้องนั้นไม่ควรปูด้วยพรม เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
แต่อาจปูด้วยแผ่นยางที่สามารถกันลื่นได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม
ทั้งนี้ ห้องที่อยู่ประจำควรทําความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค


2. เครื่องใช้คงทน แข็งแรง
ภายในห้องควรมีเฉพาะของใช้ที่จําเป็นเท่านั้น
เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่ง ควรเป็นเครื่องใช้ที่มีความคงทนและแข็งแรง

หากเป็นเก้าอี้หรือโซฟาก็ไม่ควรจะเป็นแบบที่มีล้อเลื่อน
เนื่องจากอาจทําให้คุณแม่ลื่นล้มเวลาลุกขึ้นยืนหรือนั่งได้

นอกจากนี้ตู้เก็บของหรือชั้นวางของ ก็ไม่ควรเป็นตู้หรือชั้นที่สูงนักและไม่ควรมีมุมที่แหลม
เพื่อให้คุณแม่สามารถหยิบจับของใช้ได้สะดวก


3. ผ่อนคลายด้วยธรรมชาติและเสียงเพลง
หากภายในบริเวณบ้านมีสวนหน้าบ้าน ก็เป็นเรื่องไม่ยากที่แม่ท้องจะเดินออกกําลังกายภายในสวน
เพื่อช่วยผ่อนคลายความกังวลและรับอากาศบริสุทธิ์
แต่ถ้าไม่มีสวนหน้าบ้าน ภายในห้องอาจวางต้นไม้ประดับต้นเล็กๆ ไว้ที่ข้างหน้าต่างไว้ให้มอง
หรือรดน้ำในยามว่าง ส่วนบริเวณริมหน้าต่างอาจติดโมบายเล็กๆ ให้พอมีเสียงเบาๆ เวลาลมพัดมากระทบ
สําหรับคุณแม่ที่อยู่ในห้องปรับอากาศ อาจหาโอกาสไปสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอกห้องบ้าง

นอกจากนี้อาจเพิ่มบรรยากาศภายในห้อง ด้วยการจุดเทียนหอมหรือน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากธรรมชาติ
และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็จะช่วยให้รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายลงได้
หรือการเปิดเพลงเบาๆ อย่างเพลงคลาสสิกหรือเสียงดนตรีจากธรรมชาติ อาทิ เสียงใบไม้ไหว
เสียงน้ำไหลเบาๆ คลอไปด้วย ก็จะทําให้ลูกน้อยที่ได้ฟังเสียงดนตรีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ มีพัฒนาการทางสมอง
และเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่อารมณ์ดี
รวมถึงเมื่อลูกในท้องมีอายุได้ 24 สัปดาห์ ในช่วงนี้ลูกจะสามารถจดจําเสียงที่ได้ฟังได้แล้ว
และหากได้ยินเสียงดนตรีซ้ำกันบ่อยๆ เขาก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้นเมื่อเขาโตขึ้น

การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้อง ก็จะทําให้คุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรงควบคู่กับจิตใจที่ผ่อนคลาย
เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีของลูกน้อยในท้องด้วยค่ะ


ข้อมูลโดย : Mother&Care Vol.4 No.43 July 2008
ที่มา : //www.motherandcare.in.th


สารบัญแม่และเด็ก



Create Date : 19 พฤษภาคม 2553
Last Update : 19 พฤษภาคม 2553 21:37:27 น. 0 comments
Counter : 695 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.