Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
13 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เทคนิคเสริมไหวพริบให้เจ้าตัวน้อย



สมองของทารกจะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาเพิ่มขี้นอย่างรวดเร็ว
เซลล์สมองหรือที่เรียกว่า เซลล์ประสาทจะมีการสร้างจุดเชื่อมต่อและเส้นใย ประสาทเพิ่มมากขึ้น
การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทและเครือข่าย ต่าง ๆ ของสมองจะเกิดขึ้นทีละเล็กละน้อย

ทุกครั้งที่ทารกได้รับสิ่งเร้า จากการกระตุ้นผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า อันได้แก่ การมองเห็น การได้ยิน การรับรส
การได้กลิ่น และการสัมผัส ซึ่งทารกสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านทางประสาทสัมผัส เหล่านี้ได้ตั้งแต่แรกเกิด
ทำให้การเชื่อมต่อละการสร้างเครือข่ายเกิดมากขึ้น

กระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์เกิดขึ้นโดยอาศัยส่วนต่างๆ ของสมองที่มีหน้าที่แตกต่างกัน
มาร่วมทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้น
ซึ่งในขั้นตอนของการพัฒนาไหวพริบให้ลูกมีพัฒนาการ การเชื่อมโยง เครือข่ายต่างๆ ของสมองได้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทุกคนสามารถจะช่วยลูกน้อยของคุณได้หลายวิธี ดังนี้

★ 1. นำโลกรอบตัวมาแนะนำให้ลูกได้รู้จัก
เช่น เริ่มจากอายุ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป คุณควรให้ลูกได้มาโอกาสมองดูรอบ ๆ และให้ห้อยแขวนสิ่งของที่มีสีขาวดำ
หรือสีตัดกัน หรือวางข้างลูกในระยะห่างประมาณ 1 ฟุต เพื่อให้ลูกได้ฝึกการมอง

และการกลอกตา มองสบตาลูกบ่อย ๆ
เพราะจริง ๆ แล้วหน้าของคุณแม่จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นการมองของลูกได้เป็นอย่างดี
เพราะสีตัดกันของตาดำ ตาขาว ปากแดง ฟันขาว จะทำให้เด็กสนใจอยากมอง


★ 2. ทารกมักจะชอบเสียงผู้หญิงที่มีโทนสูง และจะทำท่าสนใจฟังทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนั้น
คุณควรทำเสียงสูงต่ำพูดช้า ๆ ชัด ๆ และชวนลูกน้อยของคุณคุยด้วยบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาส


★ 3. คุณสามารถสอนลูกน้อยให้เริ่มรู้จักการใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการสำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบข้าง
โดยการจับมือของลูกมาทำท่าเหมือนปรบมือเข้าด้วยกัน
หรือการออกกำลังแขนขาโดยการจับทำท่าต่าง ๆ อย่างนุ่มนวล

คุณอาจเอานิ้วมือแหย่ที่ฝ่ามือฝ่าเท้าของลูกเบา ๆ ให้รู้สึกจั๊กจี้บ้าง
ในช่วงที่กำลังสบาย ๆ หลังการป้อนนมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม


★ 4. คุณควรพยายามพูดกับลูกน้อยของคุณ
โดยให้หันหน้าอยู่ห่างจากลูกประมาณ 8-10 นิ้ว สบตาให้ลูกสามารถมองเห็นสีหน้าของคุณได้ง่าย
คุณจะรู้สึกได้ว่าลูกสามารถตอบสนองต่อเสียงพูดของคุณ ต่างจากเสียงพูดของคนอื่น ในวันแรกของชีวิต
และพออายุประมาณ 3 เดือน ลูกจะจัยแยกเสียงคุณที่แสดงความรู้สึกดีใจ หรือเสียใจได้


★ 5. เมื่อลูกอายุได้ 3-4 เดือน คุณควรให้ลูกได้รู้จักสิ่งของต่าง ๆ มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่มีรูปทรงหรือผิวสัมผัสต่าง ๆ ความอ่อน – แข็งของวัตถุ และความแตกต่างของรสชาติ


★ 6. เมื่ออายุ 4 เดือนขึ้นไป ลูกเริ่มที่จะเรียนรู้ถึงผลของการกระทำ
เช่น เริ่มรู้ว่าถ้าขยับบางส่วนของร่างกายจะมีบางอย่างเกิดขึ้นตามมา
เช่น เมื่อขยับมือ ที่ถือกระดิ่งไปมาจะได้ยินเสียงกระดิ่งหรือถ้าปล่อยของในมือ ของจะหายไป เป็นต้น
ซึ่งการที่ทารกได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ จะทำให้สามารถพัฒนาตนเองต่อไปอีกได้


★ 7. เมื่ออายุได้ 10 เดือนขึ้นไป ลูกจะเริ่มมีความจำและความเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง
ที่จะช่วยแยกแยะลักษณะเฉพาะของแต่ละสิ่งที่มีความแตกต่างกัน
ลูกจะเริ่มแยกแยะได้ว่า เจ้าตัวที่ชอบเห่าเสียงโฮ่ง ๆ คือหมา และแมวชอบร้องเหมียว ๆ

การที่คุณแม่เล่นกับลูกโดยการทำเสียง เหมียว ๆ หรือ โฮ่ง ๆ
เมื่อเด็กเห็นสัตว์นั้น ๆ จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์และเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถช่วยให้ลูกรู้จักความแตกต่างของความเป็นบุคคลได้
โดย การให้ลูกมองภาพของตนเองในกระจกเงา พร้อมกับการเรียกชื่อของลูก
เพื่อให้ลูกเริ่มรู้จักหน้าตาของตนเอง ซึ่งจะส่งเสริมให้ลูกรู้จักตัวเอง


★ 8. ควรให้โอกาสลูกน้อยของคุณในการฝึกใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เพื่อให้ได้เรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ
คุณอาจใช้สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว มาเป็นสื่อการสอน และพยายามพูดคำที่เกี่ยวข้อง ให้ลูกฟังซ้ำ ๆ
รวมทั้งพยายามแสดงถึงคุณสมบัติของสิ่งต่าง ๆ ด้วย


สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่ลูกต้องการจะเรียนรู้
และเป็นรากฐานที่สำคัญในการที่ลูกจะเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ที่มีในโลกอนาคตของเธอต่อไป

กลวิธีเหล่านี้ที่คุณใช้ในการสอนลูกน้อยมีส่วนสำคัญ ที่จะกระตุ้นการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น
การแสดงท่าทางที่มีความสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ ที่เริ่มให้ลูกได้สัมผัสเรียนรู้โดยการใช้น้ำเสียง
และกริยาท่าทางที่เหมาะสมจะช่วยลูกในการแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ออกจากกัน
และช่วยในการเรียนรู้ของลูกได้อย่างรวดเร็ว

การที่คุณตอบสนองให้ความ รักและทะนุถนอมต่อกิริยาต่าง ๆ ที่ลูกแสดงออกอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ทำให้ลูกรู้สึกว่า ตนเองเป็นที่รักและมีความสำคัญ เป็นคนที่มีคุณค่า จะช่วยให้ลูกมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง
และมีความเป็นตนเองมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการพัฒนาไหวพริบของเด็ก


ข้อมูลจาก บันทึกคุณแม่
ที่มา : //women.sanook.com
ภาพจาก : //www.wesleymc.com


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




 

Create Date : 13 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 13 มกราคม 2553 20:40:11 น.
Counter : 1468 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.