Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
17 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

ทำงานอย่างไรให้เข้าขากับ “เจ้านาย”


ทำงานอย่างไรให้เข้าขากับเจ้านาย

ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจการคือ
การทำงานร่วมกันระหว่างผู้ใต้บังคับบัญชากับหัวหน้างานที่มีลักษณะเป็นทีมงานเดียวกัน
ความร่วมมือในลักษณะทีมงานจะก่อให้เกิดพลังขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม ในโลกการทำงานจริง เราอาจหลีกไม่พ้นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างพนักงานและหัวหน้างาน
ซึ่งอาจเนื่องด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น
มีทัศนคติความคิดเห็นไม่ตรงกัน
การไม่ยอมรับนับถือหัวหน้างาน
การไม่ขอคำปรึกษาในการทำงาน
รู้สึกเสียหน้าเมื่อถูกหัวหน้างานตักเตือน ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ย่อมกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับหัวหน้างาน จนอาจกลายเป็นคลื่นใต้น้ำในองค์กร
ที่อาจทำลายขวัญ กำลังใจ ความสามัคคี การทำงานเป็นทีม และการทุ่มเททำงานเพื่อองค์กร

ปัญหาการทำงานระหว่างพนักงานกับหัวหน้างานที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่สามารถจะแก้ไขหรือป้องกันได้
ในส่วนของพนักงาน ผมขอเสนอแนวทางง่าย ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน
เพื่อให้เราทำงานกับหัวหน้างานได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ ดังนี้



มีความถ่อมตนในการเรียนรู้
พนักงานบางคนอาจจะมีความรู้สึกหยิ่งทะนง ไม่เคารพนับถือหัวหน้าของตน
เพราะคิดว่าตนเองนั้นรู้มากกว่า มีความสามารถมากกว่าหัวหน้างาน ตัวอย่างเช่น
อาจเปรียบเทียบว่าตนนั้นจบการการศึกษาระดับปริญญาโทจากต่างประเทศ
ขณะที่หัวหน้างานของตนจบเพียงปริญญาตรีในเมืองไทย เมื่อยึดถือว่าตนเองเหนือกว่าก็จะไม่ยอมรับหัวหน้างาน
เมื่อไม่เข้าใจในงานที่ได้รับมอบหมาย ก็จะนิ่งเฉย ไม่เอ่ยปากถาม
เพราะรู้สึกเสียหน้าหากต้องเข้าไปพบหัวหน้า เพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ
พนักงานคนดังกล่าว ทำงานผิดพลาด ไม่สำเร็จตามกำหนดเวลา จนทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย

ดังนั้น หากเราไม่เข้าใจในคำสั่งหรือรู้ตัวว่ามีความเข้าใจไม่เพียงที่จะทำงานชิ้นให้สำเร็จ
เราไม่ควรที่จะนิ่งเฉย แต่ควรมีท่าทีถ่อมตนในการเรียนรู้จากหัวหน้า โดยเข้าไปหาหัวหน้าเพื่อขอคำแนะนำ
ซึ่งจะทำให้ได้แง่คิดและแนวทางในการทำงาน ในทำนองเดียวกัน

กรณีที่เราไม่เห็นด้วยกับความคิดของหัวหน้างาน เราไม่ควรแสดงความก้าวร้าว
ตอบโต้ด้วยอารมณ์หรือคำพูดรุนแรง แต่ควรมีท่าทีถ่อมตนในการแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ
กล่าวอธิบายด้วยเหตุด้วยผล เปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
โดยตระหนักว่ามุมมองและประสบการณ์ของหัวหน้างานอาจช่วยชี้ให้เราเห็นแง่มุมที่เรามองข้ามไป

การถ่อมตนในการเรียนรู้จะทำให้เราเปิดรับความรู้ แนวคิด ประสบการณ์
ซึ่งจะเอื้อต่อประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเราเอง



มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ
การทำงานด้วยความกระตือรือร้น ขยันขันแข็ง ไม่เห็นงานเป็นภาระ ไม่เกี่ยงงาน
แต่รับผิดชอบในหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด รู้สึกสนุกกับการทำงานอยู่เสมอ
หากได้รับการร้องขอจากหัวหน้างานให้ช่วยเหลืองานในกรณีพิเศษ
แม้จะไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ ก็ยินดีรับคำสั่งโดยไม่ปัดงานและช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ

การมีความกระตือรือร้นในการทำงานเช่นที่กล่าวมากนี้ จะทำให้เราทำงานด้วยความสนุก
ท้าทายตนเองที่จะทำงานให้ดียิ่งขึ้น ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายต่องาน แม้จะมีงานกองโตอยู่บนโต๊ะ ไม่เพียงเท่านั้น
ผลดีทางอ้อมก็คือ การกระทำดังกล่าวยังพลอยทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกกระตือรือร้นในการทำงานด้วย
ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
นอกจากนี้ ผลสำเร็จของงานที่ตามมาย่อมทำให้ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานยอมรับการทำงานของเราได้



อุตสาหะบากบั่น พากเพียร ทำให้สำเร็จ
โดยปกติเรามักได้รับมอบหมายทั้งงานที่ง่ายและยากปะปนกันไป
หากเราเป็นพนักงานที่มีความพยายามตั้งใจทำงาน ด้วยความอุตสาหะบากบั่น พากเพียร
แม้งานที่ได้รับจะมีความยาก เราก็จะไม่รู้สึกย่อท้อ แต่กลับจะมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรคดังกล่าว
พร้อมกับตั้งใจเรียนรู้ที่จะพัฒนาการทำงานของตนอยู่เสมอ

ผลอันเนื่องจากการทำงานด้วยความอุตสาหะ พากเพียร รับผิดชอบงานอย่างดีจนงานสำเร็จ
จะทำให้ไม่มีใครกล่าวหาได้ว่าเรายังไม่ได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่
ยิ่งกว่านั้น การทำงานอย่างมุ่งมั่นจนงานสำเร็จยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองในแง่ของความรับผิดชอบ
ไม่ช้าก็เร็ว หัวหน้างานที่ฉลาดเฉลียวย่อมมองเห็นคุณสมบัติข้อนี้ของเรา
เขาย่อมกล้าที่จะมอบหมายงานที่สำคัญมากขึ้น เพราะยอมรับและไว้ใจในความรับผิดชอบ
โอกาสที่เราจะก้าวไปสู่ตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานมากขึ้นก็จะตามมา



มีความคิดแง่บวก
ความคิดแง่บวกเป็นการมองถึงความเป็นไปได้มากกว่าปัญหาอุปสรรค
มองถึงแง่มุมที่ดีของสิ่งต่าง ๆ มากกว่าแง่ลบ มีสายตาจดจ่ออยู่กับเป้าหมายและแสวงหาหนทางที่จะทำให้เกิดขึ้น
แทนที่จะจดจ่อกับข้อจำกัดและอุปสรรคจนหมดความหวังที่จะทำให้เป้าหมายสำเร็จ

ความคิดแง่บวกต่อทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะช่วยให้สามารถทำงานที่แม้ดูเหมือนยากให้สำเร็จได้
ความคิดแง่บวก ทำให้เรารู้จักที่จะมองจุดดีของหัวหน้างานในยามที่เกิดความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกัน
ความคิดแง่บวกจะช่วยให้เราแสวงหาหนทางใหม่ ๆ ในการทำงาน ไม่ถูกถ่วงรั้งด้วยข้อจำกัดที่มีอยู่

ตัวอย่างเช่น หากเราทำหน้าที่ฝ่ายขาย
เมื่อได้รับมอบหมายงานจากหัวหน้าแผนกให้เพิ่มยอดขายจากเดิมอีก 100 % ซึ่งหากมองจากสภาพตลาด
ที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลง โอกาสที่จะทำยอดขายให้เพิ่มขึ้นอีก 100 % เป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่หากเราเป็นคนที่มีความคิดแง่บวก เราจะไม่เริ่มต้นด้วยการบ่นโดยมองไม่เห็นทางเป็นไปได้ หรือมองว่า
หัวหน้างานกลั่นแกล้งให้เราทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ตรงกันข้าม เราจะมองว่าหัวหน้าให้ความไว้วางใจ
และเชื่อมั่นในความสามารถของเรา อีกทั้งยังเป็นการท้าทายตนเอง ที่จะต้องทุ่มเทแรงกาย แรงใจ สติปัญญา
ความคิดเพื่อทำให้เป้าหมายดังกล่าวสำเร็จ เริ่มแสวงหาหนทางใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้เราทำงานในข้อจำกัดที่มีอยู่ได้

ความคิดลักษณะดังกล่าว
จะสร้างแรงผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้าและพยายามทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ



ทำงานอย่างเป็นตัวของตัวเอง
การทำงานกับหัวหน้างานอย่างมีความสุขนั้น ในส่วนของเราก็ต้องทำงานอย่างเป็นตัวของตัวเอง
ทำงานตามบุคลิกจริงของเราแต่พร้อมจะปรับเปลี่ยน หากสิ่งนั้นเป็นอุปสรรคกับการทำงาน
เราไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำในสิ่งที่เราไม่เป็น เพราะในที่สุดความจริงก็จะเผยออกมา

หากเราเป็นคนขี้เกียจแต่แสร้งทำเป็นคนขยันเฉพาะต่อหน้าหัวหน้างาน แต่กลับคนรอบข้างเรากลับพยายามอู้งาน
ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่เราเป็นก็จะไปถึงหูหัวหน้างาน และก็มักลงเอยในลักษณะที่เราไม่เป็นที่ไว้ใจอีก

หากเราเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ ก็ต้องแสดงความเป็นตัวของเราเอง กล้าแสดงออก เช่น
หากเรารับฟังคำสั่งไม่เข้าใจ เราต้องกล้าที่จะเข้าไปสอบถามจากหัวหน้า เพื่อให้เกิดความชัดเจน
และทำงานด้วยความถูกต้องโดยไม่แปรคำสั่งผิด หรือถ้ารู้สึกไม่เห็นด้วยในแนวทางการทำงาน ก็มีความกล้า
ที่แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างในมุมมองของเรา เพื่อให้การทำงานนั้นออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อองค์กร

เราควรค้นหนแนวทางการทำงานในแบบที่เป็นตัวของเราเอง โดยที่ยังทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น
เรามีลักษณะเป็นคนที่รอบคอบ ให้ความสำคัญกับรายละเอียดของแต่ละชิ้นงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลาในการทำงานนานเป็นพิเศษ
ดังนั้น เราจำเป็นต้องทำงานหนักมากขึ้นหรือทำงานล่วงเวลาจากเวลาปกติ เพื่อให้งานในความรับผิดชอบสำเร็จ

เราสามารถทำงานและเรียนรู้แง่มุมต่าง ๆ จากหัวหน้างาน
เป็นตัวของตัวเองในการทำงาน โดยเฉพาะการทุ่มเท พากเพียร กระตือรือร้น ไม่ท้อถอย
มีความคิดแง่บวกอยู่เสมอแม้จะเผชิญอุปสรรคมากมาย

ด้วยการทำงานเช่นนี้
ย่อมเอื้อในการพัฒนาตนเองและก้าวหน้าเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงานในอนาคตอย่างแน่นอน

ที่มา งานอัพเกรด




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2552
1 comments
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 14:04:04 น.
Counter : 1294 Pageviews.

 

ชอบค่ะ

 

โดย: ราชัย IP: 125.27.171.71 18 กรกฎาคม 2552 12:10:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.