งาน-เงิน ขโมยเวลาของคุณไปหรือเปล่า

หนึ่งในหลายความคิดที่ทำให้คนเรามุ่งหน้าทำงานหนัก ก็คือต้องการผลตอบแทนสูงๆ เพื่อความสุขในชีวิต
แต่ปัจจุบันมีแนวคิดมากมายสะท้อนให้เห็นแล้วว่า เงินไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุขเสมอไป
แต่การสร้างสมดุลระหว่างชีวิต การทำงาน ชีวิตครอบครัว และชีวิตส่วนตัวต่างหาก
ที่จะทำให้เราสุขใจอย่างแท้จริง ...

อีเลน เซนต์เจมส์ ผู้เขียนหนังสือชุด "เพื่อชีวิตอันเรียบง่าย" (สำนักพิมพ์บลิส) ซึ่งติดอันดับขายดี แนะนำว่า
หากทำชีวิตให้ง่ายขึ้นด้วยการลดเวลา และขั้นตอนต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันลง คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น
และสามารถใช้เวลานั้น เพื่อสร้างสมดุล และเพิ่มความรื่นรมย์ให้ตัวเองได้มากขึ้น

ต่อไปนี้เป็นการแนะนำวิธีการบริหารเวลา และจัดระบบการทำงานให้เรียบง่าย
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งคุณก็สามารถทำได้

1. ลดเวลาทำงานเหลือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
เริ่มต้นด้วยการตระหนักว่า เพียงทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น
คุณก็สามารถจะมีความสุข ทำงานได้มาก บรรลุจุดมุ่งหมาย และประสบความสำเร็จได้
จากนั้น มาพิจารณาตาราง การทำงาน และเปลี่ยนแปลงตามความจำเป็นเพื่อให้ทำงานน้อยลง
ซึ่งอาจจะรวมถึงการเริ่มทำงานสายกว่าเดิม การเลิกงานเร็วกว่าปกติ งดหรือลดการคุยมื้อกลางวันอย่างยืดเยื้อ
การไม่เข้าร่วมในโครงการที่ต้องทำหามรุ่งหามค่ำ หรือการทำตามขั้นตอนบางประการ
ซึ่งจะกล่าวไว้ในส่วนที่สองและสาม เพื่อให้มีเวลามากขึ้นและทำงานได้มากขึ้น
การเป็นผู้นำมากกว่าจะเป็นผู้ตามในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ รวมถึงการยืนหยัดอย่างสุภาพที่จะบอกว่า
"ฉันทำได้ดีแล้ว ฉันทุ่มเทกับ 40 ชั่วโมงของฉันอย่างเต็มที่ และนั่นคือขีดจำกัดของฉัน" จะช่วยให้ทำงานน้อยลง


2. ทิ้งกระเป๋าเอกสารไว้ที่ทำงาน
ถ้าโดยปกติแล้ว คุณมักจะนำงานกลับมาทำที่บ้านหลังเลิกงาน ควรคิดอย่างจริงจังว่า
งานนั้นเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตอย่างไร (ถ้ามี) นอกจากนี้ ควรถามตนเองว่า งานฉกฉวยอะไรไปจากชีวิตคุณ

ถ้าพร้อมจะละนิสัยติดงานกลับมาทำที่บ้าน แต่รู้สึกว่ายังไม่สามารถเลิกได้โดยสิ้นเชิง ก็ไม่เป็นไร
เพียงแต่ต้องเริ่มต้นด้วยการทิ้งกระเป๋าเอกสารไว้ที่ทำงานสักสัปดาห์ละหนึ่งหรือสองวัน
และวางแผนกิจกรรมที่จะทำหลังเลิกงาน เพื่อให้ตัวเองไม่สามารถนำงานกลับมาทำที่บ้านได้อีกต่อไป


3. หยุดทำงานวันเสาร์อาทิตย์
ถ้าคุณมักจะไปทำงานวันเสาร์อาทิตย์ หรือนำงานกลับมาทำที่บ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นประจำ
อาจเป็นได้ว่าในช่วงวันทำงาน คุณทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ


4. ตัดการเดินทางออกไป
หากต้องใช้เวลามากไปกับการเดินทาง ขอแนะนำให้ลองหาทางเลือกอื่น
ถ้าเป็นไปได้ควรย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ที่ทำงานมากขึ้น หรือหางานอื่นใกล้บ้านแทน
ลองเปลี่ยนมาใช้รถร่วมกันหลายคน (carpool) หรือจัดตารางงานใหม่
เพื่อจะได้สามารถขับรถไปทำงานในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน และจงอย่าทำงานไปด้วยในระหว่างเดินทาง
เพราะนั่นย่อมไม่ต่างจากการเอางาน กลับมาทำที่บ้าน ถือเป็นการปล้นเวลาอันไม่สมควรเลย


5. มีเวลาหยุดคิด
การมีเวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง คุณจำเป็นต้องมีเวลาคิดไตร่ตรอง
คุณต้องการเวลาเพื่ออยู่กับความคิดของตนเอง ขบบางเรื่องให้แตก และเปลี่ยนแปลงความคิดเหล่านั้นเสียใหม่
จนกว่าจะเกิดประกายความคิดอันเยี่ยมยอด ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายที่คุณต้องการจะไป
การที่เราไม่มีเวลาคิดทบทวน ชีวิตการงานของเราจึงเตลิดเปิดเปิงจนควบคุมไม่ได้



6. เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้
วิธีง่ายๆ ข้อหนึ่งในการใช้เวลาให้เป็น ก็คือเมื่อสิ้นสุดการทำงานในแต่ละวัน
ให้ใช้เวลาสักห้านาทีจัดเก็บโต๊ะทำงาน และวางสิ่งต่างๆ ให้เป็นระเบียบสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้น
ทำจนเป็นนิสัย แม้งานใดจะติดพันอยู่ ซึ่งต้องการจะทำต่อในวันรุ่งขึ้น
จากนั้น ใช้เวลาสักสองสามนาทีเพื่อนึกทบทวนว่า เช้าวันพรุ่งนี้ต้องเริ่มทำอะไรบ้าง
จัดลำดับความสำคัญ แล้ว จดบันทึกสั้นๆ ไว้เตือนความจำ โดยวางกระดาษโน้ตนี้ไว้กลางโต๊ะที่สะอาดสะอ้านนั้น
เพื่อจะได้เห็นมันทันทีเมื่อนั่งลงทำงานที่โต๊ะอีกครั้ง


7. รู้จักวางกำหนดการอย่างถี่ถ้วน
เมื่อต้องมีการนัดหมาย ควรคิดคำนวณให้ดีว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด
และกำหนดตารางเวลาที่สอดคล้องกับความเป็นจริง รู้จักเลือกให้มากขึ้นเมื่อต้องจัดตารางงาน โครงการ
และนัดหมายต่างๆ หมั่นถามตนเองให้ติดเป็นนิสัยว่า "ฉันจำเป็นต้องทำสิ่งนี้เดี๋ยวนี้จริงหรือ"
หรือ "ฉันจำเป็นต้องทำทั้งหมดนี้รึเปล่า" สำรวจตารางงานในเดือนที่แล้วหรือก่อนหน้านั้น และถามตัวเองว่า
สามารถตัดอะไรออกไปได้บ้าง พวกเรามักเสียเวลากับการทำสิ่งซึ่งไม่จำเป็นต้องทำ
การตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเป็นวิธีฉกฉวยเวลาที่ได้ผลมากที่สุดวิธีหนึ่ง


8. ใช้เงินให้เป็น
เพราะอุปสรรคใหญ่ที่สุดประการหนึ่งสำหรับผู้ต้องการมีชีวิตการงาน ที่เรียบง่าย ก็คือความหวั่นวิตกว่า
หากลดการทำงานลงจะต้องสูญเสียความมั่นคงทางการเงินไป ถ้าปัจจัยทางการเงินเป็นปัญหา
พึงรู้ไว้ว่า คุณสามารถสร้างฐานการเงินที่มั่นคงได้ ลองดูตัวอย่างเหล่านี้

- หลีกเลี่ยงสินเชื่อเพื่อการบริโภคและสินเชื่อรวมหนี้ หากคุณใช้บัตรเครดิตเกินตัว
อย่าเพาะหนี้เพิ่มด้วยการ refinance เป็นสินเชื่อรวมหนี้ และถ้าหนี้บัตรเครดิตกำลังบีบคั้น
ลองทำตามมาตรการขั้นเด็ดขาดดังต่อไปนี้ คือกำจัดบัตรเครดิตออกไปให้หมด
เหลือไว้เพียงหนึ่งหรือสองใบเท่านั้นสำหรับกรณีฉุกเฉิน
การมีบัตรเครดิตหลายใบเป็นการเชื้อเชิญให้ เสียเงินไปกับสิ่งไม่จำเป็น

อย่าใช้บัตรเครดิตซื้อสิ่งของซึ่งคุณมีเงินไม่พอจ่ายเมื่อถึงสิ้นเดือน
เพื่อไม่ให้บริษัทบัตรเครดิตสามารถคิดดอกเบี้ยกับยอดคงค้างของคุณได้
จำไว้ว่าคนร่ำรวยเขามัก ไม่ยอมเป็นหนี้ ยกเว้นหนี้ค่าบ้านเท่านั้น
และพวกเขาไม่เคยจ่ายเงินซื้ออะไรที่ตนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายเต็มจำนวนได้เมื่อถึงสิ้นเดือน

- เป็นผู้บริโภคที่รู้เท่าทัน หากรู้สึกว่าชีวิตการเงินของคุณวุ่นวายเกินควบคุม
ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตนอย่างละเอียด
คุณจะพบว่าวิธีแก้การมีหนี้ท่วมตัว มิใช่การทำงานให้มากขึ้น แต่เป็นการใช้จ่ายให้น้อยลง


ขั้นตอนต่างๆ ต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณรู้เท่าทันนิสัยการจับจ่ายใช้สอยของคุณมากขึ้น

-กำหนดนโยบายใหม่ของคุณและครอบครัวในการจับจ่ายซื้อของ
ตั้งใจมั่นว่าต่อจากนี้ ไปถ้าพบเห็นสิ่งที่ต้องการซื้ออย่างยิ่ง คุณจะจดไว้ในรายการ
และติดไว้บนบอร์ดของครอบครัวเป็นเวลาสามสิบวัน
เป็นไปได้มาก ว่าเมื่อถึงสิ้นเดือน แรงกระตุ้นที่ต้องการจะซื้อของสิ่งนั้นอาจหายไป

- พอคุ้นเคยกับรูปแบบการซื้อที่เลื่อนเวลา จับจ่ายออกไปหนึ่งเดือนแล้ว
ช่วงสามสิบวัน ต่อไปนี้ ห้ามซื้อของอะไรทั้งสิ้น ยกเว้นอาหารและสิ่งจำเป็นจริงๆ
จากนั้น ลองประเมินดูว่า คุณรู้สึกอย่างไร การฝืนแรงกระตุ้นในการซื้อสินค้าเป็นเรื่องยากหรือไม่
ยังคิดถึงของที่อยากซื้อแต่ไม่ได้ซื้อหรือไม่ ประหยัดเงินไปได้เท่าไร
ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไรถ้าใช้ชีวิตเช่นนี้ตลอดไป

- ก่อนจะเริ่มแผนการเลื่อนการใช้จ่าย ให้กำหนดคำนิยามของคำว่า "สิ่งจำเป็นจริงๆ" ตัวอย่างเช่น
ถ้าขับรถไปทำงาน คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อยางนั้นสึก
แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องเล่นเทป หากมันเสีย

- หมั่นคำนวณค่าจ้างจริงๆ ต่อชั่วโมง รายได้สุทธิหลังหักภาษี หารด้วยจำนวนชั่วโมงการทำงานแท้จริง
จะได้รู้ว่าต้องทำงานพิเศษนานกี่ชั่วโมงจึงจะซื้อของที่อยากซื้อได้
แล้วคุณจะเริ่ม มองเห็นความไร้สาระของสิ่งมากมายจิปาถะที่คุณสรรหามาเติมชีวิต

เคล็ดลับทั้ง 8 ข้อ เป็นหลักการที่ไม่ยากเกินไป
จัดว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพื่อให้แต่ละวันของคุณดูเหมือนมีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้น

ที่มา โพสต์ทูเดย์

Create Date : 01 กรกฎาคม 2552		1 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 13:56:19 น.
Counter : 1060 Pageviews.
Share Tweet