อันตราย! ของใช้ ของเล่นเป็นเส้นสาย
วันหนึ่งขณะที่ผมนั้นกำลังเจริญอาหารกับก๋วยเตี๋ยวชามอร่อย แล้วจู่ๆ ก็ต้องชะงักตะเกียบอย่างฉับพลัน เพราะได้ยินเสียงเด็กร้องจ้าขึ้นกลางร้าย หันกลับไปดูพบเจ้าหนูน้อยราวขวบเศษนั่งร้องไห้ดังลั่น คุณแม่รีบวิ่งไปอุ้มแล้วถามเสียงดัง “ใครแกล้งน้อง?” เจ้าพี่คนโตราย 8 ขวบ ชี้ไปที่เจ้าคนกลางราว 5 ขวบ แล้วฟ้องว่าเจ้าคนกลางดึงเชือกที่ผูกจุ๊บนมยาง ที่คล้องคอเจ้าคนเล็กจนเซก้น กระแทกพื้น
ได้ยินดังนั้นผมก็ใจหายแว้บ เมื่อคิดว่าจะเป็นยังไง ถ้าเจ้าเด็กน้อยโดนดึงเชือกจากข้างหลัง! เพราะหากเชือกยาวที่คล้องคอนั่นโดนกระตุกอย่างแรง มันจะกดรัดเข้าไปที่ท่อหลอดลมอย่างรุนแรงได้ จากเหตุการณ์ข้างต้น ทำให้หวนคิดถึงเหตุร้ายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน…
อุทาหรณ์ ข่าวเด็กหญิง 9 ขวบ ผูกคอตาย ! แต่เมื่อ ผ่านการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ พบว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะปกติน้องมักจะเอาผ้าผืนยาวๆ ผืนนี้มาเล่นประสาเด็ก ทั้งปูเป็นที่นอน เอามาพันตัว และเล่นเป็นผ้าพันคอ วันที่เกิดเหตุน้องคงจะเอาผ้ายาวๆ มาเล่นเหมือนเคย แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ล้อเลื่อนตัวโปรด จากนั้นก็เล่นตวัดผ้าไปมา จนผ้าเกิดลอยไปติดคาอยู่กับขื่อใต้ถุนบ้าน
อีกข่าวที่โด่งดังไม่แพ้กัน เด็กชายอายุ 8 ขวบ ชวนเพื่อนอีก 3 คน ไปเล่นใต้ถุนบ้านพักครู หลังจากเล่นกันได้สักพักหนึ่งสายตาก็เหลือบไปเห็นสายไฟ ที่คุณครูเอาคล้อง เป็นห่วง เพื่อเอาไว้วางไม้ไผ่ เพื่อใช้เป็นราวตากผ้า (แต่ในขณะนั้นไม่มีไม้ไผ่) อยู่ดีๆ น้องก็นึกสนุกหันไปโหนห่วงสายไฟ โดยตั้งเก้าอี้แล้วปีนจับห่วง เท่านั้นไม่พอเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุการณ์เล่าว่า น้องมุดศีรษะเข้าไปในห่วง พร้อมเอื้อมมือไปโหนสายไฟด้านบน และแล้วในวินาทีนั้นเองไม่มีใครคาดคิด เก้าอี้เกิดพลิกล้ม ร่างของน้องจึงห้องโตงเตง ส่วนคอถูกสายไฟรัดยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดจนเสียชีวิต เพื่อนๆ ก็ตกใจ กว่าตั้งสติกันได้ก็สายเสียแล้ว
ข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยจากของที่เป็นเส้นสาย มีดังนี้ครับ
★ โมบาย ของเล่นแกว่งไปมาที่นำมาห้อย เพื่อกระตุ้นการมองของเด็กทารกในวัยที่เขายังลุกนั่งเองไม่ได้ ต้องแขวนให้พ้นมือไม่ให้ลูกคว้าได้
★ ห้ามเอาโมบายหรือของเล่นที่เป็นเส้นสายที่มีความยาวมากกว่า 15 ซม. วางไว้บนเตียงของทารกวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน อย่างเด็ดขาด เพราะอาจพันรัดคอเด็กได้ สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 6 เดือน เส้นสายที่มีความยาวกว่า 22 ซม. นั้นเป็นอันตรายครับ
★ ปลอกหมอนหรือปลอกหมอนข้างที่ใช้เชือกรูด หากมีเส้นรอบวงมากกว่า 40 ซม. เด็กทารก 3-4 เดือน ซึ่งเริ่มคว่ำได้ เริ่มถีบขามุดไปมา เด็กอาจมุดศีรษะรอบห่วงจนทำให้รัดคอได้
เมื่อไม่นานมานี้มีเด็กเกือบสิบเดือนนอนดิ้นจนศีรษะมุดเข้าไปใน เชือกรูดของหมอนข้าง ขณะที่คุณแม่หลับสนิท คุณพ่อกลับจากทำงานหอมแก้มลูกก็สังเกตว่าตัวเย็นผิดปกติ จึงเปิดไฟแต่พบว่าเสียชีวิตเนื่องจากเชือกรูดพันรัดคอขาดอากาศ
★ จุ๊บหัวนมดูดเล่น คุณพ่อคุณแม่ชอบนำ มาแขวนคอเด็กเพื่อไม่ให้หล่นหายไปไหน เด็กสามารถหยิบดูดเองได้ แต่ก็มีอันตรายเพราะสายคล้องคออาจเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ จนเกิดการพันรัดบริเวณคอได้ จริงๆ แล้วจุ๊บหัวนมดูดเล่นนี้ไม่มีความจำเป็นต่อพัฒนาการเด็กเลย ใช้แล้วเด็กติด เลิกยาก แถมยังมีปัญหาต่อการเรียงตัวของฟันเมื่อใช้นานๆ ด้วย
★ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านที่มีความเสี่ยงสำหรับเด็ก โดยเฉพาะเด็กหัดเดินใหม่ๆ ได้แก่ เชือกรูดผ้าม่านหรือเชือกกระตุกมู่ลี่ที่เป็นวง เด็กที่หัดเดินอาจคว้ามาคล้องคอหรือถูกคล้องคอโดยไม่ตั้งใจ จนทำให้ฟันเป็นเกลียวบีบรัดหลอดลมได้
★ สายไฟของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มักถูกปล่อยปละละเลยให้ห้อยโตงเตงลงมาใต้โต๊ะ เป็นยั่วใจให้เด็กเล็กเอื้อมมือคว้า เด็กทารกช่วง 7-8 เดือน สามารถเริ่มคืบและคลานเข้าใกล้ได้ และคว้าสายเหล่านี้มากัดด้วยความมันเขี้ยว อาจทำให้ท่อหุ้มสายไฟขาด จนทำให้สายทองแดงสัมผัสกับริมฝีปาก ที่เปียกชื้นของลูกเกิดไฟช็อตเป็นอันตราย ถึงชีวิตได้ครับ
★ ตะขอรูปตัวเอส (S) เด็กโต 2-3 ขวบขึ้นไป เป็นวัยกำลังอยากรู้อยากเห็น การเคลื่อนไหวปีนป่ายทำได้ดีมากขึ้น ในขณะที่เด็กๆ กำลังวิ่งเล่น หรือในขณะที่ชิงช้าไกวแรงๆ สายสร้อย รวมทั้งหมวกกันฝนที่เย็บติดกับเสื้อ อาจเกี่ยวกับตะขอที่แขวน โดยมีช่องว่างกว้างกว่า 1 มิลลิเมตร ก็ทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้น จึงไม่ควรให้เด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ เล่นของเล่นที่เป็นเส้นสายยาวกว่า 22 ซม. เช่น รถลากที่มีสายลากจูง กีตาร์ที่มีสายคล้องคอ หรือของเล่นยุคใหม่ไฮเทคคือ โทรศัพท์มือถือเด็กเล่นที่ชอบมีเชือกไว้ให้เด็ก ใช้คล้องคอครับ
บ้านไหนที่มีเด็กหลายๆ วัย ในยามที่พวกเขารวมกลุ่มเล่นกัน คุณพ่อคุณแม่จะต้องดูอย่าให้คลาดสายตา เพราะเด็กเล็กมักจะเล่นตามอย่างเด็กโต ไม่ว่าจะเล่นต่อสู้ เล่นซ่อนแอบ กระโดดยาง หรือกิจกรรมผาดโผนต่างๆ ล้วนแต่เสี่ยงต่ออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เรื่องนี้น่ากลัวครับ ทั้งมาในรูปของเล่นและแฝงมากับของใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องตระหนกแต่ต้องตระหนัก และหาทางป้องกัน อย่าคิดแต่ว่าไม่เป็นอะไร เพราะหากขาดอากาศเพียง 4 นาที สมองของเด็กก็เสียหาย ยากที่จะฟื้นกลับได้ครับ
ข้อมูลจาก รักลูก ที่มา : //www.elib-online.com/doctors50/child_accident017.html ภาพจาก : //www.ss42.com
สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 07 มกราคม 2553 |
Last Update : 7 มกราคม 2553 19:55:31 น. |
|
1 comments
|
Counter : 843 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ... IP: 125.26.30.133 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:21:06:29 น. |
|
|
|
|
|