happy memories
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2558
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๒๔





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










"ภาพพิมพ์ใจหทัยทวยราษฎร์"



"ภาพพิมพ์ใจหทัยทวยราษฎร์"
โดย พินิตย์ พันธประวัติ
ระหว่างวันที่ ๒o สิงหาคม - ๔ ตุลาคม ๒๕๕๘
ณ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล (ถนนบรมราชชนนี)


นิทรรศการ “The Engravings of My Heart: ภาพพิมพ์ใจหทัยทวยราษฎร์” นำเสนอผลงานภาพพิมพ์แม่พิมพ์แกะสลัก (Engraving: เทคนิคการแกะสลักแม่พิมพ์ ลักษณะเดียวกับการทำแม่พิมพ์ธนบัตรไทย) ด้วยภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชวงศ์จักรี โดยสร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคการแกะสลักแม่พิมพ์ให้เกิดเป็นเส้นสายและแสงเงาอันงดงามอย่างละเอียดอ่อน ประณีตบรรจง แสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะ ความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นอกจากนั้นยังมีผลงานภาพพิมพ์ภาพทิวทัศน์และสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอันวิจิตรอีกด้วย























ภาพและข้อมูลจาก
FB หอศิลป์อาร์เดลฯ














ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุดโขนพระราชทาน



สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดกิจกรรมพิเศษและนิทรรศการหมุนเวียน “ร้อยนิทรรศน์ยลรัตนโกสินทร์ ชุด โขนพระราชทาน” เฉลิมพระเกียรติในโอกาส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา และเผยแพร่พระเกียรติคุณที่ทรงตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ ตลอดจนทรงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมหลากหลายแขนง รวมทั้งการแสดง “โขน” มาตลอดหลายทศวรรษ โดย ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นประธานเปิดงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ นิทรรศการหมุนเวียนดังกล่าวเปิดให้เข้าชมระหว่างนี้ถึงวันที่ ๖ ก.ย. ๒๕๕๘ (เว้นทุกวันจันทร์) ณ โถงอเนกประสงค์ ๑ บริเวณอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo-๑๙.oo น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


สำหรับนิทรรศการที่จัดขึ้นได้แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เริ่มจากโซนที่ ๑ กว่าจะเป็นโขนพระราชทาน, โซนที่ ๒ กำเนิดโขน นาฏกรรมคู่แผ่นดิน, โซนที่ ๓ การศึกษาพัสตราภรณ์โขน, โซนที่ ๔ ห้องฉายภาพยนตร์ แสดงเบื้องหลังการสร้างสรรค์งานศิลป์ด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับโขนและไฮไลต์การแสดงโขนตอนต่าง ๆ, โซนที่ ๕ งานหัว โขนและศิราภรณ์, โซนที่ ๖ การออกแบบเทคนิคประกอบฉาก, โซนที่ ๗ เทคนิคการแต่งหน้าสำหรับโขนพระราชทาน, โซนที่ ๘ อินเตอร์แอคทีฟ ร่วมค้นหาคำตอบของตัวละคร ๑๘ มงกุฎในเรื่องรามเกียรติ์, โซนที่ ๙ เรื่องย่อโขนพระราชทาน การสืบสานงานโขนสู่คนรุ่นใหม่ และโซนที่ ๑o โฟโต้ แกลเลอรี่ แอนด์ มาสเตอร์ พีซ แสดงภาพถ่ายและราชรถที่ใช้ในการแสดง นอกจากนี้ในงานยังมีการสาธิตทอผ้า งานประณีตศิลป์ไทย วันที่ ๒๙-๓o ส.ค., การสาธิตปักผ้า วันที่ ๑๕-๑๖ ส.ค., ๕-๖ ก.ย., การสาธิตเขียนหัวโขน วันที่ ๒๒-๒๓ ส.ค. และการสาธิตการนุ่งโจงกระเบน พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก วันที่ ๖ และ ๑๒ ส.ค. นี้.“



ภาพและข้อมูลจาก
dailynews.co.th
nitasrattanakosin.com














นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี ครั้งที่ ๓



ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร จัดงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๒ สิงหาคม ศกนี้ ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา


ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. ชวนเที่ยวงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๓ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา และยังทรงพระอัจฉริยภาพการมองการณ์ไกลในการสร้างอาชีพด้านศิลปหัตถกรรมให้แก่พสกนิกร พร้อมร่วมสนับสนุน สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและงานศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่สืบไป ระหว่างวันที่ ๘ - ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพบกับกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน พร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังต่าง ๆ มากมาย































ภาพและข้อมูลจาก
FB นิทรรศการ
allthaievent.com














พาราไดซ์ พาร์ค เทิดไท้องค์ราชินี 2558



ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ “พาราไดซ์ พาร์ค เทิดไท้องค์ราชินี ๒๕๕๘” เนื่องในโอกาส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ โดยรวบรวมภาพถ่ายส่วนพระองค์ที่หาชมได้ยากกว่า ๕o รูป มาจัดแสดงภายใต้แนวคิด รอยยิ้มของแม่...ความสุขของลูก เพื่อเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตรของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงปฏิบัติภารกิจนานัปการ ทั้งในฐานะสมเด็จแม่ของพระราชโอรสและพระราชธิดา และในฐานะแม่แห่งแผ่นดิน ที่ทรงอุทิศพระองค์ ทรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สุขของ พสกนิกรชาวไทย


นิทรรศการแบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรก จัดแสดงพระราชประวัติและพระราชจริยวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้พระราชทานทั้งความรัก ความเอาพระทัยใส่ในการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนพระราชโอรสและพระราชธิดาอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน ทั้งการศึกษา ขณะที่ พระราชโอรสและพระราชธิดายังทรงพระเยาว์ ก่อนเข้าบรรทมจะทรงอ่านหนังสือหรือทรงเล่านิทานพระราชทาน และยังทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ให้พระราชโอรสพระราชธิดาได้มีสุขภาพพลานามัยดี มีพัฒนาการด้านความรู้ ความคิด และคุณธรรม ส่วนที่สอง จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ที่ทรงมุ่งมั่นบากบั่น เพื่อให้พสกนิกรมีความอยู่ดีกินดี มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง มีการศึกษา มีอาชีพ การงาน มีความรักชาติบ้านเมืองและนิยมในศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงสภาพแวดล้อม และในงานยังมีกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจในด้านสุขภาพของเด็ก จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และการจำหน่ายสินค้าจากโครงการส่วนพระองค์ รวมไปถึงกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ ๖-๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ ณ รอยัล พาร์ค พลาซ่า ชั้น ๑ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์.



ภาพและข้อมูลจาก
thairath.co.th














แสง รัก ส่อง ชีวิต



เหล่าช่างภาพซึ่งเป็นสมาชิก ชุมชนคนถ่ายภาพ สห+ภาพ (FOTOUNITED) โดยการสนับสนุนของ SCB, CANON และ APDA ร่วมกันจัดแสดงผลงาน "ภาพถ่าย" ผ่านนิทรรศการ แสง รัก ส่อง ชีวิต (Life in the Light of Love)


นอกจากผลงานภาพถ่ายแล้วในนิทรรศการเดียวกัน ยังมีผ้าไหมจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาจัดแสดงให้ชมพร้อมกันด้วย


นิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ ๔-๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














“บุษบัญชลี” นิทรรศการดอกไม้เทิดพระเกียรติ



นิทรรศการดอกไม้เทิดพระเกียรติ ซึ่งออกแบบโดย สกุล อินทกุล นักออกแบบและจัดดอกไม้ชื่อดัง แห่งพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ และร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการโดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม, Jim Thompson และพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้


ความสวยงามของการเรียง การร้อย การกรองดอกไม้แบบไทย ๆ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้ผู้ชมได้ผิดหวัง ยิ่งเป็นฝีมือการทำด้วยชั้นครูความสวยงามยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ อย่าง “ต่อ” สกุล อินทรกุล นักจัดดอกไม้ระดับโลก ที่ได้รับถวายงานแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หลายครั้ง จึงคัดสรรผลงานบางส่วนมาจัดแสดงพร้อมบอกเล่าเรื่องราวผ่านนิทรรศการ “บุษบัญชลี” นิทรรศการดอกไม้เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม โดยจะจัดแสดงจนถึงวันที่ ๑๖ สิงหาคมนี้






งานนี้ได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ มาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมเล่าให้ฟังว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดอกไม้ทุกชนิดซึ่งก็เหมือนผู้หญิงทุกคน แม้กระทั่งดอกไม้ริมทางที่ทอดพระเนตรเห็นระหว่างประทับรถพระที่นั่งไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจในต่างจังหวัด ก็จะทรงให้เจ้าหน้าที่ลงไปถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อเป็นต้นแบบในการทำงานในศิลปาชีพ “ซึ่งถ้าถามว่าโปรดดอกไม้ชนิดใดมากที่สุด ก็ต้องบอกว่าต้องเป็นกุหลาบทุกสายพันธุ์เลย อย่างที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศที่เชียงใหม่ จะมีการปลูกดอกกุหลาบหลายสายพันธุ์ ช่วงเสด็จฯ ไปประทับประมาณเดือนธันวาคม ดอกกุหลาบจะบานและส่งกลิ่นหอม เมื่อทรงว่างจากพระราชกรณียกิจจะเสด็จฯ ลงไปดูดอกไม้และทรงตัดมาจัดช่อถวายที่หอพระเสมอ หรือถ้าทรงว่างหรือมีพระสหายจากต่างประเทศ สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะทรงนำชมแปลงดอกไม้ในช่วงเย็น ๆ ซึ่งทุกคนจะบอกตรงกันว่าดอกไม้ที่ภูพิงค์สวยที่สุดที่เคยเห็นมา” ท่านผู้หญิงเล่าให้ฟัง






ในขณะที่เจ้าของผลงานบอกว่า ส่วนตัวได้มีโอกาสถวายงาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หลายครั้ง อย่างที่ประทับใจไม่รู้ลืมเมื่อไปจัดดอกไม้ถวายในงานศิลปาชีพฯ ที่สกลนคร เสร็จงานเสด็จฯ ผ่าน แล้วตรัสว่าขอบใจ ดอกไม้ที่จัดสวยมาก ส่วนตัวจึงก้มลงกราบพระบาท แล้วทรงมีรับสั่งต่อซึ่งตอนนั้นก็จำไม่ได้แล้วว่าทรงรับสั่งว่าอะไร เพราะตื้นตันใจมาก ครั้งนี้จึงเลือกผลงานบางส่วนมาจัดแสดงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ อย่าง พุ่มดอกไม้ไทยร่วมสมัย งานนี้ออกแบบเพื่อใช้ประดับตกแต่งบนโต๊ะเสวย ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร ในงานถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่พระราชอาคันตุกะที่เสด็จมาร่วมงานมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖o ปี พวงระย้าดอกไม้ ออกแบบเพื่อประดับตกแต่งบรรยากาศของลานคำหอมในงานประกวดผ้าไหมภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ งานดอกไม้ไทยร่วมสมัยประดับฝาผนัง, งานดอกไม้ไทยตกแต่งหน้าที่ประทับ, งานเครื่องแขวนร่วมสมัย, สแตนด์ดอกไม้ใหญ่ ที่ใช้ประดับตกแต่งงานเลี้ยงพระราชทาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และพระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร, ต้นกัลปพฤกษ์ ณ อ่างแก้ว ประกอบงานตกแต่งดอกไม้สดในงานพระราชทานเลี้ยงแก่ผู้นำนาชาติที่เข้าร่วมประชุมเอเปค ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และ ชุดดอกไม้สูงประดับบนโต๊ะอาหาร ครั้งเสด็จฯ แทนพระองค์ไปเยือนประเทศจีน


นิทรรศการจัดแสดงระหว่างวันที่ ๖ - ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ เอ็มโพเรียม แกลเลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th
komchadluek.net














“เครื่องเบญจรงค์ไทย” ชิ้นเลิศ



ชมผลงานออกแบบ เครื่องเบญจรงค์ ที่ชนะเลิศการประกวดทั้ง ๕ ประเภท และอีก ๒o กว่าผลงานที่เข้ารอบสุดท้าย การประกวด โครงการ “หัตถศิลป์ทรงคุณค่า วิจิตรเลิศล้ำเครื่องเบญจรงค์ไทย” หัวข้อ “เลอค่าภูมิปัญญาไทย” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดย ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) จัดให้มีการประกวดเป็นปีแรก กำลังจัดแสดงให้ชม ณ ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น ๒ ศูนย์การค้าสยามพารากอน


จากนั้นเจ้าของผลงานชนะเลิศการประกวดจะได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และถ้วยรางวัลจากผู้แทนพระองค์ ภายในงานกาล่าดินเนอร์ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมายุ ๘๓ พรรษา วันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ ห้องประชุมเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














“เครื่องรัก” ๑o ครูศิลป์ของแผ่นดิน



ปีนี้ “โครงการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน” ของ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. จะทำพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ ให้แก่ ๑o บุคคคลที่ทำงานด้าน "เครื่องรัก" และยังใช้องค์ความรู้เบบโบราณ ได้แก่


๑. นายมานพ วงศ์น้อย
๒. นายม้วน รัตนาภรณ์
๓. นางสาวปัญชลี เดชคง
๔. นางดวงกมล ใจคำปัน
๕. นายเสถียร ณ วงศ์รัก
๖. นางบุญศรี เกิดทรง
๗. ม.ล.พงษ์สวัสดิ์ สุขสวัสดิ์
๘. นางศศิธร มงคลเรืองฤทธิ์
๙. นางประเทือง สมศักดิ์
๑o. นายญาณ สองเมืองแก่น


ยังจัดนิทรรศการแสดงผลงานเครื่องรัก ของ ๑o ครูศิลป์ของแผ่นดิน ภายในงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” ตั้งแต่วันที่ ๘ สิงหาคมเป็นต้นไป ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th
bangkokbiznews.com














รักจากผ้าไทย



เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ อีกทั้งยังเป็นวันแม่แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาประชาราษฎร์ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งทรงเปรียบเสมือนแม่ของแผ่นดิน พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จึงจัดกิจกรรม “รักจากผ้าไทย” เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในด้านการอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่สืบไป อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการนำผ้าไทยมาใช้ในชีวิตประจำวัน และเป็นการสร้างความรัก ความผูกพันระหว่างแม่และลูกให้แนบแน่นยิ่งขึ้นไป ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ กิจกรรมย่อยดังนี้


๑. กิจกรรม ร้อยรักจากลูก
การประดิษฐ์มาลัย หรือช่อดอกไม้สำหรับแม่จากผ้าไทย
วันเสาร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
วิทยากร: เจ้าหน้าที่โรงเรียนช่างฝีมือในวังชาย

๒. กิจกรรม ด้วยรักจากแม่
การประดิษฐ์ผ้ากันเปื้อนสำหรับเด็กจากผ้าไทย
วันเสาร์ ที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
วิทยากร: คุณปิยะมน กิ่งประทุมมาศ และคุณเยาวลักษณ์ บุนนาค
จำนวนผู้เข้าร่วม: กิจกรรมละ ๓๐ คน
กิจกรรมีค่าใช้จ่าย: จำนวน ๓๐๐ บาท / ๑ คน
สถานที่: ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ


ติดต่อสำรองที่นั่ง:
๑. โทร ๐-๒๒๒๕-๙๔๒๐, ๐-๒๒๒๕-๙๔๓๐ ต่อ ๐ หรือ ๒๔๕ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.
๒. ข้อความทางเฟซบุ๊ก //www.facebook.com/qsmtthailand



ภาพและข้อมูลจาก
qsmtthailand.org
thetrippacker.com














วธ.โชว์ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติ “พระราชินี”



วธ. จัดยิ่งใหญ่โชว์ผ้าไทย ฉลองพระองค์ เฉลิมพระเกียรติ “พระราชินี” พร้อมแกะแบบเครื่องแต่งกายอดีตถึงปัจจุบัน จากจิตรกรรมฝาผนัง ปูนปั้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่ศึกษา วันที่ ๑๙ - ๒๓ ส.ค. นี้






วันนี้ (3 ส.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงข่าวการจัดงานผ้าไทย อัตลักษณ์ความเป็นไทย “นุ่งผ้าไทย ถวายพระราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ วธ. ร่วมกับ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดงานเฉลิมพระเกียรติเพื่อสนองพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในฐานะที่พระองค์ทรง เป็นองค์อุปถัมภ์ อนุรักษ์ ฟื้นฟู รักษา สืบทอดการทอผ้าและริเริ่มให้อนุรักษ์ศิลปะบนผืนผ้า และวัฒนธรรมไทย อีกทั้งทรงเป็นต้นแบบการใช้ผ้าไทยให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์แห่งศิลปวัฒนธรรมการแต่งกายแบบไทย






นายวีระ กล่าวว่า กิจกรรมจัดที่ ลานพาร์ค ศูนย์การค้าสยามพารากอน วันที่ ๑๙ - ๒๓ ส.ค. นี้ ประกอบด้วย นิทรรศการเรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กับพระราชดำริงานสร้างสรรค์ ฟื้นฟู และเผยแพร่วัฒนธรรมการแต่งกายแบบไทยด้วยผ้าไทย และวิวัฒนาการของการใช้ผ้าไทยแต่งกายแบบไทย การแสดงพิพิธทัศนาวิวัฒนาการแต่งกายของคนไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน คาราวานผ้าไทย โดยสาธิตและจำหน่ายผ้าไทยและผลิตภัณฑ์จากผ้า พร้อมกันนี้ วธ. ชวนชาวไทยและต่างประเทศ ร่วมกันแต่งกายด้วยผ้าไทย อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ตลอดเดือน ส.ค. พร้อมกันนี้ จะมีการยกย่องหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถานศึกษาดีเด่นในการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยในชีวิตประจำวันด้วย






ด้าน นายเผ่าทอง ทองเจือ กล่าวว่า กิจกรรมภายในงานได้สะท้อนพระราชกรณียกิจของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรูปแบบนิทรรศการที่แสดงถึงวัฒนธรรม อัตลักษณ์การแต่งกายด้วยผ้าไทย ซึ่งเป็นการจัดแสดงวัฒนธรรมผ้าไทยงานใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของการแต่งกายด้วยผ้าไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในแต่ละยุคสมัย เพื่อคนรุ่นใหม่ได้ศึกษาการแต่งกายผ้าไทยที่ถูกต้อง โดยเครื่องแต่งกายที่นำมาแสดงครั้งนี้ได้นำมาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ปูนปั้น จิตรกรรมฝาผนัง ภาพถ่าย รวมทั้งจะมีการนำ เครื่องแต่งกายชุดประจำชาติ ฝ่ายชาย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ ๓ แบบ มาจัดแสดงร่วมกับ ฉลองพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระราชทานไว้ ๘ แบบ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องแต่งกายพื้นถิ่น เครื่องแต่งกายชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ซึ่งพระองค์ทรงแสดงความห่วงใยว่าจะสูญหายไปตามกาลเวลา นอกจากนี้ ยังมีการจัดการแสดงพื้นบ้าน ๔ ภาค ให้ผู้สนใจได้ ชมฟรี











ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th
dailynews.co.th














สานศิลป์บนลายสลักไทย



การนำผักผลไม้มาบรรจงแกะสลักให้สวยก่อนรับประทาน กลายเป็นเรื่องที่มองเห็นอยู่ไม่มากนักในปัจจุบันของยุคเร่งรีบและทันสมัย แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่พร้อมอนุรักษ์ให้ยังคงอยู่ผ่านวิชาชีพ การศึกษา และกิจกรรมยามว่างที่วันก่อน พวกเขาได้มารวมตัวกันสร้างสรรค์ผลงานแกะสลักอย่างเต็มที่เพื่อการประกวดและเผยแพร่ศักยภาพงานฝีมือไทยยุคดิจิทัลว่ายังคงสวยงามเพียงใด ในการประกวดแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง ดอกไม้สด ครั้งที่ ๑๗ ในหัวข้อง “ท่องเที่ยววิถีไทย ก้าวไกลทั่วโลก” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปลี่ยนบรรยากาศห้องบอลรูมของโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ให้เป็นสวนงานสลักขนาดใหญ่จากผลงานของผู้เข้าประกวด ๒๔ ทีม ที่บอกเรื่องราวการท่องเที่ยวไทยผ่านพืช ผัก ผลไม้ ได้อย่างน่าน่าตื่นตา


การประกาศผลเริ่มจากรางวัลชนะเลิศประเภทโรงแรมและบุคคลทั่วไป ตกเเป็นของนักแกะสลักกลุ่มโรงแรมคอนราด ตัวแทนผู้รับรางวัลอย่าง นรุตม์ชัย สมใจ และ ธีรพล พาหิน เล่าด้วยความดีใจว่า ผลงานชิ้นนี้ชื่อ “สวรรค์เมืองไทย” สลักโดยทีมงานหลักทั้งหมด ๔ คน จำลองพระเจดีย์องค์ใหญ่ ของวัดวัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.อยุธยา ที่ใครมาเมืองไทยก็ต้องแวะมาสักการะและชื่นชมความงาม ผสมกันเรื่องราวการสืบสานประเพณีวันลอยกระทงปลายปีนี้ที่เมืองสุโขทัย เทศกาลแห่เทียนพรรษา วิถีชีวิตชาวตลาดน้ำ การท่องเที่ยวทะเล และจำลองการทำส้มตำในงานแกะสลักอีกด้วย ใช้พญานาคเชื่อมความสำคัญของเหตุการณ์ทั้งหมดในผลงาน พร้อมทำคชปักษาสัตว์ที่คอยปกปักรักษาป่าหิมพานต์มีหัวเป็นช้าง ตัวเป็นนก หางเป็นปลา จากใบตองเป็นตัวแทนแห่งการปกปักรักษาความอุดมสมบูรณ์






นรุตม์ชัย เล่าเสริมด้วยความภูมิใจว่าในสายงานโรงแรมหลายครั้งที่คณะทูต บุคคลสำคัญของประเทศต่าง ๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาพักอยากจะเห็นงานฝีมือของบ้านเรามาก มีการติดต่อขอให้ในห้องพัก ห้องประชุม และในมื้ออาหารมีงานแกะสลักไทยเข้าไปอยู่ในบรรยากาศการพักผ่อน หรือทำงาน บางรายขอให้ช่างฝีมือมานั่งสอนแกะสลักผักผลไม้ให้เลยก็มี หัตถกรรมแขนงนี้จึงเป็นเหมือนงานฝีมือที่ชาวต่างชาติยกย่องให้เป็นหน้าเป็นตา เมื่อประดับที่ไหนก็จะแสดงให้เห็นว่าที่นี่คือประเทศไทย


ด้านรางวัลชนะเลิศประเภทสถาบันการศึกษา ผลงานของวิทยาลัยอาชีวศึกษา นครปฐม ก็เข้าตากรรมการด้วยองค์ประกอบงานสมดุลมีเรื่องราวสนุกสนานของการแห่เทียนพรรษา ไปจนถึงการท่องเที่ยวภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย รัชชดา บุตรเบ้า ตัวแทนนักแกะสลักรุ่นใหม่กว่า ๒o ชีวิตเล่าว่างานชิ้นใหญ่ต้องแบ่งงานกันตามความถนัดตั้งแต่งานใบตอง งานแกะดอกไม้ ผลไม้ และรูปสัตว์ต่าง ๆ ความยากอยู่ที่การจำลองเทียนพรรษารูปเรือหงส์ ที่ต้องใช้ความละเอียดดูจากแบบแกะเทียนจริงๆ วาดและแกะให้ชินมือกันก่อนมาประกอบเป็นชิ้นเรือ งานชิ้นนี้ก็ถือเป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันระหว่างพี่น้องในสถาบันเชื่อว่าการประกวดจะเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องรู้สึกสนุกและเห็นความสำคัญของงานหัตถกรรมไทยแขนงนี้มากขึ้นได้






ปิดท้ายที่ทีมชนะเลิศยอดเยี่ยม ที่คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานไปครอง ได้แก่ ผลงาน “อิ่มบุญ อุ่นใจ ท่องเที่ยววิถีไทย วิถีพุทธ” จากกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โดย เมธากรานต์ เตจ๊อกุล ตัวแทนผู้ชนะจากสาขาคหกรรม แขนงศิลปะประดิษฐ์ เล่าว่าได้คอนเซ็ปต์จากศาสนาพุทธซึ่งมีวัดวาอารามเป็นศูนย์รวม นักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยก็อยากเห็นศิลปะชั้นสูงลวดลายวิจิตรบรรจง อยากเห็นศิลปะความเป็นอยู่ของแต่ละภาค ในผลงานมีการจำลองพระธาตุดอยสุเทพ การขี่ช้างล่องแพของภาคเหนือ ภาคอีสานได้จำลองพระธาตุพนม ประเพณีแห่เทียนพรรษา ความเชื่อเรื่องพญานาค ภาคใต้จะเป็นทะเล ปะการังดอกไม้ต่าง ๆ ส่วนภาคกลางจะเป็นประตูวัดพระแก้วแต่ประยุกต์จั๋วให้คล้ายกาแลของภาคเหนือ กับเก๋งจีนของภาคกลางผสมผสานกัน


“ส่วนที่ยากที่สุดคือการแกะสลักพญานาค และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ต้องเน้นโครงหน้ารายละเอียดให้ชัดเจน ใส่โค้งให้ได้สัดส่วนทำให้มีชีวิตชีวามากที่สุด ถ้าเป็นผลงานที่ทำร่วมกันเยอะ ๆ เช่นชิ้นนี้ ต้องแบ่งงานกันให้ชัดเจน และเตรียมแรงเพื่อแกะสลักงานผักผลไม้ที่เสียง่ายทำล่วงหน้าไม่ได้ต้องแกะก่อนวันประกวดภายใน ๑ คืน ดังนั้นทีมงานต้องมีความอดงาน รับผิดชอบสูง ซึ่งตัวเองคิดว่าแกะสลักไทยเป็นงานต้องอนุรักษ์แต่สิ่งสำคัญกว่าเราต้องมีใจรักมาก ถ้าได้เรียนรู้จะเห็นว่าเป็นงานละเอียดทำให้เรามีสมาธิมาขึ้น น่าค้นหา สามารถต่อยอดความคิดไปได้เรื่อย ๆ และสานต่อไปงานหัตกรรมแขนงอื่น ๆ ได้ไม่ยากนัก” ตัวแทนผู้ชนะเล่าถึงการทำงาน






หลังทราบผลการตัดสินประธานในพิธีมองรางวัล ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เดินชมผลงานอย่างละเอียดพร้อมชื่นชมว่าในปีนี้มีคนรุ่นใหม่สนใจเข้ามาประกวดเยอะขึ้นมาก ทุกคนมีฝีมือพื้นฐานที่เก่ง ประณีต มีการใส่วิธีการใหม่ ๆ เช่น ทำดอกมะลิจากระเทียมโทน การแกะสลักไดโนเสาร์ ของนักเรียน จ.ขอนแก่น ที่นำอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัดตัวเองมาแกะสลักแบบร่วมสมัยดูสนุกมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคเลียนแบบธรรมชาติทั้งน้ำตก ปะการัง สัตว์ทะเล เกล็ดของปลาและพญานาคได้สมจริง เมื่อชมแล้วรู้สึกปลื้มใจว่าศาสตร์เหล่านี้มีการสืบสานที่ดี การันตีว่าช่างฝีมือชาวไทยนั้นเก่งที่สุดในโลกเช่นเคย



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














หนังสือ "เรื่องเล่าจากวังวรดิศ"



วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๘ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ ‘เรื่องเล่าจากวังวรดิศ’ ผลงานเขียนเล่มแรกของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ณ วังวรดิศ กรุงเทพฯ


โดยหนังสือเรื่องเล่าจากวังวรดิศ แบ่งออกเป็น ๔ ภาค คือ ๑. มรดกคำสอน ๒. เรื่องเล่าจากวังวรดิศ ๓. บุคคลผู้เป็นต้นแบบสุภาพบุรุษจุฑาเทพ และ ๔. รวมภาพถ่ายจากวังวรดิศ มุ่งเน้นนำเสนอเรื่องราวของวังวรดิศและการใช้ชีวิตในวังของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ตลอดจนถ่ายทอดคำสอนของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในฐานะสมเด็จทวด ต้นราชสกุลดิศกุล


ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของกระผมอย่างละเอียดที่สุด ซึ่งแต่ละหัวข้อถูกกลั่นกรองออกมาอย่างเหมาะสม อย่างมรดกคำสอนถือเป็นคำสอนของสมเด็จทวดได้ถ่ายทอดจากรุ่นคุณปู่สู่คุณพ่อ จนกระทั่งตัวกระผมก็ได้นำคำสอนเหล่านี้ถ่ายทอดไปยังรุ่นลูก (วรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา) ซึ่งหนึ่งในคำสอนของสมเด็จทวดที่ได้รับการปลูกฝัง คือ ข้าราชการมิใช่อภิสิทธิ์ชน หากแต่จะต้องบำเพ็ญตนให้เป็นแบบอย่างของคนดีแก่สังคม


นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแต่งกาย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสาเหตุอนุรักษ์การแต่งกายผ้าไทยว่า เมื่อครั้งสมเด็จทวดยังทรงดำรงพระชนม์ชีพ พระองค์ก็โปรดสวมใส่ชุดไทยลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้เช่นกัน แต่สมัยนั้นเรียกว่า ชุดราชประแตน


อีกทั้ง กระผมยังมีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นแบบอย่างการแต่งกายด้วย เพราะขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านใส่เสื้อคอตั้ง แขนสั้นบ้าง แขนยาวบ้าง เป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์แบบไทยให้ชายต่างชาติเห็น


"คุณพ่อ (พลตรี หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล ) นิยมใส่ชุดพระราชทานเสมอ ดังนั้นด้วยความรักและความผูกพันที่มีต่อท่าน อะไรที่คุณพ่อทำ กระผมจะรู้สึกภูมิใจที่ได้กระทำและระลึกถึงท่านทุกครั้งที่ใส่เสื้อพระราชทาน"


ม.ล.ปนัดดา ยังกล่าวความรู้สึกอย่างไรที่เป็นราชสกุล โดยยกคำสอนของสมเด็จทวดว่า บุคคลที่เป็นเจ้าจริง ๆ แล้วจะต้องเป็นหม่อมเจ้าขึ้นไป เช่น พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า แต่อย่างคุณพ่อและกระผมเป็น ม.ร.ว.และม.ล. ไม่ได้ถือเป็นเจ้า เรียกว่าเป็นผู้สืบสานความดีของบรรพบุรุษ ดังนั้นอะไรที่เป็นคุณงามความดี จะต้องมีอยู่ในใจเราเสมอ ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือเรื่องเล่าจากวังวรดิศ ราคา ๒๒o บาท วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ //www.dmgbooks.com, //www.dbooks4u.com สอบถามเพิ่มเติม โทร o-๒๖๘๕-๒๒๕๕ .



ภาพและข้อมูลจาก
isranews.org
thailandexhibition.com














หนังสือ SACICT Craft Trend 2016



พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดตัวหนังสือ SACICT Craft Trend 2016 ที่รวมแนวโน้มหัตถกรรมร่วมสมัยปี ๒o๑๖ อัดแน่นด้วยงานดีไซน์และภูมิปัญญา สร้างแรงบันดาลใจให้นักออกแบบสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด“วิถีใหม่ ไทยนวัตศิลป์” โดยมีแสงระวี สิงหวิบูลย์ ผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตศิลป์,เจรมัย พิทักษ์วงศ์ บรรณาธิการอำนวยการกลุ่มบ้านและการตกแต่ง บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), Mr.Abie Abdillah Designer/ Owner of Studio Hiji Indonesia พร้อมด้วยผู้สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างคับคั่ง ณ ห้อง ออดิทอเรียม ชั้น ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯ


SACICT Craft Trend 2016 หนังสือที่รวบรวมแนวคิดในการสร้างสรรค์หัตถศิลป์ สำหรับปี ๒o๑๖ โดยศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT รวบรวมและสังเคราะห์ แนวโน้มหัตถกรรมร่วมสมัยที่เกิดขึ้นใหม่และคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีมาให้ศึกษาอย่างละเอียด ทั้งเรื่องของรูปทรง สีสัน วัสดุ รวมถึงตัวอย่างผลงานหัตถศิลป์ที่พัฒนาให้ร่วมสมัย แต่ยังมีกลิ่นอายของภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยงานดีไซน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักออกแบบรุ่นใหม่ หรือช่างฝีมือท้องถิ่นได้พัฒนางานให้ตรงกับรสนิยมคนรุ่นใหม่ และเพื่อการทำตลาดที่ชัดเจนของงานหัตถศิลป์ไทยในเวทีสากลต่อไป



ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














"คนรักแม่...พาแม่มาดูโขน"



เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมฉลองพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ร่วมกับ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดการแสดงโขน~ศาลาเฉลิมกรุง ชุด "หนุมาน" จัดโปรโมชั่น ๒ รอบพิเศษ มอบเป็นของขวัญวันแม่ "คนรักแม่...พาแม่มาดูโขน" (สำหรับแม่...ชมฟรี! ลูกและผู้ติดตาม รับส่วนลดพิเศษ ๕o% ) ๒ รอบพิเศษเท่านั้น ในวัน ๑๓-๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ รอบ ๑๙.๓o น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง


สัมผัสกลิ่นอายของนาฏยกรรมโบราณ ร่วมสืบสานแห่งจารีตธำรงเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ไปกับ "โขน" สุดยอดศิลปะการแสดงชั้นสูงชมการแสดงโขน~ศาลาเฉลิมกรุง ชุด "หนุมาน" กำกับการแสดงโดย นายศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ บรรเลงดนตรีโดย วง "โรหิตาจล" โขนชุดนี้จับตอนตั้งแต่กำเนิดหนุมาน พระพายซัดพละกำลังของพระอิศวร เข้าปากนางสวาหะที่ยืนเหนี่ยวต้นไม้อยู่และกำเนิดเป็น หนุมานช่วยพระรามรบกับทศกัณฐ์จนชนะและได้รับประทานสมญาศักดิ์เป็นพระยาอนุชิตจักรกฤษณ์พิพรรธพงศาได้ไปครองเมืองนพบุรี ถ่ายทอดผ่านการแสดงอันวิจิตรงดงามตระการตาดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับด้วยการพากย์-เจรจาและเพลงหน้าพาทย์แบบโบราณ พร้อมด้วยเทคนิคพิเศษที่นำมาผสมผสานจนเป็นการแสดงที่วิจิตรงดงามอลังการหาชมยากยิ่ง ซึ่งสร้างสรรค์เพื่อการแสดงในโอกาสนี้โดยเฉพาะ โดยมุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของโขน~ศาลาเฉลิมกรุง ชุด "หนุมาน" ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์เดิมไว้อย่างครบถ้วนโดยมีหนุมานเป็นตัวละครเอกนำเข้าสู่เรื่องราวของรามเกียรติ์สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของหนุมาน ชมความวิจิตรงดงามของสวนแม่พระอุมา ฉากใต้น้ำที่สวยงามอลังการ และลีลาของหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ตื่นเต้นไปกับอิทธิฤทธิ์ของหนุมานรบสหัสกุมาร ตื่นตาไปกับกระบวนทัพที่น่าอัศจรรย์ของพระราม โขน~ศาลาเฉลิมกรุง เริ่มเปิดการแสดงมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ จัดแสดงมาอย่างต่อเนื่อง ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง โดยการคัดเลือกผู้แสดงซึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันชั้นนำกว่า ๑oo คน ที่มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์โขน เข้ามาฝึกฝนทางด้านนาฏศิลป์ชั้นสูง ภายใต้การฝึกซ้อมของ คณะครูและผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เพื่อการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง


โขน~ศาลาเฉลิมกรุงชุดหนุมานจัดแสดงรอบปกติทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์บัตรราคา ๘oo บาท ๑,ooo บาท และ ๑,๒oo บาท (โปรโมชั่นพิเศษ…ชมฟรี! สำหรับเด็กอายุไม่เกิน ๑๒ ปี / นักเรียน-นักศึกษา และผู้สูงอายุ ๖๕ ปีขึ้นไป แสดงบัตรประจำตัวรับส่วนลดราคาพิเศษ ๒oo บาทเท่านั้น!)จำหน่ายบัตรที่ศาลาเฉลิมกรุง โทร.o-๒๒๒๔-๔๔๙๙ และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ //www.thaiticketmajor.com โทร. o-๒๒๖๒-๓๔๕๖



ภาพและข้อมูลจาก
thaipr.net
gossipthai.com














เวิร์คช็อป Art for Happiness



กลุ่มบริษัท นานมี ขอเชิญประชาชนทั่วไปและผู้ที่มีใจรักด้านศิลปะตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี ขึ้นไป ร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปศิลปะ “ศิลปะสร้างสุข” [Art for Happiness] โดยศิลปินอารมณ์ดี อ.ชลิต นาคพะวัน ในเสาร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo-๑๖.oo น. ณ นานมี อาร์ต แกลเลอรี่ ชั้น ๓ อาคารนานมี สาทร ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางศิลปะ เพราะศิลปะไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนสามารถเรียนรู้และมีความสุขที่ได้ลงมือทำ ช่วยผ่อนคลายอารมณ์จากความตึงเครียดด้วยสุนทรียภาพอันงดงาม สอบถามเพิ่มเติม โทร. o๒-๖๔๘-๘ooo ต่อ ๑๑๓o-๑๑๓๒ หรือเฟสบุ๊ก : https://www.facebook.com/Wichitrong



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
nanmee.com














ภาพและข้อมูลจาก
naiin.com














'ฝากไทย'ถอดรหัสเสน่ห์ทุนวัฒนธรรม



ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศ แต่มีอยู่องค์ประกอบหนึ่งของธุรกิจท่องเที่ยวที่ยังไม่สามารถพัฒ นาได้ดีเท่าที่ควร นั่นก็คือการผลิตสินค้าที่ระลึก กระทรวงวัฒนธรรมจึงจัด "นิทรรศการฝากไทย" พร้อมประกาศเปิดตัว "ศูนย์บันดาลไทย" ซึ่งจะเป็นหน่วยงานส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมเกิดแรงบันดาลใจในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ผลิตสินค้า เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ


วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจโดยตรงในการนำวัฒนธรรมมาเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม จึงได้จัดตั้งศูนย์บันดาลไทย เพื่อเป็นหน่วยงานในการให้บริการและคำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ บริหารและจัดการทุนทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานในการสร้างแรงบันดาลใจในการนำ "เสน่ห์" จากทุนวัฒนธรรมในท้องถิ่นต่าง ๆ มาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่ทำให้ผู้สนใจได้เห็นรูปธรรม จับต้องได้ และนำมาประยุกต์ใช้งานเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ตลาดได้จริง


"เชื่อว่าวัฒนธรรมของเรามีมูลค่าสูงมากอยู่แล้ว และวัฒนธรรมต่าง ๆ ก็อยู่รอบตัวเรา ถ้าหยิบมันมาเพิ่มมูลค่าก็น่าจะทำได้ โดยศูนย์บันดาลไทยมีขึ้นเพื่อให้การทำเรื่องเหล่านี้ง่ายขึ้น ทางศูนย์จะทำหน้าที่ให้ความรู้กับชุมชนเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนถึงสร้างรายได้ให้มากขึ้น การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ถือเป็นการรวบรวมและบริหารวัฒนธรรมที่มีอยู่ให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่แฝงไปด้วย "เสน่ห์ไทย" สามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม พร้อมทำหน้าที่เป็นหน่วยงานต้นน้ำ ส่งต่อแรงบันดาลใจไปยังหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งเปรียบได้กับกลางน้ำ ก่อนจะขยายผลไปยังชุมชนที่ปลายน้ำ" รมว.วธ.กล่าว


ด้าน ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ทั้งศิลปินและวัฒนธรรมถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และศูนย์บันดาลไทยจะเป็นเวทีให้เขาเหล่านี้ได้แสดงฝีมือ นับเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อส่งต่อไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม หรือไปจนถึงกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานเอกชนชนอย่าง TCDC เป็นต้น ซึ่งเมื่อเปิดศูนย์แล้ว เราจะสามารถดึงงานจากภูมิภาคต่าง ๆ มานำเสนอ และแผ่ขยายองค์ความรู้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น จากกรุงเทพฯ จะขยายผลไปยังราชบุรี เชียงราย ก่อนที่จะขยายไปให้ครอบคลุมทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดรากลึกของวัฒนธรรม สุดท้ายก็นำมาเพิ่มมูลค่าและเกิดเป็นรายได้ให้ชุมชนต่อไป


"อยากเชิญชวนให้มาชมนิทรรศการชุดนี้กันเยอะ ๆ คิดว่านิทรรศการนี้มีความสนุก ได้องค์ความรู้ มีเสน่ห์ในหลาย ๆ มุม สามารถเข้าชมได้ทุกเพศทุกวัย อย่างน้อย ๆ เรามาดูนิทรรศการก็ได้ช่วยเผยแพร่เรื่องดี ๆ ออกไปให้ครอบครัว ให้เพื่อน ให้คนรอบตัว แค่นี้คนสร้างสรรค์ผลงานก็มีกำลังใจแล้ว" ปลัด วธ.กล่าว


นิทรรศการ "ฝากไทย" จัดแสดง ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริเวณชั้น ๓, ๔, ๕ ระหว่างวันนี้-๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ หลังจากนั้นจะนำไปจัดแสดงต่อที่ HOF ART ในโครงการ W District ระหว่างสุขุมวิท ๖๙-๗๑ ในวันที่ ๒๓ สิงหาคม-๑ กันยายน ๒๕๕๘ และจัดเป็นนิทรรศการหมุนเวียนในศูนย์บันดาลไทย หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ ๗ สิงหาคม เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.bandanthai.com.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
newszociety.com














SUMMER : A diary a short hair housewife



นิทรรศการภาพถ่าย SUMMER : A diary a short hair housewife ผลงานโดย แพร นัดดา (Prae Nadda) จัดแสดงระหว่างวันที่ ๖ สิงหาคม - ๖ กันยายน ๒๕๕๘ และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น. ณ The Jam Factory Gallery


อากาศร้อนเกือบทุกวันตลอดทั้งปี ของเมืองไทย ทำให้ยากลำบากต่อการกำหนดขอบเขต ของฤดูร้อนว่ามันได้เริ่มขึ้น หรือสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ และอาจเป็นความเลอะเลือนของฤดูกาล ที่ทำให้บางวันในฤดูร้อนนั้นไม่มีแดดเลย บางทีฤดูร้อนก็แทรกอยู่ในฤดูหนาว บางวันมีลมพัดแต่ไม่เย็น บางวันก็มีความชื้นเหมือนเพิ่งปิดเครื่องปรับอากาศไปสัก ๑๕ นาที - ฤดูร้อน. บันทึกของแม่บ้านผมสั้น


นิทรรศการภาพถ่าย โดย แพร นัดดา
๖ สิงหาคม - ๖ กันยายน ๒๕๕๘
ที่ The Jam Factory Gallery กรุงเทพฯ
opening party ๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ , ๑ ทุ่มตรง



ภาพและข้อมูลจาก
exhibition.contestwar.com














ศิลป์เลอค่าภูมิปัญญาไทย



หลังจากที่ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เปิดเวทีให้บรรดาช่างฝีมือส่งผลงานเข้าร่วมประกวดใน “โครงการหัตถศิลป์ทรงคุณค่า วิจิตรล้ำค่าเครื่องเบญจรงค์ไทย” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถ้วยและโล่รางวัลจากศูนย์ศิลปชีพบางไทรฯ แม่งานคนสำคัญ สุดาสมร สุวรรณลาภเจริญ รองผู้อำนวยการศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ ก็จัดงานประกาศรางวัลแก่ผู้ชนะทั้ง ๕ ประเภท พร้อมจัดแสดงผลงานสุดยอดหัตถศิลป์กว่า ๒o ชิ้นที่เข้ารอบสุดท้าย โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.เธียรศักดิ์ พะลายานนท์ เป็นประธานในงาน ที่บริเวณไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น ๒ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันก่อน


สุดาสมร สุวรรณลาภเจริญ เปิดเผยรายชื่อผู้คว้ารางวัลจากการประกวดทั้ง ๕ ประเภท ได้แก่ ประเภท ก. ภูมิปัญญาดั้งเดิม เน้นผลงานที่อนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทย ซึ่งผลงานชื่อว่า “ถมทอง” ของ วรวัฒน์ ตันฑอาริยะ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง สำหรับประเภท ข. ประยุกต์ร่วมสมัย เปิดกว้างในกานสร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็นไปได้ในการใช้งานจริงคณะกรรมการให้ความเห็นว่า ยังไม่มีผลงานใดที่มีความโดดเด่นอย่างแท้จริง ดังนั้นรางวัลสูงสุดในประเภทนี้จึงได้แค่ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลนี้คือ ยุทธศักดิ์ ลุมไธสงค์ กับผลงาน “ชัยภูมิบ้านเกิด” ขณะที่ประเภท ค. สร้างสรรค์และต่อยอด มุ่งเปิดโอกาสให้กลุ่มนิสิตนักศึกษาที่เรียนด้านการออกแบบ สกุลรัตน์ ทองคำเหลือง เจ้าของผลงาน “ลวดลายฮีตสิบสอง คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง นอกจากนี้ยังมีประเภท ง. ถ่ายทอดประวัติศาสตร์และประเพณีไทย ผลงานชื่อ “วิถีธรรมชาติและความสามัคคี” โดย รัชนี ทองเพ็ญ คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง สุดท้ายประเภท จ.ถ่ายทอดธรรมชาติและทัศนียภาพอันงดงามของประเทศไทย ของ กัลยณพ มารุ่งเรือง กับ “ชุดกาแฟเนื้อโบราณลายนกยูง” คว้าไปครอง


หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินผลงานประเภทดั้งเดิม อ.โสภณ บัวชาติ ศิลปินเอกครูช่างศิลปาชีพบางไทรฯ เปิดใจว่า จากการที่ศิลปินเลือกนำเอาความรู้ดั้งเดิมอย่างลวดลายวัดเชิงหวาย ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีความคลาสสิกที่สุดในเรื่องลายมาเป็นองค์ประกอบหลัก แล้วเติมแต่งความเป็นธรรมชาติลงไปโดยใช้เส้นลายไทยจนกลายเป็นความกลมกลืนและลื่นไหล จึงถือว่าเป็นองค์ประกอบที่งดงามมาก ยิ่งบวกเข้ากับทักษะความชำนาญในการตวัดเส้นพู่กันกระทั่งมีความเสมอเฉียบคมมากจนต้องยกรางวัลให้


ด้านเจ้าของรางวัล ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ วรวัฒน์ ตันฑอาริยะ เผยถึงแรงบันดาลใจของผลงานครั้งนี้ว่า มาจากความต้องการสืบสานเครื่องถมของจังหวัดนครศรีธรรมราชอันเป็นจังหวัดบ้านเกิดให้คงอยู่สืบไป จึงเลือกนำมาเทคนิกดังกล่าวมาใช้ในครั้งนี้ ผนวกกับที่ตัวเองสนใจเรื่องเซรามิก จึงนำเอาทั้งสองอย่างมารวมกันจึงเป็นผลงานชิ้นนี้ขึ้น







ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














Poetic Abstractions from Istanbul in Bangkok



หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครจะจัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวผลงานศิลปะจิตรกรรมร่วมสมัยของ มร. เดฟริม เออร์บิล ปรมาจารย์ศิลปะตุรกีร่วมสมัยชั้นนำ ระหว่างวันที่ ๑๑ สิงหาคม ถึง ๑๓ กันยายน ๒๕๕๘ นิทรรศการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัคราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย โดยมีสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์เป็นผู้อุปถัมภ์ ทั้งนี้ พิธีเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในศุกร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.๓o น.


นิทรรศการ “จิตรกรรมนามธรรมจากอิสตันบูลสู่กรุงเทพ – Poetic Abstractions from Istanbul in Bangkok” เป็นการสำรวจเมืองอิสตันบูลผ่านสายตาของศิลปินร่วมสมัยที่ได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดของตุรกี นับเป็นนิทรรศการเดี่ยวผลงานจิตรกรรรมของศิลปินชาวตุรกีครั้งแรกที่จัดขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด โทรศัพท์ o๒-๖๖๔-๙๕oo
กัณฑิชา บุญโพธิ์แก้ว ต่อ ๑๑๒ หรือภัตติมา ก้อนฝ้าย ต่อ ๑๑๓



ภาพและข้อมูลจาก
bacc.or.th














CHANGE IS… presented by #BEATNIQ from SC ASSET



เปลี่ยน… คำสั้น ๆ ที่มีอิทธิพลกับหลายๆคนเพราะ “การเปลี่ยนแปลง” นำมาซึ่งอะไรหลาย ๆ สิ่ง เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบริเวณ Rex Hotel ปากซอยสุขุมวิท ๓๒ ที่ตอนนี้กำลังจัดนิทรรศการ “CHANGE IS… presented by #BEATNIQ from SC ASSET ” เพื่อสะท้อนแนวคิด CHANGE IS… กับ ๕ ศิลปินชื่อดังของเมืองไทย ที่มาสร้างสรรค์ศิลปะบนรั้วสีขาวความยาวกว่า ๕o เมตรแทนการโฆษณาบนรั้วหน้าโครงการคอนโดมิเนียมแบบเดิม ๆ โดยศิลปินแต่ละคนจะถ่ายทอดและแสดงมุมมองของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องราวของ “ความเปลี่ยนแปลง” ก่อนที่งานจะถูกปรับเปลี่ยนโดยศิลปินคนต่อไปในลักษณะการสร้างงานใหม่ทับผลงานของศิลปินคนก่อนหน้า






ศิลปินที่จะมาร่วมสร้างสรรค์ผลงาน มีดังนี้

ชัช-ชัชวาล จันทโชติบุตร ช่างภาพหนุ่มไฟแรง ที่นำภาพถ่ายผู้คนซึ่งเป็นความทรงจำของ REX Hotel มาถ่ายทอดให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง

โน้ต-พงษ์สรวง คุณประสพ ผู้ก่อตั้งปาร์ตี้เฉพาะกิจ “Dudesweet” ที่จะมาบันทึกความทรงจำสด ๆ ผ่านภาพวาดลายเส้นขาว-ดำ ภายใต้ชื่อผลงาน “GUARD”

โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบและกราฟฟิกไดเร็คเตอร์ชื่อดัง ที่จะมาถ่ายทอดผลงานบนกำแพงด้วยเทคนิค Analog Stop Motion และเมื่อภาพเสร็จสมบูรณ์ หากมองจากรถยนต์วิ่งผ่านรั้วด้วยความเร็วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วหรือถ้าเดินผ่านช้าๆก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบช้า ๆ

เตย-สุทธิภา คำแย้ม นักวาดภาพประกอบแนว Abstract ที่จะมาวาดลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเปลี่ยนแปลงของเมืองใหญ่เพื่อให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว

ศิลปินคนสุดท้าย ผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดบทสรุปของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด คือกลุ่ม SLOWMOTION นำโดย โต๋-นุติ์ นิ่มสมบุญ นำเสนอเป็นผลงานประติมากรรมที่แกะแบบมาจากหินอ่อนก่อนถูกแปรรูป เพื่อสื่อถึงความมีตัวตนของความทรงจำในอดีต ก่อนเปลี่ยนแปลงไปหาสิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต






มาร่วมสัมผัสความเปลี่ยนแปลงผ่านนิทรรศการ “CHANGE IS… presented by #BEATNIQ from SC ASSET ” ได้ที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท ๓๒ ตั้งแต่วันนี้ – ๑๕ กันยายน



ภาพและข้อมูลจาก
brandbuffet.in.th














MBK จัดกิจกรรม ‘THAI CULTURE AND WORKSHOP’



หากส่งเสริมให้ศูนย์การค้า กลายเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทยสำหรับนักท่องเที่ยว และชุมชนไปพร้อม ๆ กับการเลือกซื้อสินค้า และบริการ คงเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ไม่น้อย เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่ใช้บริการจะเป็นกระบอกเสียงนำเรื่องราวความประทับใจที่มีต่อวัฒนธรรมไทยที่ได้สัมผัสไปบอกต่อ ในขณะที่คนในชุมชนนอกจากจะได้ซาบซึ้งในคุณค่าและความงดงามจากศิลปวัฒนธรรมไทยเพิ่มมากขึ้นแล้ว ก็จะนำไปสู่การประยุกต์ใช้ สร้างรายได้เสริม และพร้อมถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป จากแนวทางดังกล่าว ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ธุรกิจในเครือ เอ็ม บี เค กรุ๊ป ศูนย์การค้าที่ได้รับรางวัลการบริการยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๕๘ จาก TripAdvisor ประจำปี ๒๕๕๘ จึงเปิดพื้นที่จัดกิจกรรม ‘THAI CULTURE AND WORKSHOP’ สาธิตการทำอาหาร ของเล่น และของที่ระลึกแบบไทยโบราณ เพื่อร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย และส่งมอบความสุขความประทับใจให้แก่ผู้ใช้บริการจากทั่วทุกมุมโลก


สุภิสรา ทองมาลัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะที่ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เป็น shopping destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ยังคงเสน่ห์การเลือกซื้อสินค้าในกลิ่นอายความเป็นไทยเอาไว้อย่างครบถ้วน เราตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นตัวแทนส่งมอบคุณค่าความเป็นไทยให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าของเราเสมอมา และเนื่องด้วยปีนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รณรงค์ให้เป็น ‘ปีท่องเที่ยววิถีไทย’ (DISCOVER THAINESS) เราจึงจัดกิจกรรม ‘THAI CULTURE AND WORKSHOP’ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของททท. พร้อมเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ความงดงามและสีสันแห่งวัฒนธรรมไทยออกสู่สายตาของชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่คนในชุมชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้อีกด้วย”





สุภิสรา ทองมาลัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ
สายการตลาด ริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)



สำหรับกิจกรรม THAI CULTURE AND WORKSHOP ครั้งที่ ๑ ที่ผ่านมา มีการสาธิตการปรุงอาหารว่าง ขนมจีบไทยตัวนก ขนมไทยโบราณหารับประทานยากโดย หม่อมหลวงชัญญา ชมพูนุท เชฟผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารไทยจากโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส และเซเลบริตี้สาวที่ชื่นชอบการทำอาหาร คุณจรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา โดย หม่อมหลวงชัญญา เชฟผู้สาธิตการปรุงอาหารว่างขนมจีบไทยตัวนก กล่าวว่า “ขนมชนิดนี้หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นอาหารว่างที่ต้องใช้ทั้งเวลา ฝีมือ และความประณีตในการจับจีบบริเวณตัวนก และตกแต่งให้สวยงามน่ารัก น่ารับประทานตามชื่อ”


ขนมจีบไทยตัวนก เป็นขนมที่มีความคล้ายคลึงกับช่อม่วงอย่างยิ่ง เพราะใช้แป้งและไส้ด้านในแบบเดียวกัน เราสามารถใช้สีผสมอาหารผสมกับแป้งเพื่อเพิ่มสีสันของนกให้หลากหลายขึ้นได้ แต่ความยากอยู่ที่การห่อแป้งและจับจีบให้เป็นรูปตัวนกสวยงามมีขนาดเล็กพอดีคำ และเมื่อนึ่งสุกแล้วแป้งต้องไม่แตกออกจนไส้ขนมด้านในทะลักออกมา





หม่อมหลวงชัญญา ชมพูนุท เชฟผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการทำอาหารไทยโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส



นอกจากนี้ หม่อมหลวงชัญญา ยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารไทยไว้ด้วยว่า “อาหารไทยเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่นั้นมาจากธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งยังหาได้ง่ายและใกล้ตัว นอกจากนี้ การทำอาหารไทยที่มีหลากหลายขั้นตอน ต้องอาศัยความประณีตและพิถีพิถัน จึงช่วยให้ผู้ทำอาหารใจเย็นลง และได้ฝึกสมาธิให้มีจิตใจจดจ่อกับอาหารที่กำลังปรุง สำหรับผู้ที่ได้รับประทานก็จะได้ชื่นชมอาหารที่สวยทั้งจากรูปลักษณ์ภายนอก และได้ทั้งรสชาติและความอร่อยจากการลิ้มลองอาหารที่ได้รับจากการปรุงอย่างใส่ใจ”





จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
สาวสังคมผู้ชื่นชอบการทำอาหารไทย



ด้าน จรสพรรณ สาวสังคมผู้ชื่นชอบการทำอาหารไทย กล่าวว่า “โดยส่วนตัว มีความสนใจและชื่นชอบการทำอาหารและขนมไทยอยู่แลัว และดีใจมากที่ได้มาเรียนรู้การทำขนมไทยโบราณ อย่าง ขนมจีบไทยตัวนก ซึ่งถือเป็นอาหารว่างที่หารับประทานได้ยาก และยังเป็นอาหารที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ศิลปะการทำอาหารไทยนั้นต้องอาศัยฝีมือ ความละเอียดประณีต และความพิถีพิถัน ที่ไม่เพียงแต่จะต้องมีรสชาติที่อร่อยถูกปากเท่านั้น แต่ยังต้องคงความสวยงามน่ารับประทานควบคู่กันด้วย ในฐานะคนรุ่นใหม่ ก็อยากเชิญชวนให้เด็กไทยหันมาเรียนรู้และสืบทอดศิลปะในการทำอาหารไทย อย่าท้อ และรู้สึกหมดกำลังใจเพราะคิดว่าอาหารไทยทำยาก เพราะถ้าเราฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ก็จะมีความชำนาญและมีรสมือที่ดีขึ้นตามลำดับ”





สมบูรณ์ สาลีผล ประธานชุมชนแฟลตสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน
และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมไทย



กิจกรรม THAI CULTURE AND WORKSHOP ยังคงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ ๑๔ – ๑๖ สิงหาคม เป็นการสาธิตการร้อยมาลัย และสานปลาตะเพียน และในวันที่ ๑๑ – ๑๓ กันยายน พบกับการสาธิตการแกะสลักผลไม้ และการสาธิตการทำสังขยาฟักทอง ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และดูรายละเอียดของจัดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ //www.mbk-center.co.th และ //www.facebook.com/MBKBangkok







ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 12 สิงหาคม 2558
Last Update : 12 สิงหาคม 2558 9:35:46 น. 0 comments
Counter : 3780 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.