บุฟเฟต์อาหารไทยประจำฤดูฝน Rainy Season Special @ ห้องอาหาร Miss Siam โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ
ชื่อร้าน : มิสสยาม Miss Siam รายการอาหาร : บุฟเฟต์อาหารไทย เวลาเปิดบริการ : วันเสาร์-อาทิตย์ 11.30 - 14.30 น. ที่ตั้งร้าน : โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand พิกัด GPS : 13° 44' 55.52" N 100° 31' 50.69" E     
ดูแผนที่เพิ่มเติม
รีวิวนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทานอาหารไทยสไตล์โบราณ หาทานได้ยาก ซึ่งเดินทางสะดวกมากเพราะอยู่ใจกลางเมือง แถว ๆ ปทุมวันนี่เอง สถานที่ที่พูดถึงก็คือห้องอาหารมิสสยาม โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ
พิกัดโรงแรมอยู่บริเวณเชิงสะพานหัวช้าง ฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางราชเทวี จุดสังเกตคือโรงแรมจะอยู่เลยหอศิลปวัฒนธรรมตรงแยก MBK มา ก่อนขึ้นสะพานหัวช้างโรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ ใครมา BTS ก็ลงได้ทั้งสถานีสนามกีฬาแห่งชาติและราชเทวี ลงแล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงโรงแรมแล้วค่ะ
เดินเข้าโรงแรมมาก็จะพบกับล็อบบี้สีขาวสบายตา บรรยากาศน่านั่งมาก ๆ แอบนั่งแช่อยู่นาน อิอิ
ใกล้เวลาทานบุฟเฟต์เราก็เดินออกมาที่สวนด้านนอกกันเลยค่า บรรยากาศดีอีกแล้ว
ระหว่างทางเราจะพบกับห้อง The Ivory Lounge ทางซ้ายมือ ที่ห้องนี้เค้ามี Thai Afternoon Tea ยามบ่ายด้วยนะคะ เก๋ตรงที่เป็นอาฟเตอร์นูนทีสไตล์ไทย ๆ ค่า เซ็ตละ 600บ.++ (สำหรับ 2 คน) มีทุกวัน 13.30 - 17.00 น.จ้า
จุดหมายเราอยู่สุดทางนั่นหล่ะ
อยากให้ไปก่อนเวลาทานบุฟเฟต์นะคะ เพราะบรรยากาศในโรงแรมดีมาก ส่วนของสวนและสระน้ำแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศดีสุด ๆ ใครชอบเซลฟี่นี่จัดไปเลยค่า สวยงามตามท้องเรื่อง
หลังจากโอ้เอ้กันอยู่นานท้องเริ่มร้องแล้วชิมิ มาค่ะตามมาชิมมาชมบุฟเฟต์อาหารไทยของห้องมิสสยามกัน
ห้องอาหารมิสสยามเป็นห้องอาหารบุฟเฟต์ขนาดเล็กกระทัดรัด รองรับลูกค้าได้ราว ๆ 50-60 ที่นั่ง แม้ห้องอาหารจะไม่ใหญ่แต่เค้าก็จัดวางโต๊ะได้ดี ไม่ชิดติดกันจนเกินไป
โปรโมชั่นของห้องอาหารตอนนี้คือ บุฟเฟต์อาหารไทยประจำฤดูฝน Rainy Season Special จัดขึ้นทุกวันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 11.30 - 14.30 น. ตั้งแต่ 1 ก.ค.- 31 ต.ค.2559 ราคาท่านละ 650 บ.เน็ต มีโปรมา 5 จ่าย 4 ด้วยนะคะ เบ็ดเสร็จแล้วก็จะเหลือคนละ 520 บ.เท่านั้นเอง
ส่วนใครที่อยากพาคุณแม่และครอบครัวมาทานอาหารไทยในวันพิเศษ ๆ 12 สิงหานี้ ทางห้องอาหารก็จัดบุฟเฟต์อาหารไทย Mother's Day Buffet มื้อเที่ยงในราคาท่านละ 799 บ.เน็ต (12.00 - 15.00 น.) และมื้อค่ำ 999 บ.เน็ต (18.00 - 22.00 น.) คุณแม่ทานฟรีถ้ามาทานเกิน 4 ท่าน/โต๊ะ หรือก็คือ มา 4 จ่าย 3 คุณแม่ทานฟรีค่า
ไลน์อาหารไทยปรุงสำเร็จมีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ไปจนถึงจานหลักและขนมหวาน
ภายใต้การดูแลของเชฟไพโรจน์ ประไพรักษ์ (เชฟบอมเบย์) ซึ่งเล่าให้ฟังถึงอาหารไทยของที่นี่ว่าเป็นอาหารไทยแบบโบราณไม่เน้นสไตล์ฟิวชั่น ใช้พืชผักสมุนไพร และวัตถุดิบตามฤดูกาล หน้าฝนอากาศก็จะออกแนวเย็นชื้น เมนูอาหารก็จะเน้นไปที่การทำให้ร่างกายอบอุ่น
เริ่มจากมุมอาหารทานเล่น เคยได้ยินชื่อแตงโมปลาแห้งมานานละแต่ไม่เคยกิน มาที่นี่เค้าทำน่ารักเชียวเป็นเมนู ลำไยแตงโมปลาแห้ง ไม่ได้สวยแต่รูป จูบก็หอมนะคะ ทานแล้วชอบอ่ะ คือมีความกลมกล่อมของปลาแห้งกับน้ำตาล เคยกินข้าวเหนียวมูนกับปลาแห้งนะ แต่มันหวานน้ำตาลทรายโดดออกมาก่อนเลย แต่มาชิมเมนูนี้ มันไม่รู้สึกแบบนั้นไง ดีงาม ชอบ ๆ
เมี่ยงผลไม้ เป็นเมี่ยงที่ใช้น้ำตาลจากเกสรมะพร้าว ซึ่งตัดในตอนเช้า มีความหอมสูง ไม่ผสมแบะแซ รสชาติไม่หวานแหลม แถมยังมีความหอมของมะพร้าวคั่ว ทานคู่กับมะเฟือง มะม่วงและสัปปะรดเข้ากันมากๆ
ข้าวตังหน้าตั้ง น้ำจิ้มใช้กุ้งแม่น้ำแท้ ๆ มาทำ
ลูกชิ้นกะทิปิ้ง เป็นลูกชิ้นหมูผสมกับกะทิก็จะมีความหอมมัน
หมูทอดน้ำปลา เห็นเชฟบอกว่าเมนูนี้ใส่ขมิ้นลงไปด้วย จะทานเปล่า ๆ หรือทานกับน้ำจิ้มก็ได้
น้ำจิ้มที่นี่ก็ทำเองทั้งหมดไม่ได้เปิดขวดแล้วเท น้ำจิ้ม 3 รส นี่ใช้สัปปะรดเป็นตัวเพิ่มรสเปรี้ยวไว้ทานคู่กับลูกชิ้นปิ้ง ส่วนน้ำจิ้มที่คล้าย ๆ ซีฟู๊ดเรียกว่าน้ำพริกขี้กา มีความจี๊ดจ๊าดดี สารภาพว่าพึ่งเคยได้ยินชื่อน้ำพริกขี้กา เลยต้องไป search ดู ทราบว่าเป็นน้ำพริกแบบโบราณ ทานคู่กับหมูทอดน้ำปลา น้ำจิ้มอีกถ้วยนึงนี่ไม่ได้ลองแฮะ
ข้าวหอมมะลิของที่นี่เก๋ไก๋มาก นึ่งข้าวในใบตอง(ใบกล้วยน้ำว้า) ข้อดีของการนึ่งในใบตองคือมีความหอม และอุณหภูมิคงที่
มีกี่อย่างจัดมาหมด อิอิ
มุมถัดมาเป็นมุมสารพัดน้ำพริก
หน้าฝนพวกผักต่าง ๆ มีมาก คนไทยสมัยก่อนก็นิยมนำผักต่าง ๆ มากินคู่กับน้ำพริก วันที่ไปมีน้ำพริก 4 ชนิด - น้ำพริกอ่อง - น้ำพริกกะปิ - น้ำพริกมะขามอ่อน - น้ำพริกระกำ
พร้อมเครื่องเคียงมากมาย ไข่ต้ม , ชะอมไข่ , ปลาทู และผักสด , ผักลวกนานาชนิด
มีหัวปลีต้มกะทิกับใบกะเพราต้มกะทิด้วยค่ะ พึ่งเคยกินเลยเนี่ย (อาหารโบราณ) ทานคู่กับน้ำพริกก็เข้ากันดีนะคะ
จัดมาชิมทุกอย่าง น้ำพริกที่นี่ทำรสจัดแบบไทย ๆ ดีค่ะ น้ำพริกระกำเป็นน้ำพริกสำหรับฤดูฝนเพราะเมื่อก่อนหน้าฝนจะมีระกำเยอะ และเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงด้วย รสคล้าย ๆ น้ำพริกกะปิแต่มีกลิ่นระกำเบา ๆ น้ำพริกอ่องก็ดีไม่แฉะ ไม่หวานนำเหมือนที่เคยกินมา น้ำพริกมะขามอ่อนก็ไม่ได้เปรี้ยวโดด น้ำพริก 4 แบบเราชอบหมดเลยค่ะ
มาถึงมุมยำ ๆ กันบ้าง - ลาบเป็ด - ยำหัวปลี - ยำดอกขจร - ยำแหนมสดกับส้มซ่า
- ยำไข่ต้มทรงเครื่อง - ยำขมิ้นขาว
จัดมาให้ครบเช่นเคย ชิมแล้วพวกยำนี่รสกลาง ๆ ไม่จัดมาก มีลาบเป็ดที่พวกเครื่องนี่จัดเต็มเห็นว่ามีน้ำพริกลาบและใส่ข่าลงไปดับคาวด้วย แต่เราว่าขาดรสเค็มไปหน่อยออกแนวจืด ๆ ที่เหลือกลาง ๆ ค่ะ แต่ชอบยำขมิ้นขาวนะ เคยกินแต่ขมิ้นจิ้มน้ำพริก พอทำเป็นยำรู้สึกทานง่ายดี อร่อยดีมีประโยชน์ด้วย
แกงเขียวหวานเนื้อตุ๋น กับ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ได้ลองชิมแกงเขียวหวานเนื้อตุ๋นไป เนื้อตุ๋นเข้ากับแกงเขียวหวานมาก ๆ ชอบเลยค่ะ
ส่วนแกงเผ็ดเป็ดย่างนี่ก็น่าทานใส่ลิ้นจี่มาด้วย แต่ไม่ได้ชิม แหะๆ
ไก่ทอดเครื่องเทศอย่างไทย และปลาทับทิมทอดกระเทียมพริกไทย
งบไก่หัวปลีเผา เมนูนี้จะคล้าย ๆ ห่อหมกย่างค่ะ รสกลาง ๆ เครื่องแกงไม่จัดมาก
ผัดกระเพราไส้อั่วและหมูทอดขมิ้น 2 เมนูนี้แนะนำค่ะ ผัดกระเพราไส้อั่วผัดแบบแห้ง ๆ รสจัดจ้านดี ส่วนหมูทอดขมิ้นนี่ก็อร่อยนะ เป็นหมูสามชั้นทอดติดมันนิด ๆ
ทานเปล่า ๆ หรือทานกับน้ำจิ้มก็อร่อยทั้งคู่
เห็ดผัดน้ำมันหอย และหมูนึ่งปลาอินทรีย์เค็ม
ข้าวผัดหมูแดดเดียว และไข่ดาว มีแตงกวา มะนาว พริกน้ำปลา ให้ครบค่ะ
ขนมจีนซาวน้ำนี่ก็เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับหน้าฝน เพราะมีขิงเป็นหลัก ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย , ขับเสลด
ส้มตำไทย-ไก่ย่างก็มีค่ะ
ขนมจีนซาวน้ำเคยชิมตอนที่แม่ซื้อมากินครั้งนึงไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ แบบว่าหนักกะทิมาก แต่มาทานของที่นี่เค้าจัดเครื่องไว้ให้เราปรุงเองได้เลย ชิมแล้วก็อร่อยดีนะ ส่วนส้มตำที่นี่เค้าใช้พริกขี้หนูค่ะ เครื่องต่าง ๆ ก็คัดสรรมาแล้ว ทั้งถั่วลิสงที่คั่วเอง กุ้งแห้งตัวใหญ่ที่รสไม่เค็ม เป็นส้มตำไทยที่รสดีเชียวค่ะ
อาหารไทยไม่มีผัดไทยได้อย่างไร
จัดมาชิมซัก 1 จาน เส้นมีความเหนียวนุ่มดี ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยค่ะ
ใกล้ ๆ กันเป็นมุมแกงและต้มสำหรับฤดูฝน - ต้มส้มปลาเห็ดโคน มีความร้อนจากพริกไทยช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และขิงช่วยชับเสมหะ - แกงเลียง ที่ใส่สารพัดผัก ช่วยบำรุงร่างกาย
มาถึงมุมขนมไทยบ้าง ที่นี่ไม่ได้มีแค่ขนมไทยทั่ว ๆ ไป แต่ยังมีขนมไทยที่หาทานได้ยากด้วย อย่างเมนูเกสรลำเจียกนี่ก็พึ่งเคยเห็นเคยได้ชิม เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำกะทิ ร่อนลงบนกระทะให้เป็นแผ่น ใส่ไส้มะพร้าวขูดกวนกับน้ำตาลแล้วม้วน ควรจะทานตอนร้อน ๆ ถ้าตั้งทิ้งไว้แป้งจะมีความแห้ง ชิมแล้วมีความคล้ายคลึงกับบุหงาบุดะของจ.สตูลเหมือนกัน แต่ไส้ของบุหงาบุดะจะแห้งกว่าเกสรลำเจียก
ขนมไทยนานาชนิด มีทั้งที่หาทานได้ทั่วไปและหาทานได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นขนมมัน , ข้าวเหนียวหน้าสังขยา , ขนมเผือก , สังขยาฟักทอง , ขนมไข่ , ข้าวเหนียวหนุกงา , ข้าวเหนียวหน้ากระฉีก , ขนมฟักทอง , หยกมณี , และกล้วยไข่เชื่อมราดกะทิ
ผลไม้และขนมไทยจำพวกลอยแก้วก็มีค่ะ
มีทับทิมกรอบ และขนมหวานโบราณที่เรียกว่า "ส้มฉุน" ส้มฉุนเป็นผลไม้ลอยแก้ว นิยมใช้ผลไม้ตามฤดูกาลที่มีรสเปรี้ยว-หวาน โดยมากก็จะใช้ลิ้นจี่หรือลำไยแช่ในน้ำเชื่อมน้ำใบเตยและดอกมะลิ พิเศษตรงที่ใส่ส้มซ่าลงไปด้วย จะมีความหอมและสดชื่นของส้มซ่าแฝงอยู่ ถ้ากินแบบครบเครื่องต้องโรยหน้าด้วยขิงสับ มะม่วง และกระเทียมเจียวด้วยนะคะ แต่วันที่เราไปเราไม่เห็นเค้าวางกระเทียมเจียวไว้หล่ะ เลยไม่ได้ลองแบบเต็ม ๆ
เรื่องขนมนี่ไม่พลาด มีกี่อย่างจัดมาชิมหมด ขนมฟักทองหมดก็เปลี่ยนเป็นกล้วยปิ้งราดน้ำเชื่อม ขนมไข่หมดก็ได้ขนมปลากริมไข่เต่ามาแทน ที่เคยเจอจะทำเป็นเส้นรี ๆ ทั้งรสเค็มและรสหวาน แต่ของที่นี่จะทำแบบโบราณเลย แบบหวานเป็นเส้นรี ๆ เรียกว่าปลากริม ส่วนแบบเค็มเป็นก้อนกลม ๆ เรียกว่าไข่เต่า
เท่าที่ชิมไปทั้งหมด ขนมไทยเค้าทำแบบไม่หวานจัด ตัวแป้งมีความนุ่มเหนียวดี ข้าวเหนียวหน้ากระฉีกใช้มะพร้าวทึนทึกผัดกับน้ำตาลปี๊บ สีสวยและนุ่มนิ่ม อร่อยกว่าที่เคยกินมา ส้มฉุนก็เหมือนกันลิ้นจี่ลอยแก้วทั่วไป แต่มีความหอมของส้มซ่า กินแล้วสดชื่นดี
ใครไม่ทานขนมหวานผลไม้ก็มี ทั้งแตงโม มะละกอ สัปปะรด แคนตาลุป และแก้วมังกร
น้ำเปล่า และเครื่องดื่มสมุนไพร รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์ เติมได้ตลอด วันที่ไปเป็นน้ำกระเจี๊ยบและน้ำใบเตย ทำมาแบบหวานอ่อน ๆ ไม่หวานจัด เน้นกลิ่นและรสของกระเจี๊ยบและใบเตย
ปิดท้ายด้วยชา , กาแฟร้อน/เย็น รวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้วเช่นเดียวกัน
สำหรับบุฟเฟต์อาหารไทยห้องมิสสยาม เป็นอาหารไทยแบบโบราณละเมียดละไมในการคัดสรรวัตถุดิบ หลาย ๆ อย่างหาทานได้ยากแล้ว หลาย ๆ อย่างทานได้เฉพาะฤดูกาล เมนูอาหารของที่นี่จึงมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่
มิสสยาม : Miss Siam โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ : Hua Chang Heritage Hotel Tel : 0-2217-0777 E-mail : info@huachanghotel.com
| Create Date : 04 สิงหาคม 2559 |
| Last Update : 9 สิงหาคม 2559 12:27:53 น. |
|
26 comments
|
| Counter : 4737 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 248 คน [
ของเค้าอัพอาทิตย์หน้านะ อิอิ ตอนนี้ติดคิวอื่น
เออ เพิ่งรู้ว่าส้มฉุนต้องมีหอมเจียวด้วยแฮะ แต่ขิงกับมะม่วงเค้าก็โรยมาเลยเนาะ
วันนี้โหวตเต็มแล้ว พรุ่งนี้มาโหวตให้เน้อ