5 เทคนิคบริหารความโกรธสำหรับพ่อแม่
"การบริหารความโกรธ" แม้ว่าหลายคนจะมองว่าไม่จำเป็น และมองว่าการแสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวของตนเอง ต่อสิ่งต่าง ๆ เป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตัวเอง ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เมื่อได้ระบายออกไปแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้นได้เอง แต่สำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว มีคนมากกว่า 1 คนที่เข้ามาอยู่ร่วมกัน..อาจไม่ใช่ เมื่อต้องอยู่ร่วมกัน เทคนิคในการบริหารจัดการความโกรธ กลายเป็นสิ่งที่มีค่าไม่แพ้การบริหารจัดการ เงินทอง หรือการบริหารชีวิต เพราะนอกจากตัวคุณเองแล้ว ยังมีคู่ชีวิต และลูก ๆ ที่เป็นสิ่งมีค่า เขาเหล่านั้นอาจมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่าง หรือมีบางพฤติกรรมที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่สำหรับผู้ที่ใช้อารมณ์เป็นตัวนำ และหวังว่าจะใช้อารมณ์ทำให้การแก้ไขนั้นลุล่วง คงเป็นไปได้ยาก หากกลับทำให้ปัญหานั้น ๆ ร้ายแรง หรือฝังลึกลงไปอีกอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ดี เรามีวิธีบริหารจัดการความโกรธอย่างง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ โดยเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ //www.allaboutparenting.org ที่ให้แง่คิดได้เป็นอย่างดี เริ่มจาก *พาครอบครัว หรืออย่างน้อย ก็พาตัวคุณเองไปศึกษาธรรมะบ้าง การศึกษาธรรมะอาจไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป เพราะในทุกวันนี้ สื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับธรรมะสามารถหาอ่านได้รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านหนังสือ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง SMS *จัดตารางเวลาที่ชัดเจนแน่นอนให้กับเด็ก เพราะการทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นเป็นกิจวัตรนั้นเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการ และคุณเองก็จะได้ทราบถึงช่วงเวลา "ว่าง" ที่คุณจะจัดให้กับตัวเองได้ด้วย *รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย อย่าพึ่งเบื่อกันหากต้องเห็นหัวข้อนี้ปรากฏอยู่บ่อย ๆ เพราะสองสิ่งนี้จะช่วยให้คุณเป็นพ่อแม่ที่มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ความโกรธขึ้งตึงเครียดก็จะมารบกวนได้น้อยลง *เมื่อลูกบังเอิญทำพลาด หรือทำให้พ่อแม่เกิดความรู้สึกโกรธโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ควรมองโลกในแง่ดี อาจใช้การหัวเราะขำไปกับความผิดพลาดนั้น ๆ หรือยิ้มให้กับลูกแทน ซึ่งจะดีกว่าการเกรี้ยวกราดใส่ลูก เพราะจะทำให้เด็กไม่กล้าเข้าใกล้ หรือกลายเป็นคนที่ระมัดระวังกับทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเขาต้องโกรธอีก *หาเวลาให้ตัวเองบ้าง แม้โลกในยุคปัจจุบัน จะค่อนข้างเป็นอันตรายสำหรับเด็ก หลายคำแนะนำระบุว่าไม่ควรปล่อยให้เด็กห่างจากสายตา แต่ในบางกรณี หากเรามั่นใจได้ว่าลูกอยู่ในที่ปลอดภัย มีการดูแลอย่างใกล้ชิด ก็ควรจะจัดให้มีการ "ห่าง" ที่ว่านี้ขึ้นได้บ้าง เพราะการห่างกับลูกในบางครั้ง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเครียด หรือความหงุดหงิดลงได้
ลองจัดเวลาให้กับตัวเอง คู่ชีวิต และเพื่อนฝูงได้มีเวลาสังสรรค์เฮฮา พูดคุย จะทำให้คุณได้มีช่วงเวลาดี ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดใหม่ ๆ กับคนอื่น และจะรู้สึกมีพลังในการกลับมาดูแลครอบครัวมากขึ้น
ที่มา //www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000070105
สารบัญ บทความ แม่และเด็ก คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 19:44:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 869 Pageviews. |
|
|
|
|
|