ทำงานอย่างมีความสุขได้แม้ไม่มีเส้น
ในการทำงานร่วมกันของผู้คนนั้น การเลือกที่รักมักที่ชังปรากฏให้เห็นได้เสมอ บางคนจึงเชื่อว่า ตนได้ดีน้อยกว่าคนอื่นเพราะตนเองไม่มีเส้น
ผู้บริหารในองค์กรที่เถรตรงมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายก็หนีไม่พ้นไปจากอาการเลือกที่รักมักที่ชังจนได้ ชอบใจพนักงานคนไหนมากเป็นพิเศษ พนักงานคนนั้นย่อมได้รับความสนใจจากผู้บริหารมากกว่าคนอื่น เพียงแต่ว่าจะมากจะน้อยกว่าคนอื่นเพียงใดเท่านั้น
ถ้ามีพนักงานสองคน มีฝีมือในการทำงานพอๆกัน พนักงานคนหนึ่งเอาแต่ทำงานโดยไม่สนใจผู้บริหาร จะเดินผ่านไปผ่านมาก็ไม่ค่อยได้ทักทาย ในขณะที่พนักงานอีกคนหนึ่งใส่ใจคอยช่วยเหลือผู้บริหารต่างๆ นานา พนักงานคนนั้นย่อมได้ใจจากผู้บริหารไปบ้างไม่มากก็น้อย ภาพที่ปรากฏขึ้นในการทำงานจึงกลายเป็นว่า พนักงานคนที่ชอบประจบประแจงได้รับการสนับสนุน มากกว่าคนที่เอาแต่ทำงาน
คนทั่วไปจึงอาจมองว่าพนักงานบางคนมีเส้นดีกว่าคนอื่นๆ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ผู้คนในองค์กรเริ่มมองว่า คนอื่นนั้นได้ดีกว่าตนเพราะมีเส้นดีกว่าแล้ว เมื่อนั้นความสุขในการทำงานของผู้คนในองค์กรนั้น ย่อมลดน้อยลงไปในทันที ความสุขกลับกลายเป็นความเจ็บแค้น หรือไม่ก็กลายเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ คราวนี้ผลงานที่แต่ละคนช่วยกันทำออกมานั้น ก็จะไม่เต็มที่ไม่ดีเหมือนเดิม เป็นผลให้คนที่ผู้คนมองว่ามีเส้นดีกว่าคนอื่นนั้น ถ้ามีฝีมือเพียงพอ ก็จะยิ่งสร้างผลงานได้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก จนมองเห็นกันได้อย่างชัดเจน เมื่อผลงานดีกว่าคนอื่นก็ย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า และได้รับความก้าวหน้ามากกว่าคนอื่นๆ จึงยิ่งทำให้ความเชื่อในเรื่องการมีเส้นในการทำงานในหมู่ผู้คน ยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีก
ดังนั้นการที่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม แม้จะรู้สึกว่าตนเองไม่มีเส้นนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานให้ประสบความสำเร็จ และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานอย่างมีความสุข
เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่า สิ่งที่เรียกว่าเส้นสายนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เส้นสายเกิดจากการที่คนเรามีความชอบและไม่ชอบแตกต่างกัน ผู้บริหารซึ่งก็เป็นปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมไม่พ้นจากความลำเอียง อันเนื่องมาจากความชอบและความไม่ชอบนี้เช่นเดียวกัน
ความชอบมีได้หลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นชอบทำงานกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ชอบทำงานกับคนที่ช่างเอาอกเอาใจ ชอบทำงานกับคนที่เรียนจบมาจากที่เรียนเดียวกัน เรียนจบสาขาเดียวกัน ชอบทำงานกับคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ความชอบไม่ว่าจะเป็นลักษณะใดก็ตามแต่ ย่อมทำให้ผู้บริหารมอบสิทธิพิเศษบางประการให้กับพนักงานที่ตนเองชอบ
ทำนองเดียวกันนั้น ความไม่ชอบก็มีหลายลักษณะเช่นเดียวกัน ไม่ชอบทำงานกับคนรูปร่างไม่ดี ชอบเล่นสีเล่นพวก คือไม่ชอบทำงานกับคนที่มาจากพวกใดพวกหนึ่ง ไม่ชอบทำงานกับคนที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ความไม่ชอบเหล่านี้มีผลให้ผู้บริหารให้การสนับสนุนผู้คนเหล่านี้ น้อยกว่าคนอื่นๆ
ซึ่งถ้าผู้บริหารเข้าใจในเรื่องความชอบความไม่ชอบนี้ดีพอ ย่อมจะพยายามรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุน ที่ตนเองมอบให้กับคนที่ตนชอบกับคนอื่นๆ โดยไม่ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนที่ตนชอบนั้นได้รับการสนับสนุนที่ดีกว่าคนอื่น หรือการสนับสนุนที่มีต่อคนที่ตนไม่ชอบนั้น ก็ต้องไม่แตกต่างไปจากคนอื่น
ผู้บริหารต้องทำให้ผู้คนในองค์กรไม่รู้สึกว่า คนมีเส้นได้รับการสนับสนุนที่ดีกว่าคนไม่มีเส้น อย่างไรก็ตามแม้ว่า ผู้บริหารจะพยายามรักษาสมดุลนี้ให้ดีเพียงใดก็ตาม จะยังมีผู้คนที่รู้สึกว่าคนมีเส้นได้ดีกว่าคนไม่มีเส้นอยู่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามความรู้สึกกันได้ยาก
หากเราเป็นคนทำงานแล้วรู้สึกว่าต้องทำงานกับคนมีเส้น เราทำงานเท่าใดก็ได้ดีไม่เท่ากับคนมีเส้นแล้ว ขอให้คิดดูดีๆ ว่าที่เรายังสามารถทำงานอยู่ได้ต่อไปนั้น อย่างน้อยผู้บริหารคงยังให้ความสำคัญกับตัวเราอยู่ ถึงแม้ไม่มีเส้น แต่อย่างน้อยก็ยังมีความสำคัญอยู่บ้างในสายตาของผู้บริหาร เพราะถ้าเราไม่มีเส้นแล้ว เรายังคงทำงานอยู่ได้ แสดงว่าเราต้องมีความสำคัญกับองค์กรอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เมื่อตัวเรามีความสำคัญต่อองค์กร ถ้าเราขยันขันแข็งทำงานให้ประสบความสำเร็จ องค์กรที่เราอยู่นั้นก็ย่อมประสบความสำเร็จไปด้วย แต่อย่าคิดไปไกลว่าเราต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตใดๆ ขององค์กรนั้น ตั้งอกตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดในวันนี้ โดยไม่ต้องใส่ใจว่า ผู้บริหารจะกำหนดทิศทางในอนาคตขององค์กรนั้นอย่างไร
คนไม่มีเส้นจะเสนออะไรขึ้นไปก็แล้วแต่โอกาส ที่จะได้รับความสนใจจากผู้บริหารย่อมมีไม่มากนัก เมื่อไม่สนใจที่จะไปมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตขององค์กรแล้ว ก็สามารถทำงานอย่างมีความสุข ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีเส้น แต่กลับไปสนใจว่าอนาคตขององค์กรจะเป็นอย่างไร พอเสนอรูปแบบอนาคตที่ตนต้องการเห็นไปให้ผู้บริหารได้พิจารณา แล้วผู้บริหารไม่สนใจ ก็จะทำให้ทุกข์ใจในการทำงานไปเปล่าๆ
เมื่อใดก็ตามที่พบว่า มีการเลือกปฏิบัติจากผู้บริหารจนเห็นความแตกต่าง ที่ชัดเจนระหว่างคนมีเส้นกับคนไม่มีเส้น ขอให้นึกไว้ว่าผู้บริหารที่ไม่สามารถรักษาสมดุล ระหว่างคนมีเส้นกับคนไม่มีเส้นได้นั้น มักเป็นผู้บริหารที่ไร้ฝีมือ จึงมองไม่เห็นว่าใครเก่งใครไม่เก่ง ทำให้ต้องใช้ความชอบความไม่ชอบส่วนตัวในการบริหารงาน
เมื่อใดก็ตามที่เสนอหลักการดีๆ ไปให้ผู้บริหารได้ใช้กับองค์กร แต่ผู้บริหารกลับไปสนใจหลักการแย่ๆ ที่มาจากคนมีเส้น ก็ขอให้คิดไปว่ากำลังทำงานอยู่กับผู้บริหารที่ไร้ฝีมือ จึงไม่สามารถแยกแยะหลักการที่ดีและไม่ดีออกจากกันได้ เมื่อแยกของดีของไม่ดีไม่ออก ก็ต้องใช้ความชอบความไม่ชอบมาเป็นตัวตัดสินใจ
ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ถ้าเราไม่มีเส้นเราคงไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการบริหารของผู้บริหารที่นิยมการใช้เส้นได้ คิดได้ดังนี้แล้วก็ขอให้พยายามทำวันนี้ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด อย่ามัวแต่ทุกข์อกทุกข์ใจ น้อยอกน้อยใจในโชคชะตาว่าฉันเกิดมาเป็นคนไม่มีเส้น ขอให้ใจเย็นๆ รอไว้เมื่อถึงวันหนึ่ง เราจะได้เห็นผู้บริหารที่นิยมการใช้เส้นตกเก้าอี้ เพราะหมดเส้นสายในวันหน้าอย่างแน่นอน
โดย ดร.บวร ปภัสราทร ,กรุงเทพธุรกิจ ที่มา : //www.hrtothai.com
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2553 0:47:44 น. |
Counter : 774 Pageviews. |
|
|
|
ความสุขอยู่ที่ใจ
ทำใจได้ ก็มีความสุข (ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน)