Group Blog
 
<<
กันยายน 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 กันยายน 2566
 
All Blogs
 
No. 1227 ตัดสินใจพลาด... แก้ไข...?

No.  1227   ตัดสินใจพลาด..แก่ไข...?



 
หน้าบ้านพักเพื่อนบ้านและเพื่อนในสวนที่ อ.แก่งหางแมวมาให้ดู 
เพื่อนหลายคนมาแซวว่า จะอยูได้เหรอ บางคนก็พูดว่าเก่งเนาะเข้าไปทำสวนในป่า  ไม่กลัวงู กลัวยุง กลัวช้างป่าเหรอ
แต่เดินทางไป บ้านพักนี่ซิลำบากสุด ๆ ในฤดูฝนต้องเตรียมจอบเสียบท่อนไม้ขนาดท่อนมือใส่ไปในรถพิคอัพ


 
ไปด้วยจะได้ขุดหนุนให้รถขับผ่านร่องดินเละตุ่มเป๊ะไปได้
ก่อนน่านั้น 2  ปีประเทศไทยเจอพิษเศรษฐกิจ ต้มยำกุ้งคนตกงานมากมายบางคนต้องลดเวลาทำงานจากอาทิตย์ละ 6 วันเหลือ 3 วัน
แน่นอนเงินเดือนค่าจ้างลดลงครึ่งต่อครึ่งไม่ต่างกับไทยเจอไวรัสโควิดระบาด
 
ที่โรงงานผมทำก็เช่นกันคนงานช่างโฟร์แมน ทุกคนในโรงงานรวมทั้งตนเองด้วย
โชคดีโรงงานใช้เครื่องจักรอัตโนมัติทำการผลิตมี จนท.ผลิตเพียง 60 กว่าคน...ยังหาเงินมาจ่ายไม่ค่อยได้..ค่าวัตถุดิบต้องใช้เงินสดซื้อ
ผลิตสินค้าส่งหรือไปติดตั้ง ณ จุดก่อสร้างแล้ววางบิลให้ลูกค้าจ่ายเงิน..ก็ได้รับไม่ได้บ้างต้องไปยืมเงินจากนาย ๆ  ที่เป็นเจ้าของมา
จ่ายพนง.ก่อน...ครั้งละหลายแสนมีเงินก็คืนให้นายบ้าง ยอมรับว่ากลุ้มมาก
ต้องหลบไปนั่งบนศาลาใหญ่ที่วัดอโศการาม ระหว่างนั้นมีคนมานั่งเงียบ ๆ เดาเอานะว่าเขานั่งทำสมาธิ.. บางวันนั่ง 3 ชม.
คือนั่งเลียนแบบเขาความเงียบสงบก็เริ่มคิดได้ว่า เรายังต้องต่อสู้ต่อ.. อย่ายอมแพ้
 
ปรับการใช้ชีวิตของครอบครัว ใช้เงินเท่าที่จำเป็น. เพราะบ้านต่างจังหวัดขนาด 6 ห้องนอนให้เขาเช่ามาหลายปีเดือนละหลายบาท
ลดค่าเช่าหลายครั้งเหลือ 2 พันห้าร้อยบาทยังได้เงินบ้างไม่ได้เงินบ้าง
เลยบอกข่าวขายบ้านและที่ดิน.. เงียบเพราะทุกคนรู้ว่าลงทุนซื้อไว้คงขายไม่ออก
ก่อนไปทำงานที่โรงงานแถวสมุทรปราการก็แวะ ไปจ๊อกกิ้งทุกวันให้เหงื่อออกช่วยให้คลายเครียด
ที่สวนหลวง ร. 9 ทำให้ร่างกายแข็งแรงพอสมควร คือเจอเพื่อน ๆ กลุ่มนี้ช่วยกันประหยัด...นั่งกินกาแฟตอนเช้าข้างถนน 2 ปีกว่า


 
เพื่อนเป็นค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้างชวนไปดู สวนแถวคลอง 8  ปทุมธานีที่เริ่มทำแล้ว อีกคนเป็นทนายความชวนไป
ดูที่ดินจันทบุรีที่เขาปลูกทุเรียน เงาะเลยเกิดความคิดว่าควรใช้ที่ดินเรา 30  กว่าไรที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรีปลูกผลไม้เตรียมขาย


 
ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ไปดูที่ดิน...จะทำสวนผลไม้กว่าจะได้ผลอีก  3 - 4  ปีข้างหน้า..บ้านเมืองแย่ลงก็จะพาครอบครัวไปอยู่ในสวนอยู่
กระตอบเล็ก ๆ อยู่ก็ได้กะจะปลูกชะอม ผักบุ้งผักกาดเลี้ยงหมู่ ขุดข่อเลี้ยงปลาไว้เป็นอาหารสำหรับ ก.ครอบครัวเราเอง
ข.  ปลูกผลไม้ ทำให้ที่ดินมีราคาเพิ่ม จะได้ขายราคาสูงขึ้นในโอกาสต่อไป
 
เริ่มอ่านหนังสือฟังวิทยุการเกษตร ว่าตลาดน่าจะต้องการผลไม้ใด.. ขับรถไปดูวิธีการซื้อขายผลไม้ปากทางเข้า เขาสุกิม
ชาวสวนแค่ขนใส่พิคอัพผลไม้ไป คนรับซื้อชี้หน้าถาม ขายเปล่าโลละ...... บาท.. คนขับพยักหน้า...เขาก็กระโดดเกาะรถ
ชี้ให้ไปที่แผงรับซื้อขนลงชั่ง..จ่ายสด เรียกว่ารอบคอบแล้วคือหาตลาดรับซื้อขายกันก่อน


 
ไปดูวิธีการซื้อขายตลาดสี่มุมเมือง กับตลาดไทราคาผลไม้ขึ้นลงตามจังหวะ


 
ปรึกษาชาวบ้านแถวที่ดินอยู่ เขาก็แนะนำให้สั่งจองกิ่งพันธ์ต้นผลไม้ จ่ายเงินมัดจำกะวันที่จะไปรับ(รอฝน)  ปีแรกปลูก 2 อย่าง
เป็นการลงทุนระยะยาว สระบ่อน้ำลึกนี้เป็นลูกที่สองจ้างรถแบคโฮขุด


 
ปลูกแค่สิบไร่ปีแรกขุดสระเก็บน้ำ 1 ลูกใหญ่ว่าลูกที่ 2 ข้างบน... จ้างรถแทรกเตอร์ติดเครื่องตัดหญ้าไว้ท้ายเพราะหญ้าสูงท่วมหัว


 
สระบ่อเก็บน้ำลูกแรก เจอตาน้ำผุดโชคดีสุด ๆ แรกก็อาศัยไปพักบ้านชาวบ้าน เข้าปีที่สองก็เริ่มปลูกบ้านแบบในภาพ


 
แต่ไม่ได้ปลูกในที่สวนตนเองเพราะเคยอยู่กลางคืนคนเดียวระยะครึ่ง กม. ไม่เห็นแสงไฟบ้านใด ๆ เลยน่ากลัวมาก
เลยขอแบ่งซื้อที่ดินใกล้บ้านที่อาศัยเขาอยู่ 100 ตารางวาเซ็นสัญญาจ่ายเงินเรียบร้อยก็ เรียกช่างแถวอ่างเก็บน้ำอีกอำเภอมาปลูกให้



 
ไม่ต้องทาสีใด ๆ เพราะไม่มีเงินพอแต่ มีฝ้าเพดานปิดด้านบน จ้างเขาทำมุ้งลวดครบใครถามก็บอกว่าแบบ LOFT  ไง 
เป็นบ้านเปือย ๆ ไม่ทาสีเห็นโครงอะไรเยอะหน่อย หุ หุ
ทำมุ้งงลวดก่อนเพื่อป้องกันงูเข้าบ้านเป็นหลัก รองลงมาคือป้องกันยุง


 
ปลูกเสร็จเราเป็นพลเมืองดีนี่นาเลยยื่นขอจดทะเบียนบ้าน เขาบอกว่าคุณไปขอผ่าน หมอที่ รพ.ส่งเสริมตำบลนะ
แรก ๆ ก็งง.. ทำไมต้องขอผ่านแพทย์ด้วย
ไปเองซิครับ เจอหมอนั่งอมยิ้มทักทาย ถามสารทุกข์สุขดิบกัน   หมอถามพี่ขุดส้วมด้วยเปล่าถ้าไม่มีพี่ต้องไปขุดส้วมก่อนนะ
หมอจึงจะเขียนบันทึกให้อำเภอได้
อ๋อ.. ทำเรียบร้อยแล้วครับ  นี่ครับผมถ่ายภาพไว้ด้วย  ว่าแล้วก็เปิดให้หมอดู


 
ว้าว.. มีส้วมชักโครกนั่งบนด้วย ของหมอยังนั่งยอง ๆ กันเลย.. ว่าแล้วหมอก็เขียนข้อความว่าบ้านเรือนถูกสุขลักษณะ
ผมยกมือไหว้ขอบพระคุณ รับเอกสารไปขอให้กำนันไปยื่นขอเลขที่บ้าน ได้บ้านเลขที่ 7  หมู่ 8  ต.สามพี่น้อง
นึกถึงเรื่องนี้อดอมยิ้มไม่ได้

เพื่อน ๆ ที่สวนหลวง ร.9  รู้ข่าวขอตามไปเที่ยวสวน



 
มีอาจารย์ ตำรวจ กรมศุลกากร ฯ พ่อค้าเจ้าของบริษัท หุ หุ รู้ข่าวว่าปลูกบ้านในสวน มีสวนผลไม้ต่างดี้ด้าขอไปเที่ยวไปค้าง


 
ได้เลย...เขาพากันไปเที่ยวครั้งละ 4 - 5  คน... ผมก็ไซโคว่าจะพาไปกินเนื้อกวาง เพื่อนคงคิดว่าเป็นกวางเขาชะเมา
ได้กินแกงป่ากวาง เสต็ก กวางย่างน้ำตกอร่อยกันทุกคน
 
จริงแล้วเป็นเนื้อกวางรูซ่าจากออสเตรเลีย..มีเซลแมนบริษัท... แหะ ๆ ขอสงวนชื่อไว้นิดนำเนื้อกวางส่งประจำบังเอิญผมจำได้
เป็นบริษัทแถวฝั่งธนบุรี...ที่ผมดูแลบัญชี ภาษีเขาหลายปีแล้ว.. ออสเตรเลียเลี้ยงกวางรูซ่าขายเนื้อ. ในไทยปัจจุบันมีเลี้ยงหลายจังหวัด


 
เพื่อนไปเห็นบ้านแล้วคงจะปลง ไม่ฉาบผนังไม่..ค่ำลงก็ทำอาหารกินกันเองมีน้ำพรรค์นั้นด้วย หุ หุ  ส่วนใหญ่นั่งคุยกันได้เวลานอน
ก็ปูเสื่อแจกหมอนคนละใบนอนเรียงเป็นตลับ ดู ๆ แล้วเพื่อนกลับชอบบางคน ขอติดรถไปเที่ยว  4 - 5  ครั้ง
ได้ปลูกสะตอดานพันธ์จากภาคใต้ 5  ไร่ เงาะ น้อยหน่าจนเต็มพื้นที่  32  ไร่... เข้าปีที่ 3 -4 ปีต้นผลไม้เริ่มออกผล ต้องตัดนำไปขาย
 
เทียวไปเทียวมาจนกระทั่งเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจำไม่ได้แล้วว่ารัฐบาลใด หุ หุ ใครจำได้ช่วยบอกที
คิดจะขายที่ดินพร้อมสวนผลไม้แต่ก็ยังขายที่ดินไม่ได้
 
ผมกับครอบครัวยังคงทำตัวเหมือนเดิม มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้เท่าเดิม.. จนกระทั่งบริษัท ผับ บาร์ภัตตาคารเขาเรียกตัวไปรับงาน
ดูแลเรื่องภาษีบัญชีมิให้ถูกตรวจสอบบ่อยนัก หุ หุ งานไหลมาเทมาต้องเพิ่ม พนง.บัญชี
แต่จนแล้วจนรอด ยังขายที่ดินไม่ได้... ไหนจะต้องติดต่อบริษัทลูกค้าเรื่องบัญชี ภาษีหลายสิบบริษัท ไหนจะต้องไปตัดผลไม้ส่งขาย
เหนื่อยสุด ๆ  งานประจำที่โรงงานก็ทำอยู่


 
จำคำพูดของนักการค้าคนหนึ่ง บอกว่ากิจการทีทำไม่รุ่งไม่ดี เลิกได้เลิกไปเลยแล้วหาทางลงทุนใหม่ เราลงทุนมานานทำเงินไม่ดี
อีกอย่างเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นเลยตัดสินใจ


 
จ้างรถแทรกเตอร์ติดใบใหญ่แบบเดียวกับรถ เกรดเดอร์..ดันต้นผลไม้ทิ้งไป 25  ไร่



เสียดายต้นผลไม้ สะตอใต้ มะม่วง เงาะต้องไถที่ดินเลี่ยนโล่งต้องเตรียมดิน ขุดหลุมตามแนวการปลูกยางพาราก่อนหน้านั้นสั่งและมัดจำกล้ายางพารา 1,900  ต้น x 25 บาท..ให้ส่งต้นกล้าเมื่อเริ่มฝนตกแต่มัดจำ ส่วนหนึ่ง


ลงทุนเฉพาะกล้ายาง 4 หมื่นกว่าบาท.....ยากำจัดปลวกฟูราดานต้องใส่รองก้นหลุมก่อนปลูกด้วย



 
จ้างรถไถติดหัวเจาะขุดหลุม ได้กล้าครบฝนตกดีแล้วก็ลงมือปลูก.... นั่งดูผลงานด้วยความหวังหลายเดือน
ยางพาราแตกใบเป็น 2 ฉัตรก็เริ่ม บอกข่าวว่าจะขายที่สวนทั้งหมด


 
ไม่น่าเชื่อไม่ถึงเดือนก็ได้รับโทรศัพท์ ขอซื้อเลยขอรับเงินมัดจำ 10 %   นัดเซ็นสัญญาซื้อขายแล้วไปธนาคารในเมือง
โอนเงินในบัญชีนั่งรอยอดเงินว่าเข้าบัญชีหรือยัง  อ้าว ผจก.ธนาคารเชิญคนซื้อไปสอบถาม
คือเขากลัวผมหลอกลวง  คนซื้อเลยบอกว่าซื้อขายที่ดินกันราคานี้ ผจก.ธนาคารยิ้มเข้าใจจัดการโอนให้เสร็จ
ได้เงินมาก็นำไปใช้หนี้...เหลือเงินบ้างนิดหน่อย หุ หุ


 
 การเพิ่มมูลค่าที่ดินทำสำเร็จ...ต้องใจเย็น ราคาเพิ่มเกือบ 4 เท่าตัวจาก...ต้นทุนที่ดิน+ ค่าทำสวนผลไม้ค่าแรงค่าน้ำมัน 5 ปี
เพื่อน ๆ เลยอดไปนอนค้างไม่ต้องกลัวยุง...ผมก็ไม่กลัวงูจงอางตัวยาว ๆ แถวนั้นอีกคือเคยวิ่งหนี 100  กว่าเมตรเหนื่อยสุด ๆ
 
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
St.จำนวนผู้เข้าอ่าน  2,629,113.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือนกรุณาเม้นท์ข้างล่างหรือทิ้งร่องรอยนิดผมจะได้กลับไปเยือนตอบแทนถูกครับ
 
งานเขียน Diarist



Create Date : 11 กันยายน 2566
Last Update : 11 กันยายน 2566 5:01:57 น. 18 comments
Counter : 942 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณตะลีกีปัส, คุณปัญญา Dh, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสองแผ่นดิน, คุณNENE77, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณtanjira, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณชีริว, คุณtoor36, คุณเริงฤดีนะ, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณnewyorknurse


 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์

ที่ดินมีค่าเหมือนทองคำ
ถ้าเราอดทนพอนะครับพี่ 555

บางคนที่ผมรู้จัก
ซื้อทุ่งนาไว้
พอถนนใหญ่ตัดผ่าน
รวยทันที

พ่อผมพูดเสมอ
ว่าถ้าตอนหนุ่มซื้อที่เก็บไว้บ้าง
ลูกๆคงสบายกว่านี้ 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:5:36:50 น.  

 
เรื่องนี้ใหม่เอี่ยมกระเทียมดองเลยพี่ไวน์ เยี่ยมๆ



โดย: หอมกร วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:8:29:04 น.  

 
ผมชอบคำสอนของหลวงพ่อพระป่า
ท่านบอกว่าเทศนาธรรมา
เป็นการบอกทางธรรม
แต่ไม่ใช่ธรรมะ
จะเห็นธรรม
ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง
ผมเห็นด้วยมากๆเลยครับ

ช่วงนี้ผมชอบเปิดคลิปเสียงเทศนาธรรมของหลวงปู่ หลวงพ่อต่างๆฟัง
เวลาที่ออกกำลังกายครับ
เจอประโยคดีดีเยอะมาก
ชอบประโยคไหนก็นำมาเขียนด้วยพู่กันเก็บไว้อ่าน
สอนใจตนเองครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:10:32:02 น.  

 
สวัดีครับพี่
เห็นภาพในบล็อกพี่ไวน์วันนี้แล้ว ทำให้คิดถึงวิถีชีวิตสมัยโน้ันมากเลยครับ แก๊งค์เพื่อนออกกำลังกายของพี่ไวน์น่าจะสุขภาพดีกันทุกคนเลยนะครับ แอบเห็นมีปลูกยางพาราด้วยครับ 55


โดย: The Kop Civil วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:10:55:23 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เกือบได้เป็นชาวสวนตัวจริงแล้วนะคะ
แต่ไม่เป็นดีแล้วค่ะ เหนื่อยมาก
ทำด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ได้
ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างมาก
พูดในฐานะเป็นลูกชาวสวนค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:11:03:41 น.  

 
สวัสดีครับ

คุณไวน์ทำงานหลายอย่างเลยนะครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:15:10:38 น.  

 
สวัสดี ยามดึก จ้ะ คุณไวน์

ขอบใจจ้ะที่แวะไปเม้นท์และให้กำลังใจบล็อกลาบหมู
ของครู เด็กใหม่ฝึกทำจ้ะ
อ่านเรื่องราว บล็อกนี้ของคุณไวน์ ชอบนะ เก่งมาก
ซื้อที่ดินตั้งมากมาย ปลูกผลไม้หลายอย่าง ดีจังเลย
แต่ตอนทำลายมันซิ เสียดายเหลือเกิน ปลูกต้นยาง
แทน เลยขายออก เฮ้อ ! น่าเสียดาย จังเลย จ้ะ
โหวดหมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:21:05:40 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

สวนกว้าง น้ำในบ่อสีสวย บรรยากาศดีจังค่ะ
บ้านพักสไตล์ลอฟท์มีส่ิงจำเป็นครบครันพร้อมต้อนรับเพื่อนๆ
นอกจากพักค้างคืนได้แล้วยังมีอาหารอร่อยจากเนื้อกวางออสเตรเลียอีกด้วย
นับเป็นสถานที่ที่เพื่อนน่าจะอยากมาซ้ำจริงๆค่ะ

พูดถึงสะตอตลาดแถวบ้านต๋าบางครั้งมีขาย
แต่ไม่เคยมีภาพปลูกสะตอกินเองเลยค่ะ สวนผลไม้พี่ไวน์ดูอุดมสมบูรณ์
มีผลไม้และสะตอใต้ด้วย เสียดายที่ต้องตัดแต่เป็นสิ่งจำเป็นนะคะ
มูลค่าที่ดินสูงขึ้นหลายเท่าดูคุ้มค่ากับการลงทุนมากค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:0:49:48 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:4:47:50 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณไวน์

ธัญมาลงชื่อไว้ก่อนนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:7:27:06 น.  

 
ไกด์บอกว่าหัวหิน พัทยา ภูเก็ต
คึกคักมากๆ
เชียงใหม่ยังเงียบอยู่เลยครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:11:05:11 น.  

 
ต้มยำกุ้งยุค 40 ตอนนั้นยังเรียน ม.ปลายอยู่เลยครับ
ไทยเป็นศูนย์กลางวิกฤตด้วย ตกงานกันตรึม

คิดถึงบรรยากาศจันทบุรี สวนผลไม้ เขาสุกิม ฯลฯ
สมัยเด็กๆ พ่อพาไปบ่อยมากเลยครับ พอเดินทางเองไม่ค่อยได้ไปละ

อยากให้ภาคตะวันออกมีตลาดกลางผลไม้ แล้วทำราคาดีๆ ดึงดูดคนให้ดัง
แบบที่อยุธยามีตลาดกลางที่คนต้องแห่มากินกุ้ง
แต่นี่คือราคาแทบไม่ต่างกับตลาดในกรุงเทพเลยครับ ก็ไม่รู้จะไปทำไม

แปลกตรงขอจดทะเบียนบ้านต้องไปขอหมอนี่แหละ ที่แท้ต้องตรวจสุขอนามัยด้วย
งี้วิดวะไม่ต้องดูเหรอครับ เดี๋ยวสร้างแล้วบ้านพัง

เนื้อกวางนี่จำไม่ได้ว่าเคยกินมั้ย แต่น่าจะกินง่ายนะครับ กับกวางรูซ่าคงแยกไม่ออก


โดย: ชีริว วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:22:57:38 น.  

 
ช่วงต้มยำกุ้งมีหลายคนก็ล้มบนฟูกนะ แต่ช่วงนั้นยอมรับเลยว่าหนักจริงครับ แม้จะต่างจากโควิดก็ตาม แต่คนก็ฆ่าตัวตายไปเยอะ

ผมว่าโลกมันเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้ค้าผลไม้ก็ลำบาก มังคุดราคาตก ทิ้งกันเลย ไม่ต้องหวังหรอกว่ารัฐจะช่วย

บ้านหลังนี้เห็นคุณไวน์เอามาโชว์บ่อยเหมือนกัน ยังไงก็ต้องมีมุ้งลวดครับ ยุงนี่น่ากลัวสุดแล้ว งูหรือพวกตะขาบ สัตว์มีพิษก็น่ากลัวไม่แพ้กัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กันยายน 2566 เวลา:23:42:21 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:5:19:13 น.  

 
ตอนหาเสียงพูดอะไรไว้
ตอนนี้มันย้อนกลับมามัดคอตัวเองเลยนะครับพี่
นโยบายบางอัน
ตอนพูดมันสนุก
แต่ตอนทำ
ต้องมาดูกันว่าจะเป็นไปได้ไหม

ดูเหมือนตอนนี้จะมาเร่งเรื่องค่าแรงวันละ 400 บาท
แต่ผมกลับมองว่าน่าจะลดเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก่อน
ค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมัน แก๊ซ ทุกอย่างแพงหมดเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:8:51:34 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ คุณไวน์

เห็นต้นยางแตกใบ ใบเหมือนต้นกระท่อมเลยนะคะ
แต่โตอีกนิดใบเรียวๆไม่เหมือนแล้ว
ตอนเด็กๆสับสนระหว่างต้นกระท่อม กับ ต้นกระท้อนค่ะ
ที่บ้านจะมีต้นกระท่อม เพราะพ่อปลูกไว้กิน
ตอนหลังต้องตัดทิ้งค่ะ เพราะถ้าโดนจับไม่คุ้มแน่ๆ 55555
มาพ.ศ.นี้ ปลูกกันสบายเลย


โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:13:15:59 น.  

 
แวะเข้ามาเยี่ยม อ่านเพลินเลยค่ะ


โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:15:29:54 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กันยายน 2566 เวลา:5:01:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.