ทำยังไง ให้รักงานที่ทำ
หาเพื่อนช่วยติว ในออฟฟิศคงมีใครสักคนที่คุณแอบปลื้มฝีไม้ลายมือการทำงานอยู่ คุณสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากคนๆนี้ คุณอาจเข้าไปทำความสนิทสนม แล้วขอให้เขาเป็นคนช่วยติวให้คุณด้วยการวิพากย์วิจารณ์ผลงานของคุณ
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ติวเตอร์ของคุณคนนี้ ควรเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในระดับหนึ่ง และมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กรที่ทำงานอยู่
ผสานความสามารถของคุณ เข้ากับเป้าหมายของบริษัท หลายคนพบว่า ตัวเองไม่ค่อยได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่เท่าใดนัก ลองหันมาหาวิธีที่จะผสานความสามารถ ที่คุณมีให้เข้ากับความต้องการของบริษัทดู ขั้นแรกคือ ต้องรู้ว่าคุณเองมีความสามารถอะไรที่โดดเด่น หลังจากนั้นคุณก็ต้องหาข้อมูลเรื่องทิศทางของบริษัท เมื่อคุณรู้เป้าหมายของบริษัทแล้ว ก็ดูว่าคุณจะสามารถนำทักษะที่คุณมี มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทได้อย่างไร แล้วนำความคิดที่ได้ไปเสนอเจ้านาย คุณอาจรู้สึกว่าต้องใช้ทั้งหัวคิดและความกล้าเป็นอย่างมาก แต่ผลที่จะได้รับนั้นรับรองว่าคุ้มค่ามาก เพราะคุณจะได้สวมบทบาทใหม่ คือได้ทำทั้งสิ่งที่คุณชำนาญ แถมความชำนาญของคุณ ยังมีประโยชน์ต่อบริษัทโดยตรง ผลงานเข้าตาอย่างนี้เตรียมรับโบนัสปลายปีได้เลย
รู้จุดด้อยของตัวเองแล้วหาทางแก้ไข การปรับปรุงความสามารถในการทำงาน จะง่ายขึ้นหากคุณยอมรับว่า คุณไม่ได้สมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่าง และหาข้อด้อยของตัวเองให้พบ เพราะในการทำงานร่วมกันนั้น คนเรามักโยนข้อผิดพลาดไปให้ผู้อื่นเสมอ ทั้งที่ความจริงควรร่วมมือกันอย่างลงตัว ทั้งฝ่ายบริหารและพนักงาน
ซึ่งการที่จะทำให้ได้อย่างนั้น คุณต้องตีสถานการณ์ให้แตก แล้วนำบทเรียนที่ได้มาปรับปรุงการทำงาน รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน
และตัวคุณเองต้องมีความยืดหยุ่น และผ่อนปรนมาก ๆ เช่น หากคุณมาสายก็ให้หัดมาให้เช้าขึ้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากความสัมพันธ์กับเจ้านายไม่ค่อยดีก็ย้อนกลับมาดูซิว่า คุณเป็นลูกน้องที่ใช้การได้จริงหรือไม่ จุดด้อยนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นความผิดพลาดที่คุณทำ แต่อาจจะเป็นด้านใดด้านหนึ่งที่คุณขาดความมั่นใจหรือประสบการณ์ ซึ่งถ้าแก้ไขได้แล้ว คุณก็จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้มากทีเดียว
ตีฆ้องร้องป่าว ลองนึกดูว่ามีอะไรที่คุณทำได้ดี แต่ไม่เคยมีใครให้เครดิตบ้างหรือเปล่า การไม่ได้รับความชื่นชมในสิ่งที่ทำคือ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเราเกิดความไม่พอใจในการทำงาน
ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า หากเราต้องการคำชมเชย ก็ควรจะทำดีให้นายได้เห็นตรงๆ อาจจะฟังดูขัดกับความรู้สึกเหมือนกับเป็นคนอยากได้หน้าอยู่ตลอดเวลา แต่หากทำอย่างถูกวิธีก็จะมีประโยชน์ต่อตัวคุณเอง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในการทำงานนั้น ไม่ใช่คนที่เอาแต่นั่งรอว่า เมื่อไรจะมีคนเห็นความดีที่ตัวเองทำลงไป หากแต่เป็นคนที่ทำดีและบอกให้คนอื่นได้รู้เห็นร่วมด้วย พูดง่ายๆคือ อย่ามัวแต่ ปิดทองหลังพระกันอยู่เลยค่ะ
ใช้ประโยชน์จากเทรนนิ่ง ที่บริษัทมีให้อย่างคุ้มค่า หลายบริษัทมีเทรนนิ่งให้กับพนักงาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านคอมพิวเตอร์ ภาษาหรือการบริหาร แม้วิชาเหล่านี้ จะไม่ได้มีประโยชน์กับงานที่คุณทำอยู่อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็จะช่วยเพิ่มค่าให้กับตัวคุณ เมื่อไรก็ตามที่คุณคิดมองหางานใหม่ ถ้าบริษัทไม่มีเทรนนิ่งให้ คุณก็อาจเป็นฝ่ายร้องขอได้ เจ้านายของคุณอาจจะประทับใจกับความใฝ่รู้ของคุณก็ได้นะ
อยากได้ ...ต้องขอ การร้องขอนั้น ดูจะเป็นกลยุทธ์ง่าย ๆ แต่ไม่ค่อยมีใครใช้มากนัก ไม่ใช่ว่าฝ่ายบริหารจะไม่อยากให้พนักงานได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่บางทีงานที่ยุ่ง ๆก็ทำให้บรรดาเจ้านายลืม ๆไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น แทนที่จะปล่อยให้เจ้านายยุ่งจนลืมโลก ลองหาเวลาเข้าไปคุยในเวลาที่นายไม่เหนื่อยจนเกินไป แล้วเอ่ยปากขอในสิ่งที่คุณต้องการ
ริเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ สำหรับคนที่รู้สึกเบื่อหรือตันกับการทำงาน ลองคิดทำสิ่งใหม่ๆขึ้นมา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองเดินหน้าต่อไป ลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เช่น จัดโต๊ะทำงานใหม่ ก่อนที่จะขยับขยายไปสู่สิ่งที่ใหญ่ขึ้น เช่น ริเริ่มโครงการอาสาสมัครในบริษัท
การริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆนั้นไม่ได้ทำให้คุณมีงานทำมากขึ้นเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การได้ใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ต่างหาก
การที่ได้เป็นผู้ริเริ่มทำให้คุณโดดเด่นและมั่นใจ สิ่งที่คุณสนใจจะช่วยให้คุณละทัศนคติที่ไม่ดี และหันมารักงานมากขึ้น การได้ทำอะไรให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอด ด้วยการทำสิ่งที่รัก จะช่วยทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้น
ที่มา : //www.pattanakit.net
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2553 0:48:02 น. |
Counter : 1318 Pageviews. |
|
|
|