happy memories
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
10 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๓๗





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










สีน้ำอาเซียน



ภาพวาดสีน้ำสถาปัตยกรรมของชาติในกลุ่มอาเซียน เพื่อนบ้านของประเทศไทย ทั้งเมืองปีนัง เมืองมะละกา และเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย รังสรรค์โดยศิลปินอาจารย์จากสถาบันการศึกษา ๒๗ แห่งทั่วฟ้าเมืองไทย และศิลปินอิสระ โชว์ให้ทุกคนได้ชมแบบเต็มอิ่มในนิทรรศการ "สีน้ำอาเซียน" ที่สภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้น ณ ชั้น ๓ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

นิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ "วัฒนธรรมศึกษาสถาปัตยกรรม สีน้ำอาเซียน" นอกเหนือจากเผยแพร่ภาพสีน้ำงานสถาปัตยกรรมแล้ว สิ่งหนึ่งที่โครงการให้ความสำคัญคือ การฝึกเขียนภาพของสถาบันการศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ และจัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาสถาปัตย์ ๒๗ สถาบัน ซึ่งวันนี้ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง ฝีมือแต่ละคนสุดยอด

ผศ.ดร.ชาญณรงค์ ศรีสุวรรณ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานโครงการ กล่าวว่า สภาคณบดีคณะสถา ปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทยผลักดันโครงการนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ปีนี้คณะทำงานได้ขยายพื้นที่ในการศึกษาจากเดิมให้กว้างขวางขึ้นไปเป็นการศึกษาในระดับภูมิภาคอาเซียน คัดเลือกเมืองมรดกโลก มาเลเซีย เป็นกรณีศึกษา ครั้งต่อไปจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ สปป.ลาว เวียดนาม ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกในกลุ่มประเทศอาเซียน งานศิลปะที่เกิดขึ้นจะบันทึกประวัติศาสตร์สถาปัตย กรรมอีกหน้าหนึ่งของ โลก มีประโยชน์ต่องานอนุรักษ์สถาปัตยกรรมในอนาคต

ประธานโครงการกล่าวอีกว่า กิจกรรมนี้เป็นประโยชน์โดยตรงด้านการศึกษาเชิงวัฒนธรรมและการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม รวมถึงมีการฝึกฝนทักษะในการวาดสีน้ำสถาปัตย กรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญด้านศิลปะของนัก ศึกษาและสถาปนิก โดยมี

อาจารย์ธนากร ไชยจินดา หัวหน้ากลุ่มศิลปินอิสระสีน้ำสถาปัตยกรรม ช่วยกันสร้างคนที่จะก้าวเป็นสถาปนิกระดับสากล อีกประการ เรามีเป้าหมายสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ร่วมมือกันทำงานผ่านเครือข่ายความร่วมมือในกลุ่มสถาบันการศึกษาภายใต้สภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ รวมถึงเชื่อมโยงถึงสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและชุมชนอีกมากมายที่ร่วมกิจกรรม

"หัวใจสำคัญคือการรื้อฟื้นทักษะวาดสีน้ำของสถาปนิกรุ่นใหม่ เพราะทุกวันนี้ความรู้ความสามารถด้านวาดภาพกำลังจะหายไป เพราะทำงานด้วยเทคโนโลยี แต่คอมพิวเตอร์ช่วยคิดไม่ได้ สมองต้องผ่านมือที่มีรสนิยมทางศิลปะ กิจกรรมเปิดโอกาสให้จับพู่กันวาดสีน้ำ จับปากกาวาดลายเส้นกันอีกครั้ง ปีแรกเราไปพื้นที่มรดกวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่และเมืองเชียงตุง ปีนี้ขยายในอาเซียนสอดรับการเข้าสู่เออีซี มีศิลปินอาจารย์ นิสิต และศิลปิน สถาปนิกร่วม ๖o ชีวิต พัฒนาทักษะต้องใช้เวลาหลายปี แต่พวกเขาได้แรงบันดาลใจ สถาปนิกรุ่นใหญ่ รุ่นใหม่หันกลับมาวาดสีน้ำ ถ่ายทอดสิ่งที่เห็นผ่านงานศิลปะของตนเอง" ผศ.ดร.ชาญณรงค์ เผย

ด้านอาจารย์รัฐพงษ์ อังกสิทธิ์ กรรมการโครงการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า นิทรรศการสีน้ำอาเซียนแสดงความหลากหลายของสถาปัตยกรรมอาเซียน ที่มีจุดเด่นทั้งด้านรูปแบบ ลักษณะภายนอก นักศึกษาและอาจารย์ได้มาเรียนรู้สถาปัตยกรรมในย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง มัสยิดปุตรา ที่ปุตราจายา เดินทางไปจัตุรัสดัตช์ เมืองมะละกา รัฐมะละกา ก็เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับรายวิชาพื้นฐานทางด้านสถาปัตยกรรม โครงการยังมีการฝึกอบรม สร้างจิตรกรสีน้ำชาวบ้าน สัมมนาให้ความรู้ด้านสถาปัตยกรรมเชิงวัฒนธรรม หวังให้เกิดการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

"สถาปนิกบันทึกภาพกันสด ๆ ผ่านงานสีน้ำ ศิลปะลายเส้น รวมถึงการถ่ายภาพ นี่เป็นการเปิดมุมมองวัฒนธรรมอาเซียน นอกเหนือจากรู้จักประเทศของตนเอง เพราะเราจะต้องรวมตัวกันทางวัฒนธรรมในอนาคต ใครเคยไปเที่ยวชมย่านเมืองเก่าจะรำลึกความทรงจำเมื่อได้เห็นภาพสีน้ำ คนไม่เคยไปก็ตื่นเต้นได้ใกล้ชิดสถาปัตยกรรมผ่านงานศิลปะ ที่สำคัญเกิดจิตสำนึกบำรุง รักษา หวงแหน และอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า โดยผลงานที่โชว์จะรวบรวมเป็นหนังสือเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกอีกด้วย" อาจารย์รัฐพงษ์กล่าว พร้อมเชิญชวนชมนิทรรศการระหว่างวันที่ ๓-๑๕ พฤศจิกา ยนนี้ ที่ชั้น ๓ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ มหานคร.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
bacc.or.th














"เปี๊ยก โปสเตอร์ และ ชวนะ บุญชู" อดีตมือฉมัง "ใบปิดหนัง"
ในวันที่ป่าเขาและทะเล งดงามบนแคนวาส



ซ้ายมือคือ เปี๊ยก โปสเตอร์ หรือ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ อดีตคนเขียนโปสเตอร์ภาพยนตร์ และอดีตผู้กำกับภาพยนตร์ วัย ๘๓ ปี ขวามือคือ ชวนะ บุญชู อดีตคนเขียนโปสเตอร์ภาพยนตร์ วัย ๗๓ ปี

ในช่วงเวลาที่ โปสเตอร์ภาพยนตร์ หรือ ใบปิดหนัง ประเภทที่ต้องเขียนด้วยมือได้รับความนิยม ทั้งสองท่านนี้ต่างก็เป็นผู้ที่หลายคนคุ้นหูกันดี ในฐานะ “มือฉมังใบปิดหนัง” โดยเฉพาะชวนะนั้น มีโอกาสได้เห็นผลงานและมีความชื่นชมในฝีมือของเปี๊ยก หรือ “พี่เปี๊ยก” ที่เขาเรียกขาน มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ตัวเขาเองยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยม กระทั่งทำงานเป็นคนเขียนใบปิดหนัง เปี๊ยกก็ยังเป็นหนึ่งในจำนวนคนต้นแบบ สำหรับเขา

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาหลายปีที่ทำงานเป็นคนเขียนใบปิดหนัง ทั้งคู่ไม่เคยมีโอกาสพบ หรือรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่คุ้นชื่อและเคยเห็นผลงานของกันและกัน ในยามที่มีปิดหนังใหม่ ๆ ออกมาโฆษณาหนังเรื่องใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์

“ผมเพิ่งมารู้จักเขาที่งานนี้ เพิ่งรู้จัก จริง ๆ สมัยก่อน ต่างคนก็ต่างเขียนงานของตัวเองออกมา ช่วงนั้น ชีวิตเราไม่ค่อยได้มีโอกาสจะได้ไปสังสรรค์อะไรกับใครที่ไหนหรอกครับ หัวปักหัวปำอยู่กับงานด้วยกันทั้งคู่ แต่เคยเห็นผลงานของเขามาก่อน”

เปี๊ยกบอกเล่า ในวันที่ถูกเชิญมาเป็นประธานเปิดนิทรรศการแสดงใบปิดหนัง ณ ART Café By Brown Sugar ซึ่งเป็นผลงานในอดีตของชวนะ และถือเป็นโอกาสมาพบปะกับเพื่อนพ้องในวงการภาพยนตร์ หลังจากที่โบกมือลาอาชีพคนเขียนใบปิดหนังและผู้กำกับ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

“ผมเลิกเขียนโปสเตอร์หนังมานานมากแล้ว และช่วงนึงก็ไปทำหนังอยู่นาน ๓o-๔o ปี จนไปอยู่ปากช่องนานกว่า ๒o ปีแล้ว ครั้งนี้นอกจากมาเป็นประธานก็เลย อยากจะมาเจอพรรคพวกกันบ้าง พรรคพวกเก่า ๆ นักแสดงเก่า ๆ”










ปัจจุบันเปี๊ยกหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเขียนภาพเหมือนบุคคล และเมื่อประมาณ ๕- ๖ ปี ก่อน มีโอกาสรื้อฟื้นความหลังของตัวเองอยู่บ้าง เมื่อถูกว่าจ้างให้เขียนใบปิดหนังให้กับภาพยนตร์เรื่อง “ฟ้าทะลายโจร”

“มีรายได้จากการเป็นช่างเขียน เขามาจ้างเขียนรูปคน โดยมากจะเป็นรูปเขาบ้าง รูปญาติเขาบ้าง เขียนเสร็จเขาก็เอาไป ผมจึงไม่มีงานเก็บไว้ที่บ้าน”

เปี๊ยกกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ตนยังทำงานเป็นคนเขียนปิดหนัง ไม่เคยคิดว่า ในวันหนึ่งใบปิดหนังจะถูกนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้คนทั่วไปได้ชม

“ตอนที่เราทำงานเป็นคนเขียนใบปิดหนังอยู่ ก็ไม่ได้มีใครมองเห็นอะไรตรงนี้นะ เพราะมันก็มีออกมาให้เราเห็นอยู่เรื่อย ๆ แต่ตอนหลัง วัฒนธรรมของการโฆษณาหนังมันเปลี่ยนไปแล้ว ใบปิดหนังในปัจจุบันมันกลายเป็นงานกราฟิกที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำมากกว่า การเขียนใบปิดหนังแบบเดิมก็เลยหายไป และเมื่อ มีคนส่วนหนึ่งในปัจจุบัน มองว่า แบบเดิมมันไม่มีอีกแล้วนะ มันก็เลยมีคุณค่าขึ้นมา”

เมื่อมายืนมองใบปิดหนังเก่าๆผลงานของอดีตเพื่อนร่วมวงการ ทำให้เปี๊ยกระลึกถึงความหลังของตัวเองเมื่อครั้งมีอาชีพเป็นคนเขียนใบหนัง ที่แม้จะไม่มีเงินไม่มีเกียรติ แต่ก็เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ได้ทำงานด้วยความสนุกและท้าทาย

“มันสนุก มันมันส์ครับ เพราะมันจะมีรูปแปลกๆมาให้เราเขียนอยู่เรื่อย ๆ รูปที่ปกติ ถ้าไม่มีคนมาจ้างเราไม่ได้คิดที่จะเขียน พูดง่าย ๆ เขามีโจทย์มาให้เรา มันท้าทาย”

ขณะที่ชวนะก็รู้สึกไม่แตกต่างไปจากนี้ “ผมก็คล้าย ๆ พี่เปี๊ยก และตอนนั้นเรื่องเงินก็ไม่ได้คิดถึงมันเท่าไหร่ คิดแต่ว่าได้เขียนใบปิดหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันสนุก เป็นมันเป็นไปตามที่เราปรารถนาที่จะเขียน คิดแค่นั้น”














นอกจากจัดแสดงใบปิดหนัง ที่เมื่อหลายปีก่อน หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เคยนำผลงานของชวนะมาจัดแสดงแล้วครั้งหนึ่งผ่านนิทรรศการ “ใบปิดจิตรกรรม ชวนะ บุญชู” ในครั้งนี้ชวนะยังมีผลงานภาพวาดธรรมชาติ ในแนวเหมือนจริง (realistic ) ชุด ทวิภพแห่งธรรมชาติ ที่เขาหันมาฝึกฝนเมื่อหันหลังให้กับอาชีพคนเขียนใบปิดหนัง มาจัดแสดงในวาระเดียวกันด้วย

“ผลงานใบปิดหนังที่เอามาโชว์ให้ชมพร้อมๆกัน เพราะเพื่อนเขาแนะนำว่าแสดงงานทั้งที ก็น่าจะเอางานที่เราเคยทำในอดีตมาแสดงด้วย แต่ใจจริง โดยความตั้งใจของผมแล้ว ผมต้องการโชว์ผลงานภาพวาดธรรมชาติที่ตัวเองทำอยู่ในปัจจุบันมากกว่า

เรารู้สึกภูมิใจ ที่เราสามารถจะเขียนมันได้ ทั้งที่เราไม่ได้เรียนมา เราฝึกฝนด้วยตัวเอง ส่วนที่เลือกเขียนภาพธรรมชาติในแนวเหมือนจริง เพราะเป็นแนวที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงมันได้ไม่ยาก ไม่ต้องมีใครมายืนอธิบาย”














ภาพวาดธรรมชาติแต่ละภาพ สะท้อนตัวตนของชวนะในแง่ที่เป็นคนชอบเดินทางและรักธรรมชาติได้เป็นอย่างดี สถานที่ ๆ ปรากฏในภาพวาด ล้วนแต่เป็นสถานที่ ๆ เขาเคยเดินทางไปสัมผัสมาแล้ว เกือบทั่วประเทศไทย

“อยากจะให้คนที่มาชมผลงานของผม ซึ่งเป็นภาพวาดเกี่ยวกับธรรมชาติ รู้สึกรักธรรมชาติและช่วยกันอนุรักษ์ให้ธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติตามป่าเขา หรือทะเล ”

เปี๊ยกเอ่ยว่า รู้สึกชื่นชมที่ชวนะสามารถฝึกฝนจนสามารถวาดภาพได้ขนาดนี้ ขณะที่ตัวเขาเองยอมรับ คงไม่มีโอกาสแสดงงงานในลักษณะนี้ ในช่วงบั้นปลายของชีวิต เพียงได้หาเลี้ยงชีพด้วยการรับวาดภาพเหมือนบุคคลไปเรื่อย ๆ ก็พอใจและมีความสุขแล้ว

“ไฟมันมอดแล้วล่ะครับ เราอายุขนาดนี้ จะ ๘๔ ปีแล้ว เราก็รู้สึกทึ่งครับว่าแม้จะเลิกเขียนใบปิดหนังแล้ว แต่ชวนะเขายังสามารถพัฒนาตัวเอง ด้วยการหันมาเขียนงานในเรียลลิสต์ติกได้ลึกซึ้งขนาดนี้ และผมไม่เคยเห็นมาก่อน”

โปสเตอร์ภาพยนตร์ หรือ ใบปิดหนัง ผลงานในอดีตของ ชวนะ บุญชู ณ ART Café By Brown Sugar ชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ขณะที่ ภาพวาดธรรมชาติชุด ทวิภพแห่งชาติ ผลงานในปัจจุบัน ของ ชวนะ บุญชู จัดแสดง ณ พีเพิ่ลส์ แกลเลอรี่ ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันนี้ - ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














เตรียมชม ชิล ชอป ถิ่นอีสานกับ "จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2558: มังมูน บุญข้าว"



จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวเกษตรเชิงวัฒนธรรมอีสาน ที่มุ่งสืบสานภูมิปัญญาและสานต่อองค์ความรู้แห่ง “ถิ่นอีสาน” ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ชวนนักท่องเที่ยวรับลมหนาวท่ามกลางธรรมชาติ ครบรสทั้ง “ชม ชิล ชอป” กับ “จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ ๒๕๕๘ : มังมูน บุญข้าว” (Jim Thompson Farm Tour 2015: Mang Moon Boon Khao) เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ระหว่างวันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ถึงอาทิตย์ที่ ๑o มกราคม ๒๕๕๙

สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ กับ 5 จุดท่องเที่ยวยอดนิยม บนพื้นที่กว่า ๖oo ไร่ พร้อมเรียนรู้จิตวิญญาณแห่งความเป็น “อีสาน” ผ่านความวิจิตรงดงามของสถาปัตยกรรมอีสานดั้งเดิมหลากหลายรูปแบบ พบกับกิจกรรมไฮไลต์ประจำปี “มังมูน บุญข้าว” ที่นำเสนอเรื่องราวความผูกพันระหว่าง “ข้าว” กับ “วิถีชีวิตชาวอีสาน” ในแง่มุมของประเพณีวัฒนธรรม พร้อมชมกระบวนการผลิตผ้าไหมอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ก่อนปิดท้ายทริปด้วยการสนุกชอปของฝากคุณภาพเยี่ยมจาก จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม






จุดท่องเที่ยวที่ ๑ : ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสาร

เริ่มต้นทริปท่ามกลางสีสันสดใสของ “ทุ่งดอกคอสมอสสีชมพู” ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาบนพื้นที่กว่า ๔o ไร่ เพลินตาเพลินใจไปกับ “สวนลอยฟ้า” ที่มีทั้งไม้ดอกและเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ สนุกสนานกับการเก็บผักสด ๆ จาก “แปลงผักปลอดสาร U-Pick Garden” และอย่าพลาดชมอีกหนึ่งกิจกรรมโดดเด่นประจำจุดท่องเที่ยวนี้ กับ “รถนิทรรศการหมอลำเคลื่อนที่” (Molam Mobile Bus) ที่พร้อมพานักท่องเที่ยวเดินทางสู่โลกแห่งหมอลำ อันเป็นแก่นแท้แบบฉบับของวิถีชีวิตชาวอีสาน ก่อนขึ้นรถนำชมไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ต่อไปภายในฟาร์ม

จุดท่องเที่ยวที่ ๒ : ลานฟักทองและทุ่งดอกไม้หลากสี

ชมวิวธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นของภูเขาพญาปราบ ชมทุ่งดอกไม้หลากสีในมุมสูงแบบ ๓๖o องศา ตื่นตากับลานฟักทองยักษ์สีสันสดใสหลากสายพันธุ์ ตะลุย “ลานบั้งไฟหลากสี” เพลิดเพลินกับขบวนเซิ้งบั้งไฟและการเอ้บั้งไฟลวดลายอีสานโบราณที่แห่ผ่านทุ่งดอกไม้อย่างครึกครื้น และสนุกสนานกับกิจกรรม “คล้องกระติ๊บจิ๋ว” ณ กลางทุ่งดอกไม้หลากสี






จุดท่องเที่ยวที่ ๓ : หมู่บ้านอีสาน

ชม “สถาปัตยกรรมอีสาน” ทั้งบ้านเรือนโบราณและศาสนาคารอีสานดั้งเดิมอย่าง สิม หอไตร หอกลอง ฯลฯ ยลมรดกพื้นถิ่นอันทรงคุณค่า “เรือนนางเผอะ” เรือนโคราชที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

พบกับกิจกรรมไฮไลต์ประจำปี “มังมูน บุญข้าว” กับการนำเสนอความผูกพันระหว่าง “ข้าว” กับ “วิถีชีวิตของชาวอีสาน” ในแง่มุมของประเพณีวัฒนธรรม “ฮีตสิบสอง” หรือจารีตประเพณี ๑๒ เดือนของชาวอีสานที่เกี่ยวข้องกับข้าว อันประกอบด้วย

งานบุญคูนลาน - บุญเดือนยี่ เพื่อความสิริมงคลแก่ข้าวเปลือก

งานบุญข้าวจี่ - บุญเดือนสาม พิธีตักบาตรพระสงฆ์ด้วยข้าวจี่

งานบุญผะเหวด - บุญเดือนสี่ สดับตรับฟังเทศน์มหาชาติ

งานบุญบั้งไฟ - บุญเดือนหก การบูชาพระยาแถนด้วย “บั้งไฟ” เพื่อขอให้ฝนตกตามฤดูกาล งานบุญข้าวประดับดิน - บุญเดือนเก้า ที่อุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรดาญาติผู้ล่วงลับไปแล้วด้วยข้าวและอาหารคาวหวาน พร้อมทั้งหมากพลูบุหรี่ห่อด้วยใบตองกล้วยแล้วนำไปแขวนตามกิ่งไม้

งานบุญข้าวสาก - บุญเดือนสิบ การทำบุญที่ให้พระเณรจับสลากเพื่อรับปัจจัยไทยทานและสำรับกับข้าวที่ญาติโยมนำมาถวาย เป็นต้น

ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมเรียนรู้และร่วมสนุกกับกิจกรรมสาธิตทุกงานบุญอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งงาน พบกับความอลังการของ ปราสาทข้าว ที่สูงมากกว่า ๑๔ เมตร ทุ่งข้าวหลากสี ควายหลากสี ฯลฯ






จุดท่องเที่ยวที่ ๔ : หมู่บ้านจิม

ชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหมอันเป็นเอกลักษณ์ของจิม ทอมป์สัน อย่างใกล้ชิด ครบทุกขั้นตอนตั้งแต่แรกเริ่มของเส้นใยธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของหนอนไหม การสาวไหม การฟอกย้อมเส้นไหม การทอผ้า และการพิมพ์ผ้าไหม

จุดท่องเที่ยวที่ ๕ : ตลาดจิม

เดินชิลชมความงามของสวนสวยแนวตั้งซิลเวอร์ฟอลและทุ่งดอกฮอลลี่ฮ็อก ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยการสนุกชอปผัก ผลไม้ ต้นไม้ ไม้ดอกกระถางหลากหลายสายพันธุ์ และผลผลิตทางการเกษตรทั้งสดและแปรรูปจากจิม ทอมป์สันฟาร์ม ตลอดจนผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมายจากจิม ทอมป์สัน






จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2558: มังมูน บุญข้าว เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมระหว่างวันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ - วันอาทิตย์ที่ ๑o มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๙.oo - ๑๗.oo น. ณ จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ราคาบัตรหน้าฟาร์มสำหรับวันธรรมดา บัตรผู้ใหญ่ ราคา ๑๘o บาท และบัตรเด็ก ราคา ๑๓๕ บาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ บัตรผู้ใหญ่ราคา ๒๒o บาท และบัตรเด็กราคา ๑๘o บาท และวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ บัตรผู้ใหญ่ ราคา ๒๘o บาท และบัตรเด็ก ราคา ๒๒o บาท ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรล่วงหน้าในราคาพิเศษได้ที่ //www.thaiticketmajor.com หรือร้านจิม ทอมป์สัน สาขาสุรวงศ์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ดิ เอ็มโพเรียม พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ปาลิโอ เขาใหญ่ และหอค้ำคูณ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. o-๒๗๖๒-๒๕๖๖, o๘-๕๖๖o-๗๓๓๖ และ o-๔๔๓๗-๓๑๑๖ หรือติดตามรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ //www.jimthompsonfarm.com และ //www.facebook.com/JimThompsonFarm











































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














The Silence of Insects



Origami เป็นศิลปะการพับกระดาษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป้าหมายของการสร้างสรรค์งานศิลปะในครั้งนี้คือการเปลี่ยนแผ่นกระดาษแบนๆให้เป็น สิ่งมีชีวิตในจิตนาการของคาฟคา เป็นศิลปะการติดตั้งและจัดวางขนาดใหญ่ โดยใช้การพับ เทคนิคการแกะสลัก และการให้ความสนใจกับ "พื้นที่" ที่ตัวละครของคาฟคาจะสามารถเคลี่อนไหวไปมาได้

ผลงาน Unfolding Kafka's metamorphosis จะเป็นการเชื่อมโยงการออกแบบท่าเต้น การเคลื่อนไหวร่างกาย ศิลปะการจัดวาง Origami และมุมมองของทัศนศิลป์เข้าด้วยกัน และสร้างให้เกิดคำถาม และการตีความซึ่งกันและกัน ผลงานชิ้นนี้สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ ให้เป็นการแสดงประกอบศิลปะการจัดวาง มุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกันระหว่างพื้นที่และร่างกายมนุษย์ การออกแบบท่าเต้นและการเต้นรำ เสียงและภาพ การทำงานร่วมกันและมีส่วนร่วมของผู้ชม ผู้ชมจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงานศิลปะ

หนึ่งในวิธีการตีความวรรณกรรม “The Metamorphosis” คือการมองอย่างตรงไปตรงมา เรื่องราวของคนที่ทำให้ขาข้างหน้าเล็ก บอบบาง มีปากที่ไร้ประโยชน์ สื่อเป็นสัญญาณของความสามารถในการแบกรับภาระที่วางอยู่บนตัวเขา เขาสร้างเกราะป้องก้นขึ้นรอบตัวเองเพื่อที่จะแสดงว่าเค้าไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบอะไรอีกต่อไป การกลายร่างทำให้เค้าพบความหวังที่จะแสวงหาความสงบแต่อย่างไรก็ตาม “The Metamorphosis” มีหลายมุมมองตามจำนวนของผู้อ่านที่ได้อ่านงานเขียนชิ้นนี้

วันและเวลา : ๑๒ - ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ๑๙.oo น.
สถานที่ : โรงแรมโรส กรุงเทพฯ



ภาพและข้อมูลจาก
wikalenda.com














สัญลักษณ์ชีวิตในจินตนาการ



การยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความหลากหลายของรูปแบบชีวิตเป็นส่วนนึงของพัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกตามธรรมชาติ การใช้เทคโนโลยีเพื่อชีววิทยาเจริญเชิงวิวัฒนาการ หรือ กระบวนการที่มนุษย์คิดค้นขึ้น การสื่อสารทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเสริมแต่งปรับปรุงรูปลักษณ์มนุษย์ แบบลูกผสมนำไปสู่รูปลักษณ์ใหม่ของชีวิต ซึ่งเป็นรูปแบบชีวิตที่เกิดขึ้นในอนาคต



ภาพและข้อมูลจาก
wikalenda.com














เมืองวิจิตร



นิทรรศการ “เมืองวิจิตร”
พิธีเปิดงาน : วันที ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น.

นิทรรศการนี้ซึ่งจัดร่วมกับสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพในหัวข้อ “เมืองวิจิตร ๒” จัดขึ้นในวันงาน “Grand Paris – Grand Bangkok” นั้นเป็นการจัดนิทรรศการที่ต่อเนื่องจาก “เมืองวิจิตร” ที่จัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ สถาปัตยกรรมสูงระฟ้าและจะเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจกับการติดตั้งผลงานในอนาคตบริเวณสะพานทางเดินข้ามช่องนนทรีในย่านสาทร

ส่วนต่อเติมนี้เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่การเลียนแบบความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นการหาความสมดุลใหม่ตามมิติที่ต้องการ เมื่อโครงงานชิ้นนี้เสร็จ ข้าพเจ้าตั้งใจทำผลงานสร้างชิ้นใหม่โดยลืม ๆ แบบงานที่ทำเตรียมไว้ แล้วจดจ่อกับงานที่จะสำเร็จออกมา ผลงานบางชิ้นที่นำมาเสริมการนิทรรศการให้สมบูรณ์นั้นถูกคัดเลือกเพื่อแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการดำเนินงานของส่วนต่อเติมซึ่งโดยตัวมันเองแล้วก็มีขนาดใหญ่ระดับอนุสาวรีย์เลยทีเดียว

ประติมากรรมที่ติดตั้งในที่สาธารณะเป็นการร่วมการพัฒนาความรู้สึกของการเป็นชุมชนในเมือง เป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของส่วนรวม สำหรับนิทรรศการ “เมืองวิจิตร ๒” ข้าพเจ้าอยากขอขอบคุณเมืองกรุงเทพมหานครที่เอื้ออำนวยสถานที่และให้ข้าพเจ้าได้มีส่วนร่วมในเมืองที่ข้าพเจ้ารักมากยิ่งขึ้น

วันและเวลา : ๑๒ พฤศจิกายน - ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๘
สถานที่ : แกลเลอรี่ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ



ภาพและข้อมูลจาก
wikalenda.com














สมุดระบายสีเสริมแรงบันดาลใจ


“สิ่งที่ช่วยให้หลีกเร้นความเศร้าในชีวิตได้ มีเพียงสองอย่าง คือ ดนตรี กับแมว” อัลเบิร์ต ชไวเซอร์

คำคมจากสมุดระบายสีสำหรับคนรักแมวที่มีชื่อว่า แต้มสีให้แมวสวย ผลงานของ Marjorie Sarnat ที่ออกแบบลายเส้นของเจ้าแมวเหมียวให้คนรักแมวหัวใจละลายไปกับความน่ารักของแมวในโลกหลากสีที่เปิดให้คุณเป็นผู้ลงมือแต่งแต้มสีสันด้วยตนเอง

วันนี้ไม่ได้มากับน้องเหมียวเพียงลำพัง ยังมี จุดประกายระบายฝัน ผลงานวาดเส้นของ วาเลนทินา ฮาร์เปอร์ (Valentina Harper) ที่มีทั้งตัวหนังสือ ดอกไม้ นกน้อย และดวงดาว ร้อยเรียงกันเป็นภาพ พร้อมถ้อยคำจรรโลงใจ

และ อัศจรรย์ธรรมชาติ ผลงานอีกเล่มหนึ่งของ วาเลนทินา ฮาร์เปอร์ ที่ชวนให้คุณได้สัมผัสถึงความงามอันน่าอัศจรรย์ที่แฝงอยู่ในรูปทรงของ
ธรรมชาติ

ความพิเศษของสมุดระบายสีสำหรับผู้ใหญ่ทั้ง 3 เล่มนี้ นอกเหนือไปจากลายเส้นที่งดงามมีรายละเอียดที่น่าสนใจแล้ว ยังมีการคำคมดีๆที่ช่วยจุดประกายความคิด ก่อนที่เราจะลงมือระบายสีลงบนภาพต่างๆ... ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกังวล การลงสี ฝีมือไม่มีข้อถูกหรือผิด เพราะว่านี่คือ สมุดระบายสี เปิดให้ระบายจินตนาการได้อย่างเต็มที่

วาเลนทินา กล่าวว่า "แม้คุณจะไม่เคยระบายสีภาพวาดของตัวเอง แต่ดิฉันทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้ใช้จินตนาการ ได้ลองนำสีสันที่มีชีวิตชีวาของทุก ๆ โทนสีเข้ามาใช้ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นปากกาเมจิก สีน้ำ สีไม้ ปากกา หมึกเจล ไปจนถึงสีเทียน อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยพารูปภาพอันสวยงามเหล่านี้เข้าสู่โลกใบใหม่แห่งสีสัน"

เธอยังบอกอีกว่าจะระบายทั้งหมด หรือเว้นบางส่วนไว้ไม่ระบายสีก็ยังได้ ขอให้ดึงความรู้สึกสนุก ความเป็นตัวเองอย่างสบายๆออกมาเท่านั้นก็พอ

ได้ยินอย่างนี้ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าคุณได้ลองสักครั้งแล้วคงจะได้รู้ว่ามันไม่ใช่แค่การระบายสี หากการระบายสีเป็นสิ่งที่นำพาเราไปพบกับสมาธิ ช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด ว่ากันว่าใครที่ปวดหัว ปวดท้อง เป็นความดันโลหิตสูง ถ้าได้มาลองระบายสีดูแล้วจะทำให้อาการบรรเทาเบาบางลงไปได้

ด้วยเหตุนี้เองสมุดระบายสีจึงติดอันดับ ๑ ใน ๑o หนังสือขายดีในฝั่งยุโรปและอเมริกา ในบ้านเราเองหนังสือแนวนี้เป็นที่นิยมมาได้สักพักแล้ว

แต่สำหรับ แต้มสีให้แมวสวย จุดประกายระบายฝัน และ อัศจรรย์ธรรมชาติ เป็นผลงานล่าสุดที่ทางเนชั่นบุ๊คส์จัดพิมพ์ออกมา โดย ทอฝัน เป็นผู้แปลคำคมโดนใจ ซึ่งศิลปินเจ้าของลายเส้นบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้ ช่วยกระตุ้นความคิดอะไรบางอย่าง หรืออย่างน้อยทำให้รู้สึกดี ๆ ขึ้นมาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ดังเช่น

“ผู้มองโลกในแง่ร้าย ย่อมไม่มีทางไขความลับของดวงดาว หรือ ล่องเรือไปถึงดินแดนใหม่ หรือ เปิดประตูโลกใหม่แห่งจิตวิญญาณ” เฮเลน เคลเลอร์

ละสายตาจากสามาร์ทโฟน แท็บเล็ต แหงนมองฟ้าดูปริศนาของก้อนเมฆที่เกาะกลุ่มเป็นรูปร่างประหลาดไม่ซ้ำวัน ยามค่ำลองให้เวลาทักทายกับพระจันทร์ หรือ ดวงดาว ดูบ้าง ยังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เราได้เรียนรู้

คืนนี้จะทดลองเดินทางไปกับเส้นและสีของเจ้าเหมียวในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรามีส่วนสร้างสีสันด้วยตัวเองดูสักหน่อย ...แค่คิดก็แทบรอไม่ไหวแล้ว

หมายเหตุ : สมุดภาพระบายสีทั้ง 3 เล่ม วางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป ราคา ๑๑๕ บาท หรือร้านออนไลน์ในเครือเนชั่น



























ภาพและข้อมูลจาก
FB กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์














“ความซ้ำซากของผู้คนในสังคม” ภาพถ่ายศิลปะในงาน “บ้านและสวน”



เพราะมีอาชีพเป็น ช่างภาพของนิตยสารเกี่ยวกับบ้านและการตกแต่ง สิ่งที่ ต้องทำอยู่เป็นประจำ จึงวนเวียนอยู่กับการถ่ายภาพบ้าน, สวน และข้าวของต่าง ๆ ที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน

ในขณะเดียวกัน ความต้องการที่จะถ่ายทอดมุมมองของตัวเองที่มีต่อสังคมในด้านต่าง ๆ ผ่านงานศิลปะภาพถ่าย ต้นเตย - ศุภวรรณ สอาด ช่างภาพสาวซึ่งเรียนจบมาทางด้านภาพถ่าย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จึงใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายในส่วนนี้เก็บเอาไว้ด้วย

วัฒนธรรมสองมิติ (Two-Dimensional Culture) คือตัวอย่างผลงานภาพถ่ายที่ต้นเตยต้องการ พูดถึงเรื่องการบริโภคความฉาบฉวยของมนุษย์

“เพราะในยุคนี้ผู้คนมีแต่จะบริโภคเหตุการณ์สังคมกันแบบผิวเผิน ไม่มีการหยั่งลึกไปยังต้นตอที่แท้จริง”

เพื่อเป็นตัวแทนของการมาและจากไป เรื่องราวในภาพถ่ายชุดนี้ของต้นเตยจึงถ่ายทอดออกมาเป็นภาพของผู้คนที่เป็นนักท่องเที่ยวในอิริยาบถที่กำลังถ่ายภาพ

ภายในงาน บ้านและสวนแฟร์ ๒o๑๕ ปีล่าสุด นอกเหนือจากโซนจัดแสดง "๑o ภาพเล่าเรื่อง" นิทรรศการสารคดีภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด National Geographic Photography Contest 2015 ของ นิตยสาร National Geographic ฉบับภาษาไทย ยังมีการเปิดพื้นที่ให้เหล่าช่างภาพของนิตยสารเล่มต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือนิตยสารบ้านและสวน นำผลงานศิลปะภาพถ่ายของตนเอง มาจัดแสดงในโซน Photo Gallery ขณะที่ช่างภาพคนอื่น ๆ เลือกที่จะนำ ภาพถ่ายเชิงสถาปัตย์, ภาพถ่ายธรรมชาติ, ภาพถ่ายแนวสตรีท ฯลฯ มาร่วมแสดง

ต้นเตย ซึ่งเป็นช่างภาพประจำ นิตยสาร My Home เลือกภาพถ่ายสองภาพจากภาพถ่ายชุด ความซ้ำซากของผู้คนในสังคม (Pattern Age) มาร่วมแสดง

“แนวคิดของการทำงานภาพถ่ายชุดนี้ มันมาจากความสงสัย ของหนูที่ว่า ทำไมผู้คนในสังคม เราต้องทำอะไรที่ซ้ำซากจำเจ และเหมือนๆกัน ในเมื่อเราแต่ละคนสามารถเลือกที่จะทำอะไรที่มันแตกต่างออกไปได้"



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 10 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2558 21:52:22 น. 0 comments
Counter : 3153 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.