Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
2 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
สอนเด็กให้ใช้เงินเป็น และรู้จักออม



ทำอย่างไรให้เด็กใช้เงินเป็น รู้จักออม เพื่อที่เด็กจะได้มีวินัยและระเบียบในการใช้เงินที่ดี

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา ทำให้ผู้ดูแลคอลัมน์อยากให้ข้อมูลกับผู้ปกครองคนไทยทั้งใน และต่างประเทศ
เป็นเทคนิคช่วยสอน ช่วยบุตรหลานซึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป ได้มีนิสัยและระเบียบการเงินที่ดีในอนาคต

โดยคอลัมน์นี้ได้ดึงเอาข้อมูลเรื่อง "เด็กกับเงิน -7 บทเรียนสำคัญ" ของ ราเชล อินคอลล์ จาก เซฟวิ่ง ดอท คอม
มานำเสนอให้ผู้ปกครองคนไทยทั่วโลกได้นำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
และช่วยสร้างนิสัยใช้เงินเป็นหรือรักการออม ให้กับสมาชิกตัวน้อยของครอบครัวนับจากนี้ไป

เงินใช้ซื้อสินค้า/บริการได้
เป็นหลักการและบทเรียนแรก ที่ผู้ใหญ่ควรสอนให้บุตรหลานเข้าใจ เมื่อเด็กๆ โตพอที่จะเข้าใจ
ซึ่งอินคอลล์แนะนำว่าเด็กน้อยที่อยู่ในวัย ซึ่งพอจะเข้าใจเรื่องเงินน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 ขวบ

ดังนั้นครั้งต่อไป เมื่อผู้ปกครองเดินเข้าไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้า ไม่ว่าจะซื้อเพียง 1 หรือ 2 ชิ้น
ควรลองวางเงินในมือให้เด็กๆ ได้ลองใช้หรือจ่าย ด้วยการช่วยเด็กยื่นเงินในมือให้กับพนักงานคิดเงิน

การลองให้เด็กใช้เงินลักษณะข้างต้น จะช่วยให้เจ้าตัวน้อยซึมซับข้อมูล มีความเข้าใจกับแนวคิดที่ถูกต้อง
เกี่ยวกับประโยชน์ของเงินว่า สามารถนำไปใช้แลกเปลี่ยน ให้ได้สิ่งต่างๆ ที่ตัวเองต้องการหรือจำเป็นต้องได้มา


ระวังเรื่องเงิน
อินคอลล์ยอมรับว่า ผู้คนแวดล้อมตัวเธอ มีบางคนติดอยู่กับความคิดที่ว่า เหรียญที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 เซนต์
หรือเทียบเงินไทยคงอยู่ที่ประมาณ 1 สลึงหรือ 50 สตางค์นั้น มีค่าน้อยมากหรือไร้ค่าจนไม่น่าเก็บไว้

ยิ่งเวลาทำความสะอาดบ้าน หากพบเหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ตกอยู่ตามซอกต่างๆ ของบ้าน
คุณอาจจะโยนเศษเหรียญเหล่านั้นลงถังขยะเอาง่ายๆ พฤติกรรมเช่นนี้จะเป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับเด็กๆ ได้
ขอให้เปลี่ยนแปลงเสียใหม่ หันมากระตุ้นเด็กๆ ให้รู้จักเสียดายเงิน แม้มีมูลค่าน้อยนิดก็ตาม

แสดงหรือ ปฏิบัติให้สมาชิกตัวน้อยในครอบครัวรู้ว่า เศษเงินที่ดูแล้วไร้ค่าหรือมีค่าน้อยนิดเหล่านี้
เมื่อเก็บสะสมรวมๆ กันแล้วจะมีคุณค่าทางใจ และให้มูลค่าเพิ่มขึ้นมากเพียงใด

โดยผู้ใหญ่ในครอบครัวต้องเริ่มต้นจากการวางกล่องเล็กๆ เพื่อสะสมเศษเหรียญสักกล่องไว้
ให้เด็กๆ ช่วยกันหยอดเศษเหรียญใส่กล่อง ใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่งจนกว่าเหรียญจะเต็มกล่อง
และเมื่อเหรียญที่สะสมเต็มกล่องแล้ว ผู้ใหญ่ต้องดึงเด็กๆ มาช่วยกันเปิดกล่องนับเงิน
เพื่อให้เด็กตระหนักและเข้าใจว่าเศษเหรียญที่หยอดเอาไว้ เมื่อนำมารวมกันจะได้เงินจำนวนไม่น้อย

จากนั้นผู้ใหญ่อาจให้เด็กๆ แสดงความเห็น ช่วยกันกำหนดว่า
จะใช้เงินที่ช่วยกันสะสมมานั้น ไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
ซึ่งผู้ใหญ่อาจให้คำแนะนำช่วยเด็กๆ วางแผนการท่องเที่ยว อาจเป็นการไปเที่ยวสถานที่ใกล้ๆ บ้าน
และฉลองความสำเร็จในการออม ด้วยการแวะร้านอาหารหรือซื้อไอศกรีมอร่อยๆ กินกันระหว่างเดินทาง


ต้องทำงานหาเงิน
ความคิดนี้ผู้ใหญ่ต้องปลูกฝังนิสัย ช่วยให้เด็กรู้และเข้าใจที่มาของเงิน
เพราะทุกวันนี้มีผู้คนมากมาย ยังไม่เข้าใจหรือไม่พยายามที่จะเรียนรู้ว่า คนเราต้องทำงานจึงจะได้เงิน
โดยพวกเขาเอาแต่นั่งเฉยอยู่กับบ้าน และคาดหวังมีคนช่วยให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้

ผู้ใหญ่บางคนคิดผิดมาก
เข้าใจว่าการหันเหชีวิตไปเป็นอาชญากร จะช่วยให้พวกเขาได้เงินอย่างง่ายๆ มาเลี้ยงชีพตัวเอง
ดังนั้นให้ระวังกับความพยายามบ่มเพาะนิสัยเรียนรู้ให้เด็กว่า
เงินที่หามาเลี้ยงชีพตนเองต้องได้จากการทำงานอาชีพสุจริตเท่านั้น

เมื่อใดก็ตามที่เด็กๆ ร้องขอเงินไปซื้อขนมหรือของเล่น ผู้ใหญ่ไม่ควรให้โดยไม่มีเหตุผลสมควร
หรือไม่ควรให้โดยไม่คาดหวังให้เด็กทำอะไรเลย แต่เพื่อเป็นการสั่งสมนิสัยกับการเรียนรู้

โดยผู้ใหญ่ต้องเริ่มหัด หรือจำเป็นก็ต้องบังคับเด็กให้ทำงานบ้านในส่วนที่ทำได้
ให้พวกเขารู้ว่าเงินไม่ใช่ได้มาโดยง่าย แต่ต้องใช้แรงกายแรงใจทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้เสร็จลุล่วงก่อน


จัดสรรเงินเป็น
กระตุ้นหรือเป็นแบบอย่างให้เด็ก รู้ถึงสัดส่วนและวิธีจัดสรรเงินที่มีอยู่
โดยทั่วไปแล้วผู้ใหญ่มักหัดให้เด็กแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกเป็นเงินออม ส่วนที่สองเพื่อซื้อของขวัญของฝากผู้อื่น และส่วนที่สามเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายตัวเอง

อย่างไรก็ตามสัดส่วนและการจัดสรรเงิน ของเด็กๆ
ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ปกครองแต่ละครอบครัวที่จะตัดสินใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดและความจำเป็นของเด็ก

แต่เพื่อให้เด็กประสบความสำเร็จกับการแบ่งจัดสรรเงินเป็น
ผู้ใหญ่ควรช่วยเด็กด้วยการหากล่องหรือที่จัดเก็บเงิน 3 ส่วนไว้
ทั้งเงินต้องใช้จ่ายประจำวัน เงินเพื่อการออม และเงินเพื่อการกุศลหรือใช้ซื้อของขวัญของฝาก


ปลูกฝังนิสัยห่างไกลหนี้
อินคอลล์ยอมรับว่า เมื่อมีหนี้และต้องใช้คืนหนี้ที่ยืมมานั้น ทำได้ยากกว่าการออม
ดังนั้นทุกเวลาที่มีโอกาสให้ผู้ใหญ่แนะนำและอธิบายกับเด็กๆ โดยยึดหลักคิดสำคัญที่ว่า
ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ อย่าลืมหรือละเลย ที่จะให้ความรู้กับเด็กๆ ถึงหนี้แต่ละประเภทว่า
คนเราสามารถก่อหนี้อะไรได้บ้าง

อินคอลล์ยกตัวอย่างว่า เมื่อพูดถึงหนี้บางอย่าง อย่างเช่น เงินกู้ซื้อบ้าน
ขอให้ย้ำกับเด็กๆ เลยว่า เป็นหนี้ควรหลีกเลี่ยงหรืออยู่ให้ห่างไกลที่สุด
และให้ยึดกฎเคร่งครัดว่า หากไม่มีเงินสดที่จะซื้ออย่าได้คิดที่จะซื้อเด็ดขาด



อย่าให้เงินกำหนดชีวิต
ให้ปลูกฝังความคิดเด็กไว้เสมอว่า เงินไม่ใช่เพื่อนดีที่สุดในชีวิต ดังนั้นอย่าปล่อยให้เงินควบคุมชีวิตพวกเขา
อินคอลล์ให้ผู้ใหญ่คิดว่าเทคนิคข้อนี้ทำได้ไม่ยาก พยายามสอนเด็กๆ ไม่ให้ผูกมัดตัวเองกับเงินจนมากเกินไป

อย่าจุดความคิดเด็กๆ ให้กดดันตัวเอง
ต้องทำงาน 60-70 ช.ม.ต่อสัปดาห์ เพื่อหาเงินมาปรนเปรอชีวิตด้วยสิ่งหรูหรา เกินความสามารถที่จะซื้อหามาได้
หากปล่อยให้เด็กๆ คิดเช่นนั้น หมายความว่าผู้ใหญ่กำลังปล่อยให้เงินควบคุมชีวิตเด็กๆ อยู่

เพียงแต่สอนเด็กเสมอว่า ชีวิตของพวกเขาไม่จำเป็นต้องกู้เงิน เพื่อให้ได้รถสวยๆ ไว้ขับ
หรือไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อจะไปเที่ยวต่างประเทศ แม้ว่าความคิดที่จะขับรถหรือจะเที่ยวต่างประเทศดูดี
แต่ก็ทำได้ต่อเมื่อในอนาคตเด็กๆ สามารถหาเงินได้เพียงพอ หรือมากมายเหลือเฟือที่จะซื้อหามาได้เท่านั้น


จัดงบ+วางแผนชีวิตเป็น
เทคนิคสุดท้ายนี้อินคอลล์ถือว่าเป็นทักษะสำคัญที่สุด
ซึ่งผู้ใหญ่มากมาย หลายคนปัจจุบันยังไม่เคยเรียนรู้ถึงทักษะสำคัญของการทำงบ ใช้จ่ายให้เป็น
และทักษะนี้เด็กๆ จำเป็นต้องเรียนรู้และฝึกทำ

อินคอลล์ให้ข้อมูลอ้างอิงจากผลสำรวจ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า
มีผู้คนมากมายใช้จ่ายเงินเกินกว่าที่พวกเขาหามาได้ 10%-20%
ทั้งๆ ที่เงินที่พวกเขาหามาได้นั้นก็เพียงพอต่อการดำรงชีวิต
เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่ขาดการเรียนรู้ กลับไม่สามารถวางงบใช้จ่ายของตัวเองอย่างง่ายๆ ได้
ทำให้แต่ละสัปดาห์ต้องสูญเงินไปกับการใช้จ่ายเกินตัวแต่ละสัปดาห์


ที่มา: //www.pattanakit.net


เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง
สอนวิธีใช้เงินแก่เด็ก
สอนลูกให้รับผิดชอบ
เคล็ดลับ…สร้างเจ้าสัวน้อย


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2553 20:46:39 น. 0 comments
Counter : 778 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.