happy memories
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 ตุลาคม 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๓๒





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










เตรียมจัดนิทรรศการ เทิดเกียรติ 2 พระองค์



WIPO เชิญไทยจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ณ สำนักงานใหญ่ที่เจนีวา ระหว่างวันที่ ๕-๑๒ ต.ค.นี้

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.2558 ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศแขกรับเชิญเกียรติยศให้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลด้านทรัพย์สินทางปัญญาแด่ทั้งสองพระองค์ท่าน ในปี พ.ศ.2552 และปี พ.ศ.2558

“ปีนี้ไทยได้รับเกียรติให้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยการจัดนิทรรศการจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-21 ต.ค.2558 ณ บริเวณโถงด้านหน้าสำนักงานใหญ่ไวโป ซึ่งนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานดังกล่าว”

ทั้งนี้ WIPO จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ทุกปี ณ สำนักงานใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นการประชุมสามัญประจำปีของประเทศสมาชิก 188 ประเทศ และองค์กรอิสระในฐานะผู้สังเกตการณ์กว่า ๒๕o องค์กรที่จะเข้าร่วมการประชุม

นางนันทวัลย์กล่าวว่า การจัดนิทรรศการดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจและยินดีอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทยที่จะได้เผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะผลงานด้านสิทธิบัตรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น เทคโนโลยีการทำฝนเทียมในโครงการฝนหลวง ซึ่งนำความชุ่มชื้นมาสู่ผืนดิน สามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งได้ด้วยดี รวมถึงกังหันน้ำชัยพัฒนา การคิดค้นเทคนิคในการผลิตน้ำมันดีเซลจากปาล์มสำหรับเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก และเทคนิคการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว เป็นต้น

ส่วนผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้แก่ งานด้านศิลปกรรมฝีพระหัตถ์ เช่น ภาพวาดดอกกล้วยไม้ ภาพวาดช้างภูฟ้า ภาพวาดมณีพลอยร้อยแสง ภาพวาดประกอบจันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ภาพวาดประกอบสัตว์เลี้ยงวังสระปทุม เป็นต้น และผลงานพระราชนิพนธ์ เช่น ระกาสำราญ คำอวยพรประกอบภาพฝีพระหัตถ์ชื่อ ฟ้าอุ้มฝน พระราชทานแก่ธนาคารทหารไทย กลอนพระราชทานปีจอ หนังสือเรื่องแก้วจอมแก่น ย่ำแดนมังกร ฉันท์ดุษฎีสังเวยสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เพลงสมิงทอง-จำปานารี เพลงส้มตำ เพลงรัก เพลงปลาทองเถา เป็นต้น และงานอื่นๆ เช่น งานลายปักถวาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงงานด้านการส่งเสริมการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ)

ที่ผ่านมา WIPO ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา หรือรางวัล Global Leaders Awards แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี ๒๕๕๒ และเมื่อเดือน ส.ค. ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” หรือ WIPO Award for Creative Excellence แด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งถือเป็นเจ้าฟ้าหญิงพระองค์แรกของโลกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว.



พระบรมฉายาลักษณ์และข้อมูลจาก
welovethaiking.com














คอนเสิร์ต “ภูมิพลังคีตาภิวาทน์”



ชมรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมสุดยอดศิลปินระดับบรมครู จัดคอนเสิร์ต “ภูมิพลังคีตาภิวาทน์” เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๖o พรรษา นำรายได้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล สร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมฯ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี

นายศิริธัช โรจนพฤกษ์ ประธานจัดงานคอนเสิร์ต “ภูมิพลังสังคีตาภิวาทน์” เปิดเผยว่า ชมรมภูมิพลังแผ่นดิน โดยมี ฯพณฯ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานชมรมฯ มีกำหนดจัดคอนเสิร์ต “ภูมิพลังสังคีตาภิวาทน์” เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๖o พรรษา ในวันอังคารที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น. ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะนำรายได้จากการจัดงานขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อสภากาชาดไทย ในการสมทบทุนสร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ๑๕o ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย

คอนเสิร์ตเทิดพระเกียรติครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับบรมครูในวงการมาร่วมแสดงจำนวนมาก โดยการแสดงแบ่งออกเป็น ๓ องก์ คือ

• องก์ที่ ๑ “เดินตามรอยเท้าพ่อ” เป็นการขับร้องประสานเสียงเพลงพระราชนิพนธ์และบทเพลงที่มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ ร้องประสานเสียงโดยคณะนักร้องประสานเสียง “วงสวนพลูคอรัส”

• องก์ที่ ๒ “พระปรีชาชาญแผ่ไพศาล” เป็นการแสดงดนตรีสานสัมพันธ์ ไทย – จีน โดยการบรรเลงซอระหว่างMs. Huo Yongkang และ อาจารย์เลอเกียรติ มหาวินิจฉัย มนตรี และการบรรเลงขลุ่ย โดย Ms. Gong Yuan และ อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี

• องก์ที่ ๓ “เทิดพระเกียรติ ดวงแก้วแห่งแผ่นดิน” เป็นการนำเสนอบทเพลงพระราชนิพนธ์ และบทเพลงต่าง ๆ ผ่านการบรรเลงโดยวงดุริยางค์ราชนาวี และขับร้องโดยศิลปินรับเชิญที่มีชื่อเสียง เช่น นัดดา วิยกาญจน์, วิยะดา โกมารกุล ณ นคร, ธนพร แวกประยูร, สุชาติ ชวางกูร, อุเทน พรหมมินทร์ และคุณปราการ ไรวา

นายศิริธัช กล่าวว่า เนื่องด้วยโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ให้บริการประชาชนมากว่า ๑๑๒ ปี ปัจจุบันมีสภาพค่อนข้างแออัด เนื่องจากต้องรับภาระให้บริการผู้ป่วยมากกว่า ๑ ล้านรายต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับโรงพยาบาลยังมีระบบการรักษาพยาบาลที่ไม่ทันสมัย สภาพของอาคารและอุปกรณ์ เก่าและชำรุดทรุดโทรม หอผู้ป่วยวิกฤติ ห้องผ่าตัด ห้องรับผู้ป่วย และห้องฉุกเฉิน ไม่เพียงพอและคับแคบ ทำให้ไม่สามารถรองรับผู้ประสบอุบัติเหตุ อุบัติภัยหมู่ หรือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างเพียงพอ อีกทั้ง โรงพยาบาลยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการปรับปรุงมาเป็นระยะเวลานาน ชมรมภูมิพลังแผ่นดินตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับปรุงพัฒนาโรงพยาบาลให้สามารถรองรับผู้ป่วย มีระบบการรักษาพยาบาล เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นที่มาของการจัดคอนเสิร์ต “ภูมิพลังสังคีตาภิวาทน์” ดังกล่าวขึ้น เพื่อหารายได้สมทบทุนโครงการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๑๕o ปี พระราชสมภพ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย ในพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีกำหนดแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ในภาคตะวันออก

ท่านที่ต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกุศลครั้งนี้ สามารถจองบัตรในราคา ๒,ooo บาท ๓,ooo บาท และ ๕,ooo บาท ที่คุณรุ้งเพ็ชร ลิ้มสวัสดิวงศ์ โทร. o๘๑-๙๘๘-๘๙๙๙ และ ดร. สุนีย์ ศรไชยธนะสุข โทร o๘๑-๘๑๔-๕๓๓๓











พระฉายาลักษณ์ ภาพและข้อมูลจาก
thansettakij.com
weekendhobby.com














ศิลป์สานสัมพันธ์ ปันน้ำใจ



หลังจากเปิดให้ผู้สนใจได้ชื่นชมผลงานศิลปะการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดจีนเพื่อการกุศลในโอกาสฉลอง ๔o ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีนและเฉลิมพระเกียรติ ๖o พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปแล้ว มีผู้แสดงเจตจำนงจับจองภาพโปรดโดยจ่ายภาพละ ๑ ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้า ๖o ภาพ ๖o ล้าน ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระราชทานแก่สภากาชาดไทยใช้ในการดำเนินงานอันเป็นสาธารณประโยชน์ต่อไปค่ำคืนก่อน บัณฑูร ล่ำซำ เจ้าสัวแห่งแบงก์กสิกรไทย จัดแจงเปิดห้องแกรนด์ ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่าแอทธินี จัดงานดินเนอร์การกุศลโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมงานและทรงร่วมงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ

โดยมี อู๋ จื้อ อู่ รักษาการเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย วีระ โรจน์พจนรัตน์ เจ้ากระทรวงวัฒนธรรมแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม, เตช บุนนาค, ไพศาล ฉายาวรกุล, สุทธิพงษ์ จุลเจริญ - ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ, จาง เฉา หมิง, สวนิศ - สุวรรณา วงศ์ดีเลิศสกุล,พัชรินทร์ วงศ์ศิริเดช,สราวุฒิ อยู่วิทยา,ประทีป ตั้งมติธรรม, ศิริพร ศานตวินท์ ,นิภา ชลสายพันธ์ ฯลฯ เฝ้ารับเสด็จฯ











ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














ศิลปินเสภาวายุภักษ์



เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา ณ เวิร์คพอยท์สตูดิโอ ๑ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาอย่างคับคั่ง กับโครงการ “ศิลปินเสภาวายุภักษ์” โดย ธนาคารกรุงไทย ร่วมอนุรักษ์สืบสานการขับเสภา ศิลปวัฒนธรรมของไทยที่คงอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน จึงจัดประกวดแข่งขันการขับเสภา เพื่อเฟ้นหาสุดยอดคู่ศิลปินที่มีใจรัก และมีทักษะความสามารถในด้านเสภา จากทุกภูมิภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ให้มาร่วมแข่งขันการขับเสภา โดยนำเสนอผ่านช่วงหนึ่งของรายการ “คุณพระช่วย”

โดยมี คุณศิริพร นพวัฒนพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารกรุงไทย เป็นประธานในงาน พร้อมด้วย คุณวิชนี ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน) , คณะกรรมการตัดสิน อาจารย์ศิริ วิชเวช (กรรมการด้านหลักการขับเสภา) ,คุณจิระนันท์ พิตรปรีชา (กรรมการด้านการประพันธ์) , คุณเก่ง ธชย ประทุมวรรณ (กรรมการตัวแทนคนรุ่นใหม่) และพิธีกรรายการคุณพระช่วย คุณเท่ง เถิดเทิง และคุณพัน พลุแตก ซึ่งโครงการ “ศิลปินเสภาวายุภักษ์” จัด ๑๓ เทปสุดพิเศษในรายการ “คุณพระช่วย” เริ่มออกอากาศครั้งแรก!! วันอาทิตย์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. ทางช่อง ๑ เวิร์คพอยท์



ภาพและข้อมูลจาก
workpoint.co.th














ผ้าแพรวา: จากผ้าเบี่ยงธรรมดา สู่ราชินีแห่งไหมไทย



ผ้าแพรวา เป็นผ้าทอมืออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวผู้ไทยหรือภูไท วิธีทอแพรวาคล้ายจกและขิด มีลวดลายซับซ้อน ทอได้ยาก และใช้เวลานาน ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แต่เดิมผ้าแพรวาใช้ทำเป็นผ้าเบี่ยง อีกทั้งเป็นผ้าปกหัวหรือคลุมหัว ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรชาวภูไท และได้ทอดพระเนตรความสวยงามของผ้าแพรวา จึงทรงพระราชดำริพัฒนาผ้าแพรวาให้มีสีสันต่าง ๆ นอกเหนือจากเดิมที่มีพื้นสีแดงเป็นหลัก แต่ยังรักษาลายดั้งเดิมเอาไว้ และปรับให้ผ้ามีหน้ากว้าง สามารถนำไปใช้งานได้หลายโอกาส และนำมาจำหน่ายได้มากขึ้น และทำให้ราษฎรที่ทอผ้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แพรวาจึงได้รับการยกย่องเป็น “ราชินีแห่งไหม”

พิพิธภัณฑ์ผ้าใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงขอเชิญชวนบุคคลทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมเสวนา เรื่อง ผ้าแพรวา: จากผ้าเบี่ยงธรรมดา สู่ราชินีแห่งไหมไทย เพื่อเป็นการตระหนักถึงคุณค่าทางภูมิปัญญาของผ้าแพรวา และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาการทอผ้าแพรวา ทำให้ผ้าแพรวายังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านผ้าแพรวา ได้แก่ อาจารย์บุญชัย ทองเจริญบัวงาม นักจัดการงานในพระองค์ กองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง นายพงศ์ชยุตม์ โพนะทา ราษฎรผู้ผลิตผ้าแพรวาจากบ้านโพน จ. กาฬสินธุ์ และนายอุดม เหรียญตระกูล นักสะสมผ้าไทยและผ้าโบราณผู้มีชื่อเสียง ที่จะนำทุกท่านท่องไปในโลกของผ้าแพรวา พร้อมชมการแสดงพื้นบ้านชุด รำแพรวากาฬสินธุ์อีกด้วย

กิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่าย

ระยะเวลา: วันเสาร์ ที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.

สถานที่: ห้องโถง พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ติดต่อสำรองที่นั่ง: ๑. โทร ๐-๒๒๒๕-๙๔๒๐, ๐-๒๒๒๕-๙๔๓๐ ต่อ ๐ หรือ ๒๔๕ ได้ทุกวัน

ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.

๒. ข้อความทางเฟซบุ๊ก Facebook : Queen Sirikit Museum of Textiles



ภาพและข้อมูลจาก
qsmtthailand.org














พลิกฟื้น'ผ้ายกนคร'สู่เวทีโขนพระราชทาน



สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงฟื้นฟูการผลิต “ผ้ายกเมืองนคร” มรดกทางวัฒนธรรมผ้าทอไทยที่ครั้งหนึ่งเหลือเป็นเพียงโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ให้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของพัสตราภรณ์สำหรับการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ อีกครั้ง โดยช่างทอของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่ศูนย์ ศิลปาชีพเนินธัมมัง และศูนย์ศิลปาชีพบ้านตรอกแค จ.นครศรีธรรมราช

นับเป็นเวลาเกือบสิบปีที่คนไทยได้มีโอกาสชมความวิจิตรตระการตาของการแสดงระดับชาติที่ได้รับการสืบทอดไว้ ตาม พระราชเสาวนีย์ใน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยฟื้นฟูการแสดง “โขน” ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕o เป็นต้นมา องค์ประกอบต่าง ๆ ของโขนพระราชทาน ล้วนสร้างความประทับใจและซาบซึ้งในความงดงามของศิลปะไทย รวมถึงผ้ายกที่นักแสดงใช้นุ่งตามบทบาทต่าง ๆ ซึ่งมีความพยายามฟื้นฟูภูมิปัญญาอันทรงคุณค่ามาหลายปีจนประสบความสำเร็จ

ในการนี้ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ระบุว่า ทุกปีที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์ศิลปาชีพในหลากหลายพื้นที่ในการจัดเตรียมเครื่องแต่งกาย และการจัดทำพัตราภรณ์ โดยอาศัยฝีมือชาวบ้านที่เป็นสมาชิก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ฟื้นฟูการทอผ้ายกแบบราชสำนักของนครศรีธรรมราชในอดีต ที่มีการทอสืบทอดกันมาแต่โบราณ และได้สูญหายไปกว่า ๑oo ปี แต่ยังคงมีต้นแบบให้เห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์และในพระบรมมหาราชวัง โดยได้มีการพัฒนาฝีมือการทอผ้าสมาชิกของศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ และศูนย์ศิลปาชีพบ้านตรอกแค อ.ชะอวด จ.นครศรี ธรรมราช ให้สามารถทอผ้ายกที่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญจากการฝึกฝน จากสมาชิกกว่า ๔o ชีวิตทำให้เราได้ผ้ายกจากฝีมือชาวบ้านมาใช้ในการแสดงแต่ละปีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจ

ด้าน อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ กล่าวว่า ผ้ายก หมายถึง ผ้าไหมที่ทอด้วยเทคนิคการยกลวดลายให้ปรากฏเด่นชัด โดยผ้ายกของเมืองนครศรีธรรมราชนั้น มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาในฐานะที่เป็นผ้าราชสำนัก ซึ่งทอด้วยเส้นไหมเนื้อละเอียด แทรกลวดลายด้วยไหมเงิน ไหมทองที่บางเบา และทออย่างประณีต โครงสร้างของการวางลวดลาย อันประกอบด้วยท้องผ้าและกรวยเชิง มีลักษณะแบบราชสำนักที่ใช้สำหรับเจ้านายชั้นสูงในอดีต เป็นทั้งผ้านุ่งโคงและนุ่งจีบ รวมทั้งใช้ห่อคัมภีร์ในพุทธศาสนาด้วย.



ภาพและข้อมูลจาก
dailynews.co.th














งานศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ ครั้งที่ ๓๒



นิทรรศการการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินรุ่นเยาว์ครั้งที่ ๓๒ จัดแสดงที่ศูนย์ศิลป์ฯ ศิลปากร นครปฐม เปิดให้ชมทุกวัน รวมถึงวันเสาร์อาทิตย์ แต่ปิดวันจันทร์ (มาชมแล้วก็เที่ยวพระราชวังสนามจันทร์ต่อได้เลย) เปิดให้ชมตั้งแต่เวลา ๑o.oo น. ถึง ๑๖.oo น.



ภาพและข้อมูลจาก
Art Center ม.ศิลปากร














นิทรรศการจิตรกรรม "Present Tense"



นิทรรศการจิตรกรรม "Present Tense" ผลงานโดย อังกฤษ อัจฉริยโสภณ (Angkrit Ajchariyasophon) จัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๔ กันยายน - ๒o พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น. ณ Schemata Gallery

Schemata Gallery มีความยินดีที่จะนำเสนอนิทรรศการจิตรกรรม ‘Present Tense’ โดย อังกฤษ อัจฉริยโสภณ ศิลปินชาวเชียงราย ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ อังกฤษ อัจฉริยโสภณ สร้างสรรค์ผลงานในชุด ‘Constant Uncertainty’ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ ‘เวลา’ และ ‘ความเปลี่ยนแปลง’ ด้วยการกลับด้านงานจิตรกรรม แสดงให้เห็น “ร่องรอยที่เกิดขึ้นเอง” ในฐานะงานศิลปะภายใต้แนวคิดหลักนิรกรรม อู๋เหวย (Wu Wei)

ในนิทรรศการครั้งนี้ อังกฤษ อัจฉริยโสภณ ต้องการนำเสนอ จุดเริ่มต้นของการย้อนกลับไปทบทวนตนเอง ผ่านการทำงานศิลปะ โดยเริ่มต้นระบายสีแดงในแบบโมโนโครม(Monochrome) เพื่อสร้างพื้นที่ว่างใหม่ต่อการตีความในงานของตนเอง เพื่อบันทึกเหตุการณ์ และสะท้อนทัศนคติต่อการปิดกั้นเสรีภาพ โดยตั้งชื่องานในชุดนี้ว่า Present Tense ซึ่งยังคงมีความหมายสัมพันธ์กับ ‘เวลา’ และความเป็น ‘ปัจจุบันกาล’ รวมถึงสภาวะที่มี ‘ความตึงเครียด’(Tense) อีกด้วย

อังกฤษ อัจฉริยโสภณ เกิดปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่จังหวัดเชียงราย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิจิตรศิลป์ และ ปริญญาโท จากภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มต้นทำงานจิตรกรรมนามธรรมในนิทรรศการเดี่ยว ‘AAAAAAA’ ที่ 9Art Gallery และมีความสนใจเกี่ยวกับ ‘เวลา’ อย่างชัดเจนในนิทรรศการเดี่ยว ‘Brightness of the past, Vagueness of the Present’ จัดแสดงที่ GALLERY point-1 เมืองโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น จัดแสดงผลงานจิตรกรรมนามธรรมอย่างเต็มตัวในนิทรรศการ ‘Constant Uncertainty’ ที่ 338OIDA Gallery กรุงเทพฯ ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านเกาเหลาเลือดหมู ผู้จัดการอังกฤษแกลลอรี่ และเป็นศิลปินอิสระ

เปิดงานวันพฤหัสฯที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น.
สถานที่: Schemata Gallery
ที่อยู่: อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้น ๑ ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท ๕๕
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ๑o๑๑o
วันที่ : ๒๔ กันยายน - ๒o พฤศจิกายน ๒๕๕๘
เปิดทำการ: วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา ๑๓.oo - ๑๙.oo น.
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร o๘๘-o๘๘-๘o๖๖
อีเมล : info.schemata@gmail.com
*ไม่เสียค่าเข้าชม



ภาพและข้อมูลจาก
contestwar.com














ART IS LOVE



นิทรรศการภาพวาด "ART IS LOVE" โดย Yusuke Nakano
๒๖ กันยายน - ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๘

นิทรรศการ "ART IS LOVE" โดย Yosuke Nakano ศิลปินภาพวาดชาวญี่ปุ่น

สื่อความหมายเรื่อง ความรักแก่โลก จักรวาล ธรรมชาติ ความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรม และประเทศไทย ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสและรู้สึกความรักจากผลงานศิลปะในครั้งนี้ ศิลปะเป็นของทุก ๆ คน และศิลปะยังเป็นยารักษาให้ชีวิตเป็นสุข

ร่วมงานเปิดนิทรรศการในวันเสาร์ที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๙.oo น. เป็นต้นไป ที่ MIDNICE Gallery ชั่น ๑ ตึกไดมอนด์ อพาร์ทเม้น โชคชัย ๔ ซอย ๑๘ ถนนลาดพร้าว กรุงเทพฯ โทร. o๘๖-๒๘๒-o๒๘๒ FB. midnicegallery
//www.midnicegallery.com



















ภาพและข้อมูลจาก
thaipr.net
contestwar.com














นิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน”



ในช่วงเวลาที่ “ประชาคมอาเซียน” กำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการในไม่ช้า หากเราย้อนกลับมาถามตัวเองเกี่ยวกับอาเซียน เรารู้จักอาเซียนขนาดไหน? เราสามารถตอบได้ว่า อาเซียนประกอบด้วย ๑o ประเทศที่มีเขตแดนชัดเจน หากแต่เมื่อเรานึกถึง “เสียงของอาเซียน” ความรู้สึกที่สามารถบ่งบอกอย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างเสียงเหล่านั้น กลับผสมปนเป คลุมเครือ ไร้เส้นแบ่ง และเขตแดนอันเป็นรูปธรรม…

มิวเซียมสยาม จัดนิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน” เสียงฉัน เสียงเธอ เสียงของเรา ที่ จะนำเสนอประสบการณ์ของภูมิภาคอาเซียนผ่านการได้ยิน เสียงที่คุ้นเคยอาจมาจากที่ที่ห่างไกลไปกว่าพันกิโลเมตร บทเพลงที่ฟังดูแตกต่างอาจมาจากคนที่อยู่ข้างเรา และเมื่อเราเปิดหูฟังเสียงของผู้คน ดนตรี เมือง ธรรมชาติ อย่างตั้งใจ ไร้อคติ การเดินทางของเสียงก็จะพาเราไปรู้จักกับอาเซียนที่หลากหลายและคุ้นเคย อีกทั้งยังเป็นของเราทุกคนอย่างเท่าเทียม

ภายในนิทรรศการฯ จะได้สัมผัสกับประสบการณ์เสียง ๒ โซน เพื่อให้ผู้ชมได้ฟัง “เสียงอาเซียน” ได้ชัดและเข้าใจมากขึ้น กับ โซนที่ ๑ “เปิดหู ปิดตา” สัมผัสกับเสียงในฐานะพลังงานอย่างหนึ่ง ที่เปรียบเหมือนสัญญาณหรือสัญลักษณ์ของการสื่อสาร ที่มนุษย์ต้องทำความเข้าใจเพื่อการเรียนรู้และการจดจำ และโซนที่ ๒ “เปิดหู เปิดตา และ ปิดหู ปิดตา” เรียนรู้จังหวะเสียงในแบบต่าง ๆ ที่จะแสดงถึงมิติทางสังคมของอาเซียน ให้เราเข้าใจได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ทั้งในฐานะของเครื่องมือการก่อตัวทางสังคมและในฐานะเครื่องมือเชิงอำนาจ ผ่านการนำเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยการเปิดเว็บไซต์ให้ทุกคนได้ฟังเสียงประเภทต่าง ๆ จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลจริงของศิลปิน และสามารถแบ่งปันเสียงให้คนทั่วโลกได้ฟัง ผ่าน //www.asearn.com

โดยนิทรรศการฯ ในครั้งนี้ มิวเซียมสยามได้รับความร่วมมือจาก สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา, คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศิลปินผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียงจากประเทศในอาเซียน ร่วมจัดทำนิทรรศการเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างตัว เรา และคนอื่น ๆ ได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

นิทรรศการ “ประสบการณ์หู สู่อาเซียน” เสียงฉัน เสียงเธอ เสียงของเรา เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม – ๒o ธันวาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑o.oo – ๑๘.oo น. (ปิดวันจันทร์) ณ มิวเซียมสยาม (ท่าเตียน) ไม่เสียค่าใช้จ่าย

สอบถาม โทร. o๒-๒๒๕-๒๗๗๗ ต่อ ๔๒๒ หรือ //www.facebook.com/museumsiamfan



ภาพและข้อมูลจาก
museum-gallery.in.th














ภาพและข้อมูลจาก
scbchallenge.com














นวัตกรรมโซลาร์เซลล์จากงานศิลป์‘คิริกามิ’



นวัตกรรมนั้นอาจจะไม่จำเป็นว่าจะต้องสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาทั้งหมด แต่อาจเป็นการประยุกต์นำของเก่าในอดีตมาปรับใช้กับสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ใช้ประโยชน์ได้จริง ที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เคยมีอยู่ในเวลานั้น ๆ จึงสามารถเรียกว่า นวัตกรรมได้

อนาคตเราอาจจะเห็นนวัตกรรมที่นำมาใช้รองรับอนาคต โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนวัตกรรมในอดีตอันเก่าแก่นานหลายร้อยปีแล้วก็ได้เช่นกัน

ยกตัวอย่าง แผงโซลาร์เซลล์ สำหรับผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ที่มีการใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากใบไม้ หน้าต่าง สีสเปรย์ และผืนผ้า อาจจะต้องหลีกทางให้แผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากศิลปะการตัดกระดาษของชาวญี่ปุ่น ที่เรียกว่า “คิริกามิ”






เรื่องดังกล่าวได้รับการศึกษาและจัดทำบทสรุปจนสามารถเขียนบทความทางวิชาการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์อย่างเนเชอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ที่แสดงให้เห็นถึงความบาง ความยืดหยุ่นของแผงโซลาร์เซลล์ ที่มีรูปร่างแบบเดียวกับงานศิลปะคิริกามิ ที่เกิดจากการตัดแผ่นโซลาร์เซลล์ให้มีจุดที่ให้ตัวยกตัวสูงขึ้นกว่าแผ่นอื่น เพื่อรับแสงอาทิตย์ในมุมที่เหมาะสม ว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการติดตามทิศทางของแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปในช่วงเวลาของวัน และเพิ่มพื้นที่การรับแสงในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ผลิตไฟฟ้าออกมาได้มากขึ้นตามไปด้วย

ที่สำคัญ เมื่อเทียบประสิทธิภาพกับแผ่นโซลาร์เซลล์แบบเดิมที่มีแต่แผ่นแบน ๆ ราบเรียบนั้น แผงโซลาร์เซลล์ ที่อาศัยรูปแบบงานศิลปะคิริกามินั้นมีประสิทธิภาพมากกว่ากันอย่างชัดเจน

แม้จะมีข้อโต้แย้งว่าแผงโซลาร์เซลล์นั้นสามารถติดตั้งอยู่บนชุดขับเคลื่อนที่จะหันทิศทางของหน้าแผงไปยังทิศทางของแสงอาทิตย์ได้ตลอดเวลา แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อด้อยในส่วนของการลงทุนชุดขับเคลื่อนที่ทั้งหนักและมีต้นทุนสูง และมีแนวโน้มว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นทุกปีในส่วนของการบำรุงรักษา ขณะที่แผงโซลาร์เซลล์นั้นก็เสื่อมประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นไฟฟ้าไปตามเวลา ทำให้ในภาพรวมแล้ว แผงโซลาร์เซลล์แบบใหม่ที่ใช้ศิลปะโบราณของญี่ปุ่นมาวางรูปแบบนั้นคุ้มค่ากว่ากันมาก






ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนักวิจัยเลือกใช้เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ แบบ “คริสตัลไลน์ แกลเลียม อาร์เซไนด์” ที่เคยมีราคาแพงมากในอดีต มาติดตั้งบนแผ่นรองรับพลาสติกที่สามารถปรับให้แผ่นโซลาร์เซลล์ยกตัวขึ้นมาได้ราวกับคลื่นในทะเล และปรับเอียงมุมของแผงเพื่อรับแสงอาทิตย์ให้ได้ตลอดทั้งวัน ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ชนิดใหม่นี้ก็เพิ่มสูงกว่าแบบเก่าที่ต้องอาศัยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อหันไปตามทิศทางของแสงอาทิตย์อย่างเห็นได้ชัด

นักวิจัยกล่าวว่า ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์นั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ของเซลล์แสงอาทิตย์ที่จะได้รับแสง ยิ่งมีพื้นที่รับแสงมาก ก็จะได้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อไม่ต้องมีมอเตอร์ไฟฟ้าและแกนรองรับที่หมุนได้ที่มีขนาดใหญ่ หนัก และมีต้นทุนสูง ความคุ้มค่าของแผงโซลาร์เซลล์ชนิดใหม่จึงเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น






อย่างไรก็ตามแผนการสร้างแผงโซลาร์เซลล์ชนิดใหม่ที่ใช้งานตัดกระดาษโบราณของญี่ปุ่นในการออกแบบนั้น ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโครงการประเภทสตาร์ทอัพ ที่รอระดมเงินทุนสนับสนุนให้เพียงพอก่อนที่จะผลิตออกมาจำหน่ายได้จริงในตลาด

นายอารอน ลามัวโรซ์ นักศึกษาระดับปริญญาเอก แห่งมหาวิิทยาลัยมิชิแกน ผู้นำการวิจัยในครั้งนี้ บอกว่าทีมงานกำลังมองหารูปแบบการวางแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสมที่สุดจากหลากหลายรูปแบบของงานตัดกระดาษญี่ปุ่น ที่จะนำมาใช้สร้างพลังไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด และยังต้องทดสอบการใช้งานในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสุดขั้ว ทั้งร้อนและเย็น รวมทั้งทดลองใช้วัสดุต่าง ๆ เพื่อหาจุดลงตัวของแผงโซลาร์เซลล์ยุคใหม่นี้ แต่ที่แน่ ๆ แผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ที่เกิดจากความคิดของทีมงานนี้จะไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้าและแกนรองรับแผงที่ทั้งใหญ่และหนัก ที่ทำให้ตุ้นทุนของระบบแพงขึ้นมากอย่างแน่นอน



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














Another Me



นิทรรศการ “Another ME” ผลงานโดย วัชระ บุญปกครอง และณัฐพล กาญจนามัย จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๙ กันยายน - ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ Subhashok The Arts Centre (S.A.C.) : ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์

งานเปิดนิทรรศการนิทรรศการ “Another ME ”
๑๙ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น.
โดยสองศิลปินไทยฝีมือเยี่ยม วัชระ บุญปกครอง และ ณัฐพล กาญจนามัย

นิทรรศการ “Another ME ”
นิทรรศการศิลปะที่มีที่มาจากความเชื่อที่ว่า มนุษย์เราทุกคนมีอีกตัวตนที่แฝงเร้นอยู่ หนึ่งการกระทำ หนึ่งการแสดงออก หนึ่งภาพ หนึ่งความทรงจำ มีนัยยะที่มากกว่าที่เห็น และเป็นไปได้ในวิถีหรือทิศทางที่ไม่อาจคาดการณ์ วัชระ บุญปกครอง และ ณัฐพล กาญจนามัย คือ ๒ ศิลปินที่จะพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อนี้ ผ่านงานศิลปะและบทบาทชีวิตของเขา

วัชระ บุญปกครอง Modeller ชื่อดัง ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักในวงการ Model มาร่วม ๒o ปี ครั้งนี้เขานำเสนอผลงาน Concept model ในรูปแบบ Diorama ผลงานที่เปรียบเสมือนบทสนทนาใหม่ที่เขาอยากจะสื่อสาร “การตีความมนุษย์” โดยเลือกบุคคลที่โลกนี้คุ้นเคยกับภาพลักษณ์ และได้ตัดสินตัวตนเขาไปแล้ว จากการกระทำที่จารึกให้โลกจดจำ วัชระ นำเสนอผลงานโดยย้อนวันเวลา ไปยังเมื่อครั้งที่เกิดสถานการณ์ ที่เป็นจุดเปลี่ยนของคนเหล่านั้น โดยเล่นกับโจทย์ที่ว่า.....
ถ้าบุคคลเหล่านั้นได้เลือกอีกหนทางหนึ่ง ที่เขาเองต้องการเป็นได้ บางทีหน้าประวัติศาสตร์อาจจะเปลี่ยนไป .....

แต่ถึงอย่างนั้นศิลปินได้ซ่อนนัยของคำถาม ถึงชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้อย่างแยบยล ตัวละคร Adolf Hitler ,Vincent van Gogh , Jimi Hendrix รวมทั้งตัวศิลปินเอง คือ บทบาทที่ถูกเล่าใหม่อีกครั้ง ผ่านมุมมองพิเศษของ วัชระ ทีไม่ซ้ำกับใครบนโลกใบนี้ นี่คือครั้งแรกในชีวิตการทำงานของเขาที่แสดงออกในพื้นที่ศิลปะเต็มตัว และเป็นครั้งแรกของวงการศิลปะไทย ที่จะได้ต้อนรับประติมากรฝีมือเยี่ยม กับผลงานที่ วัชระ บุญปกครอง เดิมพันด้วยประสบการณ์และความทุ่มเท เพื่อพิสูจน์อีกบทบาทที่มากกว่าที่เขาเคยเป็น
และที่ใครๆเคยตัดสินให้เขาเป็น.......

ณัฐพล กาญจนามัย
ศิลปินรุ่นน้องที่มีผลงานโดดเด่นอย่างยิ่ง กับการเขียนใบหน้าคนในรูปแบบ hyperrealism ดยที่ความอัศจรรย์ของทักษะที่มีจะถูกแสดงออกในนิทรรศการนี้เป็นครั้งแรกผ่านภาพใบหน้ามนุษย์ที่จัดแสดงเพียง ๘ ชิ้น แต่เน้นย้ำชี้ชัดถึงพัฒนาการก้าวกระโดดของศิลปิน จากชิ้นเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย และพัฒนาไปเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ในเวลานี้ที่เขามีอายุเพียง ๒o ต้น ๆ เริ่มต้นกับการสนใจบุคลิกภาพคนรอบตัว การเขียนใบหน้าให้ เพื่อน ไล่ลำดับมาที่ใบหน้าตนเอง พ่อ ครู อาจารย์ และผลงานชิ้นสุดท้ายของชุด

ที่เป็นต้นแบบนำทางสู่ผลงานชุดต่อ ๆ ไปของเขา ทักษะและการมองเห็นด้วยสายตาของเขาจะกลายเป็นคุณค่าอย่างยิ่งต่อวงการศิลปะในอนาคต การเขียนภาพเหมือนบุคคลในความเข้าใจของสังคมทั่วไปอาจจำกัดวงอยู่เพียงการรับเขียนภาพที่คนอื่นต้องการ

แต่ ณัฐพล ต้องการแสดงอีกจุดยืนหนึ่งถึงการได้เขียน ได้ “ตีความมนุษย์ “ อย่างที่ตนเองต้องการบ้าง ความรู้สึก อารมณ์ ตัวตนที่ศิลปินสัมผัสถึง รายละเอียดทุกอณู .... ขุมขน ผิวหนัง เส้นผม แววตา มิติแห่งแสงเงา คือเครื่องมือสะท้อนอีกตัวตนของคนตรงหน้า

หล่อหลอมเป็นบุคคลในมุมมองที่ศิลปินต้องการ นิทรรศการครั้งนี้จะเป็นสะพานก้าวข้ามจุดมุ่งหมายการเขียนภาพมนุษย์ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม อารมณ์ลึกลับ เย็นชา สนุกสนาน เมตตา หนักแน่น ประหม่า มั่นใจ และ อบอุ่น ของผู้คนที่รายล้อม จะเป็นตัวชูโรงที่ควบคู่ไปกับทักษะ hyperrealism ของศิลปิน

สองศิลปินที่สังคมและวงการที่ห้อมล้อมเขา คาดการณ์ตัดสินความเป็นไปของเขาอย่างหนึ่ง แต่นิทรรศการ” Another ME “ครั้งนี้คือประตูอีกหนึ่งบานที่เปิดให้เขาทั้งสองได้ก้าวออกมาจากโครงสร้างความคิดเดิม และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าแรงบันดาลใจที่เขาทั้งสองสร้าง จะเป็นกุญแจไขประตูให้ผู้คนอีกมากมาย พบหนทางพิเศษที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตัวตนที่เป็นค้นพบ “ Another ME “ ของคุณเอง .........

นิทรรศการ " Another ME "
โดยศิลปิน วัชระ บุญปกครอง , ณัฐพล กาญจนามัย
จะจัดแสดงที่ หอศิลป์ ศุภโชค ดิอาร์ท เซ็นเตอร์
ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน – ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ Tel. 0o๒-๖๖๒-o๒๙๙ , o๘๖-๘๙๑-1893















ภาพและข้อมูลจาก
contestwar.com














เลียบรายทาง



เปิดให้เข้าชมแล้วสำหรับนิทรรศการ “เลียบรายทาง” แสดงผลงานศิลปะทั้งสิ้น ๓๖ ชิ้น ของ ปาสกาล แกนเนอออง

ปาสกาล เป็นช่างภาพชาวฝรั่งเศส เกิดที่ปารีส เขาเริ่มชีวิตนักเดินทางตั้งแต่อายุ ๑๕ ปี เป็นช่างภาพข่าวที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ ทำงานร่วมกับนิตยสารแนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก เล็กซ์เพรส ลิเบอเรชั่น แมรี่แคลร์ และ หนังสืออีกหลายเล่ม และปาสกาลยังเป็นช่างภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

เขาใช้เวลาหลายสิบปีออกเดินทางไปทำงานทั่วโลกกับกล้องคู่ใจ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ปาสกาลจึงตัดสินใจเลิกอาชีพที่มีแต่จะหมดความสำคัญลงไปในที่สุด แล้วหันมาใช้ฝีมือในแนวทางอื่นแทน เขาเลือกอาชีพช่างภาพศิลปะตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

หลังจากเดินทางท่องไปทั่วโลก ปาสกาลเก็บเกี่ยวบทเรียนสำคัญที่สุดแก่ตัวเองได้ว่า "เราไม่มีทางมีเวลาพอหรอกเมื่อคิดจะเก็บชีวิตจิตใจของผู้คนบันทึกเอาไว้" นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมผลงานของเขาจึงเป็นมากกว่าเพียงภาพถ่าย แต่คือชิ้นงานที่เป็นหลักฐานเฉพาะกาลของวันเวลาที่ล่วงไปอย่างจีรัง

“เลียบรายทาง” คือ การแสดงผลงานของปาสกาล ที่บันทึกภาพมากมายไม่ว่าจะเป็นดินแดนตะวันตกของทวีปอเมริกา ไปจนถึงประเทศจอร์แดน จากเนปาล ไปจนถึงทะเลทรายแห่งอัลจีเรีย หรือจากกรุงมอสโคว์ ไปถึงกรุงปักกิ่ง รวมไปถึงภาพโรงงานซิการ์สักแห่งในไมอามี และถนนธรรมดา ๆ สายหนึ่งในปารีส ภาพถ่ายต่าง ๆ เหล่านั้นคือตัวแทนช่วงชีวิตในอาชีพช่างภาพข่าวของปาสกาลนั่นเอง เป็นสิ่งแสดงถึงลมหายใจแห่งชีวิต มุมมอง รอยยิ้มและโลกที่ผู้คนมีสิ่งเหล่านั้นร่วมกัน

สัจธรรมภายใต้ผืนภาพก็คือภาพถ่ายทุกภาพเป็นหลักฐานของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ หลังจากการท่องโลก ปาสกาลยังเก็บหลักฐานเป็นสิ่งของพิเศษต่าง ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูรองนั่งสวดมนต์ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อคอร์เซ็ต ผ้ากระสอบบรรจุเมล็ดกาแฟ ผืนธงชาติอเมริกา ชุดกิโมโน และผ้าบฏหลากแบบจากเนปาล เขากล่าวว่า

“เมื่อผมเดินทางคือผมแสวงหาการผจญภัยในการท้าทายจินตนาการของตัวเองที่จะค้นหาสิ่งของที่เหมาะกับภาพถ่ายของผมให้ได้ หรือไม่ก็ถ่ายภาพที่จะอยู่กับผืนผ้าหรือสิ่งของชิ้นใดชิ้นหนึ่งให้ได้”

และเมื่อนั้น ภาพถ่ายแต่ละภาพก็จะถูกแปลงลงบนผืนวัสดุที่คงทนและยืดหยุ่นให้เป็นภาพเงาเรียบ หรือไม่ภาพมุมมองแบบรังผึ้ง ในขั้นตอนสุดท้ายปาสกาลก็จะให้นักออกแบบชาวมาเลเซียในปารีสคนหนึ่งเย็บภาพพิมพ์แต่ละภาพติดเข้ากับผืนผ้าที่เขาเลือกไว้ ชิ้นงานที่ได้คืองานศิลปะที่เป็นหลักฐานของการเดินทาง ความพลิ้วไหวในต่างแดน และความทรงจำมากมายที่ปะติดปะต่อขึ้นใหม่

ทั้งหมดนี้ ทำให้เกิดผลงานแต่ละชิ้นที่ไม่ซ้ำกันบนกรอบผืนผ้าที่เกิดจากจินตนาการของศิลปิน เพื่อแสดงสู่สายตาผู้ชมในโลกแห่งการผลิตซ้ำทุกรูปแบบ

ผลงานเหล่านี้คือร่องรอยที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อแสดงให้ปรากฏถึงการไหลเลื่อนเคลื่อนไปเลียบรายทางผ่านดินแดนต่าง ๆ ที่การเดินทางสัญจรไปนั้นทั้งสุขทั้งสวยงาม ทั้งต้องมีหลักการ และขณะเดียวกันก็เปี่ยมด้วยจินตนาการอันสุนทรีย์

ในตัวตนของปาสกาล แกนเนอออง มีความเป็น แตง แตง ตัวละครเด็กผู้ชายที่เป็นนักข่าวอยู่ด้วย นอกจากจะเป็นนักข่าวแล้วเขายังเป็นช่างภาพที่ฉับไวมากคนหนึ่ง จากประสบการณ์ท่องโลกที่ผ่านมา

ปาสกาล เชื่ออย่างสนิทใจและยืนยันได้ถึงความหมายของคำพูดของนักเดินทางเร่ร่อนคนหนึ่งในทะเลทรายแห่งอัลจีเรียที่กล่าวว่า

“คุณน่ะมีนาฬิกา แต่พวกเราต่างหากที่มีเวลา”

“เลียบรายทาง” โดย ปาสกาล แกนเนอออง วันที่ ๒๔ กันยายน - ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ โกลเดน เทอทอยส์ (Golden Tortoise) เลขที่ ๑oo ถนนสุขุมวิท ๔๙ เลขที่ ๑oo ถนนสุขุมวิท ๔๙ กรุงเทพมหานคร โทร. o-๒๖๖๒ -๕๖oo























ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














ป่าอารมณ์



"ป่าอารมณ์" คือการมองย้อนกลับไปของศิลปินที่ซึ่งเผยให้เห็นเรื่องราวเสมือนจริงทางอารมณ์ที่เคยผ่านเข้ามา และศิลปินเลือกหันหลังให้กับมัน ปฏิเสธละทิ้งทั้งหมด

แล้วเลือกแสดงออกภาวะนั้นลงบนผลงานสีน้ำมันจำนวน ๑o ชิ้นที่วาดด้วยมือซ้ายซึ่งเป็นมือข้างที่ไม่ถนัด เพื่อปฏิวัติความเคยชินผ่านการควบคุมให้น้อยลง แสดงออกได้อิสระมากขึ้น พร้อมการเรียนรู้ตัวตนอีกด้าน

กรรณิการ์ จันทร์สุวรรณ เจ้าของผลงาน จบการศึกษาสาขาจิตรกรรม จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและ ภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง จากนั้นทำงานเป็นภัณฑารักษ์ประจำแกลเลอรี่เอกชนอยู่ ๓ ปี พร้อมกับการร่วมแสดงนิทรรศการกลุ่มกับเพื่อนศิลปินอย่างต่อเนื่อง ได้รับการคัดเลือกให้รับทุนการศึกษาดูงานต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น แคนาดา จีน (กุ้ยหลิน, ปักกิ่ง) และ อิตาลี และผลงานเคยได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

นิทรรศการภาพวาด “ป่าอารมณ์” เปิดให้เข้าชมในวันที่ ๓ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น. (วันอังคาร -วันอาทิตย์) ณ พีเพิลส์ แกลเลอรี่ ห้อง P3 ชั้น ๒ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถ.พระราม ๑ เขตปทุมวัน

และเชิญผู้สนใจร่วมงานเปิดนิทรรศการในวันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑๗.oo น.



















ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 01 ตุลาคม 2558
Last Update : 1 ตุลาคม 2558 21:56:59 น. 0 comments
Counter : 1840 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.