Bloggang.com : สาวไกด์ใจซื่อ : ~* ~* ~* ~* ~* ~* ปิดทริปกับ National Museum of Singapore ~* ~* ~* ~* ~* ~*

~* ~* ~* ~* ~* ~* ปิดทริปกับ National Museum of Singapore ~* ~* ~* ~* ~* ~*

สวัสดีค่า

หลังจากปล่อยรีวิวที่เที่ยวที่สิงคโปร์ไปแล้วสามที่ได้แก่

1. Singapore Flyer ยิ่งสูงยิ่งสวย

2. วัดพระเขี้ยวแก้ว ณ สิงคโปร์

และ

3. Peranakan Museum@Singapore

รีวิววันนี้จะเป็นรีวิวปิดทริปนะคะ ซึ่งก็จะพาไปยัง National Museum of Singapore ค่ะ

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเดินจากโรงแรม Swissotel the Stamford ข้ามไปยังอีกฝั่ง ซึ่งจะมีป้าย B01 ของถนน Stamford อยู่ ซึ่งป้าย B01 ก็จะมีด้วยกันหลายสายนะคะที่สามารถจะไปยังป้ายรถเมล์ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์ได้ ได้แก่ สาย 7 14 16 36 77 106 111 128 131 162 167 171 175 502 700 ค่ะ

ป้ายนี้เลยค่ะที่ไปยืนรอ

รอไม่นานสาย 7 ก็มาค่ะ

หลังจากขึ้นรถปุ๊บ รถวิ่งตรงไปแป๊บเดียวค่ะ จนถึงแยกนี้ที่จะเลี้ยวขวาไป Stamford Road อีกเส้น

จากเลี้ยวขวาแยกเมื่อกี๊ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ Stamford Road ค่ะ

จากนั้นก็ลงที่ป้ายแรกค่ะ เป็นป้าย B03 ค่ะ แต่ถ้ามาจากที่อื่น สายที่จอดป้ายนี้ก็ตามรูปเลยนะคะ

เดินไปอีกนิดหนึ่งก็ถึงแล้วค่า (จากรูปนี้จะเห็นว่ามีสองอาคารนะคะ อาคารหน้ากับอาคารหลังค่ะ)

เราต้องเดินเข้าไปที่อาคารด้านหน้าก่อนค่ะ เดินเข้าไปที่ซุ้มโค้งด้านหน้าอาคารตามรูปข้างบนนะคะ ก็จะเจอประตูทางเข้าค่ะ

เข้าไปก็เจอดิสเพลย์ตัวนี้ก่อนค่ะ

เดินเบี่ยงไปทางขวามือ ก็จะเจอที่ให้หยิบเอกสารค่ะ จะมีเอกสารเกี่ยวกับมิวเซียมที่อื่นด้วยค่ะ

เพดานอาคารหลังนี้ค่ะ สวยดี

จากนั้นก็เดินไปติดต่อที่เคาน์เตอร์นี้ค่ะ

ระหว่างรอคิว ก็เห็นโปสเตอร์ตัวนี้ค่ะ ตัวเดียวกับที่เห็นในนิตยสารของ SQ น่ะแหละ

ค่าบริการก็ตามนี้ค่ะ ผู้ใหญ่ 10 เหรียญ (ประมาณ 240 บาทค่ะ) (มีสมาชิกรายปีด้วย โอ้..ช่างน่าอิจฉาเสียนี่กระไร)

ที่นี่ใช้บัตรเครดิตได้นะคะ หลังจากรูดบัตรแล้วก็ได้เอกสารมาดังนี้ค่ะ

ไล่จากบนลงล่าง ก็จะมีสติกเกอร์ให้เราติด โบรชัวร์เซอร์วิซต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์ แล้วก็คล้ายๆ map อันหนึ่ง ส่วนอันล่างนั่นเป็นหนังสือที่เคยให้ดูแล้วนะคะ ที่เราใช้เป็นคู่มือในการเดินทางไปเที่ยวยังจุดต่างๆ น่ะแหละค่ะ

พอได้เอกสารมา เราก็ไม่แน่ใจว่า ต้องขึ้นไปที่อาคารนี้เลยหรือเปล่า ก็เลยเดินไปดู directory ของเขาค่ะ

แต่พอเห็นคนส่วนใหญ่ เขาไม่เดินขึ้นอาคารนี้กัน (อาคารด้านหน้าที่ซื้อตั๋วเนี่ยค่ะ) แต่กลับเดินทะลุไปด้านหลัง เราก็เลยเดินตามไปค่ะ ก็เจอเจ้าหน้าที่ สอบถามเขาเขาก็บอกว่า ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ คืออาคารด้านหลัง ต้องไปดูที่อาคารนี้ค่ะ

ซึ่งก็ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อน (หันหลังให้อาคารด้านหน้า บันไดเลื่อนนี้จะยังอยู่ทางขวามือค่ะ) พอขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เลี้ยวซ้ายเดินไปที่อาคารแก้วๆ เมื่อกี๊ค่ะ

เนี่ยค่ะ ขึ้นบันไดเลื่อน เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอทางเดินสำหรับเข้าไปสู่พิพิธภัณฑ์ค่ะ

ส่วนทางขวามือ ก็เดินไปอีกทางหนึ่งค่ะ แต่โคมไฟบนเพดานเค้าเก๋มาก แกว่งไปมาอัตโนมัติได้ด้วย ชอบๆ

จากนั้นก็เดินไปสู่ทางเข้าค่ะ

ก็จะเจอเจ้าหน้าที่ ยื่นอุปกรณ์ให้ค่ะ หนึ่งคนต่อหนึ่งชุด (ให้ยืมนะคะ ไม่ได้ให้เลย)

เข้าไปด้านในก็จะเจอห้องมืดๆ ก่อนค่ะ จะเป็นส่วนของ Singapura : A Day in the Life

ซึ่งเครื่องมือที่เราได้รับมา ก็จะเป็นเครื่องมือที่ช่วย "อธิบาย" แต่ละจุดภายในพิพิธภัณฑ์ค่ะ

หน้าตาก็อย่างนี้น่ะค่ะ (แต่มีหูฟังต่อมาจากเครื่องนี้ด้วยนะคะ)

ซึ่งตรงไหนเราต้องกดอะไร ก็ให้ดูที่พื้นเป็นหลักค่ะ อย่างตรงนี้เป็นจุด 01 เราก็กด 01 แล้วก็กด GO มันก็จะมีเสียงบรรยายให้ค่ะ (แต่ไม่มีภาษาไทยนะคะ) เก๋อ้ะ ชอบบบบบบบบบบบ

ออกจากห้องเมื่อกี๊ ก็จะเป็นทางเดินโค้งๆ ลงด้านล่างค่ะ ระหว่างเดินก็กด 02 แล้วก็โก เหมือนเดิมค่ะ จะมีเสียงบรรยายอีกเช่นกัน (ขออภัยที่จำเนื้อหาหลักไม่ได้แล้วนะคะ แหะๆ)

เดินลงมาถึงสุดทางของด้านล่าง ก็จะเจอลูกศรให้เดินเข้าไปทางขวามือค่ะ แต่แปลกตรงที่เจอ 07 ก่อนค่ะ แต่ก็กดตามเค้านะ แหะๆ

ลงมาก็เป็นด้านล่างของที่เราเข้ามาตอนแรกเมื่อกี๊แหละค่ะ

ตรงจุดนี้จะเป็นเลข 03 ด้วยค่ะ แต่ช่วงแรกๆ นี่ขอบอกว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แหะๆ

โซนแรกนี้จะเป็นเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์สมัยยังมีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกน่ะค่ะ

โซนนี้จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร จะบอกว่าตอนภูเขาไฟระเบิด แต่รูปด้านข้างๆ เหมือนซากบ้านเรือนด้วย ก็เลยไม่ขอฟันธงแล้วกันค่ะ

ถ้วยโถโอชาม และตัวอักษรต่างๆ ในสมัยโบราณค่ะ

พ้นจากตรงโซนเมื่อกี๊มาก็จะเข้าสู่ห้องนี้ค่ะ

ซึ่งจากโถงตรงนี้ จะเห็นป้ายสองสีนะคะ เป็นความ "แปลก" อีกอย่างของที่นี่ค่ะ

ตรงบริเวณนี้ จะเป็นเลข 06 ค่ะ ซึ่งพอเรากดปุ๊บ มันก็จะบอกว่า ขณะนี้ เราถึงทางเลือกแล้ว

นั่นก็คือ เราต้องเลือกว่าจะไปศึกษา+เรียนรู้ทางด้าน Events Path หรือ Personal Path ค่ะ ซึ่งเราเลือกแล้ว ก็ต้องเดินไปตามทางนั้นเลย เพราะทางมันจะแยกกันตลอด (จะมีบรรจบให้เห็นกันได้แค่บางช่วง)

ตอนแรกก็คิดนานอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าตัว Events เราน่าจะหาหนังสืออ่านได้ แต่ตัว Personal นี่ น่าจะหาอ่านยากกว่า ก็เลยเลือก Personal ค่ะ (หรืออยากรู้อยากเห็นเรื่องของชาวบ้านก็บอกมาเต๊อะ

)

แล้วถ้าเป็นเพื่อนๆ คิดว่าจะเลือกทางไหนกันคะ?

เดินเข้ามายัง Pesonal Path ก็จะเจอห้องนี้เป็นห้องแรกค่ะ

ห้องนี้จะเป็นหมายเลข 10 ค่ะ

จากนั้นเดินต่อไปอีกนิดจะเป็นหมายเลข 15 ค่ะ ซึ่งตรงนี้จะมีจุดย่อยหลายจุดด้วยกันค่ะ

ซึ่งคราวนี้พอเรากด 15 ปุ๊บ มันขึ้นมาถามว่า ตอนนี้คุณอยู่ในโซนไหน

John Crawfurd หรือ
Van der Capellen

อย่างตาคนนี้ ก็คือ John Crawfurd ค่ะ จะเห็นว่าข้างๆ รูปจะมีสีแดงๆ อักษร I อยู่ด้วย ซึ่งก็จะตรงกับในจอไกด์อัตโนมัติเมื่อกี๊นะคะ

ส่วนตรงรูปวาดตรงโซนนี้ที่มีหลายๆ รูปก็มีให้เลือกฟังเป็นรูปๆ ไปค่ะ

อย่างรูปนี้ก็จะเป็น Slave girls&gaming ค่ะ

ส่วนอันนี้ก็จะเป็น The Deal on the Hill ค่ะ

จากนั้นก็เดินเข้าสู่โซนต่อไป

ก็จะเจอตาคนนี้มาเล่า เราก็กดฟังอีกเช่นเคยนะคะ ตามหมายเลขแหละค่ะ

แล้วก็ยังคงเป็นโซน 25 อยู่ค่ะ จะมีหลายบุคคลที่ให้เรียนรู้ อย่างจุดแรกนี่ก็เป็น George Earl ค่ะ

จากนั้นก็เข้าสู่โซนต่อไปค่ะ เอ่อ..เรื่องเนื้อหา คงไม่ได้สาระอะไรนักนะคะ เง่อ..ขออภัยด้วย ดูภาพเอาแล้วกันค่ะ (เพราะความจำเราปลาทองมากๆ แหะๆ) แต่ชอบแสงที่จัดในนี้ค่ะ (แม้จะทำให้ถ่ายภาพยากมากมายก็ตาม)

ถ้าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มก็บอกได้นะคะ ตรงโซนนี้จะเป็นโซนที่สอง เป็นเรื่องราวของ Prisoner Chetoo

ตรงนี้จะเป็นเรื่องราวแบบผู้หญิงๆ ค่ะ เท่าที่จำได้ (จากสมองอันน้อยนิด) ตรงนี้เค้าทำเหมือนเป็นบทพูด บทละครด้วยค่ะ แบบประมาณสาวๆ นั่งเม้าท์ๆ กันน่ะค่ะ แหะๆ ตรงนี้ยังเป็นส่วนของเลข 35 อยู่นะคะ (ดูจากมุมขวาบนค่ะ)

จุดต่อไปเป็นจุดที่ 39 ค่ะ ตอนนั้นเราก็เร่งแล้ว เพราะเวลานัดเริ่มกิจกรรมคือ 10.00 น. เราก็เลยได้แต่เริ่มเก็บๆ รูปอย่างเดียวแล้วค่ะ

จากผนังตรงรูปในรีพลายที่ 57 ถ้าเลี้ยวซ้ายไปก็จะยังไปในส่วนของ Personal อยู่นะคะ (จะเห็นป้ายแดงๆ ส้มๆ)

ส่วนถ้าไปทางขวา ก็จะไปในโซนของ Event ได้ค่ะ (เห็นป้ายน้ำเงินในเงามือทางขวามือของรูปมะคะ?)

แต่เราเลือกแล้วคือเลือกเลย ยังยืนยันจะไปยังเส้นทางของ Personal Path ต่อไป

โซนนี้จะออกแนวผู้หญิงๆ หน่อยค่ะ (ชอบแสงห้องนี้จัง สวยอ้ะ)

ตรงโซนนี้ จะมีที่ให้นั่งดูภาพยนตร์สั้นด้วยค่ะ แต่เราไม่มีเวลา เลยได้แค่เก็บรูปมาอะนะคะ

คือ..ถ้าเอาตามจอของไกด์อัตโนมัติ โซนนี้จะมีเรื่องราของ Sophia Blackmore ด้วยค่ะ แต่เราไม่แน่ใจว่าเป็นคนในรูปไหน เลยไม่ขอชี้ชัดค่ะ

แต่ถ้าใครอยากอ่านข้อมูลของเธอเพิ่มก็ตามลิงค์นี้นะคะ

//www.singapedia.com.sg/entries/b/blackmore_sophia.html

สำหรับในจอ ถ้าเราคลิกส่วนของโซเฟีย ก็จะมีเมนูย่อยให้เลือกอีกค่ะ ตามรูปล่างเลยนะคะ

โซน 47 ก็มีมุมหนึ่งเป็นข้าวของเครื่องใช้ค่ะ

ชอบตรงกองขวามือ นี่เอาไว้ใส่ของเวลาเดินทางของคนมีตังค์เค้าหรือเปล่าคะ?

ส่วนคนนี้ ไม่แน่ใจว่า..เป็นดาราคนหนึ่งของเขาหรือเปล่านะคะ
(คือ..ณ ตอนนี้ใกล้ถึงเวลานัดกับทางโนเกียแล้วค่ะ เลยได้แต่ถ่ายรูป ไม่ได้เก็บข้อมูลอะไรมาเลย

)

ต่อไปเป็นโซนที่ 55 มี 4 ส่วนที่น่าสนใจ

ในโซนนี้จะมีสองรูปนี้ค่ะ (ช่วงนี้ไม่ได้ฟังอะไรมากแล้วค่ะ พยายามทำเวลาสุดๆ ใครได้ไปอีก ช่วยมาทำรีวิวที่ดีกว่าที่เราทำแล้วกันนะคะ)

หมดโซนเมื่อกี๊ ก็มีแยกในส่วนของ Personal กับ Events อีกแล้วค่ะ

ต่อไปเป็นโซนที่ 66 มี 4 ส่วนที่น่าสนใจนะคะ

โซนนี้ถ้าจำไม่ผิดจะเป็น Girl Soilders ค่ะ

โซนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็น resistance fighter หรือเปล่านะคะ

โซนต่อไป 67 ค่ะ

โซนต่อไป 75 ค่ะ (คิดว่ามุมซ้ายบนนี่คือชื่อโซน หรือบอกช่วงเวลาของโซนนั้นๆ ด้วยค่ะอย่างอันนี้ก็เป็น Merdeka 1945-1959)

เดี๋ยวนี้พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ก็จะมีโซนนี้นะคะ เราเรียกว่า โซนนอสตราเจีย (ที่พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ก็มีค่ะ) ทำให้นึกถึงวัยเยาว์ของตนเอง 555+

ต่อไปเป็นโซนที่ 80 ค่ะ

มีที่ให้นั่งดู+ฟังอะไรซักอย่างด้วยค่ะ แต่..ไม่มีเวลาแล้ว (ไม่น่ามาที่นี่ตอนเวลามีน้อยจริงๆ ค่ะ)

ต่อไปเป็นโซนที่ 82 ที่พื้นมีทำอะไรเก๋ๆ ด้วย แต่ไม่ได้ศึกษาไม่ได้ดูอะไรทั้งสิ้น ถ่ายๆๆ รูปอย่างเดียวเลย

เครื่องใช้ไฟฟ้าในสมัยก่อนค่ะ (ใครก็ได้ช่วยบอกที ไอ้รูปแรกซ้ายมือสุดนี่ มันเป็น "ทีวี" เหมือนกับอีกสองอันที่วางข้างๆ จริงๆ เหรอคะ

)

ตัวนี้ ถ้าจำไม่ผิดเป็น VTR งานอะไรซักอย่างของเขาค่ะ

และนี่ น่าจะเป็นโน้ตเพลงชาติเค้านะคะ

จากนั้นก็ต้องคืนไกด์อัตโนมัติและหูฟังที่นี่ค่ะ ที่จริงเค้ามีให้ทำแบบสอบถามด้วย แต่เราไม่สามารถคืนแล้วก็รีบกลับเลย เพราะจะไม่ทันที่นัดไว้แล้วค่ะ

หันหน้าเข้าเคาน์เตอร์ ตรงข้างๆ ที่คืนนี่แหละค่ะ เป็นทางออกนะคะ

การเดินทางขากลับ เราตัดสินใจกลับด้วย MRT ค่ะ จากพิพิธภัณฑ์ หันหลังให้พิพิธภัณฑ์ก็เดินไปทางซ้ายมือค่ะ ผ่าน YMCA

ตรงอย่างเดียว จนกระทั่งเจอแยกนี้ ก็ข้ามไปค่ะ (ข้างหลังอาคารสี่เหลี่ยมซ้ายมือสีเทาๆ นี่ ก็จะเป็นทางลง MRT แล้วค่ะ)

เดินเหนื่อยหนึ่งแฮ่กอยู่เหมือนกันค่ะ หันกลับไปจากที่ข้ามมาเมื่อกี๊ จะเจอโบสถ์หลังนี้ด้วยค่ะ

และแล้วก็เจอทางลง MRT แล้ว เย้ๆ สถานีนี้จะเป็นสถานี Dhoby Ghaut ค่ะ

สรุปแล้วสำหรับที่นี่นะคะ

ควรมีเวลาอย่างน้อย ย้ำ! อย่างน้อยนะคะ 2 ชั่วโมง (เรามีเวลาแค่ 1 ชั่วโมงนิดหน่อยเองค่ะ) ถึงจะเที่ยวได้แบบครบค่ะ (จะเห็นว่า กระทั่ง Foam Party เราก็ยังไม่มีเวลาดู เซ็งจิต

) แล้วถ้ามีจัด event พิเศษๆ (อย่างโฟมปาร์ตี้) ก็ต้องใช้เวลาเพิ่มอีกค่ะ

แล้วก็..เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการฟังภาษาอังกฤษได้ด้วยนะคะ เพราะแต่ละจุด ไม่ค่อยมีให้อ่านเท่าไหร่ค่ะ เน้นฟังจากเครื่องมากกว่า

เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ใครชอบที่จะเรียนรู้เรื่องราวของแต่ละประเทศ ก็น่าที่จะลองไปท่องเที่ยวดูนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาที่บล็อกเรานะคะ

519489/4295/379

Create Date : 05 ตุลาคม 2552

Last Update : 7 ตุลาคม 2552 18:18:26 น.

34 comments

Counter : 4494 Pageviews.

จะหลงไหมเนี่ย..

หลังไมค์โตย

โดย: อั๊งอังอา

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:9:18:53 น.

ขอตามมาเที่ยวสิงคโปร์ด้วยคนนะคะ ชีวิตนี้คงจะไม่ได้ไปแน่ๆ ค่ะ เพราะรู้สึกว่าของจะแพง ฮี่ๆๆๆ

โดย: เบบูญ่า

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:9:29:35 น.

แวะมาทักทายกันวันจันทร์หลังวันออกพรรษาจ้าครูเต้ย
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวชมสิงค์โปร์นะคะ

โดย: หอมกร

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:12:48:26 น.

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
ไว้จบเรื่องยุ่ง ๆ และมีโอกาสไปเที่ยว ต้องขอคำแนะนำจาก จขบ นะคะ

โดย: The Best of Me

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:13:11:32 น.

โอ้ว...ตามบล็อกนี้ไปเที่ยวทีไร เต็มอิ่ม จุใจเหมือนได้ไปด้วยตัวเองจริง ๆ

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ

หายเหนื่อยแล้ว ที่กระทู้ RRR ยังรอความคิดความเห็นอยู่นะคะ

โดย: แม่ไก่

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:14:50:35 น.

สวัสดีค่ะ

อลังการงานสร้างจริง ๆ ค่ะ

เห็นแล้วอืม ขอบคุณที่นำมาให้ชมค่ะ

เพราะถ้าไม่มีคุณ ไม่มีสิทธิ์ได้ชมเป็นแน่แท้

ขอบคุณนะคะ

โดย: raya-a

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:17:15:29 น.

ตามมามุงๆ ค่ะ ตามมามุง อยากไปด้วยจริงๆ ค่ะ มาขอแอดด้วยนะคะ จุ๊บๆ

โดย: Thairabian

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:19:29:12 น.

สวัสดีค่ะ ...

มาปิดทริปซะแล้วเหรอค่ะ .. เราว่ามาเที่ยว
แบบนี้สั้นๆแต่ว่าก็คุ้มค่าเหมือนกันนะค่ะ
เพราะว่าได้ไปหลายที่เหมือนกัน

เราชอบ SQ คะ เพราะว่าสะดวกมาก
ในการไปเยือนเอง ไม่ว่าจะการเดินทาง
การสื่อสาร เราว่าเค้าเอื้อประโยชน์มากๆ เลย
สำหรับคนที่พูด eng ได้น่ะคะ แม้ว่านิดหน่อย
ก็สามารถไปเองได้ไม่น่ากลัวอะไรเลย
พูดแล้วอยากไปอีกจัง ..
.................

เราจำชื่อพี่เค้าไม่ได้ค่ะคุณสาวไกด์ ..
แต่ว่าจำหน้าได้ดี ... หลังจากไป SQ ทริปโน้นแล้ว
พักเล็กๆ เราก็เจอกับพี่เค้าที่ ลป. อีกครั้งค่ะ
เพราะว่าคุณลุงพี่เค้าเป็น ผวจ. ที่ลำปาง
พอพี่เค้าแวะมา ลป. ก็เลยได้เข้าจวนผู้ว่า
เพราะว่าแวะไปหาพี่เค้านี่ล่ะคะ ...
แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แง่วๆ

โดย: JewNid

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:20:38:50 น.

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะคุณสาวไกด์ฯ

เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าอ่านใหม่

โดย: กล้ายางสีขาว

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:21:07:25 น.

คุ้มมั้ยครับเนี่ย อิอิ

โดย: kirofsky

วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:21:11:35 น.

สวยน่าเดินดีจริงๆ อะ ชอบจัง

โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 121.4.64.114 วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:22:26:31 น.

แวะมาทัวร์สิงคโปร์ต่อกับพี่สาวไกด์ฯครับ
ไม่มีความคิดเห็นครับ มีแต่ความอยากไปอ่ะ

ปล. เล่มนั้นอาจจะได้เอามาใช้ตอบในโครงการหน้าหนาวก็ได้ครับ อิอิ

โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน

) วันที่: 5 ตุลาคม 2552 เวลา:23:16:53 น.

งวดนี้ไม่มีของกินเหรอคะ (ตะกละอย่างเห็นได้ชัด 555)

โดย: ทินา IP: 81.111.167.185 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:5:31:48 น.

^
^
ว่าจะถามเหมือนกัน

wow พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสิงคโปร์น่าเที่ยวมากเลยค่ะพี่ TBH อยากให้เมืองไทยทำพิพิธภัณฑ์ให้ได้แบบนี้บ้างจัง แบบมีครบทั้งข้อมูล อุปกรณ์และเทคโนโลยี เพราะจะดึงดูดความสนใจจากคนได้มากเลย โดยเฉพาะเด็กๆ

อ้าว เริ่มเปิดประเด็นเครียดแล้วตู

โดย: ThE BooK@HoLiC

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:11:21:56 น.

ชอบมิวเซียมที่สิงคโปร์ค่ะ เราว่าเขาทำดีเเละไม่น่าเบื่ออ่ะ

โดย: กอหญ้าพาฝัน

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:12:21:38 น.

วันนี้แวะมาอ่านและมาเที่ยวพร้อมๆกันค่ะ

โดย: กล้ายางสีขาว

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:14:12:17 น.

+ โทษทีขอรับครูเต้ย สัปดาห์ที่แล้วพี่มัวไปหมกมุ่นกับเทศกาลบางกอกฟิล์ม (5 วันดูไป 11 เรื่อง! มีลาพักร้อนไปดูวันนึงด้วย) ก็เลยรู้สึกหมดแรงเป็นอันมากกับการเข้าบล็อก ... โชคดีที่ 3 เอนทรี่ที่แล้วอยู่ในกรุ๊ปนี้ทั้งหมด พี่เลยย้อนรอยตามไปอ่าน & เม้นต์ให้ครบเรียบร้อยหมดแล้วจ้า

+ เอ่อ! ตอนไปทำไมพี่ถึงไม่รู้เลยนะ ว่ามีพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ด้วย แถมดูจากชื่อป้ายรถใต้ดิน รู้สึกจะอยู่ใกล้ที่พักด้วยอ่า เสียดายที่ไม่ได้ไปชม ... แต่ตามมาอ่านที่บล็อกครูเต้ยก็จุใจเหมือนได้ไปเองเลยอ่ะครับเนี่ย อุๆ

(สำหรับประเด็น ความเห็นเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์เมืองไทย ไปเขียนไว้ในเอนทรีที่แล้วเรียบร้อยแล้วนะคร้าบ)

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:15:37:48 น.

ป้ายรถเมล์เหมือนป้ายราคาน้ำมันบ้านเราเลยค่ะ

รถถังสีชมพู้ ชมพู น่ากลัวที่ซู้ด

โดย: อาราเล่ กะ กั๊ตจัง

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:16:42:20 น.

แวะมาคิดถึง ภาพสวย แหล่มจ๊ะ

โดย: อุ้มสี

วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:19:21:15 น.

อิๆ ยินดีค่ะและจะมาเกาะบล็อกเที่ยวด้วยประจำ จุ๊บๆ

โดย: Thairabian

วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:0:05:22 น.

ปล.จากบล็อกพี่แป๊ด เชียร์ป๋าอัจฉริยะฯอีกแรงค่ะ ดีจริงๆน้า ถ้าอยู่ไทยจะไปหาให้เลยนะเนี่ย (ทุ่มทุนสร้าง หุหุ)

โดย: ทินา

วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:6:37:54 น.

หวาดดีคะพี่ไกด์
แวะมาฝากความคิดถึงคะ

มีความสุขมากๆนะคะ

โดย: weraj

วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:10:39:57 น.

อยากลองไปแบบเที่ยวเองเหมือนกันค่ะคุณไกด์ ไปต่างประเทศทีไรได้แต่ไปทำงานค่ะ ไปถึงจากแอร์พอร์ตก็ต้องดิ่งไปโรงแรมเลย ก่อนงานก็เตรียมงาน ระหว่างงานก็ไปไหนไม่ได้ เสร็จงานก็เพลียจัด รู้ตัวอีกทีถึงแอร์พอร์ต เตรียมตัวบินกลับอีกแล้ว เง้อ...

โดย: อ้อ (sandseasun

) วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:11:01:03 น.

...

+ แล้วถ้าเป็นเพื่อนๆ คิดว่าจะเลือกทางไหนกันคะ?

ถ้าได้ไปจริงคงงกดูทั้งสองทางเลยครับ

+ ป้ายผ้าหน้าโบสถ์
แว่บแรกนึกว่าเป็นโฆษณาหนัง ทรานสฟอร์มเมอร์

ตกลงมันคืออะไรครับ?

+ มี พิพิธภัณฑ์ เจ๋งๆนี่มันดีจังนะครับ

ปล. หลังไมค์ ไปหาพี่แล้วเน้อ... ฟาร์มวิลลว์

โดย: The Legendary Midfielder

วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:11:53:31 น.

"เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการฟังภาษาอังกฤษได้ด้วยนะคะ"

แป่ว... แล้วถ้าผมไปจะฟังรู้เรื่องถึง 50% มั๊ยเนี่ย...

ดูแล้วก็น่าจะเพลิดเพลินดีนะครับ น่าจะฝังตัวอยู่ในนั้นทั้งวันได้ไม่ยาก (แต่รีวิวละเอียดดีมาก ยังกะผมเดินตามหลังไปด้วยแน่ะ)

เฮ้อ... อยากไปเมืองนอกบ้างอ้ะ (ก็เก็บตังค์ซะทีสิเฟ้ย)

โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 202.134.119.218 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:13:31:00 น.