happy memories
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
รักนี้ชั่วนิรันดร์ ๖





https://www.youtube.com/watch?v=eC3s01KeY-Q






อึนโซเดินเร่งฝีเท้าลงบันไดมา เทซกตามมาคว้าแขนไว้เรียกเธอ อึนโซสะบัดออกอย่างแรง
"ปล่อยฉันนะ"
"เธอเป็นอะไรไป ทำไมต้องเดินหนีด้วย เธอก็รู้ว่าฉันเหมือนหนุ่มเสเพลมากกว่าพวกผู้บริหารอยู่แล้ว"
"ฉันนี่แหละที่ผิดเอง ฉันหลงคิดว่าคุณเป็นคนดี หลงคิดว่าคุณไปขอโทษเธอจนเธอยอมให้อภัย รับฉันกลับเข้าทำงานอีก" อึนโซพูดอย่างโกรธจัด
"ใครบอกเธอว่าฉันไปขอโทษ"
"อะไรกันอีกล่ะ ทีนี้จะไล่เธอออกหรือไง"
"มันว่าอย่างงั้นหรือ อีนี่ปากเสีย" เทซกจะเอาเรื่องกับคนที่มาบอกอึนโซ
"อย่านะ ฉันรู้จักคนอย่างพวกคุณดี คุณเป็นพวกที่สนใจแต่เรื่องตัวเองเท่านั้น ใครเขาจะเดือดร้อน คุณไม่คิดจะใส่ใจหรอก ฉันเกลียดคุณ" อึนโซหันหลังเดินหนีทันที เทซกตะโกนตาม
"ใช่ซิ" อึนโซหยุดชะงัก
"ฉันไม่เสียใจที่จะต้องเหยียบย่ำคนอื่นที่เข้ามากีดขวางเส้นทางของฉัน มันผิดตรงไหน" เทซกพูดเสียงดัง พออึนโซจะเดินต่อ เทซกหลุดปากบอกน้ำเสียงจริงจัง
"ฉันชอบเธอ" อึนโซหันมองหน้าเขา
"ใช่ซิ ฉันชอบเธอ ฉันถึงได้กำจัดหล่อน เข้าใจหรือยัง" อึนโซยืนนิ่งงัน




จุนโซกับยูมีช่วยกันจัดบ้านที่ซกโชว ยูมีหยิบแจกันขึ้นมา ถามว่าจะวางไว้ตรงไหน จุนโซมองไปรอบ ๆ แล้วถือแจกันไปวางไว้เอง
อึนโซเดินออกจากโรงแรมจะกลับบ้าน ได้ยินเสียงแตรรถ หันไปมอง เทซกลงจากรถ บอกอึนโซ
"ขึ้นรถซิ ฉันไปส่งให้" อึนโซเฉย เทซกขู่สำทับ
"คงไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้านหรอก ใช่ไหม" อึนโซมองหน้าเขาแล้วยอมไปด้วยดี ระหว่างขับรถเทซกพยายามปรับความเข้าใจ
"เรื่องที่ฉันพูดนั่นน่ะ"
"ฉันรู้ค่ะ คุณพูดเพราะโมโห ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่บอกจุนโซหรอก ไม่ต้องห่วง" เทซกหักพวงมาลัยทันที อึนโซตกใจ
"จะทำอะไรเนี่ย"
"ไปบอกเขาเลย ให้เขารู้เดี๋ยวนี้ว่าฉันน่ะชอบเธอจริง ๆ เขาจะได้เชื่อใจฉัน"
"อะไรกันเนี่ย"
"รัดเข็มขัด ยังต้องไปอีกไกล"




ถนนสายนี้อึนโซจำได้ดี เส้นทางไปสู่บ้านอันแสนสุขในวัยเยาว์ หญิงสาวกลั้นน้ำตาอย่างยากเย็น ถนนสายเดิมที่เธอและพี่ชายเคยขี่จักรยานเคียงกันลอดใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ รถแล่นผ่านทิวทัศน์ชินตาสองข้างทาง พร้อมกับความหลังที่พรั่งพรูเข้ามาสู่ความทรงจำ มองลงไปจากสะพาน ยังเห็นภาพเธอและพี่ชายเมื่อวันวานเล่นสาดน้ำใส่กันแสนสนุก...ผ่านไปถึงโรงสีที่เคยมาหลบฝนด้วยกัน และทุ่งข้าวเขียวขจีริมถนนสายที่พี่ชายขี่จักรยานให้เธอนั่งซ้อนท้ายไปโรงเรียนด้วยกัน ทุกภาพผุดขึ้นมาเต้นร่ากลางแววตาหม่นเศร้า เทซกเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบไม่พูดจาก็เอ่ยถาม
"เธอเกิดที่นี่หรือ" อึนโซเหมือนไม่ได้ยินคำถาม หันมองแต่นอกหน้าต่างรถ เทซกถามอีก
"มองอะไรอยู่ ตั้งแต่จากไปไม่เคยกลับมาที่นี่เลยหรือ"
"ไม่เคยค่ะ" อึนโซพยายามเก็บซ่อนความเศร้าไว้ แต่น้ำตาก็ไม่เป็นใจด้วยเลย




พอถึงบ้านเทซกเดินเข้ามาข้างใน ชมว่าน่าอยู่ ความทรงจำทั้งสุขและเศร้าที่แทรกตัวอยู่ทุกซอกทุกมุมของบ้านหลังเก่าจู่โจมเข้าจับหัวใจ น้ำตาคลอตาหญิงสาว เทซกมองไปรอบ ๆ เอ่ยขึ้น
"เธอเคยมาใช่ไหม ที่นี่แหละ จุนโซอยู่ก่อนย้ายไปอเมริกา ฉันฟังเขาเล่าถึงบ้านหลังนี้บ่อยมาก จนรู้สึกเหมือนเป็นบ้านฉันเองเลย นี่ไปไหนกันหมดนะ เธออยู่นี่นะ ฉันจะดูไปข้างบน" เทซกเดินผ่านหน้าอึนโซขึ้นไปข้างบน ไม่ทันสังเกตหญิงสาวที่ยืนน้ำตานองหน้าอยู่
อึนโซค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ตรงที่ครอบครัวเคยร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้แม่อย่างมีความสุข...โต๊ะกินข้าวที่พี่ชายเคยวิ่งไล่กวดเธอไปจนรอบบ้าน...วันที่ตัวเองตัดสินใจลาจากบ้านหลังนี้ไป เสียงบอกลาทุกคนยังดังก้องอยู่ในหู อึนโซยืนนิ่งจมอยู่ในความหลังที่ถาโถมเข้ามาในความรู้สึกอย่างไม่ขาดสาย เทซกเดินลงมา บอกว่าไม่เห็นใครสักคน จุนโซกับยูมีไปซื้อของด้วยกันกลับมาถึง จุนโซเห็นเทซกก็ทัก
"อ้าว ! ฮัน เทซก มาได้ไงน่ะ" พอมองเห็นอึนโซก็เรียกน้อง หญิงสาวสุดจะกลั้นความเศร้าไว้ได้ หันมาเรียกพี่ชายคำเดียวแล้วก็ทรุดตัวลง ก้มหน้าร่ำไห้ จุนโซ เทซกเรียกอึนโซพร้อมกัน เทซกกับยูมีงงงันกับท่าทางของอึนโซ มีเพียงจุนโซที่รู้ดีว่าเป็นเพราะเหตุใด




พี่น้องขึ้นไปข้างบนด้วยกัน เทซกท่าทางกังวลบอกยูมี
"น่าจะเป็นเพราะฉัน ก็ฉัน...พูดออกไปแล้ว"

อึนโซเข้ามาในห้องนอนที่เคยเป็นของเธอ มองไปรอบ ๆ เดินไปที่หน้าต่าง ขยับม่านออก ดวงตารื้นเมื่อมองผนังห้องที่มีลายมือของตัวเองเขียนไว้ว่า "ห้องยุน อึนโซ"
"ฉันอยากร้องไห้ เธอคิดแบบนี้" เสียงจุนโซดังขึ้น ชายหนุ่มเริ่มเล่นเกมสารภาพที่อึนโซชอบ น้องสาวหันมองพี่ชายที่เดินเข้ามาใกล้ เขาพูดต่อ
"เฮ้อ...ไม่เปลี่ยนไปเลย เธอต้องคิดแบบนี้"
"เธอร้องไห้อีกแล้วซิ พี่ต้องคิดแบบนี้ เธอเลิกทำเหินห่าง พี่ต้องคิดแบบนี้" อึนโซทายใจพี่ชาย น้ำตาคลอตาคู่งาม จุนโซยิ้ม
"นี่ซิ อึนโซน้องพี่ พี่ต้องคิดแบบนี้" อึนโซทายอีก ความรู้สึกเดิมหวนกลับมา เหมือนเมื่อยามได้เล่นหัวด้วยกันในห้องนี้ ความทรงจำที่ย้ำอยู่ในใจของคนทั้งสอง ดวงตาจุนโซเลือนพร่า ถามน้องเสียงแผ่ว
"อย่างงั้นหรือ"
"ใช่แล้วค่ะ...พี่คะ...พี่ชาย..." อึนโซเรียกพี่ชายเสียงสะอื้น มองตาจุนโซที่ได้แต่ยืนนิ่งน้ำตาหลั่งลงไม่ขาดสาย




แดดรารอนคล้ายอ่อนแรง ดวงอาทิตย์จวนค่ำที่ซ่อนตัวอยู่หลังทิวไม้ไกลโพ้น คลี่แสงตกกระทบผืนน้ำให้กลายเป็นสีทอง สะท้อนแสงมลังเมลือง อาบลานฟ้าเบื้องบนให้งามดุจเดียวกัน จุนโซกับเทซกตกปลาที่ริมฝั่งน้ำ อึนโซกับยูมีช่วยกันเตรียมอาหาร ยูมีเอ่ยถาม
"เธอสองคนน่ะคงสนิทกันมากนะ"
"ใช่ค่ะ คุณพบกันยังไงคะ"
"เราเรียนศิลปะด้วยกันใน New York เทซกเป็นคนแนะนำให้ฉันรู้จักกับเขา ที่จริงมันตลกมากเลยนะ เพราะว่าเราน่ะออกไปกินอาหารค่ำด้วยกัน โดยที่เขาไม่ปริปากพูดเลยสักคำเดียว ฉันนึกว่าเขาคงไม่ชอบฉันซะแล้วซิ จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นมาว่า ถ้าเกิดใหม่ได้ ฉันอยากจะเกิดเป็นอะไร" ใจอึนโซกระหวัดถึงคำของพี่ชายวันที่จับมือเธอแน่น เอ่ยให้สัญญา
"พี่จะจำไว้...พี่จะไม่มีวันลืมว่าเธออยากเกิดใหม่...เป็นต้นไม้"
"แล้วคุณตอบว่าไงคะ อยากเกิดเป็นอะไร" อึนโซใจจดจ่อรอคำตอบ
"ฉันตอบว่าอยากเกิดเป็นต้นไม้ " ยูมีเล่าไม่ทันสังเกตสีหน้าอึนโซ คำตอบเดียวกันที่เธอเคยบอกพี่ชายเมื่อนานมาแล้ว
"ถ้าเกิดใหม่ได้เค้าอยากเกิดเป็นต้นไม้...ต้นไม้ เมื่อไหร่มันหยั่งรากลึกแล้ว มันก็ไม่ต้องย้ายไปไหนอีก"
...พี่ชายยังไม่ลืมจริงๆ...
"นั่นแหละนัดครั้งแรกของเราล่ะ" ยูมีบอกอึนโซ




เพื่อนสองคนคุยกัน พอจุนโซเห็นเทซกนั่งนิ่งใจลอยก็ถาม
"คิดอะไรน่ะ"
"ฉันบอกเธอไปแล้วว่าฉันชอบเธอ ชอบจริง ๆ นะ"
"นาย..." จุนโซไม่คิดว่าเทซกจะจริงจังกับอึนโซ
"ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย ฉันชอบ...อึนโซ...มากจริง ๆ" จุนโซก้มหน้าซ่อนความรู้สึก เอ่ยปากถาม
"อึนโซเค้าว่าไงล่ะ"
"ไม่พูดสักคำ แต่อีกหน่อยอึนโซเค้าจะรู้ว่า ฉันนี่แหละเหมาะสำหรับเธอแล้ว ว่าแต่ว่า นายไม่ขัดข้องใช่ไหม"
"ถ้าฉันขัดข้อง นายจะเลิกคบกับเธองั้นหรือ" จุนโซพูดทีเล่นทีจริง
"ไม่ได้มาขออนุญาต แต่นายเป็นเพื่อนรักแถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของอึนโซอีก ฉันก็เลยอยากให้คอยหนุนหลัง ไม่ขัดข้องใช่ไหมล่ะ" จุนโซยิ้ม ไม่พูดอะไร




สี่คนนั่งกินอาหารด้วยกัน เทซกออกความเห็น
"นี่พวกเราค้างคืนที่นี่เลยดีไหม"
"ได้ซิ อึนโซล่ะจ๊ะ ว่าไง" จุนโซถามน้อง อึนโซพยักหน้าให้
"ว่าแต่ว่า สองคนนี่เกี่ยวดองกันยังไง ฉันอยากรู้จัง" สองพี่น้องอึกอัก
"ไม่สำคัญหรอกน่า" จุนโซไม่ยอมบอก
"ดูจากชื่อที่ใกล้เคียงกัน น่าจะเป็นญาติทางพ่อนะ" ยูมีเดา
"เมื่อกี้นี้คุยเรื่องอะไรกันน่ะ" จุนโซหาเรื่องอื่นคุย
"คุยถึงนัดครั้งแรกของเราน่ะ" ยูมีบอกคู่หมั้น
"อ๋อ ! เรื่องนี้เองหรือ ฉันอยากเกิดใหม่เป็นต้นไม้ค่ะ" เทซกทำเสียงเล็กเสียงน้อย จุนโซมองหน้าเพื่อนทันที พี่น้องมีทีท่าอึดอัดใจ แต่ใบหน้าอึนโซยังฉาบด้วยรอยยิ้ม
"แล้วเธอล่ะ อึนโซ" เทซกวกมาถามหญิงสาว จุนโซไม่ยอมสบตาใคร กลั้นลมหายใจรอฟังคำตอบน้อง อึนโซไม่ทันนึกหาคำตอบ นิ่งไปชั่วครู่แล้วตอบออกไป
"เกิดเป็นน้องสาวพี่"
"เฮ้อ! น่ารักซะจริง ๆ นะ นายปลื้มเลยล่ะซิ" เทซกกับยูมียิ้มให้กับคำตอบของอึนโซ ไม่มีใครรู้คำตอบดีเท่าคนสองคน ที่ต่างจารึกคำตอบไว้ในหัวใจอย่างไม่รู้ลืม




เทซกชวนอึนโซจะสอนให้ตกปลา อึนโซบอกจะล้างจานก่อน เทซกยกให้เป็นหน้าที่ของยูมีแล้วฉุดมืออึนโซไป เทซกบอกวิธีตกปลาให้หญิงสาว
"แบบนี้นะ พอปล่อยมือแล้วสายมันจะเลื่อนยาวไปเรื่อย ๆ แบบนี้ไง ดูให้ดีนะ"
"ไม่ใช่แบบนี้ซะหน่อย ต้องหมุนกลับอีกด้านนึงต่างหากล่ะ" อึนโซบอกวิธีที่ถูกให้ เทซกหัวเราะ
"อ๋อ! ใช่ จริงสิ ๆ ที่จริงฉันไม่เคยใช้รุ่นนี้มาก่อนเลย"
อึนโซห่อตัวรู้สึกหนาว เทซกถามว่าหนาวหรือ แล้วถอดเสื้อออกจะคลุมตัวให้ อึนโซปฏิเสธแต่เทซกก็เอาเสื้อคลุมให้เธอจนได้ จุนโซหันไปเห็น มองนิ่ง ยูมีมองตามเอ่ยชม
"ดูคู่นั้นจะเข้ากันได้ดีนะคะ จริงไหมคะ" จุนโซไม่ออกความเห็นอะไร
อึนโซมองเทซกที่กำลังตกปลา หันไปทางพี่ชายเห็นเขาคุยกับยูมีท่าทางมีความสุข จุนโซหันมาพอดี พอตาสบกัน อึนโซหลบตาวูบ รอยยิ้มจุนโซหายไป เบือนหน้าก้มลงยกกาแฟขึ้นดื่ม




ยูมีนั่งรอจุนโซในบ้านท่าทางกังวล เทซกเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินลงมาจากชั้นบนพลางบอก
"ดีจัง จุนโซมีเสื้อผ้าเหลือ แล้วทำไมมานั่งอยู่คนเดียว"
"จุนโซออกไปเดินเล่นน่ะ รู้ไหมว่าอึนโซไปไหนล่ะ"
"ไม่รู้ซิ"




จุนโซเดินมาตามถนนตรงไปที่โรงสีเก่า พอไปถึงเห็นอึนโซยืนอยู่ เดินเข้าไปหา อึนโซยิ้มให้พี่ชาย
สองคนยืนพิงประตูคุยกัน
"เธอเคยร้องไห้แทบแย่ที่นี่" จุนโซเอ่ยขึ้นก่อน
"งั้นหรือ"
"เธอหายตัวไปทีไร พี่ก็มาเจอเธอร้องไห้อยู่ที่นี่"
"จริงหรือ"
"จริงซิ"
"แล้วเราก็เคยใช้ที่นี่เป็นที่หลบฝนระหว่างทางจะกลับบ้านหลายครั้ง" จุนโซทวนความหลังให้ฟังอีก
"อย่างงั้นหรือ" จุนโซมองน้อง
"เธอจำไม่ได้หรือ จำพี่ได้หรือเปล่า" จุนโซถามล้อ ๆ สองคนยิ้มให้กัน
"คือฉันน่ะ...จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ ทุกอย่างดูลางเลือน ฉันพยายามจะลืมให้หมด ทุกช่วงเวลาที่เคยมีความสุข ไม่ต้องจำอะไรไว้เลย มันเจ็บปวดมากนะ เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ...ตายจริง...นี่หรือที่ว่า จะลืมได้ทุกอย่าง จริงไหม" อึนโซมองหน้าพี่ชาย เขามองตอบ แววตาหม่นลง อึนโซละสายตาจากเขาพูดต่อ
"พี่ชาย...รู้ไหม...เค้าน่ะ...ทำใจยากมาก เค้าต้องห้ามใจไม่ปล่อยให้ตัวเองคิดถึง...ช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกับพี่...มันทารุณนะ...ทารุณมากจริง ๆ" จุนโซเห็นดวงตาเธอมีหยดน้ำใสพราวอยู่ หันกลับมองตรงไปข้างหน้า คิ้วขมวดมุ่น กัดริมฝีปากกดกลั้นความรู้สึกสะเทือนใจที่ท้นขึ้นมา จุนโซเดินไปข้างหน้าอึนโซ ทรุดตัวลงหันไปบอกน้อง
"มา...ขี่หลังพี่กลับดีไหม...มา" พี่ชายยื่นมือไปข้างหลังออกรับน้อง
"ไม่เอาหรอก"
"โอ้โห! ปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะ ขึ้นมา" จุนโซแกล้งดุเสียงดัง อึนโซยังอิดออด
"แขนจะหลับแล้วนะ เร็วซิ" อึนโซยิ้มใสทันที




เทซกกับยูมีออกมาที่สนามหน้าบ้าน นึกห่วงสองพี่น้องที่ยังไม่กลับมา
"หายไปไหนกันน้า อึนโซจะไม่ปลอดภัยอยู่คนเดียวดึกดื่น" เทซกบ่น
"นั่นน่ะซิคะ" ยูมีเห็นเงาคนเดินที่หน้าบ้าน เพ่งมอง
"อึนโซหรือ" เทซกหันไปมอง พอเห็นหน้าชัด ทั้งยูมีและเทซกเลิกคิ้วแปลกใจ อีกฝ่ายเรียกคนทั้งสอง
"ยูมี...พี่เทซก"
"ยุน ชีเน่" เทซกเรียกเสียงดัง ชีเน่โผเข้ากอดคอเทซก
"คิดถึงจังเลย"
"ทำไมไม่โทรมาก่อนล่ะ" ยูมีถาม
"ไม่เปลี่ยนเลยสักนิดนะเราเนี่ย" เทซกทัก

จุนโซแบกอึนโซไว้บนหลัง ทอดฝีเท้าเดินเอื่อย ๆไปตามถนนยามดึกท่ามกลางความเงียบสงัด
"หนักหรือเปล่าคะ"
"ไม่หนัก" จุนโซลากเสียงสดใส สีหน้าเบิกบานใจ
"เค้ารู้ว่าหนัก" อึนโซหยุดไปชั่วครู่แล้วเอ่ยถาม
"เค้าเป็นคนโปรดอันดับสามหรือ ไม่นับแม่นะ จากยูมี แล้วก็ชีเน่ แล้วก็เค้าใช่ไหม" อึนโซก้มมองใบหน้าที่แนบชิดใบหน้าตนเอง จุนโซทอดตาลงต่ำแล้วบอกน้อง
"ไม่ใช่อันดับสามหรอก"
"อันดับสามก็ไม่ได้หรือ ผิดหวังจังเลย"
"แล้วเธอล่ะ ให้พี่อยู่ตรงไหนล่ะ"
"พี่ก็รู้ตัวอยู่แล้วนี่นา"
"ยังงั้นหรือ"
"ใช่ซิ พี่เป็นอันดับหนึ่งเลยล่ะ" อึนโซตอบอย่างไม่ลังเล หัวใจคนฟังเต็มตื้น ดวงตาฉายแววอ่อนหวาน เงียบกันไปชั่วอึดใจ พออึนโซรู้ตัวว่าพูดความในใจก็เสบอก
"วางลงได้แล้วล่ะ เดี๋ยวก็หลังหักกันพอดี" จุนโซหยุดเดิน อึนโซลงเดินนำหน้าไป จุนโซมองอึนโซแล้วเดินตามไปช้า ๆ




สองพี่น้องเดินเข้าบ้าน ชีเน่ลงมาจากชั้นบนพร้อมยูมีกับเทซก เอ่ยถามอย่างแปลกใจ
"ใครกันหรือลูกพี่ลูกน้อง มีที่ไหน" ทั้งยูมีและเทซกทำหน้างง
"ขอโทษที่มา..." จุนโซบอกคนในบ้าน แต่เห็นชีเน่ก็ชะงักไป
"พี่จุนโซ" ชีเน่เรียกพี่อย่างดีใจ พอเหลือบไปเห็นคนที่ยืนข้างเขาก็หุบยิ้มทันที จุนโซหันไปมองอึนโซอย่างห่วงความรู้สึกน้อง ทั้งอึนโซและชีเน่มองหน้ากัน สองคนนอกได้แต่งงกับท่าทีของทั้งสามคน




อึนโซกับชีเน่ออกมาคุยกันที่สนามหน้าบ้าน
"ชีเน่ เธอสวยสง่าจังเลย" อึนโซเอ่ยชมเพื่อนน้ำตาคลอ
"หยุดร้องน่า เธอคงลำบากมากซิ"
"ไม่หรอก"
"เธอโกหก" ชีเน่รู้จักสภาพของครอบครัวที่จากมาดีกว่าใคร
"เธอเรียนหนักใช่ไหม พี่จุนโซคงภูมิใจมากนะ" ชีเน่หัวเราะ
"ไม่ต้องมาพูด เธอต่างหากที่ได้เป็นหัวหน้าห้อง" พูดถึงความหลังแล้วเอ่ยถาม
"เธอไม่ได้เรียนต่อหรือ"
"ไม่หรอก"
"ตอนนี้ทำอะไรล่ะ"
"ทำงานที่โรงแรม"
"จริงนะ โรงแรมของพี่เทซกน่ะหรือ ฉันจะไปเป็นผู้จัดการที่นั่นอาทิตย์หน้านี้ รู้ไหม" ชีเน่พูดข่มเพื่อน
"ฉันเป็น maid ทำห้อง" อึนโซบอกไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
"อ๋อ ! อย่างนี้เอง เป็นพนักงานประจำหรือเปล่า"
"ฉันยังไม่ได้บรรจุหรอก เธอเพิ่งกลับมาวันนี้หรือ"
"มาตั้งแต่เมื่อวาน แต่คุณพ่อกับคุณแม่จะ..." ชีเน่หยุดคำพูดไว้ มองหน้าอึนโซ
"ท่านทั้งสองเป็นยังไงบ้าง ท่านจำฉันได้ไหม" อึนโซเสียงเครือทันที
"ไม่รู้ซิ" อึนโซน้ำตาร่วง ตาจับอยู่ที่พื้น
"ดีใจที่เจอเธออีก ฉันคิดถึงเธอเสมอ" ความรู้สึกและคำพูดตรงข้ามกัน
"พ่อกับแม่น่ะไม่ยอมให้เอ่ยถึงเธอในบ้าน เธอก็รู้ว่าเราย้ายไปอเมริกาก็เพื่อลืมทุกอย่าง เราพยายามจะไม่นึกถึงเธอ แต่พอนึกย้อนไปฉันว่ามันออกจะทารุณนะ จริงไหม" ฟังคำของเพื่อน ความหลังอันขมขื่นเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมาท่วมหัวใจ สีหน้าชีเน่ไม่ยินดียินร้ายกับความเศร้าของเพื่อน




ฟังเรื่องราวของอึนโซจากจุนโซ ยูมีน้ำตาไหล
"อึนโซน่าสงสารจัง น่าเห็นใจจริง ๆ เธอรอดอยู่ได้ยังไง เธอคงคิดถึงคุณมากต้องจากกันแบบนี้ นี่ถ้าเป็นฉันนะ" ชายหนุ่มทั้งสองก้มหน้านิ่ง เทซกเงยหน้าขึ้นว่าเพื่อนเสียงดัง
"บ้านนายทิ้งเธอแบบนี้หรอกหรือ ทำไมนายไม่ทำอะไร ยุน จุนโซนายใจโหดมาก ฉันเพิ่งรู้นะนี่"
"เทซกก็" ยูมีปราม เทซกหยุดพูดแต่ยังไม่หายโมโห ดวงตาจุนโซหมองเศร้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงสะเทือนอารมณ์
"ถูกแล้ว...ฉันทำอะไรไม่ได้...ทำไม่ได้สักอย่าง"
อึนโซกับชีเน่เดินเข้าประตูมา ชีเน่บอกเพื่อน
"อึนโซค้างที่นี่นะ" แล้วหันไปบอกคนอื่น
"ฉันขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้เจอกันนะคะ" จุนโซ อึนโซมองหน้ากัน อึนโซหลบตา เดินมาหยิบกระเป๋าพลางบอก
"ฉันต้องกลับล่ะค่ะ"
"จะกลับเดี๋ยวนี้หรือ" จุนโซถามน้อง
"คือว่า พรุ่งนี้ต้องไปทำงานน่ะค่ะ ลืมซะสนิทเลย"
"งั้นพี่ไปส่งนะ"
"จุนโซคะ แล้วชีเน่ล่ะคะ" ยูมีท้วงคู่หมั้น
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" อึนโซรีบบอก มองหน้าเทซกถามเขา
"คุณคะไปส่งฉันได้ไหมคะ" เทซกยิ้มให้แล้วรับคำ
"ไปเดี๋ยวนี้เลยนะคะ"
"ไปซิ"
"พี่จะไปส่งเองนะ" จุนโซเดินมาจะหยิบกระเป๋าจากมือน้อง อึนโซบอกเสียงเรียบ
"ชีเน่...เธออยากจะคุยกับพี่ค่ะ"




ตั้งแต่ขับรถออกจากบ้านหญิงสาวไม่ปริปากพูดเลย เทซกเหลียวมองเธอหลายครั้ง เอื้อมมือจะโอบปลอบใจแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่วางมือลงบนพนักพิงแทน
"ฉันน่ะไม่สงสารเธอหรอกนะ...ไม่สักนิดเดียว" อึนโซมองหน้าเขา
"แล้วฉันดูน่าสงสารงั้นหรือ"
"ก็บอกว่าไม่ไงล่ะ" เสียงดังขึ้น
"เธอไม่น่าสงสาร...เพราะตั้งแต่นี้ไป...ฉันจะคอยดูแลเธอเอง" อึนโซมองเทซก เขาหันหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างรถ




จุนโซจะเข้ามาคุยกับชีเน่ พอเปิดประตูก็ถูกน้องเขวี้ยงด้วยหมอนใส่หน้า
"นี่มันเรื่องอะไร !" ชีเน่เกรี้ยวกราด จุนโซเดินเข้าใกล้
"ใจเย็นซิ ขอโทษที่ไม่ได้บอก"
"พี่น่ะ อย่าให้แม่รู้เชียวนะ อึนโซโผล่มาเนี่ย อย่าบอกแม่เด็ดขาด"
"ชีเน่..."
"พี่ก็รู้แม่ยังป่วย แม่รับไม่ได้หรอก" จุนโซนึกตำหนิน้องที่ไม่นึกเห็นใจแม่ของตัวเอง
"ที่แม่ป่วยก็เพราะตรอมใจคิดถึงอึนโซมาตลอด เธอก็รู้ดี" คำพูดบาดใจชีเน่
"พูดขนาดนี้เชียวหรือ"
"ขอโทษ พี่เพียงแต่อยาก...ให้แม่ได้พบกับอึนโซ...พี่ทำเพื่อท่านได้แค่นี้"
"ฉันไม่มีความหมายสำหรับพี่เลยใช่ไหม อึนโซกลับมาแล้ว ฉันก็กลายเป็นหัวหลักหัวตอเลยใช่ไหม" ชีเน่พูดอย่างเจ็บปวด รู้สึกว่าตนเองไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้เลยตั้งแต่อึนโซจากไป
"ยุน ชีเน่ !!"
"ใช่ซิ ยุน ชีเน่น้องสาวในสายเลือดของพี่ยังไงล่ะ" ชีเน่ย้ำคำพูดเสียงดัง ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างแรง
"ฉันต้องอ้างว้างในอเมริกา แม่ก็เอาแต่คิดถึงอึนโซ พี่ก็เข้าหน้าฉันไม่ติด ไม่มาสนิทสนม ในเมื่ออึนโซกลับมาแล้ว ฉันจะเป็นยังไงล่ะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเค้าอีก" ชีเน่น้ำตาไหลพูดสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด จุนโซเดินมานั่งข้าง ๆ
"พี่เข้าใจล่ะ มาช่วยกันพิจารณาจนกว่าพ่อแม่จะกลับมา"




ยามเช้าที่บ้านพักจุนโซ อึนโซรับโทรศัพท์จากพี่ชาย นัดว่าจะเจอกัน
"สวัสดีค่ะ พี่หรือคะ อยู่ที่ไหนคะนั่น"
"คืองี้นะ พี่จะตรงไปวิทยาลัยหลังจากไปส่งยูมีนะ กำลังจะไปทำงานใช่ไหม วันนี้เลิกงานกี่โมง แล้วค่อยเจอกันนะ"
เลิกงานแล้วอึนโซส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเอง จะไปตามที่นัดไว้กับพี่ชาย
จุนโซกำลังสอนนักศึกษาวาดรูปอยู่ มีคนมาขอพบ เดินออกไปเห็นจงชลก็ถามเสียงเรียบ
"มีเรื่องอะไรหรือ" จงชลยิ้มกวน ๆ
"ต่อยหนักนะเรานี่ ยังเจ็บอยู่เลย"
"นายต้องการอะไร" จุนโซตัดบท
"เรื่องอึนโซ"
"อึนโซเจอนายหรือ" จุนโซหน้าเครียด
"เปล่านี่ แต่คงไปสบายนะ นายคงเลี้ยงดูมันดีซินะ ใช่ไหม แม่ก็ยิ่งป่วยอยู่ซะด้วย ฉันไม่ได้ขออะไรมากมายนะ" จงชลวกเข้าเรื่องที่อยากได้ จุนโซรู้ทัน
"ฉันต้องขอตัวล่ะ" หันหลังจะเดินไป จงชลพูดขู่
"เฮ้ย ! เดี๋ยว จะเป็นยังไงถ้านักเรียนของนายรู้ว่านายน่ะอยู่กับผู้หญิง งามหน้าดีไหมล่ะ" จุนโซส่ายหน้าเอือมระอา เดินต่ออย่างไม่ใส่ใจ จงชลพูดอีกอย่างเป็นต่อ รู้ดีว่าต้องได้ผล
"ถ้าบริษัทอึนโซรู้เรื่องจะไล่มันออกไหม" จุนโซหันมองหน้าอีกฝ่ายอย่างจำยอม ไม่อยากให้อึนโซเดือดร้อน




อึนโซมาหาจุนโซ พอเห็นจงชลอยู่กับพี่ชายนับเงินในมืออยู่ ได้ยินเสียงจงชลพูดขึ้น
"ขอบใจว่ะ คนรวยมันก็ต้องช่วยคนจนซิ จริงไหม เป็นเพื่อนกันไปทำไม ก็ต้องคอยเจือจุนกันซิ จริงไหม" พูดพลางจับไหล่ทำท่าสนิทสนม อึนโซแค้นใจจงชลทนไม่ไหว วิ่งเข้าไปตีพี่ของตัวเองไม่ยั้ง ร้องไห้ว่าจงชล
"คนสารเลว เลวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ทำไมต้องคอยรังควานให้ฉันต้องทุกข์ใจอย่างนี้นะ อย่ามากวนใจพี่ชายฉันอีกนะ ไปซิ ไปเลย" จุนโซห้ามจับตัวน้องไว้ จงชลได้ทีรีบหนีไป อึนโซร้องไห้เสียงดัง
"คนบ้า ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันด้วย"
"ไม่เป็นไรอึนโซ" จุนโซพูดปลอบ กอดเธอไว้




เทซกเดินออกมาจากที่พัก ชีเน่รออยู่เห็นก็เรียก ตรงเข้าคว้าแขนหมับ เทซกชักมือออกร้องห้าม
"อย่า ๆ ๆ ๆ กลายเป็นปลาหมึกยักษ์หรือไงเรา...ไปทำงานหรือ"
"ยังหรอก ต้องเริ่มอาทิตย์หน้า วันนี้ก็เลยยังว่างอยู่" ชีเน่คล้องแขนเทซกอีก
"นี่พี่ไปกินกลางวันนะ"
"ก็ได้"
นั่งกินอาหารด้วยกัน ชีเน่ฟังเทซกพูดจบก็มองหน้าเขา
"หมายความว่าไง"
"เราน่ะเลิกกันดีกว่านะ" เทซกบอกเลิกง่าย ๆ
"อะไรนะ มีแฟนหรือ" ชีเน่ดักคอเล่น ๆ เทซกทำท่าตกใจ
"โอ้โห ! รู้ได้ไงน่ะ" ชีเน่ยิ้ม เข้าใจว่าเทซกไม่เคยคบกับใครยืดยาว คนใหม่ก็คงเหมือนกัน
"ใครกันล่ะ คราวนี้จะนานแค่ไหน"
"คราวนี้จริงจังเลย"
"เพื่อน ๆ พบท่านประธานในโซล"
"พ่อฉันน่ะหรือ"
"ท่านอยากให้เราแต่งงานกัน"
"เธอนี่ เลิกคิดน่า เมื่อกี้บอกแล้วไงว่าเลิกกันไปแล้ว" เทซกก้มลงตักอาหารสูดเข้าปากเสียงดัง
"อร่อยดีนะ มื้อสุดท้ายของเราสองคน" ชีเน่มองยิ้ม ๆ คิดว่าเทซกคงไม่จริงจังกับผู้หญิงคนใหม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา




จุนโซกับอึนโซเดินเข้าบ้านมา จีวันเห็นเข้าก็ต่อว่า
"หายไปไหนมา บอกแล้วว่าเย็นนี้ต้องมาช่วยกันเก็บกวาด"
"อ๋อ ! ผมลืมไปครับ เดี๋ยวลงมือเลยครับ"
จุนโซกับอึนโซช่วยกันทำความสะอาดห้อง อึนโซเช็ดกระจกหน้าต่าง จุนโซถูพื้นห้อง พอเงยหน้าขึ้นมองอึนโซ ก็รู้สึกคล้ายมีแรงดึงดูดบางอย่างจนไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้ มือทำงานช้าลงแล้วหยุดมองนิ่ง ละอองแดดละมุนส่องวงหน้างดงามกระจ่าง ดวงตาที่เพ่งพิศหญิงสาวทอแสงอ่อนอุ่น ฉายชัดถึงความอ่อนโยนที่อยู่ข้างใน รอยยิ้มบาง ๆ ระบายทั่วดวงหน้าจุนโซ จีวันเดินผ่านหน้าห้อง เห็นสายตาจุนโซที่มองอึนโซก็พอจะเข้าใจ เดินเลยผ่านไปเงียบ ๆ




แสงตะวันจ้าสดใสสาดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ดูสว่างไปทั้งห้อง สองคนนั่งหันหลังพิงกัน มือข้างหนึ่งต่างเช็ดกระจก แขนอีกข้างของทั้งสองวางชิดกัน จุนโซเริ่มพูด
"มีเรื่องจะเล่านะ อยากจะฟังไหม ลูกศิษย์ที่วิทยาลัยหลงคิดว่าพี่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ สงสัยคงหน้าเด็ก" ประโยคสุดท้ายพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
"เธอล่ะคิดว่าพี่ดูเด็กไหม"
"ไม่สักหน่อย อย่างพี่น่ะ ดูอย่างกับคุณปู่แน่ะ" จุนโซหัวเราะออกมาเบา ๆ
"เมื่อกี้เธอก็ดุอย่างกับเสือแน่ะ"
"ก็เค้าน่ะต้องสู้ชีวิตนี่นา"
"พี่เสียใจ ถ้ารู้ว่าเธอจะไม่สบายใจ พี่คงไม่ให้เงินหมอนั่น"
"ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเถอะ" เงียบกันไปเพียงครู่ อึนโซถามพี่ชาย
"ได้เจอเค้า พี่มีความสุขไหม" จุนโซนิ่งฟัง ใบหน้าแหงนเงยขึ้นพิงศีรษะเธอ หลับตาลง ผ่อนลมหายใจเบา ๆ ยิ้มราวกับอยู่ในภวังค์ฝันอันงดงาม อึนโซอยากให้เวลาอยู่เช่นนี้ไปนานเท่านาน จุนโซลืมตาขึ้นผงกศีรษะขึ้นช้า ๆ ค่อย ๆ ขยับนิ้วก้อยตัวเองเข้าใกล้จนติดนิ้วก้อยเธอ ท่ามกลางความเงียบงัน ทั้งคู่รู้สึกถึงนิ้วที่ชิดกัน เยื่อใยอันแสนหวานแผ่ความอ่อนโยนล้ำลึกเข้าถึงหัวใจทั้งสองดวง ให้หลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน




แม่ลูกกินข้าวด้วยกัน ซุนอิมฟังลูกชายเล่าถึงจุนโซ ช้อนหลุดจากมือ เงยหน้าถาม
"แกว่าใครนะ"
"ก็ไอ้หนุ่มยุน จุนโซไง คนที่เป็นพี่ชายนังนั่น"
"พวกบ้านนั้น...เขากลับมา...จากอเมริกาแล้วหรือ" เสียงพูดตะกุกตะกัก น้ำตาคลอเบ้า เอ่ยคำสุดท้ายออกมา "ชีเน่"

ชีเน่ขับรถมาที่โรงแรมเริ่มทำงานวันแรก
อึนโซขี่จักรยานมาทำงาน เทซกขี่จักรยานตามมาทัน บอกอึนโซ
"ออกกำลังกายดีจังเลยนะ ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย นี่ ! เอางี้ไหม มาแข่งกันไปถึงโรงแรม เอาไหม เอาหรือเปล่า"
"ก็ยังขี่ไม่เก่งเลย ไม่กลัวเสียเงินหรือ"
"รับคำท้าเลย ถ้าเธอชนะฉันจะเลี้ยงข้าวเช้า ถ้าฉันชนะ เธอต้องจูบฉันนะ เริ่มเลย ไปเลย" ไม่ทันไร เทซกออกนำหน้าไป อึนโซไล่ตามไปติด ๆ สองคนขี่รถแข่งกันไปตลอดทาง




เลขาบริษัทอธิบายงานให้ชีเน่ฟังแล้วบอก
"คงต้องทำความคุ้นเคยสักพักล่ะครับ"
"คงต้องให้คุณช่วย" เลขามองลงไปที่โต๊ะอาหารข้างล่าง เห็นเทซกกับอึนโซนั่งกินข้าวด้วยกันท่าทางคุยกันถูกคอ พูดเปรยขึ้น
"ยังอยู่ด้วยกันอีกหรือนี่" ชีเน่นึกถึงคำพูดของเทซกตอนที่บอกเลิก รู้ทันทีว่าอึนโซเป็นผู้หญิงคนใหม่ของเขา

ชีเน่ทำงานแทนคิม แนะนำตัวเอง
"สวัสดีค่ะ ฉันขอแนะนำตัวนะคะ ฉันยุน ชีเน่ ยินดีที่รู้จักนะคะ ตั้งแต่นี้ไปฉันจะมาดูแลแผนกแม่บ้านแห่งนี้ ในเมื่อฉันเป็นคนใหม่ คงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป" ชีเน่ค้อมศีรษะลง อึนโซรู้สึกภูมิใจในตัวเพื่อน ตรงข้ามกับกังอีที่หน้าเสีย หันมาถามอึนโซ
"นั่นชีเน่จริง ๆ หรือ"

ชีเน่ถือแฟ้มเดินอ่านออกจากห้อง อึนโซกับกังอีตามออกมา อึนโซเรียกเพื่อน ชีเน่หันไปเห็นกังอียืนอยู่ด้วยก็ทักอย่างไว้ตัว
"กังอีไม่ได้เจอกันนานนะ"
"นั่นซิ แทบจำไม่ได้เลย" กังอีท่าทางขยาด อึนโซยิ้มให้ชีเน่แล้วพูด
"ชีเน่ รู้ไหม ดีใจจังเลยเธอมาอยู่แผนกเรา"
"อย่างงั้นหรือ ฉันขอพี่เทซกมาคุมแผนกนี้"
"งั้นหรือ"
"ว่าแต่ ที่ลือว่าคุณคิมถูกไล่ออกเพราะเธอน่ะ มันจริงไหม เธอไปบอกพี่จุนโซให้พี่เทซกเขาจัดการให้เธออย่างงั้นล่ะซิ" สีหน้ามีแววเยาะ
"อ้าว ! มากไปแล้วนะ" กังอีไม่พอใจ
"นั่นซินะ ฉันก็ว่าพวกเธอน่ะ ไม่ควรมาตีเสมอฉันในระหว่างทำงาน" ชีเน่พูดอย่างเย็นชา อึนโซสะอึกไป กังอีพูดไม่ออก ชีเน่ไล่ส่ง
"ไง กลับไปทำงานกันซิ ไว้คุยกันทีหลัง" ชีเน่หันหลังเดินไปพลางเปิดแฟ้มออกอ่านต่อ เสียงซุนอิมเรียกชีเน่ ชีเน่เงยหน้าขึ้นมอง เห็นคนที่เคยเลี้ยงดูตัวเองมา ไม่คิดว่าจะได้พบกัน ตกใจผงะก้าวถอยหลัง อึนโซเรียกแม่ ซุนอิมจ้องมองแต่ชีเน่
"ชีเน่...นั่น...ชีเน่ใช่ไหม...ชีเน่ลูกแม่ใช่ไหม" ชีเน่ถอยหนีแล้ววิ่งจากไปอย่างเร็ว ซุนอิมน้ำตาไหลพรากเรียกชีเน่ไม่หยุด รู้สึกอ่อนแรงจนเซ อึนโซเข้าประคองแม่

ชีเน่วิ่งไม่หยุด นึกเพียงว่า สิ่งที่ได้เห็นเป็นอดีตอันเลวร้ายที่ตามมาหลอกหลอนตนเองเท่านั้น
อึนโซพาแม่กลับบ้าน ซุนอิมนิ่งเงียบ แต่ดวงตาทุกข์ทรมานที่เห็นลูกวิ่งหนีตัวเองอย่างนึกรังเกียจ
ชีเน่โทรศัพท์ไปหาคุงฮา
"แม่คะ หนูคิดถึงแม่จัง คิดถึงจังเลย แต่ก็พูดออกไปไม่ได้ หนูยังเป็นลูกแม่นะ" ชีเน่เจ็บปวด รู้สึกว่าไม่มีใครรักเธอเลย




อึนโซออกมานั่งที่ริมน้ำกับแม่ ซุนอิมยกแก้วเหล้าขึ้นซดแล้วพูดเหมือนสบายใจ
"ดีใจจัง โล่งอกด้วย ได้เห็นกับตาวันนี้เอง บ้านนั้นเขารักษาคำพูดดีนะ ดูท่าทางพวกเขาก็เลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างดีที่สุด เค้าสวยน่ารัก จริงไหมล่ะ" อึนโซนิ่งฟังแม่ พยักหน้าให้
"ว่าแต่...เค้าได้เรียนจบปริญญาไหม"
"จบค่ะ"
"ดูแม่ซิ ดูสภาพแม่ซิ แม่ทำอะไรลงไปเนี่ย รักษาคำสัญญาไม่ได้ ดูที่แม่ทำกับลูกซิ เอาลูกมาลำบาก เราไม่น่าจะสลับเด็กกลับคืนเลย...แม่ทำลายชีวิตลูก แม่เสียใจจริง ๆ นะอึนโซ...แม่เสียใจมากนะอึนโซ เหมือนกับแม่ทำลายอนาคตลูก แม่ไม่น่าปล่อยเค้าไปเลย แม่น่าจะเก็บเค้าเอาไว้...ชีเน่...ลูกแม่...ชีเน่...ชีเน่..." ซุนอิมทั้งเสียใจที่ลูกของตัวเองต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก ทั้งอาลัยอาวรณ์ชีเน่ ซบหน้าลงร้องไห้สะอึกสะอื้น




ภาพของอึนโซที่กำลังเช็ดหน้าต่างในแสงอุ่นของตะวันอ่อน ที่จุนโซเฝ้าพิศมองอย่างประทับใจถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาด ชายหนุ่มนิ่งมองภาพ นึกถึงคนในภาพ...ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่จุนโซอยากวาดภาพเธอเก็บไว้ จีวันทำงานศิลปะอยู่ข้างใน เดินออกมาเห็นจุนโซกำลังวาดอย่างตั้งอกตั้งใจ เข้าไปใกล้มองภาพแล้วเอ่ยถาม
"อึนโซล่ะซินี่ อะไร"
"อ๋อ...ผมกำลัง sketch เล่น ๆ"
"คงไม่งั้นมั้ง น่าจะยิ่งกว่าน้องสาว นายรักเค้าจริง ๆ ไม่ใช่หรือ" จีวันพูดความรู้สึกเพื่อนรุ่นน้อง จุนโซหยุดวาดสีหน้าขรึม มองหน้าจีวันไม่พูดอะไรแล้วหันไปวาดต่อ




อึนโซมาทำงานตอนเช้าพบกับชีเน่ที่มารออยู่ ชีเน่ลุกขึ้นยกมือปาดน้ำตา อึนโซมองอย่างสงสัย สองคนออกไปคุยกันในสวนของโรงแรม ชีเน่ขุ่นเคืองใจที่อึนโซกลับเข้ามาในชีวิตตนเองอีก จงใจยกเรื่องอาการป่วยของคุงฮาขึ้นมาพูด อึนโซน้ำตาเอ่อ ถามเสียงสั่นเครือ
"คุณแม่ล้มป่วยหรือ ป่วยมากหรือ"
"มีพักใหญ่ที่ท่านจำใครไม่ได้สักคน ฉันว่า ท่านคงนึกฝันไปเองว่าได้อยู่กับเธอ"
"ฉันผิดเอง" อึนโซพูดเสียงสะอื้น
"ฉันไม่ได้โทษเธอหรอกนะ แต่ถ้าเธอยังอยู่กับพี่จุนโซแบบนี้ แม่ก็คงได้พบเธอเข้าสักวัน ฉันกลัวอาการจะยิ่งทรุด แล้วก็ยังมีเรื่องยูมีอีกล่ะ เธอกับพี่จุนโซไม่ได้เป็นญาติกันเลย ยูมีเค้ายังไม่รู้เรื่องนี้หรอก" เห็นอึนโซยังก้มหน้านิ่งก็พยายามหาเหตุอื่นมาอ้างอีก
"ฉันเองก็เสียใจนะที่ต้องทำแบบนี้ แต่เธอน่ะไม่ใช่คนเดียวที่ทรมานนะ เธอต้องคิดดูให้ดีซิ อึนโซ ฉันกลัวมากนะ เธอก็รู้เราย้อนกลับไปในอดีตไม่ได้น่ะ" ถึงแม้สิ่งที่ชีเน่ต้องการจะตอกย้ำความเจ็บปวดที่ต้องจากคนที่รักไปอีก แต่อึนโซก็ไม่มีวันยอมให้ใครต้องมาเป็นทุกข์เพราะตัวเอง โดยเฉพาะแม่ที่อึนโซรักมากที่สุด
"ฉันจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น" ชีเน่เหลือบมองอึนโซ
"เธอหมายความว่ายังไง" อึนโซเงยหน้า น้ำตาไหล หันไปบอกชีเน่
"ถ้าฉันไปซะล่ะ ทุกอย่างมันจะดีขึ้นไหม" ชีเน่ทำหลบตา แต่สีหน้าสมใจที่ทำให้คนที่ตัวเองเกลียดพ้นไปจากชีวิตเสียได้




อึนโซทำอาหารมื้อลาจากให้พี่ชายมากมาย จนุโซแปลกใจแต่นึกว่าน้องจะเอาใจ
"เค้ารู้ว่าพี่ชอบกิน นี่ก็ของโปรด"
"ทำซะเยอะเชียว โอกาสพิเศษอะไรหรือ วันนี้เลิกเร็วหรือไง"
"เค้าทำเฉพาะของโปรดพี่หรอกนะ ดีไหมล่ะ" อีนโซมีแต่รอยยิ้มให้พี่ชาย จุนโซทำตาโตพูดลากเสียง
"ขอบพระคุณมากครับ" จุนโซคีบอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย อึนโซมองพี่ชายราวกับจะประทับภาพของเขาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ รอยยิ้มเมื่อสักครู่จางลง จุนโซเอาแต่ตักกิน เงยหน้าขึ้นเห็นน้องมองอยู่ ถามยิ้ม ๆ
"อะไร ไม่เคยเห็นคนกินหรือ"
"เคยซิ แต่ไม่บ่อยสักเท่าไหร่...อยากจำภาพไว้ในใจ" ประโยคสุดท้ายเบาลงราวกระซิบกับตัวเอง จุนโซไม่รู้ความนัยที่น้องพูด เอ่ยสีหน้ายิ้มพราย
"ยังมีให้เห็นอีกนานน่า" จุนโซก้มลงกินต่อ อึนโซลุกไปเทน้ำให้พี่ชาย หยิบถ้วยของพี่ชายวางตรงหน้าเขา ตัวเองใช้ถ้วยที่เก็บไว้คู่กัน จุนโซมองถ้วย อึนโซถาม
"จำได้ไหม" จุนโซยิ้ม พยักหน้าให้
"ถ้วยของพี่ไงล่ะ...เอาคืนไปเถอะ เค้าเก็บไว้ตั้งหลายปีแล้ว เอามาคืนพี่ได้ซะที อย่าทำแตกซะล่ะ...เราจะได้อยู่ด้วยกันต่อไป" คำพูดสุดท้ายพูดราวกับมีความสุข แต่สีหน้าไม่แสดงความดีใจอย่างคำพูดแม้แต่น้อย อึนโซเห็นสีหน้าสงสัยของพี่ชายก็เสพูด
"เติมน้ำแกงไหม"




ดึกแล้ว จุนโซยังนั่งทำงานอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงดังข้างนอกห้อง ลุกออกไปดู เห็นอึนโซหิ้วกระเป๋ากำลังจะเดินออกประตูไป จุนโซตะโกนเรียกอึนโซด้วยความตกใจ อึนโซหยุดเดิน จุนโซเดินเข้าใกล้จับแขนให้หันหน้ามา
"คิดจะไปไหนน่ะ"
"พี่ชาย..." ถึงน้องไม่บอก จุนโซก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มดึงกระเป๋าจากมือเธอ แต่อึนโซยึดไว้แน่น จุนโซดึงอีก บอกน้อง
"กลับมาเถอะ" อึนโซยืนนิ่งไม่ยอมปล่อยมือ จุนโซชักโมโหเรียกน้องเสียงดัง
"ยุน อึนโซ"
"เค้าไม่ใช่ยุนอีกแล้ว...พี่ชาย...เค้าคือ ชอย อึนโซ เค้าไม่ใช่คนเดิมที่พี่รู้จักอีกแล้ว" จนุโซจ้องหน้าเธอ




"เค้าน่ะนึกว่าจะมีความสุขถ้าเราได้พบกันอีก เค้าเฝ้าคอยวันที่จะได้พบกับพี่อีกสักครั้ง เค้าพยายามทำตัวดี ๆ พี่จะได้ไม่ต้องผิดหวังในตัวเค้า มันทำให้เค้ามีกำลังใจจนถึงกับภูมิใจ แต่ว่าเค้ากลับไม่มีความสุขแม้เราจะได้อยู่ด้วยกันอีก เค้าเป็นอะไรไปหรือ ทำไมยิ่งรู้สึกช้ำใจอย่างนี้...หรือว่า...เราไม่ควรจะพบกันอีก" ภาพของพี่ชายเลือนพร่าด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้าจุนโซที่ก้มต่ำเงยขึ้นมองน้อง บอกเสียงเครือ
"อึนโซ อย่าพูดน่า อย่าพูด อึนโซ มานี่ กลับเข้าไป"
"ปล่อยเค้าไปเถอะ ให้เค้าไปเถอะนะ ทำเหมือนเราไม่เคยพบกันซิ ทุกคนจะได้สบายใจ ทำเพื่อเค้านะ" อึนโซหันหลังจะเดินไป จุนโซรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองกำลังจะหลุดลอยหายไปต่อหน้าต่อตา ดึงตัวอึนโซกอดไว้ น้ำตาพรั่งพรูลง
"อย่านะอึนโซ...อย่าไป...อยู่กับพี่...พี่ไม่ให้เธอไป...เธอไม่ต้องเป็นน้องสาวพี่...ขอแค่อยู่กับพี่...อยู่กับพี่นะ...อย่าทิ้งพี่ไป...อยู่ที่นี่แหละ...อยู่กับพี่...พี่ไม่ยอมให้ไป...อยู่ที่นี่กับพี่นะ" จุนโซกอดเธอไว้แนบแน่น สองคนยืนแนบชิดกันอยู่อย่างนั้น
"ไปทะเลกันนะ" คำชวนคำเดียวกันในวันก่อนที่ต้องจากลาเมื่อแปดปีก่อน
ทะเลงาม คลื่นสงบ ท้องฟ้าสะอาดใส ชายหญิงเดินเคียงคู่ พูดคุยกันอย่างสุขใจไปตามชายหาดแห่งความหลังของทั้งสอง โดยไม่รู้ว่ายังต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อะไรที่จะผ่านเข้ามาอีก




ยูมีขนอุปกรณ์วาดรูปมาให้เทซก
"เอามาครบหมดเลยเชียว ขอบคุณนะ เธอมาออกบ่อยแล้วทำไมไม่แต่งงานให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลยล่ะ"
"จุนโซอยากจะคุยกับฉันแล้วล่ะ"
"อ๋อ ! เรื่องแต่งงานซินะ"
"สมพรปาก จุนโซน่ะซิ คงยังไม่อยากแต่งหรอก เขาไม่เคยเอ่ยเลยสักครั้ง"
"งั้นหรือ งั้นก็มาแต่งกับฉันดีกว่าน่า"
"ให้ฉันไปถามอึนโซก่อนดีไหมล่ะ"
"เฮ้ย ! ล้อเล่นน่า" สองคนหัวเราะร่วน
"สงสัยจัง เค้าเห็นอะไรดีในตัวเธอก็ไม่รู้นะ" ยูมีพูดถึงอึนโซ
"ก็เพราะว่าฉันดีกับเค้ามากน่ะซิ ขนาดยอมไล่ยัยนั่นออกไป เพื่อให้เค้าได้กลับเข้ามาทำงานน่ะ"
"จริงน่ะหรือ ทำแบบนั้นได้ยังไง อึนโซคงลำบากใจแย่เลย"
"ทำไม ทำไมต้องลำบากด้วย"
"ก็เพื่อนร่วมงานน่ะซิ ใครจะกล้าคบค้าสมาคมกับอึนโซล่ะ"
"งั้นหรือ" เทซกเพิ่งได้คิด




เข้ามาในห้องพัก เทซกชงกาแฟเสร็จแล้วตะโกนบอกยูมี
"กาแฟเสร็จแล้วครับ"
"นี่เทซก ฉันนึกว่าเธอจะเลิกวาดรูปตั้งแต่เรียนจบแล้วซะอีกนะ"
"พูดเป็นเล่นน่า"
"ฉันรู้นะ เธออยากจะลุกขึ้นมาวาดรูปอึนโซล่ะซิ"
"ใช่ เห็นชัดเชียวหรือ" เทซกทำท่าเขิน
"ฉันไม่เข้าใจเลยนะ จิตรกรผู้ชายแทบทุกรายชอบวาดรูปผู้หญิงที่ตัวเองหลงรัก"
"งั้นหรือ ฉันไม่เห็นเคยวาดรูปผู้หญิงสักคน"
"ก็เพราะว่าเธอไม่เคยรักใครน่ะซิ แต่คราวนี้เทซกเอ๋ย เธอต้องหลงรักเค้าแน่ ๆ เลย" เทซกเอามือวางตรงหน้าอกข้างซ้าย ทำเสียงตกใจ
"ทำไมใจเต้นตูมตาม ผิดปกติหรือเปล่า" แล้วพูดต่อยิ้ม ๆ
"เธอคิดอย่างนั้นหรือ"
"แน่ยิ่งกว่าแน่จ๊ะ"
"จุนโซคงจะวาดรูปเธอบ่อยซินะ" ยูมีอึ้งไป นึกน้อยใจที่เขาไม่เคยวาดรูปเธอเลย
"ไม่เคยเลยหรือ" เทซกถามอย่างแปลกใจ
"เขาน่ะ ไม่เคยวาดสักรูป เขาบอกว่าฉันสวยเกินกว่าจะวาด"
"อะไรนะ ใครจะเชื่อกันเล่า อ้อ...จุนโซน่ะคงจะ..." เทซกจะหาข้ออ้างให้เพื่อน ยูมีรีบบอก
"ไม่เป็นไรน่า ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเขานะ ฉันก็อยากจะนับถือความคิดของเขา แล้วก็จะอดทนรอน่ะ"
"อ๋อ ! เป็นยอดหญิงจริงนะ"
"ที่จริงแล้ว ฉันต้องคอยสะกดใจให้เชื่อแบบนั้นน่ะ เผื่อว่าเมื่อไหร่ที่ฉันไม่สะกดกลั้นไว้ก็ปวดร้าวใจจัง"




ยูมีมาหาจุนโซแต่เขาไม่อยู่ หญิงสาววางของลง เปิดหน้าต่างออก เห็นของบนโต๊ะทำงานรกเลยลงมือจัดให้เรียบร้อย สมุดร่างภาพของเขาวางอยู่ใกล้มือก็ลงนั่ง หยิบสมุดมาเปิดดู ในเล่มมีแต่ภาพอึนโซ ภาพแรกเป็นภาพอึนโซเช็ดกระจกหน้าต่าง ภาพต่อมาเห็นใบหน้าอึนโซเต็มหน้ากระดาษ ยูมีนึกถึงเรื่องที่คุยกับเทซกและคำพูดของจุนโซ
"เราต้องคุยกัน ให้ผมขึ้นไปโซลไหม"
"ไม่ต้องค่ะ ฉันต้องเอาของไปให้เทซก ฉันจะไปหาเอง" ยูมีเข้าใจแล้วว่าจุนโซอยากจะพูดอะไรกับเธอ และผู้หญิงที่เขาหลงรักคือใคร







https://www.youtube.com/watch?v=-hWR0AokzTc




https://www.youtube.com/watch?v=NzR5cSS3iOo




https://www.youtube.com/watch?v=uhw6uhIxHDU




https://www.youtube.com/watch?v=-uI49uk7fwk




https://www.youtube.com/watch?v=ZTlcZx5sxZo




บีจีและไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 28 มีนาคม 2553
Last Update : 17 กรกฎาคม 2565 23:26:36 น. 4 comments
Counter : 5474 Pageviews.

 


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com



พาพี่ชายคุณไฮกุมาฝากค่ะ (ไม่รู้ว่าจะขึ้นป่าว ถ้าไม่ขึ้นก็ลบเม้นท์นี้ไปเลยนะคะ)


โดย: somjaidean100 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:19:55:24 น.  

 
ไม่ขึ้นจริงๆด้วย โทษทีค่ะ

ค่อยยังชั่วหน่อย ตอนนี้ไม่ค่อยเศร้าเท่าไหร่ แต่ก็แอบเศร้า ไม่งั้นได้ร้องกันทุกตอน

ตอนนี้พี่ชายคุณไฮกุมีผลงานเรื่องอะไรคะ อยู่นี่หาหนังดูยากจัง ต้องสั่งซื้อทางเน็ต แต่ละเรื่องก็แพงใจหาย


โดย: somjaidean100 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:20:00:47 น.  

 
เพลงขึ้นเรียบร้อยจ้า ขอบคุณคุณพีชมากที่หาเพลงเพราะ ๆ มาฝาก ดีจัง มีคลิปให้ดูด้วย ชอบเพลงเรื่อง Calla ค่ะ เพลงที่คุณศิริศักดิ์ร้องก็เพราะขนาด

เรื่องนี้ทำให้ยิ้มได้อยู่ไม่กี่ตอน แต่ก็จะมีฉากเศร้ามาแจมตลอดเลย ยิ่งดูก็ยิ่งเศร้า แต่ก็ทำให้มีความสุขจริงๆ ค่ะ


โดย: haiku วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:21:53:01 น.  

 
You're so cool! I do not suppose I've read through a single thing like that before.
So wonderful to find someone with a few genuine thoughts on this subject.
Seriously.. many thanks for starting this up. This website is one thing
that is required on the web, someone with a bit of originality!
psg bortedrakt
KristineB Bayern Munchen Drakt JulietGoo


โดย: Moses IP: 45.32.94.18 วันที่: 28 กันยายน 2565 เวลา:21:28:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.