Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. นิพพานที่เห็นได้เอง

(เมื่อบุคคลนั้นรู้สึกต่อความสิ้นราคะ-โทสะ-โมหะ)

"ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !
คำที่พระโคดมกล่าวว่า "นิพพานที่เห็นได้เอง นิพพานที่เห็นได้เอง" ดังนี้.

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !
นิพพานที่เห็นได้เอง ไม่ประกอบด้วยกาล, เป็นสิ่งที่กล่าวกับผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ได้เฉพาะตน นั้นมีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า !"

พราหมณ์ !
บุคคลผู้ ..
.. กำหนัดแล้ว
.. อันราคะครอบงำแล้ว,
.. มีจิตอันราคะรึงรัดแล้ว

-ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
-ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
-ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นทั้งสองบ้าง,
-ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปทางจิตบ้าง.

เมื่อละราคะได้แล้ว, เขา-
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเอง
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองอย่าง,
-และย่อมไม่เสวยเฉพาะ ซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปทางจิตโดยแท้.

พราหมณ์ !
นิพพานที่เห็นได้เอง -
-ไม่ประกอบด้วยกาล
-เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด
-เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ
-เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ย่อมมีได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.

พราหมณ์ !
บุคคลผู้-
-เกิดโทสะแล้ว,
-อันโทสะครอบงำแล้ว
-มีจิตอันโทสะรึงรัดแล้ว

ย่อม-
-คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
-ย่อมคิดแม้เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
-ย่อมคิดแม้เพื่อเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นทั้งสองบ้าง,
-ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปทางจิตบ้าง.

เมื่อละโทสะได้แล้ว, เขา-
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเอง
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองอย่าง,
-และย่อมไม่เสวยเฉพาะซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปทางจิตโดยแท้.

พราหมณ์ !
นิพพานที่เห็นได้เอง -
-ไม่ประกอบด้วยกาล
-เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด
-เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ
-เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ย่อมมีได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.

พราหมณ์ !
บุคคลผู้-
-มีโมหะแล้ว,
-อันโมหะครอบงำแล้ว
-มีจิตอันโมหะรึงรัดแล้ว

ย่อม-
-คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง,
-ย่อมคิดแม้เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง,
-ย่อมคิดแม้เพื่อเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นบ้าง,
-ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปทางจิตบ้าง.

เมื่อละโมหะได้แล้ว, ย่อม-
-ไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเอง
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
-ย่อมไม่คิดแม้เพื่อเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองอย่าง,
-และย่อมไม่เสวยเฉพาะซึ่งทุกขโทมนัสอันเป็นไปในทางจิตโดยแท้.

พราหมณ์!
นิพพานที่เห็นได้เอง -
-ไม่ประกอบด้วยกาล
-เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด
-เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ
-เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ย่อมมีได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.

พราหมณ์ !
เมื่อไดแล, ผู้นี้ -
-ย่อมเสวยเฉพาะ ซึ่งความสิ้นไปแห่งราคะ อันหาเศษเหลือมิได้,
-ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งความสิ้นไปแห่งโทสะ อันหาเศษเหลือมิได้,
-ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งความสิ้นไปแห่งโมหะ อันหาเศษเหลือมิได้;

พราหมณ์เอย!
เมื่อนั้น, นิพพานที่เห็นได้เอง -
-ไม่ประกอบด้วยกาล
-เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด
-เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ
-เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล.
.
.
.
ติก. อํ. ๒๐/๒๐๒/๔๙๕.


Create Date : 04 พฤษภาคม 2558
Last Update : 4 พฤษภาคม 2558 8:59:14 น. 0 comments
Counter : 810 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.