เป็นที่ทราบกันดีถึงวัฒนธรรมการจับคู่เครื่องดื่มให้เข้ากับอาหารที่มีมาช้านาน ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ในประเทศฝั่งยุโรป จะมีวัฒนธรรมการดื่มไวน์ขาวกับอาหารประเภทปลาหรืออาหารทะเล ส่วนไวน์แดงจะดื่มพร้อมกับอาหารประเภทเนื้อ

จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจและนำมาสู่การสร้างประสบการณ์แห่งรสชาติครั้งใหม่ของการจับคู่เครื่องดื่มไทยให้เสริมสร้างรสชาติและเพิ่มอรรถรสแห่งการรับประทานให้กับอาหารไทย กลายมาเป็น “Mekhong ELITE TABLE“ ศาสตร์แห่งการจับคู่อาหารไทยกับค็อกเทลไทยระดับพรีเมียม

โดยเอกลักษณ์ของอาหารไทยคือความกลมกล่อมที่ลงตัว จากการผสมผสานรสชาติที่มีทั้งรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด เมื่อได้ดื่มเคียงคู่กับค็อกเทลไทยที่ร้อยเรียงจากกลุ่มวัตถุดิบในสายเดียวกัน ยิ่งช่วยเสริมอรรถรสให้กับอาหารมากยิ่งขึ้น

โดยหลักแห่งการจับคู่รสชาติเครื่องดื่มค็อกเทลและอาหาร แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ รสชาติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดจากวัตถุดิบในการปรุงมาจากกลุ่มที่ใกล้เคียงกันหรือกลุ่มเดียวกัน และรสชาติตัดกัน เพื่อให้มีรสชาติที่ชัดเจนและกลมกล่อมยิ่งขึ้น และยังได้แบ่งหมวดหมู่ของเมนูไทยเป็น 5 ประเภทกว้างๆ ซึ่งเหมาะกับการจับคู่กับเครื่องดื่มที่แตกต่างกัน

อาหารประเภทยำมักจะมีรสเปรี้ยว เผ็ดนำ ตามด้วยเค็ม และหวานปลาย ดังนั้นเครื่องดื่มค็อกเทลที่เหมาะสมจึงมักเป็นเครื่องดื่มที่ออกรสเปรี้ยวหวาน และมีกลิ่นผลไม้ สมุนไพร หรืออาจมีความซ่านิดๆ อย่างเมนูเครื่องดื่มแนะนำคือ Mekhong Thai Sabai ค็อกเทลที่มีส่วนผสมจากแม่โขง มะนาวสด และใบโหระพา Siam Siesta ค็อกเทลที่มีผสมด้วยแม่โขง ไวน์แดง ส้มสด ตบด้วยมะนาวสดอีกหน่อย และ Siam Sparkling ส่วนผสมที่ลงตัวจากแม่โขงและสปาร์กลิ้งไวน์

ต่อไปคืออาหารประเภทแกง แกงกะทิเป็นอาหารที่มีเนื้อสัมผัสเข้มข้น ดังนั้นค็อกเทลที่จับคู่ควรช่วยในการตัดความเลี่ยน เช่น The Long River ที่มีส่วนผสมของแม่โขง แครนเบอร์รีสด ที่มีรสฝาด เสิร์ฟด้วยแก้วลองดริงก์ Mekhong Mantra รวมเอาเอกลักษณ์ของแม่โขงที่มีสมุนไพรและกลิ่นขิง Siam Savory ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของแม่โขงและสับปะรดสด เพิ่มกลิ่นมินต์

ส่วนอาหารประเภทแกงที่ไม่ใส่กะทิ ส่วนมากจะหวานเค็ม เปรี้ยว และมักมีส่วนผสมของเครื่องเทศ ค็อกเทลที่จะมาช่วยเสริมสร้างรสชาติให้ดียิ่งขึ้นควรเป็น Mekhong Mantra ที่ชูความโดดเด่นของสมุนไพรไทย ผสานกลิ่นขิง

ส่วนเมนูประเภททอด ค็อกเทลต้องถูกออกแบบให้มีรสชาติที่ดื่มแล้วตัดเลี่ยนได้ แต่เครื่องดื่มควรเป็นเนื้อใสเพื่อไม่ให้หนักเกินไปสำหรับเมนูทอด ได้แก่ Mekhong Mantra รวมเอาเอกลักษณ์ของแม่โขงที่มีสมุนไพรและกลิ่นขิง ตัดความเลี่ยนให้กับอาหารทอดได้ดีโดยเฉพาะในอาหารประเภทผัดนั้น เมนูผัดของไทยส่วนใหญ่จะมีรสเค็มตามด้วยหวาน และมันเล็กน้อย

ดังนั้นค็อกเทลควรมีรสชาติกลมกล่อมใกล้เคียงกัน เช่น Mekhong Mantra รวมเอาเอกลักษณ์ของแม่โขงที่มีสมุนไพรและกลิ่นขิง Mekhong Thai Sabai ค็อกเทลที่มีส่วนผสมจากแม่โขง มะนาวสด และใบโหระพา Cha-Thai ที่มีส่วนผสมของแม่โขงและชาไทยตรามือ เพิ่มความหอมด้วยมะนาวฝานตกแต่งที่ขอบแก้ว

อาหารประเภทย่าง มีเอกลักษณ์ที่ตัวกลิ่นของอาหาร ดังนั้นการใช้สมุนไพรไทยมาช่วยจะยิ่งเป็นการเสริมสร้างอรรถรส เช่น Mekhong Sub Zero การนำแม่โขงแช่เย็นด้วยอุณหภูมิติดลบ ช่วยลดกลิ่นความเป็นสมุนไพรลง

Mekhong Mantra รวมเอาเอกลักษณ์ของแม่โขงที่มีสมุนไพรและกลิ่นขิง Bangkok Monsoon ที่มีส่วนผสมของแม่โขง ส้ม และมะนาวสด ใส่ไข่ขาวแล้วเชกให้ขึ้นฟอง เพิ่มกลิ่นด้วยการเผาเปลือกส้ม และ Mekhong Mantra รวมเอาเอกลักษณ์ของแม่โขงที่มีสมุนไพรและกลิ่นขิง

พบกับความประทับใจแห่งการลิ้มลอง Mehong ELITE TABLE ได้ที่ 3 ร้านอาหารไทยชั้นนำ ได้แก่ ร้านโอชาไทย สอบถามข้อมูล โทร. 0-2256-2534, ร้านบลูเอเลเฟ่นท์ สอบถามข้อมูล โทร. 0-2673-9353 และร้านดาราเทวี เชียงใหม่ สอบถามข้อมูล โทร. 0-5388-8834 ติดตามดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ //www.facebook.com/mekhongthailand :: Text by FLASH

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ - FLASH

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ