|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา ข้อหาเปิดเพลงจากยูทูป บอกว่าไม่ผิด
เว็บไซต์ ตั๋วทนาย.com เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา ปมเปิดเพลงละเมิดลิขสิทธิ หวังเป็นองค์ความรู้ให้ไว้ชี้แจงเจ้าหน้าที่ และตัวแทนบริษัทที่ตามจับลิขสิทธิ ยันเปิดเพลงผ่าน Youtube ไม่ผิด
หลังจากที่วานนี้ (28 มิ.ย. 59) MThai News ได้มีการนำเสนอข่าวหลังจากมีผู้ประกอบการรายหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความเตือนให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ เฝ้าระวัง หลังเจ้าตัวถูกจับปรับลิขสิทธิจากการเปิดเพลงในเว็บไซต์ยูทูบนั้น ในวันเดียวกันเว็บไซต์ ตั๋วทนาย.com ได้มีการหยิบยกถึงผลการตัดสินคดีอาญาในกรณีการละเมิดลิขสิทธิเพลงดังกล่าวเพื่อเป็นองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการพึงระวัง โดยระบุว่า จากกรณีที่บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงรายใหญ่ของไทย ขึ้นข้อความหลังคลิปมิวสิคโวดิโอที่เพิ่งอัพโหลดใหม่ แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือร้านค้าทั่วไป ว่า การเปิดเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของแกรมมี่ให้ลูกค้าฟังผ่าน Youtube ก็ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากต้องการเปิดแบบถูกต้อง จะต้องติดต่อขอสิทธิ์กับทางบริษัท ซึ่งโดยทั่วไปการเปิดผ่าน Youtube จะอนุญาตให้รับชมได้เฉพาะเป็นการส่วนตัวหรือในที่อยู่อาศัยเท่านั้น กรณีนี้เคยมีคำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพอจะเทียบเคียงได้ กล่าวคือ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8220/2553 พนักงานอัยการจังหวัดระยองโจทก์, นางสุรินทร์ XXX จำเลย กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง, พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31, 70 วรรคสอง, พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม จำเลยเปิดแผ่นวีซีดีเพลง กำลังใจที่เธอไม่รู้ อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยฟัง ไม่ปรากฎว่าจำเลยเปิดเพลงเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าฟังเพลงโดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนหรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าว ซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 28, 29, 30, 31, 69, 70, 75, 76 ริบโทรทัศน์สี เครื่องเล่นซีดี ดีวีดี และให้แผ่นซีดีเพลงจำนวน 19 แผ่น ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ของกลางตกเป็นของผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ของกลางคืนให้แก่เจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เห็นว่า พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องเป็นการเผยแพร่งานนั้นต่อสาธารณชน เพื่อหากำไร ซึ่งหมายความว่า กำไรนั้นหากจำเลยได้มาหรือจะได้มาจะต้องเกิดจากการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องได้ความว่า จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม จำเลยเปิดแผ่นวีซีดีเพลง กำลังใจที่เธอไม่รู้ อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย
ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยฟัง ไม่ปรากฏว่าจำเลยเปิดเพลงเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ฟังเพลง โดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลง หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าวซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์
แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
สาระสำคัญในคำวินิจฉัยคือ
กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร คือกำไรโดยตรงไม่ได้มาจากการเปิดเพลง แต่มาจากอาหาร ซึ่งคีย์เวิรด์ให้จำง่ายๆนะครับ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเปิดเพลงเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ฟังเพลง โดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลง หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด
ซึ่งทางเว็บมองว่าการกระทำดังกล่าวมิได้ทำเพื่อการหากำไรจากงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์จึงไม่เข้าข่ายความผิดอยู่ดี
ที่มาจาก ตั๋วทนาย.Com ... Cr: //goo.gl/qU4FFk
Create Date : 30 มิถุนายน 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 30 มิถุนายน 2559 9:53:04 น. |
Counter : 1066 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |