~* ~* ~* ~* ~* ~* วัดพระเขี้ยวแก้ว ณ สิงคโปร์ ~* ~* ~* ~* ~* ~*
สวัสดีค่ะทุกท่าน หลังจากรีวิวที่พักและที่เที่ยวที่แรกคือ สิงคโปร์ฟลายเออร์ (คลิกเพื่ออ่าน) ไปแล้ว วันนี้จะมารีวิววัดพระเขี้ยวแก้ว นะคะ เริ่มต้นการเดินทางจากสถานี MRT City Hall ซึ่งอยู่ติดสนิทแนบกับ Swissotel เลยแหละค่ะ ลงบันไดเลื่อนตามรูปข้างบนนี้ไป มองไปทางขวามือ ก็จะเจอ Citylink Mall ค่ะ และ Raffle City Shopping Center ผู้อยู่ติดกับรร.เราเช่นเดียวกันเราก็ใช้บัตร Ezylink ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2006 (3 ปีเข้าไปแล้ว) เติมเงินก่อนค่ะ (บัตรสีฟ้าๆ ทางขวาบนๆ น่ะค่ะ เห็นมะคะ?) เอาบัตรวางไว้ตรงที่บัตรสีฟ้าน่ะแหละค่ะ แล้วก็มีรายการให้เลือก เราก็เลือก Add Value ค่ะ (รายการฝั่งขวา อันที่สอง) จะเห็นว่า ค่าของบัตรที่เหลืออยู่คือ 0.73 เหรียญสิงคโปร์ค่ะ ก็มีให้เลือกว่าจะเติมเงินแบบไหน เราก็เลือก cash (เงินสด) จากนั้นก็ใส่เงินไปค่ะ (อย่างน้อยต้องเติม 10 เหรียญสิงคโปร์นะคะ) แล้วเครื่องก็รับแค่ 2 5 10 50 เหรียญเท่านั้น จากนั้นก็ใส่แบงค์ไปที่ช่องนี้ค่ะ จากนั้นเขาก็จะให้เราเอาการ์ดออก โดยบอกว่า ตอนนี้มูลค่าในการ์ดมีเท่าไหร่แล้วค่ะ การคอนเฟิร์มว่าเอาบัตรออกได้แล้วก็คือ ไฟสีฟ้าๆ ตรงที่วางการ์ดจะสว่างขึ้นค่ะ จากนั้นเราก็ขึ้นมาจาก MRT ค่ะ (อ้าววววววววววว ) เราแค่ไปเติมบัตร เพราะจะเอาไปขึ้นรถเมล์ค่า แล้วก็ข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้ามกับรร.ทางฝั่งโบสถ์นะคะ ข้ามไปแล้วก็เลี้ยวขวาเดินเลาะข้างๆ รั้ว ให้รั้วอยู่ทางซ้ายมือเราไปเรื่อยๆ ค่ะ สุดขอบรั้วก็เลี้ยวซ้ายไปเพื่อจะไปที่ป้ายรถเมล์ค่ะ ไปที่ป้าย B05 North Bridge Road ค่ะ รถที่จะจอดที่ป้ายนี้ก็ตามป้ายนี้เลยค่ะ ที่จริงดูจากในแผนที่ รถเมล์สายที่ไปจอดที่ป้ายตรงข้ามวัดเลยจะมีสาย 80 กับ 145 ค่ะ แต่มีอีกป้ายที่ห่างออกมาหน่อย อยู่ก่อนถึงวัดพระเขี้ยวแก้วก็จะมีสาย 61 166 197แต่สายที่มาก่อนคือ 166 ค่ะ เวลาขึ้นก็ขึ้นประตูหน้าค่ะ ใช้บัตร Ezylink แปะตรงเครื่องนี้ค่ะ วิ่งผ่านตรงนี้ค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าคืออะไร แล้วก็ข้ามสะพาน ผ่าน Clarke Quay ผ่านแยกไฟแดง 1 แยก และผ่านสวนอย่างนี้ค่ะ เราก็ดูแผนที่ไว้เป็นหลักค่ะ เป็นแผนที่ที่อยู่ในหนังสือการท่องเที่ยวที่เขาแจกฟรี ซึ่งเราหยิบมาจากสนามบินค่ะ หนังสือแบบนี้ค่ะ แล้วก็จะผ่าน Hong Lim Complex จนมาติดไฟแดงที่แยกนี้ ก็แสดงว่าใกล้ China Town แล้วล่ะค่ะ เข้าสู่ถนนเส้นนี้ค่ะ แล้วก็ลงที่ป้ายแรก เลย ต้องสแกนบัตรก่อนลงด้วยค่ะ ป้ายนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับร้านรังนกร้านนี้ค่ะ มองไปฝั่งตรงข้าม เยื้องไปด้านหน้า ก็จะเห็นวี่แววของวัดพระเขี้ยวแก้วอยู่ไม่ไกลนักค่ะ เดินไปหนึ่งเหนื่อยก็เจอแล้วค่ะ วัดพระเขี้ยวแก้ว นี่คือป้ายรถเมล์ฝั่งตรงกันข้ามนะคะ จะใกล้กว่าป้ายที่เราลง สายที่จอดคือ 80 กับ 145 ค่ะ ว่าแล้วก็เตรียมตัวเดินเข้าไปดีกว่าค่ะ ผ่านทวารบาล ป้องกันเพทภัยต่างๆ ด้วย ก่อนเดินเข้าไปค่ะ ที่ป้ายค่ะ ใครเก่งๆ ภาษาอังกฤษก็บอกหน่อยนะคะ สร้างถวาย (ให้) หรือ (โดย) พระสังฆราชสิงคโปร์คะนี่? สงสัยว่า 17 พฤษภา แล้วไหงตอนเดือนพุทธ ถึงเป็นเดือน 4 หว่า? ปกติมันต้องเดือน 6 มิใช่ฤา? ผ่านประตูที่มีทวารบาลเมื่อกี๊มา ก็จะเป็นอีกอาคารหนึ่งค่ะ กระถางธูปอยู่ด้านนอกค่ะ เห็นพระพุทธรูปด้านในอยู่ไกลๆ นะคะ มุมทางขวามือมีที่แจกเอกสารด้วย แล้วก็มีโปสเตอร์ เหมือนๆ โปรโมทการให้เช่าพระน่ะค่ะ สองอันนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ที่มีผ้านุ่งให้ใส่ สำหรับใครที่นุ่งสั้นมานะคะ (แต่ไม่ทราบว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเปล่าค่ะ) มีธูปและที่จุดธูปบริการค่ะ ก็บริจาคตามศรัทธา ที่นี่ให้ใช้ธูปแค่ดอกเดียวนะคะ ตอนไปนั่น เป็นช่วงก่อนเทศกาลเข้าพรรษาค่ะ เอกสารก็มีบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องเข้าพรรษาด้วย เดินเข้าไปในอาคารก็จะเจอแท่นสำหรับวางเทียน+ดอกไม้ถวายอยู่ตรงกลาง ใกล้ๆ กับทางเข้าค่ะ มองไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอที่ขายเทียน+ดอกไม้ที่เซ็ตเป็นชุดๆ ไว้ค่ะ ราคาก็มีทั้ง 5 เหรียญ (ราวๆ 120 บาท) ก็จะเป็นแค่เทียนในถ้วยแก้ว ถ้าราคา 10 เหรียญ (ราวๆ 240 บาท) ก็จะมีมาลัยคล้องมาให้ด้วย และถ้า 20 เหรียญ (ราวๆ 480 บาท) ก็จะดูอู้ฟู่ขึ้นมาหน่อย เป็นกึ่งๆ เชิงเทียนค่ะ ดอกไม้ประดับก็จะเยอะหน่อย เราก็เดินทางสายกลางค่ะ เอาแค่ 10 เหรียญพอ (ที่จริงแล้วไม่มีเงินนั่นเอง )แต่ได้ถ้วยสีเดียวกับแบบ 5 เหรียญมาแฮะ แล้วก็มีที่จุดไฟแบบไฮเทคมาด้วย (ด้ามสีแดงๆ อะค่ะ) ถ้าซื้อตั้งแต่ 10 เหรียญขึ้นไป สามารถใช้บัตรเครดิตได้นะคะ จุดแล้วก็อธิษฐาน ถวายท่านค่ะ จากนั้นก็ไปมองไปทางด้านข้างๆ ของวิหารค่ะ (หรือวัดหว่า?) ก็จะเจอพระพุทธรูปทั้งขนาดกลางกับขนาดเล็กเต็มเลย ไปสำรวจผนังด้านข้างๆ กันมั่งค่ะ พระพุทธรูปองค์ขนาดกลางและเล็กค่ะ เดินลึกเข้าไป จะเจอพระพุทธรูปอีกแบบค่ะ ซึ่งมีทั้งองค์ขนาดกลางและองค์เล็กอีกเช่นกัน แต่ละช่วงของผนัง จะเป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อแต่ละองค์แล้วค่ะ ซึ่งก็จะเป็นพระที่ปกปักรักษาแต่ละปีเกิด อย่างท่านนี้ Akasagarbha (อ่านว่าอะไรกันนี่?) เป็นผู้คุ้มครองปีเสือและปีวัว ให้บูชาในราคาองค์ละ 88 เหรียญ (ราวๆ 2080 บาท) ค่ะ (คนสิงคโปร์มีเชื้อจีนเยอะอยู่ค่ะ เลยชอบเลข 8 เหมือนคนฮ่องกงเลย) ส่วนองค์นี้ก็ Manjusri ค่ะ Manjusri คุ้มครองคนเกิดปีเถาะค่ะ (อ้อๆ องค์เมื่อกี๊คุ้มครองสองปีนะคะ คือปีวัวกับปีเสือ แต่องค์นี้คุ้มครองคนเกิดปีเถาะปีเดียว) การจะบูชานั้น ไม่ใช่บูชาองค์ขนาดกลางนะคะ เขาให้บูชาองค์ขนาดเล็กไปค่ะ ซึ่งที่อยู่หน้าแต่ละองค์นั้นก็จะมีแผ่นป้ายอย่างนี้อยู่ ซึ่งจะมีหมายเลขบอกกำกับพระในแต่ละช่อง (พระองค์เล็กที่อยู่รอบๆ องค์กลางน่ะค่ะ) เราก็จะเห็นว่า ที่พระองค์เล็กๆ ที่อยู่รายรอบพระองค์ขนาดกลาง ก็จะมีหมายเลขเหมือนในกระดาษนะคะ แต่ถ้าดูที่องค์เล็ก ก็จะพบว่า เหมือนกันทุกองค์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่รายรอบพระชื่ออะไรก็ตาม คือท่าทางจะไม่เหมือนองค์ขนาดกลางค่ะ อย่างรูปนี้ เราก็ถ่ายพระที่อยู่รอบๆ องค์ Manjusri ค่ะ แต่จะเห็นว่าท่าทางไม่เหมือนกันกับ Manjusri นะคะ ทั้งหมดนี้จะมี 8 องค์ค่ะ แสดงว่ามีหลายองค์ที่คุ้มครองหลายๆ ปีเกิดค่ะ แล้วก็มีที่รับบริจาคอาหารแห้ง สำหรับพระสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษาด้วยค่ะ อยู่ในอ่างขนาดยักษ์เลย จากนั้นเราก็เดินกลับไปยังประตูทางเข้าค่ะ ถ้าหันหลังให้พระประธาน จะมีทางฝั่งซ้ายมือให้ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนค่ะ ใกล้ๆ ลิฟท์ก็จะมีป้ายบอกว่าแต่ละชั้นมีอะไรอยู่บ้างค่ะ ชั้นใต้ดิน 2 3 จะเป็นที่จอดรถค่ะ ส่วนชั้นใต้ดิน 1 (B1) จะเป็นห้องประชุมเอนกประสงค์ และ Theatre ค่ะ แต่พนักงานบอกว่ายังไม่เปิด (เราไปเช้าพอสมควรค่ะ แหะๆ เพราะต้องรีบไป ก่อนจะกลับไปร่วมกิจกรรมกับทางโนเกียง่ะ)ชั้น 1 ชั้นลอย และชั้นสอง ก็ตามรูปเลยค่ะ ชั้น 3 ชั้น 4 และชั้นดาดฟ้า ก็ตามรูปเช่นกันค่ะ แต่ชั้นดาดฟ้านี่ เราขึ้นไปได้แค่ชั้น 4 แล้วก็ต้องขึ้นบันไดต่อไปเองนะคะ ลิฟท์มีสองตัวค่ะ ซึ่งลวดลายภายในลิฟท์ ก็คงคอนเซ็ปมากๆ ภายในลิฟท์ก็จะมีป้ายแดงๆ ตัวอักษรเหลือง บอกอีกทีว่า แต่ละชั้นมีอะไรติดไว้ให้ในลิฟท์นะคะ ถ้าเราจำไม่ผิด เราขึ้นมาที่ชั้น 3 ก่อนค่ะ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าชั้น 2 เปิด 09.00 น. ซึ่งตอนนั้นมันยังไม่เก้าโมง ออกจากลิฟท์เลี้ยวซ้ายก็จะเจอทางเดินอย่างนี้ค่ะ ซึ่งมองไปทางขวา ก็จะเจอประตูทางเข้าค่ะ ตอนแรกเจ้าหน้าที่บอกว่าชั้น 3 กับ 4 ห้ามถ่ายรูป แต่เราไปเจอป้ายที่หน้าทางเข้าของชั้น 3 บอกว่าถ่ายได้ แต่ห้ามใช้แฟลชค่ะข้างในก็จะเป็นคล้ายๆ นิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า พระพุทธศิลป์ต่างๆ น่ะค่ะ เข้าไปปุ๊บ จุดแรกเลยจะเจอจุดให้สรงน้ำพระค่ะ แต่ประวัตินี่แปลกดี เราเคยได้ยินแต่ตอนประสูติ มีดอกบัวรองรับ แต่เรื่องนาค 9 ตัวมาพ่นน้ำนี่ เพิ่งจะมาเจอที่นี่แหละค่ะ แถมมีงานสรงน้ำในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 4 ตามปฏิทินจันทรคติอีกต่างหาก (หรือจะเป็นทางมหายานคะ?) เดินเข้าไปด้านใน จะเจอกับพระนอนค่ะ โดยเขาก็มีป้ายบอกว่า ปกติพระนอนจะเป็นอย่างองค์จำลองในครอบแก้วนี่ แต่องค์นี้มีความพิเศษคือ นอนราบเช่นนี้ (ขออภัย เราจำไม่ได้แล้วว่า ปกติถ้านอนราบ และตาปิดสนิท จะเป็นปางปรินิพพาน แต่องค์นี้ไม่แน่ใจค่ะ วานผู้รู้บอกด้วยแล้วกัน) จากนั้นเราก็เดินไปที่ห้องข้างหลังค่ะ เจอ..เอ่อ..เขาเรียกอะไรอะคะ คล้ายๆ ผ้ายันต์ของธิเบตอะค่ะ อยากรู้รายละเอียดก็อ่านและแปลเอานะคะ แหะๆ จากนั้นก็จะเป็นโกฏิ สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ ซึ่งมีทั้งพระบรมสารีริกธาตุที่มาจาก (ขออภัยที่ไม่ขอใช้ราชาศัพท์นะคะ) สมอง ไขมัน ลิ้น เลือด ฯลฯ มากมายเลยค่ะ (บางอันก็น่าจะเป็นแค่พระธาตุหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนะคะ) อย่างองค์ที่เราพยายามซูมมาให้ดูนี้ เป็นพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่มาจากเลือดค่ะ ห้องนี้เป็นส่วนแสดงพระบรมสารีริกธาตุโดยเฉพาะ (หรือเรียกว่าพระธาตุอย่างเดียวก็ไม่แน่ใจ เพราะเค้าใช้คำว่า relic อย่างเดียว)อ่านเพิ่มเติมจากป้ายแล้วกันนะคะ จากนั้นเราก็เดินออก เพื่อจะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นสี่ค่ะ แล้วก็เห็นกระทาชายนายหนึ่งกำลังถ่ายรูปการสรงน้ำพระอยู่ เป็นการช่วยยืนยันว่า ถ่ายรูปได้จริงๆ (แต่ห้ามใช้แฟลชค่ะ เพราะหลายๆ อย่างก็เป็นโบราณวัตถุที่มีอายุนานเลย) ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 4 เลี้ยวซ้ายเหมือนเดิม ก็จะเจอชั้นวางรองเท้าอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ต้องถอดรองเท้านะคะสำหรับชั้นนี้ (ชั้นเมื่อกี๊ไม่ต้องค่ะ) เพราะชั้นนี้เป็นห้องที่แสดงพระเขี้ยวแก้วนั่นเอง ที่นี่จะมีป้ายห้ามติดไว้หน้าห้องค่ะว่า ห้ามสวมรองเท้าและถ่ายภาพใดๆ ทั้งสิ้นในห้องนี้ เลยได้แค่ถ่ายจากด้านนอกไป 1 ภาพค่ะ แต่ขอบอกว่า ภายในงามมากกกกกกกก สวยมาก และสงบมากค่ะ ในห้องจะมีพระสงฆ์องค์หนึ่งคอยนั่งดูอยู่ด้วยค่ะ หลังจากสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองแล้ว เราก็ขึ้นบันไดไปยังชั้นดาดฟ้าค่ะ โดยตรงไปที่ประตู Exit นี้แล ก็จะเจอบันไดทางขึ้นค่ะ ซึ่งมีเก้าอี้ไฟฟ้า บริการสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในการขึ้นบันไดค่ะ (คนพิการหรือคนชรา ฯลฯ) ระหว่างเดินขึ้นไป ก็จะมีรูปตอนมีงานอะไรซักอย่างที่หน้าวัดนี้ด้วยค่ะ (ท่านใดทราบแจ้งได้เลยนะคะ) พอไปถึงดาดฟ้าปุ๊บ ก็เจอกับสวนหย่อม สวนกล้วยไม้ค่ะ สวยเชียว บนนี้จะเป็นที่ตั้งของอาคารหลังหนึ่งค่ะ ซึ่งภายในจะมี (เอ่อ..จำศัพท์ไม่ได้) ที่คล้ายๆ ระฆัง เอาไว้หมุนๆ ที่หมุน 1 รอบเท่ากับสวดมนตร์ 1 รอบน่ะค่ะ ของธิเบตน่ะ เรียกอะไรหว่า? ซึ่งองค์ใหญ่นะคะ เกือบเต็มอาคารเลย แล้วที่ผนังก็มีพระพุทธรูปเล็กๆ อยู่ค่ะ แต่พระที่นี่จะไม่เหมือนที่อยู่ข้างล่างนะคะ มีหมายเลขด้วย คงให้บูชาอีกน่ะแหละค่ะ แต่อย่าได้คิดขโมยนะคะ มีคำเตือนไว้เสร็จสรรพเลย หุๆ ส่วนกำแพงด้านนอกอาคาร ก็ยังมีพระองค์เล็กๆ สีขาวด้วยค่ะ จะเป็นพระลักษณะนี้ค่ะ จากนั้นเราก็ลงลิฟท์ไปที่ชั้นสอง เจอดิสเพลย์อย่างนี้อยู่ตรงหน้าห้องก่อนค่ะ ชั้นนี้ก็อย่างที่จนท.บอกนะคะ เปิด 09.00 น. แต่เหมือนเป็นร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ และหนังสือมากกว่าอะค่ะ จากนั้นก็เกือบได้เวลานัดแล้วค่ะ รีบหูตูบเลย เราตัดสินใจกลับ MRT แทน พอออกจากวัดก็เลี้ยวซ้าย เข้าซอยนี้เลยค่ะ ถ้าใครมาแถวๆ ไชน่าทาวน์น่าจะพอคุ้นเคยนะ คนไทยนิยมมาซื้อของที่ระลึกกันแถวนี้ค่ะ เพราะราคาค่อนข้างถูก ก็เดินเข้าซอยไปเรื่อยๆ ตรงอย่างเดียวก่อนค่ะ ถ้าจำไม่ผิด พอเจอร้านสวัสดีไทยฟู้ดร้านนี้ เราก็เลี้ยวขวาค่ะ (เพื่อความชัวร์ ดูแผนที่เอาแล้วกันนะคะ) แล้วก็ผ่านร้านหนึ่ง เลยแวะซื้อแบต (เพราะทำท่าจะหมด แหะๆ กลัวอยู่ไม่ครบทั้งวัน) ซึ่งร้านนี้อะค่ะ ที่ฟันอิชั้นหัวแบะไป (ซื้อสนามบินถูกกว่านะคะ) จากนั้นก็เดินตรงยาวววววว จนเจออาคารสีสวยๆ สองหลังนี้ค่ะ ก็เลี้ยวซ้าย เจอทางลง MRT สถานี Chinatown แล้วค่ะ ทางที่ลงนั้น เป็น Exit A นะคะ เราต้องนั่งสายสีม่วงไปลง Outram Park แล้วเปลี่ยนสีเขียวไปลงซิตี้ฮอลล์ หรือจะนั่งสายสีม่วงไปลง Dhoby Ghaut แล้วเปลี่ยนสีแดงไปลงซิตี้ฮอลล์ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยสรุปแล้ว สำหรับที่นี่ เราก็ชอบนะคะ รู้สึกว่าไม่เสียดายเวลาที่ได้ไปง่ะ ตัวห้องที่เป็นที่ประดิษฐานของพระเขี้ยวแก้วงามมาก (ชั้น 4) ตัวชั้นดาดฟ้า ก็โปร่งๆ สวยดีค่ะ ตัวองค์ระฆังก็ดูขลังดี การเดินทาง ถ้าสะดวกนั่งรถไฟใต้ดิน ก็ถือว่าเดินไม่ไกลมากค่ะ (แต่นั่งรถเมล์จะเดินใกล้กว่า แหะๆ)ก็หวังว่าคงจะพอเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่จะเดินทางไปสิงคโปร์บ้างนะคะ สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมรีวิวนะคะ 407852/4283/377
Create Date : 28 กันยายน 2552
Last Update : 28 กันยายน 2552 9:14:44 น.
31 comments
Counter : 12278 Pageviews.
โดย: ปลายเทียน วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:9:38:20 น.
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:9:46:11 น.
โดย: Zantha วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:9:52:52 น.
โดย: JewNid วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:11:08:58 น.
โดย: JewNid วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:12:18:57 น.
โดย: JewNid วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:12:55:41 น.
โดย: Thairabian วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:12:59:16 น.
โดย: คุณย่า วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:13:01:17 น.
โดย: JewNid วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:13:08:09 น.
โดย: อ้อ (sandseasun ) วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:13:57:50 น.
โดย: ตัวp_box วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:14:00:40 น.
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:15:43:18 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:16:25:33 น.
โดย: sawkitty วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:16:35:12 น.
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:21:18:09 น.
โดย: INGING777 วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:17:35:29 น.
โดย: ps_2a วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:19:29:50 น.
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:21:39:02 น.
โดย: somphoenix วันที่: 29 กันยายน 2552 เวลา:22:22:38 น.
โดย: หอมกร วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:8:01:59 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:14:51:18 น.
โดย: กาย IP: 203.144.144.164 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:17:48:10 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [? ]
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide
1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30
###### รีวิว Sapporo Petit Donut และ มาการอง Antoinette สิงคโปร์ ###### * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนที่แปด - พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทปา * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนที่เจ็ด - ถนนสายอาหาร ณ ไทปา โจ๊กปู และไอศกรีม * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนที่หก - City of Dream คาสิโนและโชว์ฟรี * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนที่ห้า - ทาร์ตไข่ท่านลอร์ด และโบสถ์ฯ ณ โคโลอาน * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนสาม - พิพิธภัณฑ์กรังด์ปรีซ์และพิพิธภัณฑ์ไวน์ * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าตอนสอง - วัดเจ้าแม่กวนอิม * + * + * + * + * * + * + * + * + * รีวิวมาเก๊าทริปครบรอบ 3 ปี ตอนแรก ป้อมปราการเกีย * + * + * + * + * * + * + * + * + * ฟาร์มจิม ทอมป์สัน สถานที่เที่ยวแบบ agritourism ที่น่าสนใจ * + * + * + * + * * + * + * + * + * หลวงพ่อโต องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ โคราช * + * + * + * + * * + * + * + * + * Palio บรรยากาศดีๆ ที่เขาใหญ่ * + * + * + * + * * + * + * + * + * ปิดทริปเหนือกับวัดสุโทนมงคลคีรี อลังการงานสร้าง * + * + * + * + * * + * + * + * + * วัดพระูธาตุช่อแฮ จ.แพร่ พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีเสือ * + * + * + * + * * + * + * + * ปิดท้ายวัด จ.น่าน - วัดมิ่งเมือง ปูนปั้นงามละเอียด สักการะศาลหลักเมือง * + * + * + * * + * + * + * + * วัดภูมินทร์ เรื่องเล่าบนจิตรกรรมฝาผนัง * + * + * + * + * * + * + * + * + * วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน พระธาตุประจำปีเถาะ * + * + * + * + * ~* ~* ~* ~* ~* ~* พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ และถนนคนเดินวัวลาย ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* เที่ยวตรังตอนจบ - เจ้าแม่กวนอิมบนเนินเขาและ Plan Toys Outlet ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* เที่ยวตรังตอนที่ 2 - ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี้ยะ ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* เที่ยวตรังตอนที่ 1 - ท่าเรือหาดยาว บ้านท่านคอซิมบี้ ณ ระนอง และต้นยางพาราต้นแรก ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ปิดทริปกับ National Museum of Singapore ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* อีกหนึ่งที่เที่ยวกับ Peranakan Museum@Singapore ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* วัดพระเขี้ยวแก้ว ณ สิงคโปร์ ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* Singapore Flyer ยิ่งสูงยิ่งสวย ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ทริปวันแม่@หัวหิน ตอนที่ 2 เพลินวาน ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* หม่ำ หม่ำ ร้านอาหารที่ปักกิ่ง ร้านที่สี่- อาหารไทยที่ร้านบ้านไทย ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* หม่ำ หม่ำ ร้านอาหารที่ปักกิ่ง ร้านที่สาม - ติ่มซำ ~* ~* ~* ~* ~* ~* * ~* ~* ~* ~* ~* หม่ำ หม่ำ ร้านอาหารที่ปักกิ่ง ร้านที่สอง Wahaha Hotel ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* หม่ำ หม่ำ ร้านอาหารที่ปักกิ่ง ร้านแรก - ปากั๋วปู้อี ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รีวิวที่เที่ยวที่สอง - ลานสกี ปักกิ่ง ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รีวิวสองที่เที่ยวของปักกิ่ง ที่แรก- เมืองน้ำแข็ง หลงชิงเสีย ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รีวิวโรงแรมแรกที่ปักกิ่ง Peninsula Hotel ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* อิ่มหนำที่ Primo Posto เขาใหญ่ ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ไปดูเขาผจญภัยมันส์ๆ กันที่กรีนเนอรี่รีสอร์ท ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ปิดทริปฮ่องกง (ซะที) รีพัลส์เบย์ วัดเชกุง และการเดินทางด้วย AE ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* โชว์ที่โอเชี่ยนปาร์ค (ไอซ์โอดิสซี่) บ้านซานต้า และเดอะพีค ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* Central Mid Level+Ocean Park (เครื่องเล่น) ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* SOL ใครเป็นใครที่ Avenue of Stars และ Mongkok ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* พาเที่ยววัด Wong Tai Sin และ Nan Lian Garden แบบมีไกด์ ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* การเดินทางจากสนามบินสู่ Eaton Hotel ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* กระเช้านองปิง พระใหญ่ วัดโปหลิน และดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รู้จักฮ่องกงมากขึ้นกับ Hong Kong Museum of History และ Science Museum ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ฮ่องกงในอีกแง่มุม กับ Wetland Park Hong Kong ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* การเดินทางวันแรกว่าด้วย "การเดินทาง" ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รีวิวว่าด้วยการเตรียมตัวสำหรับทริปฮ่องกง ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* รีวิวรวมร้านอาหารอื่นๆ ที่รูปหายอีก 4 ร้านค่ะ ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* Mido Cafe ย้อนเวลา ณ Temple Street ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* Lan Fong Yuen เค้าว่าร้านนี้ชาเนียนดุจถุงน่องไหม ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ร้านโจ๊กบ้านๆ Wai Kee Congee Shop ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~* ร้านทาร์ตไข่เจ้าดัง Tai Cheong Bakery ~* ~* ~* ~* ~* ~* ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ รีวิวแรกทริปฮ่องกง - ร้านอาหาร Wong Chi Kei ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวกาดกองต้า ตลาดคนเดินยามค่ำคืนของลำปาง ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ใครไปครั้งเดียวแล้วเก็บได้ครบบ้าง? ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกนุสรณ์ บางบัวทอง (วัดจีน) ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ สามชุก ของกินและของเก่า ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ล่องเรือริเวอร์ไซด์ ดินเนอร์แบบไม่แพง (หรือเปล่า?) ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยวตลาดบ้านใหม่ ฉะเชิงเทราค่ะ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามเหนือ ตอนจบ - วิหารวรรณกรรม ซุปเปอร์เวียดนาม ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ บ้านลุงโฮและเจดีย์เสาเดียว ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ วัดหง็อกเซิน และหุ่นกระบอกน้ำ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เวียดนามเหนือ ตอนที่ ๑ ไนท์มาร์เก็ต อ่าวฮาลองเบย์ และนั่งรถซิคโล่ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวเหนือเมื่อสงกรานต์ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยวลาวใต้ ปากเซ จำปาสัก ตอนที่ ๓ น้ำตกคอนพะเพ็ง กาแฟและรร.ทอแสง ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยวลาวใต้ ปากเซ จำปาสัก ตอนที่ ๒ ปราสาทวัดพู (วัดภู) ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยวลาวใต้ ปากเซ จำปาสัก ตอนที่ ๑ น้ำตกตาดผาส้วม ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาเที่ยวบ่อน้ำร้อน สวนพฤกษศาสตร์ พระตำหนักพระราชชายาฯและวัดพระสิงห์ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ สวัสดีปีใหม่ ซากุระเมืองไทยบนดอยอินทนนท์ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ พาไปเที่ยว Window of the world เมืองเสินเจิ้น ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนจบ ตลาดใต้ดิน ศาลเจ้าขงเบ้ง โชว์หน้ากาก~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๗ เขาง้อไบ๊หลวงพ่อเล่อซาน~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๖ เขื่อนตูเจียงเยี่ยน~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๕ หวงหลง ทะเลสาบเตี๋ยซี~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๔ จิ่วไจ้โกว รอบที่ ๒ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๓ โชว์ธิเบตที่เชอราตัน~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน ตอนที่ ๒ อุทยานสวรรค์จิ่วไจ้โกว ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ เที่ยวมณฑลเสฉวน จิ่วไจ้โกว หวงหลง เขาง้อไบ๊ ตอนที่ ๑ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามใต้ ตอนที่ ๕ วัด และพิพิธภัณฑ์สงคราม ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามใต้ ตอนที่ ๔ ทำเนียบรัฐบาล ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามใต้ ตอนที่ ๓ ไอติมและหอยๆๆๆๆ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามใต้ ตอนที่ ๒ อุโมงค์กู๋จี (Cuchi) ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ซินจ่าวเวียดนามใต้ ตอนที่ ๑ วุงเตา โฮจิมินห์~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอนจบ เมอไลอ้อนพ่นน้ำ,อาหรับสตรีท,ไอศกรีมวาซาบิ ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๔ ไชน่าทาวน์,เซ็นโตซ่า,คล้ากคีย์ ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๓ - Science Center, Eski Bar, Suntec ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๒/๓ อาหารอินเดีย,ไนท์ซาฟารี ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๒/๒ สวนจีน และผู้เฒ่าเต่า ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ตะลุยสิงคโปร์ ตอน ๒ - สวนนกจูร่ง ❤++++++❤ ❤++++++❤ สาวไกด์ฯ ตะลุยสิงคโปร์ สี่คืน ยังกินไม่ครบพบไม่ทั่ว (ตอนที่ ๑) ❤++++++❤ ❤++++++❤ วันนี้มาแนะนำร้านอาหารอร่อย บรรยากาศน่านั่ง ❤++++++❤ ❤++++++❤ อิตาลีแดนในฝัน ตอนจบ มิลาน ❤++++++❤ ❤++++++❤ อิตาลีแดนในฝัน ตอนที่ ๓ หอเอนปิซ่า และ เวนิส ❤++++++❤ ❤++++++❤ อิตาลี แดนในฝัน ตอนที่ ๒ ถ้ำบลูกรอตโต เกาะคาปรี ปอมเปอี ❤++++++❤ ❤++++++❤ อิตาลี แดนในฝัน (จริงๆ) ตอนที่ ๑ ❤++++++❤ ♥++++++++♥ รีวิวงานพระนครคีรีเมืองเพชรประจำปี ๒๕๔๙ ♥++++++++♥ ++++++++บันทึกการเดินทางเมื่อได้นั่งรถไฟสปริ๊นเตอร์เป็นคราแรก++++++++ ++++มาบอกเล่าเรื่องการหนีเที่ยวแบบรวบรัด ภาค๒ ค่ะ++++ ++++ มารายงานเรื่องการหนีไปเที่ยว (ภาค ๑) ค่ะ ++++ ++++++มาบอกเล่าเรื่องฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ให้ฟังค่ะ++++++ +++เรื่องจากทริปอีสานตอน ๒ - หมู่บ้านช้าง,แหล่งหินตัด,ของอร่อยบุรีรัมย์,นกตะกราม-ตามข่าว+++ +++เรื่องจากทริปอีสานตอน ๑ บ้านจา-พนม,โชว์ผ้าไหมเอเปค+++ +++กลับมาจากอีสาน&ใครเก่งมือถือ samsung ช่วยเข้ามาหน่อยค่ะ+++ +++ว่าด้วยของกินที่บ้านเกิด ตอนที่ ๒ (เพชรบุรี)+++ ++++ว่าด้วยของกินที่บ้านเกิด-เพชรบุรี++++ +++การเตรียมตัวสำหรับผ่านด่านต.ม.ของเกาหลี+++ สิงคโปร์ เกาหลี เกาหลี