happy memories
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
10 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๒๓๖





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










H.M. Blues ศิลปะเทิดพระเกียรติในหลวง



พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผลงานของ ๓ ศิลปิน ยุทธนา พงศ์ผาสุก, ชิงชัย อุดมเจริญกิจ และ ธณาเศรษฐ์ ศิรอภิวัลย์ ซึ่ง ความประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย มาอย่างยาวนาน และมีการนำเสนอที่แตกต่างกันไป

ยุทธนา พงศ์ผาสุก น้ำหนักอ่อนแก่ของกาแฟและเส้นริ้วของปากกาลุกลื่น เติมจุดว่างสร้างความใส เก็บมวลอากาศในช่องว่างสร้างเป็นนำหนักให้กับผืนภาพอย่างลงตัว

ชิงชัย อุดมเจริญกิจ ถ่ายทอดความเหมือนและความประทับใจด้วยกราไฟท์ ,แท่งถ่าน,สีน้ำและสีอะคริลิก เกิดเป็นภาพที่มีความสดใสและผู้ชมรู้สึกได้ถึงความร่าเริงของสีสัน

ธณาเศรษฐ์ ศิรอภิวัลย์ ผลงานจิตรกรรม ไปจนถึงเทคนิคปะติดของเขา สะท้อนถึงความไม่เคยหยุดนิ่งของศิลปินในการสร้างงานที่แตกต่างและผสมผสานหลากหลายเทคนิค นำพาผู้ชมพ้นไปจากความคุ้นเคยเดิม ๆ

H.M. Blues - the Hungry Men's Blues นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัย เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

เปิดนิทรรศการในวันอังคารที่ ๑o พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. ณ มังคุด อาร์ต แกลเลอรี่ ชั้น ๒ มังคุด คาเฟ่ ปากซอยราชพฤกษ์ ๓๔ โทร. o-๒๔๓๒-o๙๖๘















ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
“สิริกิติ์ สิริศิลป์ แผ่นดินสยาม”



ที่อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ท่านผู้หญิง จรุงจิตติ์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ พุทธศักราช ๒๕๕๙ "สิริกิติ์ สิริศิลป์ แผ่นดินสยาม" ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดขึ้นจนถึงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายนนี้ โดยเป็นนิทรรศการภาพปฏิทินแบบแขวน ชุด "ถวายบังคมพระบรมราชินีนาถ" ที่ได้รับพระราชานุญาตให้เชิญพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงฉายในโอกาสต่าง ๆ ถ่ายทอดเป็นพระฉายาสาทิสลักษณ์ ใช้เทคนิควิธีการวาดภาพด้วยสีน้ำมันและสีชอล์ก ๑๓ ภาพ

ส่วนนิทรรศการภาพปฏิทินแบบตั้งโต๊ะ ชุด "งานศิลป์ล้ำค่า-บุปผาราชินี" นำผลงานศิลป์ชิ้นเอกจากฝีมือช่างศิลปาชีพมาจัดตกแต่งคู่กับความงามของดอกไม้พระนาม และดอกไม้พระราชทานนามที่หาชมได้ยาก อาทิ กุหลาบควีนสิริกิติ์, บัวศรีกิตติยา, โมกราชินี, มณีเทวาและดุสิตา นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมพระราชกรณียกิจ พระราชดำรัส และแนวทางการทรงงาน มาเผยแพร่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ทราบถึงพระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ และพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงให้ความสำคัญในการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง



พระฉายาลักษณ์และข้อมูลจาก
news.ch7.com
FB นิทรรศรัตนโกสินทร์














นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ยกย่อง.."พระอัจฉริยภาพ"



นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ในปีนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ให้เป็นประเทศแขกรับเชิญเกียรติยศ ในการจัดงาน“นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระปรีชาสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญาใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๕-๒๑ ต.ค. ๒๕๕๘ ณ สำนักงานใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวในโอกาสร่วมพิธีเปิดนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ว่า สืบเนื่องจากที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา (WIPO Global Leaders Award) แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อปี ๒๕๕๒ และทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์ (WIPO Award for Creative Excellence) แด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ ๒๗ ส.ค.ที่ผ่านมา

ด้วยประจักษ์ในพระปรีชาสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งสองพระองค์ ทาง WIPO จึงได้เชิญประเทศไทยเป็นประเทศแขกเกียรติยศในการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ครั้งที่ ๕๕ พร้อมให้เกียรติจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระปรีชาสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญาฯ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาคมโลก

การแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้แนวคิดRoyal Creativity For Allนำเสนอพระปรีชาสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งสองพระองค์ ประกอบด้วยพระราชประวัติและพระวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนาประเทศ เช่น ฝนหลวง โครงการแกล้งดิน ลิขสิทธิ์งานพระราชนิพนธ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสนับสนุนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) การอนุรักษ์ภูมิปัญญาและทรัพยากรพันธุกรรม และสร้างช่องทางจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรและชุมชนโดยใช้เครื่องหมายการค้า ซึ่งนับเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจ

“การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผู้แทนสมาชิกองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ๑๘๘ ประเทศ และแขกผู้มีเกียรติ กว่า ๑,ooo คน ให้ความสนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการฯ รวมทั้งชื่นชมพระราชกรณียกิจ และพระวิริยะอุตสาหะในการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งสองพระองค์ ซึ่งถือเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์แก่สังคมโดยรวมต่อไป” นางอภิรดี กล่าว































ภาพและข้อมูลจาก
dailynews.co.th














พรหมาศ : ธรรมะย่อมชนะอธรรม


บุษเอยบุษบกแก้ว
สีแววแสงวับฉายฉาน
ห้ายอดเห็นเยี่ยมเทียมวิมาน
แก้วประพาฬกาบเพชรสลับกัน
ชั้นเหมช่อห้อยล้วนพลอยบุษย์
บัลลังก์ครุฑลายเครือกระหนกคั่น
ภาพรายพื้นรูปเทวัญ
คนธรรพ์คั่นเทพกินนร
เลื่อนเมฆลอยมาในอากาศ
อำไพโอภาสประภัสสร
ไขแสงแข่งสีศศิธร
อัมพรเอี่ยมพื้นโพยมพราย
ดั่งพระจันทร์เดินจรส่องดวง
แลเฉิดลอยช่วงจำรัสฉาย
ดาวกลาดดาษเกลื่อนเรียงราย
เร็วคล้ายรีบเคลื่อนเลื่อนลอยมา

(รามเกียรติ์ ตอนศึกอินทรชิต บทพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑)


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สืบสานและอนุรักษ์ศิลปะการแสดงโขน ศิลปกรรมและนาฏศิลป์ชั้นสูงของคนไทย เพื่อให้ศิลปะนี้ดำรงคงอยู่สืบไปดังนั้นมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงได้จัดการแสดงโขนรามเกียรติ์มาแล้วรวม ๖ ตอน ได้แก่ ศึกพรหมาศ, นางลอย, ศึกมัยราพณ์, จองถนน, ศึกกุมภกรรณ ตอน โมกขศักดิ์ และ ศึกอินทรชิต ตอน นาคบาศ





อินทรชิตแปลงเป็นพระอินทร์



โขนพระราชทานนี้เป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักในศิลปะการแสดงชั้นสูงต่างเฝ้ารอคอยเสมอมาทุกปี เพราะนอกจากจะได้ชมความงามของฉากที่สุดแสนอลังการ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่สุดวิจิตรบรรจง รวมถึงได้ชมท่าร่ายรำที่งดงาม ได้ฟังบทร้องที่แสนไพเราะ และยังได้ฟังการเล่นดนตรีไทยสด ๆ ที่ยากจะหาฟังและหาชมได้ตามที่ต่าง ๆ ทั่วไป

โขนรามเกียรติ์คือการจำลองเอารูปแบบและขนบประเพณีในราชสำนัก มานำเสนอให้สาธารณชนได้ประจักษ์ในรูปแบบของการแสดง





รำเบิกโรง



ในปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานโขน ชุดศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ กลับมาจัดแสดงใหม่ หลังจากที่เคยสร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕o และ พ.ศ. ๒๕๕๒ แต่สำหรับการแสดงครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงและจัดการแสดงใหม่ แต่ยังคงความงดงาม ความสนุกสนาน ตามแบบฉบับของโขนพระราชทานไว้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังคงจารีตแบบแผนและบทการแสดงตามบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เป็นหลัก โดยผสมผสานกับบทคอนเสิร์ตของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ แล้วยังเพิ่มเติมบทฉุยฉายจากบทโขนพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เข้าไปด้วย





พลับพลาพระราม



โขนหลวงในครั้งนี้มีชั้นของเชิงนาฏศิลป์ที่งดงามวิจิตร มีแนวคิดการสร้างฉากท้องพระโรงให้งดงาม เป็นศิลปกรรมไทยที่สุดวิจิตร โดยยึดรูปแบบศิลปกรรมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แล้วเพิ่มเติมบทฉุยฉายจากบทโขนพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งกล่าวได้ว่าแม้จะไม่แพร่หลายนัก แต่ทว่ามีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง มีกระบวนท่ารำที่รักษาไว้ในกรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ฉากการแสดงในครั้งนี้ประกอบด้วยฉากอันวิจิตรตระการตา ๕ ฉากสำคัญคือ ฉากที่ ๑ ขัดตาทัพ (ท้องพระโรงกรุงโรมคัล), ฉากที่ ๒ พลับพลาพระราม, ฉากที่ ๓ สนามรบ, ฉากที่ ๔ ข่าวศึก(ท้องพระโรงกรุงลงกา), ฉากที่ ๕ เสียพิธี และฉากที่ ๖ ศรพรหมาศ

การแสดงโขนพระราชทานครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของบรรดาศิลปินชั้นครูของเมืองไทย และยังมีเหล่านักแสดง นักร้องนักดนตรี นักออกแบบเครื่องแต่งกาย ช่างทำฉาก ช่างเทคนิค ช่างตัดเย็บ ช่างปัก ช่างทำเครื่องประดับ และบุคคลอื่น ๆ ผู้อยู่เบื้องหลังฉากรวมแล้วกว่า ๘oo ชีวิต





ท้องพระโรงกรุงลงการ



โขนชุด ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ จะจัดการแสดงทั้งหมด ๔๔ รอบ แสดงระหว่างวันที่ ๗ พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๕๕๘ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยพักการแสดงในทุก ๆ วันจันทร์ ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา โทร.o๒-๒๖๒-๓๔๕๖ หรือที่ //www.thaiticketmajor.com บัตรราคา ๖๒o, ๘๒o, ๑,o๒o และ ๑,๕๒o บาท สำหรับรอบนักเรียน นักศึกษา บัตรราคาเพียง ๑๒o บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.khonperformance.com





ท้องพระโรงเมืองโรมคัล ของมังกรกัณฐ์





ขบวนทัพอินทรชิตแปลงกายเป็นขบวนองค์อมรินทร์





พระลักษมณ์รบกับมังกรกัณฐ์





สัประยุทธ์์ชิงชัยระหว่างมังกรกัณฐ์กับทหารของพระราม





อินทรชิตทำพิธี





หนุมานต่อกรกับอินทรชิตเแปลงกายาเป็นองค์อมรินทร์





นักร้องนักดนตรีแสดงสด





พลพรรคทหารของพระราม





พระรามรบกับมังกรกัณฐ์





มังกรกัณฐ์จำแลงกายกำบังพระราม พระลักษมณ์





ขบวนทัพอินทรชิตแปลงกายเป็นขบวนองค์อมรินทร์





หนุมานสัปะยุทธ์กับอินทรชิต
หลังจากอินทรชิตแผลงศรใส่พระลักษมณ์และกองทัพวานร






เหล่าบรรดานักแสดงหลายร้อยชีวิตพรั่งพร้อม





พระลักษมณ์ฟื้นได้สติ แล้วเสด็จกลับพร้อมพระราม



ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














การประกวดศิลปกรรมกรุงไทย (Krungthai Art Awards) ครั้งที่ ๒



ธนาคารกรุงไทยจัดประกวดศิลปกรรมกรุงไทย ครั้งที่ ๒ เชิญชวนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ หรือสร้างสรรค์ผลงานเรื่องราวความเป็นไทย โดยสื่อถึง “กรุงไทย” ที่อุดมสมบูรณ์ ชิงโล่พระราชทานและเงินรางวัล ส่งผลงาน ๑๑-๑๕ พฤศจิกายนนี้ ที่หอศิลป์กรุงไทย

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการธนาคารกรุงไทย และ ประธานโครงการประกวด Krungthai Art Awards เปิดเผยว่า จากเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อพัฒนาศักยภาพของศิลปินไทย ธนาคารจึงได้จัดการประกวด ศิลปกรรมกรุงไทย (Krungthai Art Awards) ครั้งที่ ๒ โดยปีนี้แบ่งผลงานที่เข้าร่วมประกวดเป็น ๒ แนวเรื่องได้แก่ ศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ ศิลปกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นไทย

“เนื่องจากปีนี้ เป็นปีมหามงคลในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ ธนาคารจึงได้เพิ่มแนวเรื่อง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงมีพระอัจฉริยภาพในศาสตร์และศิลป์ ทรงมีพระจริยาวัตรอันงดงามเป็นแบบอย่างอันประเสริฐ ซึ่งธนาคารได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโล่รางวัล สำหรับผู้ได้รับรางวัล ยอดเยี่ยมศิลปกรรมกรุงไทย และพระราชทานพระราชานุญาตให้ประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ในโครงการ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลศิลปกรรมกรุงไทย ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ ด้วย”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กล่าวต่อไปว่า จากนโยบายที่ส่งเสริมความเป็นไทย ตามวิสัยทัศน์ของธนาคารที่อยู่เคียงข้างและเติบโตพร้อมกับคนไทยและสังคมไทย ธนาคารจึงยังคงส่งเสริมการสร้างสรรค์งานศิลปะที่แสดงออกถึงเรื่องราวความเป็นไทย ในด้านศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ โดยประกวดแนวเรื่อง ความเป็น “กรุงไทย” ที่อุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดความสุข ความดีงาม นำพาสังคมสู่ความเจริญรุ่งเรือง ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒

สำหรับรางวัลแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มตามแนวเรื่อง รวม ๒o รางวัล ประกอบด้วย รางวัล ยอดเยี่ยมศิลปกรรมกรุงไทย โล่พระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล ๕oo,ooo บาท จำนวน ๒ รางวัล รางวัลที่ ๑ เงินรางวัล ๆ ละ ๓oo,ooo บาท จำนวน ๔ รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ ๒ เงินรางวัล ๆ ละ ๒oo,ooo บาท จำนวน ๔ รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รางวัลที่ ๓ เงินรางวัล ๆ ละ ๑oo,ooo บาท จำนวน ๑o รางวัล พร้อมเกียรติบัตร รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น ๔,ooo,ooo บาท โดยได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ ๙ ท่าน ได้แก่ อาจารย์ชำเรือง วิเชียรเขตต์ อาจารย์ทวี รัชนีกร อาจารย์อินสนธิ์ วงศ์สาม อาจารย์พิชัย นิรันต์ อาจารย์ธงชัย รักปทุม ศาสตราจารย์เกียรติศักดิ์ ชานนนารถ ศาสตราจารย์อิทธิพล ตั้งโฉลก ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง และศาสตราจารย์วิโชค มุกดามณี ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัล

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานประเภทจิตรกรรม ภาพพิมพ์ และประติมากรรม เข้าร่วมประกวดได้คนละไม่เกิน ๓ ชิ้น โดยประเภทจิตรกรรมและภาพพิมพ์ Image Size ไม่เกิน ๒ เมตร ผลงานประเภทประติมากรรม Image Size ไม่เกิน ๒ เมตร โดยส่งผลงานเข้าประกวดระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo–๑๗.oo น. ณ หอศิลป์กรุงไทย อาคารธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช ธนาคารจะประกาศผลการตัดสินทางเว็บไซต์ //www.ktb.co.th ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ และจะจัดแสดงนิทรรศการ ระหว่างวันที่ ๕ มีนาคม – ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ที่หอศิลป์กรุงไทย สอบถามรายละเอียด โทร. o-๒๒๒๒-o๑๓๗

ทั้งนี้ ธนาคารได้ให้การสนับสนุนการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ พร้อมจัดตั้ง “รางวัลสนับสนุนโดยธนาคารกรุงไทย” ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เพื่อสนับสนุนให้ศิลปินมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวด จัดตั้ง หอศิลป์กรุงไทย โดยปรับปรุงพื้นที่อาคารสาขาเยาวราชสำนักงานใหญ่แห่งแรกของธนาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส เป็นแกลเลอรี่ศิลปะร่วมสมัย สำหรับแสดงผลงานศิลปกรรมสะสมของธนาคาร และเปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้แสดงนิทรรศการหมุนเวียน รวมทั้งจัดกิจกรรมสอนศิลปะ สนับสนุนกิจกรรมเสริมแก่โรงเรียนในบริเวณใกล้เคียงและเผยแพร่กิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งจัด สวนประติมากรรมกรุงไทย เพื่อจัดแสดงประติมากรรมขนาดใหญ่ในสวนแบบ Open-air Museum ที่ศูนย์ฝึกอบรมพนักงานที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา







ภาพและข้อมูลจาก
ktb.co.th
ktb.co.th














สอนศิลป์ถิ่นเวียงท่ากาน



ศิลปินร่วมวาดภาพเพื่อประมูลหารายได้สมทบทุน สร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน และกิจกรรมสอนศิลป์ถิ่นโบราณเวียงท่ากาน ในโครงการ “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” โครงการในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ จัดทำโครงการ “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรม “ศิลปินวาดภาพเพื่อประมูลนำรายได้สมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่า” และกิจกรรม “สอนศิลป์ถิ่นโบราณเวียงท่ากาน” ณ โบราณสถานเวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จฯ​ ไปยังโบราณสถานเวียงท่ากาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจอนุรักษ์โบราณสถานเช่นทุกปีที่ผ่านมา สำหรับปีนี้พระองค์มีพระดำริให้จัดงาน “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” สำหรับกิจกรรมข้างต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เยาวชนในพื้นถิ่น ในด้านศิลปะ และโบราณวัตถุ ทั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนในพื้นถิ่นตระหนักถึงคุณค่าของโบราณวัตถุที่สำคัญของชาติ อีกทั้งเป็นการจัดเตรียมบุคลากรซึ่งเป็นเยาวชนในพื้นถิ่น เพื่อรองรับพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า กิจกรรมข้างต้น มีการเชิญศิลปินแห่งชาติ และศิลปินผู้มีชื่อเสียงระดับชาติจากภาคเหนือ และภูมิภาคต่าง ๆ มาร่วมกันเขียนภาพโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่ขุดค้นได้จากเวียงท่ากาน รวม ๑๕ ท่าน อาทิ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร, อาจารย์สมภพ บุตราช, อาจารย์ประทีบ คชบัว ฯลฯ

ในการนี้ ทรงนำศิลปินไปชมโบราณวัตถุ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้น ทรงนำชมแหล่งโบราณเวียงท่ากาน ให้ศิลปินได้เรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางส่วนของแต่ละคน เมื่อศิลปินสร้างสรรค์ผลงานเสร็จแล้ว พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ มีพระประสงค์ให้นำไปจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปที่มาเที่ยวงาน “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่นสร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายนนี้ ได้ชื่นชมความงดงามของภาพเขียน และซาบซึ้งถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่เหล่าศิลปินร่วมกันบันทึกไว้

พร้อมกันนี้ทรงจัดกิจกรรมให้แก่เยาวชนเวียงท่ากานจำนวน ๑o๓ คน ได้เรียนรู้ศิลปะเทคนิคการเขียนภาพจากศิลปิน และการขุดค้นทางโบราณคดี จากผู้เชี่ยวชาญของสำนักกรมศิลปากรที่ ๘ เชียงใหม่ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ทางศิลปะและโบราณคดีอย่างต่อเนื่อง







ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














Amarin Discovery: Young Entrepreneur Craft Fair 2015



เพื่อเป็นการสืบสาน ภูมิปัญญาไทย และปลูกฝังความรักในงานหัตถกรรมไทยแก่คนรุ่นใหม่ทางสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย (THTA) จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า จัดงาน “Amarin Discovery: Young Entrepreneur Craft Fair 2015 งานศิลปหัตถกรรมเยาวชนไทย ปี ๒๕๕๘” การจัดแสดงผลงานของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่ผ่านเกณฑ์จากโครงการ “นักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ของ สพฐ. ทั้งหมด ๔๔ โรงเรียน จากหลากหลายภูมิภาค





สิทธิศักดิ์ เชื่อจันทร์



สุรภีร์ โรจนวงศ์ นายกสมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย (THTA) กล่าวว่า “งาน“Amarin Discovery: Young Entrepreneur Craft Fair 2015 งานศิลปหัตถกรรมเยาวชนไทยปี ๒๕๕๘” ครั้งนี้ ล้วนเป็นผลงานชั้นยอด ด้วยฝีมือหัตถกรรมรุ่นใหม่ที่ได้รับการบ่มเพาะและเคี่ยวเข็ญจากการสั่งสอนและฝึกฝนมาอย่างโชกโชนโดยภายในงานจะมีการจัดแสดงผลงานของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่ผ่านเกณฑ์จากโครงการ “นักธุรกิจน้อยมีคุณธรรมนำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ของ สพฐ. ทั้งหมด ๔๔ โรงเรียน จากหลากหลายภูมิภาค ซึ่งทุกผลงานล้วนคงความวิจิตรบรรจงผสานกับความตั้งใจตามแบบฉบับช่างศิลปะไทยรุ่นใหม่ จนเรียกได้ว่ามีฝีมือเทียบเท่ามืออาชีพและมีความวิจิตรสวยงามไม่แพ้ผลงงานศิลปะใดในโลก ประจวบกับพื้นที่จัดแสดงงานอย่างศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ซึ่งตั้งอยู่ในจุดท่องเที่ยวใจกลางกรุงที่สำคัญและมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากมายจึงเป็นผลดีที่ความงามแห่งหัตถกรรมไทยจากหัตถกรคนรุ่นใหม่จะได้เป็นประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกและสร้างความประทับใจ ซึ่งความประทับใจนี้จะช่วยจุดประกายเปลวไฟความสำเร็จของวงการศิลปหัตถกรรมไทยในอนาคตอย่างแน่นอน”





ประภาพร แสนเมือง และ วลิศลา บุญประกอบ



สุทธิวัฒน์ วงค์ครองศักดิ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ หนึ่งในนักเรียนช่างฝีมือจากโรงเรียนแจ้ห่มวิทยา จังหวัดลำปาง กล่าวว่า“ทางกลุ่มได้เรียนวิธีแกะสลักไม้ล้านนาจาก “นายเสกสรร กาวินชัย” ครูผู้สอนวิชาแกะสลักไม้ของโรงเรียนที่สอนนักเรียนมากว่า ๒๕ ปี ซึ่งคุณครูนำวิธีการต่าง ๆ มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยจุดเด่นของงานแกะสลักไม้ล้านนาคือความพลิ้วไหวของลวดลายเครือเถาก้านขด อันหมายถึงความเจริญงอกงามของปัญญา และผลงานส่วนใหญ่จะใช้ไม้สักเป็นหลัก เนื่องจากเป็นไม้เนื้อดี ไม่แข็งเกินไป ไม่อ่อนเกินไป มีเนื้อละเอียด สีสวย มีลายไม้ที่มีเสน่ห์ โดยวิธีการแกะสลักไม้ของโรงเรียนจะประยุกต์เครื่องมือแกะสลักที่แต่เดิมจะใช้ค้อนและสิ่ว มาเป็นเครื่องมือพื้นฐานง่าย ๆ ได้แก่ เลื่อยฉลุและมีดคัตเตอร์ เพื่อประดิษฐ์ลวดลายชิ้นส่วนเล็ก ๆ หลาย ๆ ส่วน ก่อนจะนำมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นผลงาน อาทิ มณฑปพระพุทธรูป เรือนแก้วพระพุทธรูป กล่องใส่ของลายโบราณ โคมไฟสไตล์ล้านนา ซึ่งอาจมีเวลาการทำตั้งแต่ ๒ วัน จนถึง ๒ เดือน ในผลงานที่มีขนาดใหญ่”






สำหรับนางสาวประภาพร แสนเมือง และนางสาววลิศลา บุญประกอบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ สองศิลปินรุ่นเยาว์จากโรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม ที่ได้เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์ผลงานจาก “นางกมลเนตร เพ็ชรพูล” ครูผู้ฝึกสอน กล่าวว่า “ผลงานแกะสลักกระจกของโรงเรียนจะใช้ลวดลายรดน้ำแบบดั้งเดิม แต่ประยุกต์วิธีการสร้างสรรค์ผลงานให้สะดวก
มากขึ้น โดยเริ่มจากนำสติ๊กเกอร์ปิดเนื้อกระจกทั้งหมด ก่อนจะนำภาพต้นแบบมาปิดทับและแกะสลักตามลายดังกล่าวด้วยมีดแกะสลัก ทุกขั้นตอนต้องทำด้วยความระมัดระวังและทำด้วยมือทั้งหมด” นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่คนรุ่นใหม่ จะช่วยให้อนาคตหัตถกรรมไทยสดใสอย่างแน่นอน











ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














Bangkok Artisan 2015 Art & Artist Fair



สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญร่วมชมงานเทศกาลศิลปะยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ๒๕๕๘ “Bangkok Artisan 2015 Art & Artist Fair“ เทศกาลศิลปะ และ ศิลปินกรุงเทพฯ ๒๕๕๘ ณ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ทุก ศ.-ส.-อา. ตั้งแต่ ๖ พ.ย. - ๒o ธ.ค. ๒๕๕๘

- เสพงานศิลป์ชั้นครู The Masterpiece กับนิทรรศการหมุนเวียน ศิลปกรรมสะสม จากศิลปินแห่งชาติ และศิลปินทรงคุณค่า โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย อาทิ อ.มานิตย์ ภู่อารีย์, อ.ประหยัด พงษ์ดำ, อ.ชลูด นิ่มเสมอ, อ.อินทสนธิ์ วงค์สาม, อ.เกริกบุระ ยมนาค, อ.ชัย ราชวัตร เป็นต้น

- ดื่มด่ำกับงานศิลปะชั้นเลิศ Art and Design Society ยกขบวนพันธมิตร Art and Design จากหลากหลายสาขา อาทิ นิทรรศการภาพถ่าย โดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และช่างภาพชื่อดัง คุณธาดา วาริช, นิทรรศการจิตกรรมสีน้ำจากศิลปิน จิตรกรสีน้ำ กลุ่ม หกจุด, นิทรรศการศิลปะภาพเขียนสะสมชั้นครู โดย BB Gallery, นิทรรศการภาพจิตกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดย บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), นิทรรศการ Art For Nature โดย WWF ประเทศไทย (กองทุนสัตว์ป่าโลก) และนิทรรศการที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย

- เพลินกับบรรยากาศ Gallery Park ถ่ายรูปกับประติมากรรม “ไอ้จุด” โดย คุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์, นิทรรศการ Millions Monter Wall โดย An Officer Dies, สนุกกับศิลปินวาดภาพเหมือน ภาพล้อเลียน และเลือกชมงานศิลปะและซื้อผลงานจากศิลปินอิสระ

- สร้างสรรค์งานศิลปะ กับ ศิลปิน Workshop Studio ร่วม Workshop ฟรี หลากหลายแขนงในทุกสัปดาห์ โดยเครือข่ายศิลปิน จากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย

- ร่วมตื่นตาตื่นใจ กับ Stage Performance การแสดงร่วมสมัยหมุนเวียน ทุกสัปดาห์ อาทิ หุ่นสายเสมา จากมูลนิธิหุ่นสายเสมาศิลปะเพื่อสังคม วงดนตรีร่วมสมัย วง “นาคราช” โดย ราชศักดิ์ เริงใจ เป็นต้น

- อร่อยกับ Food Truck ร้านดังทั่วกรุงเทพฯ อาทิ Mother Trucker, บาร์บีคิว อ้าอ่ำ, เครป ปาดัง, Jungle Juice และ ซุ่ซ่าชื่นใจ น้ำอดลมโบราณ เป็นต้น

ติดตามและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
//www.BangkokArtisan2015.com
//www.facebook.com/BangkokArtisan2015
//www.facebook.com/ThanyaPark
Line Official : @thanyapark
Tel : 02-108-6000

*** ร่วมกิจกรรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย



ภาพและข้อมูลจาก
FB Thaniya Plaza














The Art of Landscape Photography



เชิญชมนิทรรศการภาพถ่ายครั้งแรกของ CameraEyes School ในรอบ + ปี

งานนิทรรศการศิลปะภาพถ่ายขาวดำ Black and White Thai Landscape 2015
งานแสดงภาพถ่ายกลุ่ม ของครู Somchai Suriyasathaporn , Jittima Sa-ngeamsunthron
และนักเรียนจาก CameraEyes School
ผลภาพถ่ายขาวดำแบบไฟน์อาร์ท ปริ๊นท์อย่างประณีตขนาดประมาณ ๑ เมตร กว่า ๔o ภาพ

Special Guest : Chamni Thipmanee
วันที่ ๓-๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘
โถงชั้น ๑ หอศิลปกรุงเทพฯ
BANGKOK ART AND CULTURE CENTRE
.
Please visit Event : https://www.facebook.com/events/643497665794954/

ขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติร่วมงานพิธีเปิดงานแสดงนิทรรศการ Black and White Thai*Land*Scape 2015

ดร. อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน
วันอังคารที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.๓o น.
ณ บริเวณโถงชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ



ภาพและข้อมูลจาก
cameraeyes.net














วาง ร่องรอยชีวิต จิต ศรัทธา ไว้ที่ปาตานี



กลุ่มศิลปินจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมใจนำผลงานศิลปะสร้างสรรค์สะท้อนชีวิตและ จิตวิญญาณแห่งวิถีชาวไทยมุสลิม จำนวนกว่า ๒oo ชิ้น ออกจัดแสดงนิทรรศการในชื่อชุด “วาง ร่องรอยชีวิต จิต ศรัทธา ไว้ที่ปาตานี” ด้วยหวังให้ภาพจิตรกรรมร่วมสมัยเป็นสื่อนำเสนอความรู้สึกนึกคิดที่ศิลปินกลั่นกรองจากประสบการณ์ตรงภายใต้เหตุการณ์ความไม่สงบที่ยังคงยึดเยื้อในปัจจุบัน มาสร้างสรรค์ผลงานออกมาสู่สาธารณชน โดยจัดแสดง ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๓ – ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ พิธีเปิดนิทรรศการจะมีขึ้นในวันอังคารที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ให้เกียรติเป็นประธาน

ผลงานศิลปะในนิทรรศการ “วาง ร่องรอยชีวิต จิต ศรัทธา ไว้ที่ปาตานี” เป็นผลงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้น โดยกลุ่มศิลปินในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย จำนวน ๕ คน ได้แก่ พิเชษฐ์ เปียร์กลิ่น อิมรอน ยูนุ มูฮัมหมัดซุรียี มะซู จรุงรัตน์ รอดคืน และ เจะอับดุลเลาะ เจ๊ะสอเหาะ โดยกลุ่มศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิต ความเชื่อความศรัทธา วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสะท้อนถึงรากแห่งวัฒนธรรม ความดี ความงามและความจริง ของทุกสรรพสิ่งในดินแดนแห่งอารยธรรมอันหลากหลายด้วยกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่หลากหลายทางเทคนิคของกลุ่มศิลปินที่แสดงออกในลักษณะเฉพาะตน เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ตระหนักในคุณค่าของรากทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังได้สะท้อนถึงปรัชญาและหลักคิดในการดำเนินชีวิต ให้สังคมได้นำไปบูรณาการกับชีวิตของตนได้ ตลอดจนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของบันทึกทางประวัติศาสตร์และเกิดประโยชน์ต่อวงการการศึกษาศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทยต่อไป

นิทรรศการ“วาง ร่องรอยชีวิต จิต ศรัทธา ไว้ที่ปาตานี” จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓-๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กรุงเทพมหานคร อนึ่งการจัดแสดงผลงานนิทรรศการเป็นหนทางหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้ ความคิด ความรู้สึกที่ศิลปินได้กลั่นกรองจนสร้างสรรค์ผลงานออกมาสู่สาธารณชน ซึ่งนอกจากผู้ชมจะได้ซาบซึ้งผลงานศิลปะดังกล่าวแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อตัวศิลปินที่จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้รับฟังการวิจารณ์จากสังคมและบุคคลทั่วไป เพื่อการพัฒนาความคิดและวิธีการสร้างสรรค์ผลงานต่อไป



ภาพและข้อมูลจาก
queengallery.org














MOMENT TO MOMENT # 2



นิทรรศการ "MOMENT TO MOMENT # 2" ผลงานโดยกลุ่ม Open mind ศิษย์เก่าเพาะช่าง ลำปาง-เชียงใหม่ จัดแสดงระหว่างวันที่ ๗ - ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ณ หอศิลป์ลำปาง : Lampang Arts Center



ภาพและข้อมูลจาก
contestwar.com














ภาพถ่ายของ 26 ช่างภาพ “ใจหล่อ” ช่วย "นกเงือก"



เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของภาพถ่ายที่ช่างภาพ ๒๖ คน นำมาประมูล ผ่าน facebook ของตัวเอง ระหว่างวันที่ ๘-๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ในนามกลุ่มช่างภาพ "ใจหล่อ" ได้แก่ ปองพล อดิเรกสาร, มล.ปริญญากร วรวรรณ, สมิทธิ์ สุติบุตร์, นัท สุมนเตมีย์, วัชรบูล ลี้สุวรรณ, กุลพัฒน์ ศรลัมพ์, ปรีชา ประเสริฐอาภรณ์หัสชัย บุญเนือง, อรุณ ร้อยศรี, บารมี เต็มบุญเกียรติ, ณรงค์ สุวรรณรงค์, วรรณชนก สุวรรณกร, Green Asia ชากร และ กิตติพร, เริงฤทธิ์ คงเมือง, เริงชัย คงเมือง, วราณ สุวรรณโณ, โดม ประทุมทอง, จามิกร สุขทรามร, สิริวรรณ ทิพย์สวัสดิ์, ธเนศ งามสม, นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์, วิศาล น้ำค้ง, จิระพงษ์ วงษ์วิวัฒน์, ประสงค์ ไกรศักดาวัฒน์, พรหมมินทร์ ชราเขต และ แสงเดือน ถนอมวงศ์ธนา เพื่อนำรายได้จากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้กับ มูลนิธิศึกษาและวิจัยนกเงือกของ ดร.พิไล พูลสวัสดิ์ ผู้สนใจประมูลผลงานภาพถ่ายของช่างภาพแต่ละท่าน ติดตามได้ที่ FB ช่างภาพใจหล่อ







































ภาพและข้อมูลจาก
FB Art Eye View














ปฏิทิน “บุปผาราชินี” ชุดภาพวาดสีน้ำ รายได้สมทบทุนมูลนิธิรพ.เด็ก



กำลังมองหาของขวัญปีใหม่ อยู่ใช่ไหม มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ชวนมอบของขวัญล้ำค่า กับปฏิทินสีน้ำตั้งโต๊ะประจำปี ๒๕๕๙ “บุปผาราชินี” ชุดภาพวาดสีน้ำ รายได้สมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยเด็ก

มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ชวนมอบของขวัญปีใหม่แทนใจ สุดพิเศษ ด้วยปฏิทินตั้งโต๊ะประจำปี ๒๕๕๙ ชุด “บุปผาราชินี” นำเสนอภาพวาดสีน้ำสีสันอ่อนหวานสบายตา สะท้อนความงดงามของหมู่มวลดอกไม้ ๑๒ สาย พันธุ์ ที่สร้างสรรค์ภาพวาดและบรรจงแต่งแต้มสีสัน โดยปลายพู่กันของทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้สนับสนุนของสถาบันฯ ซึ่งจัดทำต่อเนื่องเป็นปีที่ ๓ เพื่อหารายได้สมทบทุน กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ จะนำมาพัฒนาสถาบันฯ ในการจัดหาอุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้มีความพร้อมในการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็ก โดยเฉพาะด้านการดูแลรักษาทารกและเด็กพิการแต่กำเนิด เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์การเป็นศูนย์กลางการดูแลรักษาสุขภาพเด็กในระดับสากล ภายในปี ๒๕๕๙

ร่วมส่งมอบความสุขให้เด็ก ๆ ด้วยการอุดหนุนปฏิทินตั้งโต๊ะประจำปี ๒๕๕๙ “บุปผาราชินี” ชุดภาพวาดสีน้ำสนใจจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป โดยวางจำหน่ายในราคาเล่มละ ๑oo บาท ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือสั่งซื้อทางไปรษณีย์ (ค่าจัดส่ง ๒o บาท) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๑๔๑๕ ต่อ ๒๖๑๕ โทร. o๒-๖๔o- ๙๓๖๓ มือถือ o๘๘-๘๗๔-๔๖๗๓











ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com
FB ตึกใหม่โรงพยาบาลเด็ก อาคารเฉลิมพระเกียรติ80ฯ














"The cocaCola Bottle Art tour"



ในฐานะ "น้ำดำ" ที่เป็นตำนานของโลก ทางบริษัท โค้ก จึงได้จัดนิทรรศการ "The cocaCola Bottle Art tour" และนำนิทรรศการชุดนี้สัญจรมาแล้วทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๑oo ปี โค้กขวดแก้ว ส่วนตัวนิทรรศการได้นำผลงานจากศิลปินระดับโลกที่มีโค้กเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานมาจัดแสดง อาทิ ผลงานของ Andy Warhol, Norman Rock Well, Eduardo Paolozzi, steve Kaufman, Burton Morris, Michael Kalish, Bernd Hotzel, Haddon Sundblom, Steve Penley, jeff Schaller, Jean Well, Sally Tharp รวมถึงศิลปินไทยที่โด่งดังในต่างประเทศอย่าง ภาคภูมิ ศิลพันธ์ และสอดใส่ประสบการณ์แสนพิเศษ เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าถึงทั้งรูป รส กลิ่น เสียง อย่างตื่นตาตื่นใจ นิทรรศการชุดนี้เปิดให้เข้าชมฟรี ณ ลานควอเทียร์ พาร์ค ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และสิ้นสุดการแสดงนิทรรศการไปเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ความน่าประทับใจยังตราตรึง จึงขอนำเสนอย้อนหลัง

มร.แอนโตนิโอ เดล โรซาริโอ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคลา ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญสำหรับแบรนด์โค้ก เป็นปีที่ขวดแก้วอายุครบ ๑oo ปี โค้กขวดแก้วมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ด้วยดีไซน์โค้งเว้าอันโดดเด่น ทำให้เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในโอกาสเฉลิมฉลองนี้ โค้กจึงได้นำนิทรรศการ "The coca-Cola Bottle Art tour" มาจัดแสดงที่ประเทศไทย ซึ่งได้รวบรวมเรื่องราวและแรงบันดาลใจความเป็นไอคอนของโค้กขวดแก้วที่มีอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คน จนหลายอย่างได้กลายมาเป็นผลงานศิลปะ ภาพถ่าย การออกแบบ ไปจนถึงภาพยนตร์

ในโอกาสนี้ โค้กยังได้เลือกผลงานของศิลปินชาวไทยมาร่วมจัดแสดงด้วย เป็นผลงานของภาคภูมิ ศิลาพันธ์ ศิลปินแนวป็อปอาร์ต ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในอังกฤษ ซึ่งผลงานของภาคภูมิเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงโลกาภิวัตน์ การบริโภคมหาชน รวมถึงสิ่งที่เป็นไอคอนของวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ในครั้งนี้เขาได้เลือกป้ายโฆษณาที่มีสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าของโค้กในภาษาไทยมาประยุกต์ และสร้างเป็นผลงานศิลปะแบบร่วมสมัย

ในฐานะผู้จัดนิทรรศการ มร.เท็ด ไรอัน กล่าวว่า โค้กขวดแก้วถือกำเนิดขึ้นในปี ๑๙๑๕ จากความต้องการของโค้กที่ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใคร

สามารถลอกเลียนแบบได้ ขวดแก้วของโค้กมีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงโค้งเว้า ที่สามารถจับถือได้ง่ายแม้เพียงใช้มือสัมผัสในที่มืด หรือแม้กระทั่งตกแตกบนพื้น เมื่อหยิบชิ้นส่วนขึ้นมาสัมผัสก็ยังทราบได้ว่าเป็นขวดโค้ก

"โค้กขวดแก้วนั้นถือเป็นไอคอนที่เหนือกาลเวลา ซึ่งได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินระดับโลกมากมายหลายแขนงในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ โค้กได้รวบรวมผลงานระดับโลกมาจัดแสดง หนึ่งในนั้นได้แก่ผลงานของแอนดี วอร์ฮอล ศิลปินระดับโลกผู้ให้กำเนิดป็อปอาร์ต ภาพถ่ายความผูกพันระหว่างโค้กกับไอคอนระดับตำนานอย่าง มาริลิน มอนโร และเอลวิส เพรสลีย์ รวมไปถึงเพลงต้นฉบับของโค้กที่คุ้นหูคนทั่วโลก" มร.เท็ดกล่าว.



ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
baanlaesuan.com














Homo Faber ศิลปะร่วมสมัยโดย ๖ ศิลปินไทยและสวีเดน



อิ่มหทัย สุวัฒนศิลป์,พิม สุทธิคำ, ลิเกบายเดอรี่ (โดย มะลิ จาตุรจินดา และ พันทิพา ตันชูเกียรติ), เจนนิเฟอร์ ฟอร์สเบิร์ก, เจนนี่ เคลมมิ่ง และคอริน กุสตาฟสัน คือ ๖ ศิลปินไทยและสวีเดน ที่จะมีผลงานมาจัดแสดงร่วมกันผ่านนิทรรศการ Homo Faber นิทรรศการที่ว่าด้วยการเป็นมนุษย์ผู้สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ด้วยมือตนเอง

เนื่องจากศิลปินเหล่านี้ต่างเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานผ่านการฝึกฝนในด้าน craft ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะเครื่องปั้นดินเผา ศิลปะกระดาษ ศิลปะการถักทอ รวมไปจนถึงศิลปะเครื่องประดับ

ทว่าผลงานทุกชิ้นของพวกเขาในนิทรรศการครั้งนี้จะแสดงออกถึงการใช้ทักษะฝีมือผสานกับการเลือกใช้วัสดุที่สื่อสารทักษะและความคิดนั้น ๆ ตีความและนำเสนอในรูปแบบของศิลปะร่วมสมัยที่ปราศจากความเป็นงานฝีมือแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง

และนอกจากผลงานส่วนตัวของศิลปินทั้ง ๖ แล้ว ยังมีผลงานชิ้นพิเศษที่ศิลปินจากทั้งสองทวีปจับคู่กันเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์โดยที่ผลงานยังคงความเป็นตัวเองแต่กลมกลืนเชื่อมต่อกันได้อย่างน่าสนใจ

นิทรรศการ Homo Faber จะจัดแสดงให้ชมระหว่างวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน - ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร

และมีพิธีเปิดนิทรรศการ ในวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. โดยมี Mr Staffan Herrström เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย เป็นประธาน

แต่ก่อนที่นิทรรศการจะเปิดให้ชม จะมีกิจกรรม “ศิลปินเสวนา” บอกเล่าถึงลักษณะการสร้างสรรค์ ของศิลปินทั้ง ๖ และกระบวนการทำงาน กว่าจะมาเป็นผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมพิเศษ ในความร่วมมือกับภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในวันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลา ๙.oo - ๑๒.oo น.. ณ ห้อง ๓๒o๑ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย























ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














Life is Art ความสุขง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันของ “อรอนงค์ แก้วสมบูรณ์”



“ที่มาของชื่อภาพวาดชุดนี้ สืบเนื่องมาจากมุมมองในการเชื่อมโยงศิลปะและชีวิตประจำวันของเราเข้าไว้ด้วยกัน โดยมองว่า มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตในแบบที่แตกต่างกัน ศิลปะเป็นสิ่งที่กลมกลืนในชีวิตประจำวันของมนุษย์อยู่แล้ว งานศิลปะคือช่วงของชีวิตในแต่ละช่วงที่สร้างสรรค์ขึ้นมา รูปภาพของเราก็เลยเกิดขึ้นจากความสุขง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันและความชอบส่วนตัวในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว อาทิ สรีระที่สวยงามของผู้หญิง ดอกไม้และจินตนาการในวัยเด็กที่สวยงามเป็นต้น”

อรอนงค์ แก้วสมบูรณ์ เจ้าของผลงานภาพวาดกล่าวถึงแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงาน ที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ Life is Art นิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนศิลปินหน้าใหม่ที่มีความสามารถและพรสวรรค์ทางด้านศิลปะให้ได้มีโอกาสแสดงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์

และเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการทำดีด้วยใจ คืนกำไรสู่สังคม” ของอเมริกันสแตนดาร์ด ตามที่ นายสิทธิรัฐ วัชราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไป ลิกซิล วอเตอร์ เทคโนโลยี ประเทศไทย ลิกซิล วอเตอร์ เทคโนโลยี ประเทศไทย แบรนด์ในเครืออเมริกันสแตนดาร์ด กล่าวว่า จะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจำหน่ายภาพวาด มอบให้กับ มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อมูลนิธิฯ จะได้นำไปใช้ประโยชน์สำหรับโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ ต่อไป

“ศิลปะสามารถทำให้ผู้ที่ได้เห็น ได้สัมผัสในชิ้นงานเกิดความสุข เกิดแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต ซึ่งการสร้างความสุขให้กับคนในสังคมถือได้ว่าเป็นการ ทำความดีและคืนกำไรสู่สังคม ด้วยอีกทางหนึ่ง”

นิทรรศการ Life is Art จัดแสดงระหว่างวันนี้ถึง ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ โถงนิทรรศการ ชั้น ๑ ลิกซิล โชว์รูม อาคาร D คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) สอบถาม โทร. o-๒๑o๒- ๒๒๒๒


ศิลปะคือสิ่งที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับทุกชีวิต
บางคนอาจพูดว่า เค้าไม่มีศิลปะ เค้าวาดรูปไม่เป็น
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การเลือกชุดสักชุดที่เค้าสวมใส่ นั่นคือศิลปะแล้ว
และรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ด้วย

ภาพวาดของข้าพเจ้าที่จัดแสดงอยู่นี้
ก็คือศิลปะเช่นกัน เป็นส่วนหนึ่งจาก
การใช้ชีวิตเพื่อสร้างสรรค์ขึ้นมา
โดยตั้งใจให้ภาพได้เล่าในเรื่องของชีวิต ความสนใจของข้าพเจ้า

เรื่องที่ข้าพเจ้าสนใจหรือแสดงออกอาจไม่ได้ใหญ่โต หรือบอกเล่าถึงปัญหาใด ๆ
เป็นเพียงแค่ความรักของข้าพเจ้าเท่านั้น
ข้าพเจ้ารักงานศิลปะ ข้าพเจ้าชอบวาดสรีระผู้หญิง สนใจในธรรมชาติ
และไม่เคยลืมว่าชีวิตมีองค์ประกอบที่งดงาม
เพราะคุณค่าของศิลปะ

อรอนงค์ แก้วสมบูรณ์











































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 10 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2558 21:49:33 น. 0 comments
Counter : 6890 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.