Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
15 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

เคล็ดลับ…ให้ลูกรักพ่อแม่



หลายคนบอกว่า ทำไมลูกไม่รักพ่อแม่ขณะที่ลูกบางครอบครัวรักพ่อแม่เป็นที่สุด
เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูเด็ก ดร.สแตนลี โกลด์ กับ ดร.ปีเตอร์ ไอเซ็น (Stanley Glod and Peter Eisen)
เขียนหนังสือ How to Bring up Your Parents ได้ให้ข้อคิดให้พ่อแม่เลี้ยงดูแบบเข้าอกเข้าใจ
เพราะจะทำให้เกิดความรักความอบอุ่นกันทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือลูกตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น

เพราะความรักเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการสร้างชีวิตที่ดี ถ้ามีการให้กันอย่างพอเหมาะพอควร
ถ้าลูกรักพ่อแม่ จะไม่ค่อยทำอะไรผิด เพราะกลัวพ่อแม่ไม่รัก

การให้ลูกรักเรา จึงไม่ใช่เรื่องยาก
เนื่องจากตามธรรมชาติแล้วพ่อแม่จะรักลูก ลูกจะรักพ่อแม่ สำคัญที่พ่อแม่ให้ความรักนี้ได้อย่างไรมากกว่า

ซึ่งกระบวนการสร้างความรักต่อกันนี้เกิดมาจากหลายช่วงอายุ

ก่อนตั้งครรภ์
พ่อแม่ต้องถามใจตัวเองว่า
พร้อมมีลูกหรือยัง
พร้อมที่จะให้ความรักความอบอุ่นหรือไม่
พร้อมที่จะเลี้ยงลูกตัวเล็กๆ จนกว่าจะแข็งแรงช่วยตัวเองได้
ซึ่งใช้เวลาหลายปีเป็นการเลี้ยงด้วยใจ ไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากที่อาจต้องอดนอนเพื่อลูกรักหรือไม่


ตอนตั้งครรภ์
เป็นช่วงที่แม่จะต้องคิดเสมอว่า ในท้องของเรา มีลูกตัวเล็กๆ ที่ต้องมีพัฒนาการเป็นเวลา 9 เดือน
แม่จะต้องทำใจให้สบาย รักษาตัวให้ดีเพื่อลูกรักจะได้เจริญเติบโตแข็งแรง
โดยแม่ต้องพยายามสัมผัสท้องด้วยการลูบท้อง
ควรทำเป็นกิจวัตรจะเกิดความผูกพันเรียกว่า เป็นการระลึกถึงกันทุกวัน และควรให้พ่อแตะท้องบ้าง
ยิ่งตอนลูกมีเสียงหัวใจเต้น หรือถีบเท้าเล็กๆ ไปมาได้ จะสร้างความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างพ่อกับลูก
ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชบางคนบอกว่า ถ้าพูดคุยด้วย ก็ดีในแง่สร้างความรู้สึกว่า นั่นคือลูกของเรา


หลังคลอด
เป็นช่วงที่เด็กจะช่วยตัวเองไม่ได้ พ่อแม่จึงสำคัญมากในช่วงนี้ เพราะต้องอุทิศเวลาให้กับลูก
ไม่ว่าในเวลากลางวันหรือกลางคืน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องมีการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด
เพื่อจะได้ให้ทั้งอาหาร การรักษาความสะอาด การดูแลสุขภาพ เป็นต้น

โดยเฉพาะความรักและความเอาใจใส่อย่างดีต่อเนื่อง แม้ช่วงนี้เด็กจะพูดไม่ได้
แต่ความรู้สึกสัมผัสที่พ่อแม่ให้จะเป็นแรงกระตุ้นให้แกมีความรัก หรือความผูกพัน ได้ความเอื้ออาทร
การพูดจาที่แสดงความรักจะทำให้เด็กซึมซับและรู้ว่าใครรักแก โดยเฉพาะพ่อแม่ที่รักใคร่ห่วงใย


ก่อนเข้าโรงเรียน วัย 1-3 ขวบ
พ่อแม่จะมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ลูกเรียนรู้ว่า ความรักของพ่อแม่เป็นอย่างไร
พ่อแม่จึงต้องสอนลูกและแสดงให้ลูกเห็นว่า แกคือบุคคลสำคัญที่พ่อแม่อุทิศชีวิตทั้งกายและใจให้
และความรักที่พ่อแม่ให้นั้น แกต้องรู้จักชอบหรือรักคนอื่นด้วย
ถ้าช่วง 1-3 ขวบนี้หากเด็กมีภาพพจน์ที่ดี จะเห็นว่าโลกน่าอยู่และคนที่เด็กอยากอยู่ด้วยมากที่สุดคือพ่อแม่
นี่คืออาการแสดงความรัก


ช่วงโรงเรียนอนุบาล วัย 31/2-51/2 ขวบ
เป็นช่วงที่เด็กมีประสบการณ์พ้นไปจากบ้าน
แต่ใจเด็กก็ยังอยู่กับพ่อแม่แม้จะมีเพื่อนมากมาย แต่ก็ยังอยากอยู่ใกล้พ่อแม่
พ่อแม่จึงต้องทำให้ลูกรักไว้วางใจว่า ไม่ว่าลูกจะอยู่ตรงไหน พ่อแม่รักลูกเสมอ ตอนไปส่งไปรับควรจะกอดจูบ

รวมทั้งสอนลูกให้เข้าใจว่า นอกจากพ่อแม่แล้ว แกยังมีเพื่อนตัวน้อยๆ ที่สามารถจะเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ
ที่สนุกสนานร่วมกันได้ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เด็กมีครู พี่เลี้ยงคอยให้ความรักนอกเหนือจากพ่อแม่


เข้าโรงเรียนประถม
เด็กจะเริ่มเข้าใจว่าแกต้องเรียนหนังสือ ต้องทำตัวให้เข้ากับครู เพื่อนและคนอื่นๆ ในโรงเรียน
พ่อแม่ต้องเข้าใจลูกว่า วิชาการอาจจะยากขึ้น
แต่พ่อแม่ทำให้ลูกมีกำลังใจด้วยการแสดงให้แกเห็นว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พ่อแม่จะยืนเคียงข้างแกเสมอ

ถ้าลูกมีการบ้านที่ไม่เข้าใจ พ่อแม่ควรจะช่วยลูก ถ้าอธิบายหรือสอนได้ก็ทำไป
ถ้าทำไม่ได้ควรไปหาครู อาจารย์ให้ช่วยเหลือ หรือหาใครก็ได้ที่เด็กพอใจและอยากให้สอน
ที่สำคัญช่วงนี้ เด็กเริ่มมีอารมณ์มีความรัก ความโกรธปะปนกันไป
ขอแค่พ่อแม่เข้าใจลูก พยายามชี้แจงแกด้วยเหตุผลว่า อะไรถูกอะไรควร โดยไม่ซ้ำเติม
ลูกจะเข้าใจและรักพ่อแม่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะเด็กจะรู้ว่าไม่ว่าแกจะอยู่ตรงไหน พ่อแม่จะเป็นที่พึ่งพาของแกได้
และคนที่หวังดีต่อแกที่สุดในโลกนี้ไม่มีใครนอกจากพ่อแม่

วัยนี้ระเบียบวินัยสำคัญ แม้พ่อแม่จะรักลูกอย่างไร ต้องสอนลูกให้เคารพกฎเกณฑ์ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
โดยเฉพาะกฎเกณฑ์ของโรงเรียนที่เด็กต้องทำตาม
พ่อแม่จึงต้องมีเหตุผลในการรักลูก ไม่หวงลูก เพื่อลูกจะได้แยกถูกผิดได้

การที่พ่อแม่สอนลูกด้วยเหตุและผล
นั่นคือการแสดงความรักที่มีคุณค่าและจะเป็นเกราะคุ้มครอง ป้องกันให้ลูกอยู่กับคนอื่นๆ ได้


อยู่โรงเรียนมัธยม
เป็นวัยที่เห็นเพื่อนสำคัญ แต่ถ้าพ่อแม่เข้าใจวัยรุ่น จะทำให้เกิดความรักและเคารพ
พ่อแม่จะให้ลูกรักได้ต้องเข้าใจจิตวิทยาของวัยรุ่นว่า
เป็นวัยอยากรัก อยากถูกรัก
มีอารมณ์รุนแรง
รักก็รักสุดใจ เกลียดก็เกลียดถึงใจ
อยากมีความสำเร็จ อยากมีอนาคต
อยากได้รับคำชมเชยยกย่อง
อยากมีหลักประกัน
อยากมีแบบอย่างที่ดี
อุดมคติสูง แต่ไม่ค่อยรู้ว่าชีวิตจริงอาจไม่ได้เป็นไปตามหวัง ฯลฯ

พ่อแม่จะให้ลูกรักต้องยอมรับว่าเรากับลูกอาจจะคิดหรือทำอะไรต่างกัน สิ่งใดที่พ่อแม่ห้าม ลูกจะอยากทำ
พ่อแม่เลยมองว่ากำลังต่อต้าน ซึ่งเพียงแค่เพราะลูกอยากเป็นตัวของตัวเอง อยากให้เพื่อยอมรับ

และที่สำคัญอยากให้พ่อแม่เข้าใจว่า ลูกไม่ใช่เด็กอีกต่อไป
ขอแค่พ่อแม่ยอมรับรู้ว่า ลูกกำลังอยู่ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ที่ที่เรียกกันว่า "วัยรุ่น" ที่มีปัญหาหลายด้าน
ไม่ว่าเรื่องความรัก การวางตัว โกรธ เกลียด เป็นต้น
ทำให้วัยรุ่นอาจจะพูดจาหรือมีความคิดอ่านที่ต่างไปจากพ่อแม่

ขอแค่พ่อแม่ช่วยประคับประคองให้ลูกผ่านวัยนี้ให้ได้ พยายามเข้าใจความรู้สึกของลูกว่า
แกอยากมีอิสระบ้างเป็นครั้งคราว
อยากได้แบบอย่างผู้ใหญ่ที่ดี อยากได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง ไม่ว่ากล่าวหรือเห็นเรื่องของวัยรุ่นไร้สาระ

พยายามซึมซับว่าลูกต้องการอะไร และทำไมถึงต้องการแบบนั้น
เป็นการถอดใจพูดจากัน เพื่อจะได้เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง
ให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนพ่อแม่จะรักลูก เป็นที่พึ่งของแกได้เสมอ ลูกจะได้รู้ว่า
ไม่ว่าลูกจะผิดไปบ้าง พ่อแม่จะให้อภัยและช่วยลูกเดินก้าวต่อไปด้วยความรัก ความอบอุ่นที่เต็มหัวใจ
ลูกจะรักและกตัญญูต่อพ่อแม่อย่างหมดหัวใจเช่นกัน

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สูตรสำเร็จ ขอแค่พ่อแม่เข้าใจว่า
ลูกแต่ละอายุมีอารมณ์ต่างกัน พ่อแม่จึงต้องให้ความรักอย่างถูกต้องเหมาะสม
แล้วลูกจะรักพ่อแม่ตลอดไป


โดย รศ.สุพัตรา สุภาพ
ที่มา //www.elib-online.com/doctors2/child_love02.html
ภาพจาก //www.ehow.com/how_4495985_deal-curfew.html


สารบัญ เรื่อง แม่และเด็ก
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 19:02:49 น.
Counter : 1111 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.