....OUR FAMILY'S JOURNEY....

+ เสน่ห์ภูกระดึง 1 ... ขึ้นภูกระดึง +







ลับมาเที่ยวเมืองไทยบ้านเราอีกครั้งครับ บล๊อกต่อไปนี้เป็นบล๊อกพิเศษเลยก็ว่าได้ครับ เพราะนี่เป็นการปีนภูกระดึงครั้งที่ 4 ของผู้เขียน และไม่แน่ใจว่าคราวต่อไปยังจะมีพลังพอจะปีนไหวไหมนะ .... ภูกระดึงซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติบนที่สูงที่สวยงาม และเป็นที่วัดใจของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ชอบความท้าทาย และฝักใฝ่ในธรรมชาติครับ .... แต่ก่อนที่จะได้ชมความงามของยอดภู เรามาดูความท้าทายในการปีนขึ้นภูกระดึงกันก่อนดีไหมครับ



เขาลูกไกลสุดคือภูกระดึง (ถ่ายจากเขาป่าเปาะ)


การเตรียมการสำหรับการไปปีนภูกระดึงสมัยนี้แทบจะไม่ต้องเตรียมอะไรไปมากนัก นอกจากเงินและความฟิต ทำไมเหรอ? ก็เพราะบนภูและระหว่างทางขึ้นภูสมัยนี้มีร้านค้า ขายของกิน น้ำ และของจำเป็นมากมาย ไม่เหมือนสมัยก่อนต้องแบกสัมภาระและของกินขึ้นไปด้วย เพราะระหว่างทางขึ้นเขไม่มีร้านค้าขายของเลย ส่วนบนภูนั้นก็มีร้านของอุทยานเพียงร้านเดียวเท่านนั้นครับ


ติดต่อจองเต้นท์ที่นี่


จะไปภูกระดึงต้องทำและเตรียมการอย่างไร

1. การเดินทางท่านสามารถนั่งรถโดยสารไปที่ อ. ภูกระดึงได้และต่อสองแถวเข้าถึงอุทยานได้
2. ขับรถไปเอง ก็สามารถนำรถเข้าไปจอดในอุทยานในพื้นที่จอดค้างคืนได้ โดยต้องเสียค่านำรถเข้า อช. คันละ 40 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวก็จ่ายค่าเข้า อช. ท่านละ 30 บาท ผู้ที่มีอายุ 60 หรือมากกว่าไม่ต้องจ่ายครับ โดยจ่ายตั้งแต่ประตูผ่านเข้า อช. ด้านนอกเลย
3. การจองที่พัก ถ้าท่านอยากพักบ้านพักก็สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php?id=62  ส่วนท่านที่จะนอนเต้นท์ก็ไปจองได้ที่ Information สำนักงานอุทยานที่ภูกระดึงเลย เมื่อท่านจะขึ้นภูก็จะมีการทำประกันอุบัติเหตุคนละ 10 บาท สำหรับท่านที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ส่วนท่านที่อายุเกินไม่มีให้ทำครับ  จากนั้นถ่ายภาพแนบบัตรเข้า อช.เก็บไว้ สำหรับท่านที่จองได้แล้วทางเจ้าหน้าที่จะออกเอกสารให้ไว้ เมื่อขึ้นถึงบนภูก็แจ้งเจ้าหน้าที่ด้านบนที่ที่ทำการอีกครั้ง
4. สำหรับเครื่องนอน สามารถเช่าได้ที่ที่ทำการฯด้านบนภู ถุงนอน 30 บาท ที่รองนอน 20 บาท ผ้าห่ม 20 บาท หมอน 10 บาท
5. ท่านที่มีสัมภาระสามรถแจ้งที่อาคาร 4 จุดรับ-ส่งสัมภาระได้ โดยมีค่าใช้จ่ายคือ ค่าแท็ก ใบละ 5 บาท ค่าสัมภาระ กก.ละ 30 บาท แล้วท่านจะได้รับหางแท็กอีกส่วนเพื่อรับของด้านบน


อุทยานแห่งชาติภูกระดึง :  ปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี และ  เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม

ประกันอุบัติเหตุ



เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เรามาไปปีนภูกระดึงกันเลยครับ ... ต้องบอกกล่าวกันไว้ว่า ผู้เขียนจะเขียนเกี่ยวกับภูกระดึงไว้ 2 บล๊อกนะครับ บล๊อกแรกจะเกี่ยวกับการขึ้น-ลงภู ส่วนบล๊อกที่ 2 จะเป็นภาพบรรยากาศบนภูครับ


เรามารู้จักภูกระดึงหน่อยดีไหม

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง : ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึงในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีจึงมีคนมาเที่ยวเฉลี่ยหลายหมื่นคน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวมักมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปพักผ่อนบนภูกระดึงจำนวนมาก ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2486 และเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 โดยเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สองถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.12 ตารางกิโลเมตร (217,575 ไร่) ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่) มีความสูงอยู่ระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร


ที่รับ-ส่งของลูกหาบ



ประวัติภูกระดึง

ตามตำนานกล่าวไว้ว่ามีพรานป่าผู้หนึ่งได้พยายามล่ากระทิงซึ่งหลบหนีไปยังยอดเขาลูกหนึ่งในตำบลศรีฐาน (ปัจจุบันอยู่ในอำเภอภูกระดึง) ซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่เคยมีใครขึ้นมาก่อน เมื่อนายพรานได้ตามกระทิงขึ้นไปบนยอดเขาแห่งนั้น ก็ได้พบว่าพื้นที่บนภูเขาลูกนั้น เต็มไปด้วยพื้นที่ราบกว้างใหญ่สวยงาม เต็มไปด้วยป่าสน พรรณไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด มนุษย์จึงรู้จักภูกระดึงแต่นั้นเป็นต้นมา

ภูกระดึงเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 มีปรากฏเป็นหลักฐานเมื่อสมุหเทศาภิบาล (พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม) ได้ทำรายงานสภาพภูมิศาสตร์เสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2486 ทางราชการได้ออกพระราชกฤษฎีกาป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้เริ่มดำเนินการสำรวจเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขึ้นที่ภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นแห่งแรก แต่เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณและเจ้าหน้าที่จึงใด้ดำเนินการไปเพียงเล็กน้อยและหยุดไป

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กำหนดป่าในท้องที่จังหวัดต่างๆรวม 14 แห่งเป็นอุทยานแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้เป็นการถาวรเพื่อประโยชน์ส่วนรวม กรมป่าไม้จึงได้เสนอจัดตั้งป่าภูกระดึงให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามความในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดป่าภูกระดึงในท้องที่ตำบลศรีฐาน กิ่งอำเภอภูกระดึง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 217,581 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของประเทศ ในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ดำเนินการเพิกถอนเขตอุทยานแห่งชาติในบริเวณที่กองทัพอากาศขอใช้ประโยชน์ตั้งเป็นสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์ในราชการทหารมีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ทางกรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการขอเพิกถอนพื้นที่ดินดังกล่าวในปี พ.ศ. 2521 ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติภูกระดึงมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 217,576.25 ไร่





ทำไมถึงเรียกว่าภูกระดึง

คำว่า "ภูกระดึง" มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาพื้นเมืองของจังหวัดเลย ด้วยเหตุนี้ ภูกระดึง จึงอาจแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ชื่อนี้มาจากเรื่องเล่าที่ว่าในวันพระชาวบ้านมักได้ยินเสียงกระดิ่งหรือระฆังจากภูเขาลูกนี้เสมอ เล่ากันว่าเป็นระฆังของพระอินทร์ ส่วนอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือในบริเวณบางส่วนของยอดเขาหากเดินหนักๆหรือใช้ไม้กระทุ้งก็จะมีเสียงก้องคล้ายระฆังซึ่งเกิดจากโพรงข้างใต้ จึงได้รับการตั้งชื่อว่า "ภูกระดึง"



ทางขึ้นภูกระดีง



ทุกอย่างพร้อม...เรามาขึ้นภูกันเลยครับ

พอเลยป้ายด้านล่างไปจะเป็นประตูเส้นทางพิชิตภูกระดึง เราก็ต้องลงทะเบียนตามธรรมเนียมการเข้าชมอุทยานครับ เลยไปถ้าเจอไม้เท้าไม้ไผ่ ก็เลือกถือขึ้นไปด้วยได้ และเมื่อถึงที่ทำการด้านบนภูก็นำไปเก็บรวมกันไว้ตรงหน้าอาคารเพื่อให้เพื่อนๆนักเดินทางท่านอื่นได้นำไปใช้ต่อไปครับ .... สำหรับระยะทางเดินขึ้นภูทั้งหมดก็ประมาณ 9 กม.เศษๆครับ คือจากพื้นราบ-หลังแป 5.5 กม. และจากหลังแป-ที่ทำการวังกวาง 3.526 กม. ครับ .... ทางขึ้นภูก็จะไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ (ดูแผนที่ประกอบครับ) โดยแยกเป็นช่วงๆดังนี้

- ที่ทำการ อช.ภูกระดึง - ปางกกค่า ระยะทาง 800 เมตร ทางเดินเป็นหินภูเขา และมีราวเหล็กกั้นตกเขาเป็นช่วงๆ ช่วงนี้ชันเดินค่อนข้างยาก พยามพักไปเรื่อยๆ เมื่อหายใจสะดวกแล้วค่อยเดินต่อนะครับ
- ปางกกค่า - ซำแฮก ระยะทาง 200 เมตร แต่ชันมาก มีราวเหล็กกั้นตกเขาเป็นช่วงๆ ... พอถึงซำแฮกมีร้านขายอาหาร น้ำ น้ำเกลือแร่ หลายร้าน รวมทั้งขายของที่ระลึกด้วย ราคาอาหารก็ยังไม่แพง มีห้องน้ำแบบโมบายที่นี่
- ซำแฮก - ซำบอน ระยะทาง 700 เมตร เดินสะบายไปขึ้นนิดๆตอนจะถึงซำบอน ที่ซำบอนไม่มีร้านค้านะครับ
- ซำบอน - ซำกกกอก ระยะทาง 360 เมตร ยังเดินสบายอยู่ ซำกกกอกไม่มีร้านค้า
- ซำกกกอก - ซำกอซาง ระยะทาง 440 เมตร มีร้านค้าและห้องน้ำ พักที่นี่ได้ มีร้านค้าและห้องน้ำแบบโมบาย
- ซำกอซาง - พร่าพรานแป ระยะทาง 200 เมตร ทางขึ้นชัน มีทางเดินและราวเหล็กกั้น ด้านบนเหมือนเป็นสันเขา
- พร่าพรานแป - ซำกกหว้า ระยะทาง 440 เมตร ทางเป็นหินภูเขา บางช่วงปีน แต่ก็ไม่ชันมากนัก ... ที่ซำกกหว้ามีร้านค้า มีห้องน้ำแบบโมบาย ... จากซำกกหว้าขึ้นไปราคาน้ำและอาหารจะปรับแพงขึ้นแล้วนะครับ
- ซำกกหว้า - ซำกอไผ่ ระยะทาง 460 เมตร ทางเป็นหินภูเขา บางช่วงปีน แต่ก็ไม่ชันมากนัก เป็นทางช้างเดินผ่านด้วย
- ซำกกไผ่ - ซำกกโดน ระยะทาง 300 เมตร ทางเป็นหินภูเขา บางช่วงปีน เป็นจุดสกัดของอุทยาน หน้าผาทางด้านหน้าที่ทำการ เห็นวิวด้านล่างสวยงาม มีร้านค้าและห้องน้ำถาวรที่ซำนี้ .... จากซำกกโดนทางจะเริ่มชันมากขึ้น
- ซำกกโดน - ซำแคร่ ระยะทาง 450 เมตร ทางเป็นหินขลุขระ ชันขึ้น มีร้านค้าและห้องน้ำ คารพักที่นี่ก่อนแล้วค่อยไปต่อ มีร้านค้าและห้องน้ำแบบโมบาย
- ซำแคร่ - หลังแป ระยะทาง 1300 เมตร ทางชันมาก แต่มีบันไดเป็นช่วงๆ ต้องระวังมาก ควรให้ทางลูกหาบก่อนนะครับ
- หลังแป - ที่ทำการ หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ระยะทาง 3526 เมตร ทางเรียบบนพื้นราบ เดินสบาย หรือจะเช่าจักรยานปั่นไปที่พักก้ได้ แต่ต้องไปทางผาหมาดูก - ที่พัก (ระยะทางประมาณ 4 กม)


ผู้เขียนขอสรุปช่วงยากๆมี 3 ช่วงคือ

1. ยากที่สุด พื้นราบ - ซำแฮก ถ้าคนจะถอดใจก็ช่วงนี้แหละ
2. จากซำแคร่ - หลังแป แม้จะมีบันไดเป็นช่วงๆ แต่ก็ถือว่าชันมากๆ
3. จากซำกอซาง - พร่าพรานแป นี่ก็ชัน แต่ทำทางเดินค่อนข้างดี เลยง่ายกว่าสองที่แรก
นอกนั้นก็สูสีครับ ... ขาลงก็ 3 ที่นี่เช่นกันยาก ควรหารองเท้าให้เหมาะสมกับเรา เช่นรองเท้าเดินเขา ไม่คับมากโดยเฉพาะเล็บเท้าเพราะขาลงจะกดเล็บและทำให้เจ็บครับ




ลงชื่อเข้าออกอุททยานที่นี่ (ก่อนขึ้นเขา)




ลูกหาบแต่ละคนหาบสัมภาระอยู่ระหว่าง 50 - 70 กก.
ลูกหาบยุคนี้เขามีวิทยุเปิดเพลงฟังไปด้วยตลอดทางทำให้เราเพลินไปด้วย


ที่พักหาบของลูกหาบตามเส้นทาง ... จะวางพักบนราวคู่คล้ายๆบาร์คู่


จุดถ่ายภาพยอดนิยม


ซำแฮก


บางช่วงเป็นทางราบพอได้พักแรงบ้าง











ทางขึ้นสู่พร่าพรานแป


พร่าพรานแปเหมือนเดินบนสันเขา



ทางเดิน (ตอนขาลง) ไม้เท้าคืออุปกรณ์สำคัญ



ลักษณะทางที่เดินโดยทั่วไป มีบางช่วงที่ชันมาก



ซำกกไผ่


ทางเดินบนหินภูเขา






จากซำกกโดน ป่าเริ่มเป็นสีเขียว





ทางขึ้น ลง จาก ซำแคร่ - หลังแป


ลูกหาบ หาบถังแก้สถังละ 32 กก. และสัมภาระตัวเองอีกประมาณ 5-6 กก.




สุดท้ายเราก็ผ่านมาได้ถึงหลังแป


วันนี้เราใช้เวลาเดินทางขึ้นสู่ยอดภูกระดึงระยะทาง 5.5 กม. ใช้เวลา 5 ชั่วโมง (เริ่มขึ้น 10.28 น. ถึงหลังแป 15.15 น.) เดินไปพักไป .... แม้จะเหนื่อย แต่ก็รู้สึกสนุกที่ได้กลับมาดูความเปลี่ยนแปลงที่นี่อีกครั้ง หลังจากที่ครั้งสุดท้ายที่มาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2522 ซึ่งวันนี้เห็นอะไรๆที่นี่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่นตามเส้นทางเดินมีร้านค้าเกือบตลอดทาง ซึ่งเมื่อก่อนไม่มี อย่างมากก็คนมาขายมะขามป้อมจิ้มเกลือเท่านั้น ... ด้านบนภูก็มีจักรยานให้เช่า ซึ่งวันที่ไปถึงเราเช่าแบบระยะสั้นจากหลังแป - ที่ทำการอุทยาน ราคาคันละ 60 บาท โดยเขาให้ใช้เส้นทางเลียบผาไปเลี้ยวขวาเข้าที่พักที่ผาหมากดูก ระยะทางประมาณ 4 กม.


เลือกเช่าจักรยานใกล้ๆที่ขึ้นสู่หลังแป


สู่ที่พักโดยจักรยาน ผ่านผาหมากดูก







วันนี้เข้าที่พักเสร็จแล้วเดินไปที่ร้านขายอาหารใกล้ๆที่กางเต้นท์เพื่อทานมื้อเย็น (ณ จุดกลางเต้นท์ห้องน้ำใกล้ๆหลายจุด สะอาดด้วย รวมทั้งห้องน้ำแบบโมบายใกล้ที่นั่นด้วย) .... ทานมื้อเย็นในร้าน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายร้าน ก่อนกลับกลับมาอาบน้ำเย็นแล้วนอนหลับสบายๆตลอดทั้งคืน .... พรุ่งนี้ไปชมสถานที่ต่างๆด้วยกันครับ

Smiley ขอบคุณที่ตามอ่านครับ Smiley



ลาด้วยภาพยามเย็นที่ลานกางเต้นท์









 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2562
15 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2562 8:09:45 น.
Counter : 2541 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtuk-tuk@korat, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณทนายอ้วน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี, คุณSweet_pills, คุณJinnyTent, คุณSai Eeuu, คุณหอมกร

 

สวัสดีค่ะพี่ทั้งสองที่พิชิตภูกระดึง

อ่านไปตามเที่ยวกับพี่ทั้งสองไปด้วยคนค่ะ ครั้งนี้ครั้งที่ 4

ยังไม่เคยขึ้นไปเลยสักครั้งจ้า แต่สมัยนี้คงสะดวกกว่าสมัยก่อนแบบแตกต่าง

เลยใช่มั้ยค่ะ ยอมใจลูกหาบจริงๆ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 6 กุมภาพันธ์ 2562 14:47:03 น.  

 

ชื่นชมค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 6 กุมภาพันธ์ 2562 21:20:54 น.  

 

เห็นแล้วคิดถึงเหมือนกันฮะ ภูกระดึง เคยขึ้นไปครั้งเดียว ไม่เอาแล้ว555

 

โดย: IFINDNOI (Ces ) 6 กุมภาพันธ์ 2562 23:29:19 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 7 กุมภาพันธ์ 2562 3:30:57 น.  

 

ขอชมภาพแทน ... ขึ้นเองคงไม่ไหวคราบ

 

โดย: ทนายอ้วน 7 กุมภาพันธ์ 2562 12:48:49 น.  

 

อยากไปมาก ๆ ค่ะ ได้ดูภาพของคุณ wic ยิ่งอยากไปค่ะ

สมาชิกที่บ้านไม่มีใครยอมมากับแม่เลย

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 7 กุมภาพันธ์ 2562 21:24:53 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Diarist ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Review Travel Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
กาบริเอล Pet Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Music Blog ดู Blog
ณ มน Parenting Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ปีนี้ตั้งใจว่าจะไปปีนภูกระดึง
อยากไปมากกกกกกกกกกกกกกกก

 

โดย: อุ้มสี 7 กุมภาพันธ์ 2562 23:45:39 น.  

 

เคยไป 2 รอบแล้วล่ะค่ะ แต่ไปทำงาน ไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวันกับเค้าเลย เลยอยากไปอีก...

ไม่ต้องแบกเต็นท์เราไปก็ได้เนาะคะ เค้ามีให้เช่า สะดวกพอสมควร

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 8 กุมภาพันธ์ 2562 17:35:39 น.  

 

ใช้เวลาถึงห้าชั่วโมงและคุณวิคขึ้นภูกระดึงเป็นครั้งที่ 4 แล้ว
น่าภูมิใจจังค่ะ
คุณแม่ต๋าเคยขึ้นสมัยเป็นนิสิต
เห็นจากรูปแต่ยังไม่เคยขึ้นเองค่ะ
ขอบคุณคุณวิคสำหรับข้อมูลและภาพสวยๆนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 9 กุมภาพันธ์ 2562 0:41:55 น.  

 

ขอบคุณที่แวะชมเมนูที่บ้านค่ะคุณวิค
ราตรีสวัสดิ์นะคะ

 

โดย: Sweet_pills 9 กุมภาพันธ์ 2562 21:42:32 น.  

 

โห ขึ้นมา 4 ครั้ง นับถือจริงๆ
เห็นด้วยเลยค่ะว่า ช่วงพื้นราบ ถึง ซำแฮก นี่ เหนื่อยที่สุดแล้ว
อยากถอดใจถอยหลังกลับซะหลายรอบ

 

โดย: VELEZ 10 กุมภาพันธ์ 2562 20:03:46 น.  

 

โอ้โห สุดยอดเลยค่ะคุณอ๊อดกับคุณพี่ผู้หญิง
แข็งแรงมากเลย เดินขึ้นไปถึงยอดเขาภูกระดึงได้

สมัยก่อนจินอยากไปมาก ใคร ๆ ก็พูดถึงความสวยงามของภูกระดึง
และความท้าทายในการเดินขึ้นยอดเขา
จนป่านนี้ จินยังไม่ได้ไปและก็คิดว่าสภาพร่างกายตัวเอง
ณ ตอนนี้ไม่เอื้อที่จะให้เดินไปถึงยอดดอยแน่นอน

เข่าไม่ดีแล้วค่ะ ระบบเลือดในร่างกายก็ไม่ค่อยโอเค
ขึ้นเขาได้แต่คงอาศัยรถออฟโรค เดินเส้นทางใกล้ ๆ ทางเรียบได้
ขึ้นเขาตลอดเส้นทางยาวติด ๆ กับแบบ 5-6 กิโล คงพักไว้ก่อน

ล่าสุดที่ไปกางเต็นท์ที่กิ่วลม ตื่นเช้าเดินไปยอดดอยผ้าห่มปก
ไปได้ประมาณกิโลเดียว ถอยเลยค่ะจิน ไม่ไหว รู้ตัวเองเลยไม่ฝืน

การที่ภูกระดึงมีร้านค้าหลาย ๆ จุด
มันก็สะดวกสบายมากกว่าเดิมนะคะ แม้เสน่ห์ในความดิบ ๆ จะลดลง
แต่ทดแทนกันได้ ถ้าจินเดินไหวก็อยากจะให้มีร้านค้าระหว่างทางเป็นจุด ๆ
มันอุ่นใจ อุ่นท้อง ด้วย แหะ

ถ้าสุขภาพกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง จินก็อยากจะไปเดินสักครั้งค่ะ
ชื่นชมคุณพี่ทั้งสองจริง ๆ เก่งมาก ๆ เลย

 

โดย: JinnyTent 11 กุมภาพันธ์ 2562 17:25:39 น.  

 

ดูบล็อกสองแล้วมาดูบล็อกแรก
บล็อกสองภาพสวยกว่านะคุณวิก

 

โดย: หอมกร 12 กุมภาพันธ์ 2562 16:26:01 น.  

 

แอบคิดถึงความหลัง ขึ้นภูกระดึงครั้งแรก เกือบ สามปีแล้ว ฮ่า

ตอนนี้ ได้แต่เชียร์คนขึ้นค่ะ ทุกอย่างไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไร นอกจากเส้นทางเดินที่ทำให้ดูปลอดภัยขึ้น

 

โดย: Sai Eeuu 12 กุมภาพันธ์ 2562 18:00:22 น.  

 

wicsir Travel Blog ดู Blog
โหวตบล็อกแรกด้วยจ้า

 

โดย: หอมกร 1 มีนาคม 2562 9:08:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
6 กุมภาพันธ์ 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.