| No. 1161 จันทร์เจ้าขา (ตะพาบ) |
อัพบล๊อกทุกวัน ศุกร์ / จันทร์
รูปพ่อแม่ลูกถ่ายที่น้ำตกห้วยแก้ว เชียงใหม่
|
| อืมมม..ให้เขียนพระจันทร์เจ้าขา ชักเขินก็เป็นผู้ชายงั้น ใช้คำว่า พระจันทร์เจ้าครับได้เปล่า |
นึกถึงครั้งเป็นเด็กชายอายุประมาณ 10 - 14 ขวบอยู่ที่เชียงใหม่
|
| ปลายฝนต้นหนาวที่เชียงใหม่อากาศเริ่มจะหนาวเย็นเป็นประเพณีมาแต่ครั้งโบราณตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรนักรู้แต่ |
เพียงว่า พระจันทร์จะค่อย ๆ เต็มดวงในวันสิบสามค่ำเป็นวันดา (เตรียมของ) วันสิบสี่ค่ำจะทำพิธีขอพร
|
จากเจ้าที่เจ้าทาง ขอพรจากดวงจันทร์จะปล่อยกระทงเล็ก ๆ สู่แม่น้ำปิง ต่างคนต่างทำ
|
| สิบห้าค่ำโรงเรียนหรือหน่วยงานราชการ สถานกงศุลชาติต่าง ๆ มหาวิทยาลัยจะทำกระทงใหญ่ตั้งขบวน.. เมื่อถึงเวลาจะแห่ไปตามถนนช้างม่อย |
|
กระทงใหญ๋ใส่รถหรือแบกเสลี่ยงหามจากถนนช้างม่อยมุ่งไปสู่แม่น้ำปิง หน้าเทศบาลเชียงใหม่ระหว่างทางจะมีชาวบ้าน
|
| นทท..ยืนดูความสวยงามของกระทงและนางนพมาศ...ครั้งที่เป็นเด็กจะรู้จักน้ำมันก๊าดใส่ตะเกียงจุดส่องสว่างเมื่อไปอยู่ทุ่งนา |
ในตัวเมืองมีไฟฟ้าแล้วนะเออ..ก่อนวันสิบสี่ค่ำผมจะขูดมะพร้าวหลายลูกบีบคั้นมะพร้าวขูด..
อ้าวนำภาพมาลงผิดพลาดขออภัยขออนุญาตไม่ลบหนุ่ม ๆ ชอบดูใช่ปะ.. ผมจะนั่งขูดมะพร้าวแบบภาพข้างล่างแต่ใส่เสื้อกันหนาวนะเออ มันหนาว
บีบเอาน้ำกะทิใส่หม้อมีเนียมใหญ่ตั้งไฟอ่อนให้รุมร้อนไปเรื่อย ๆ |
| จนกะทิแตกมันช้อนเอาน้ำมันไว้ต่างหากต้องปีนต้นมะพร้าวหน้าบ้านไว้เยอะหน่อย ถ้าไม่พอใช้น้ำมันหมูแทน |
| |
| น้ำมันมะพร้าวที่ได้มาจะใส่กามีเนียม อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ ผมจะไปค้นหาผางประทีปเก่าที่เก็บไว้จากปีก่อนมา |
ล้างฝุ่นตากแดดจนแห้ง.. นำเส้นด้ายฝ้ายมาขมวดพอที่จะตั้งให้ปลายด้ายตั้งโด่เด่ แล้ววางไว้ในผางประทีป
 |
| นำมาเรียงเป็นแถวเทน้ำมันมะพร้าวที่ใสใส่ผางประทีปจนเต็มผางใช้มือจับที่งอให้ตั้งโด่ไว้จะได้จุดไฟ |
| ตอนเย็นน้ำมั้นมะพร้าวเจออากาศหนาวเย็นก็ขุ่นขาวจับตัวแข็งในผางประทีป |
|
| บ่ายสี่โมงเย็นของวันสิบสี่ค่ำ ผมจะนำผางประทีปไปวางไว้ ที่หัวเสาประตูรั้วสองข้าง กับหัวเสาอื่นที่รั้วบ้าน วางไว้บนขอบ |
บ่อน้ำ 4 ผางประทีป...ขอบไม้ระเบียงหน้าบ้านที่โล่งไม่มีหลังคาก็นำไปวางเรียงราย
|
| ทานอาหารเย็นท่ามกลางอากาศหนาว นั่งรอคอยพระจันทร์ยี่เป็งที่ค่อย ๆ เลือนลอยขึ้นสู่ฟ้าอย่างช้า ๆ แสงจันทร์สาดส่อง |
| แล้วผมกับพี่ชายจะใช้ไม้ขีดไฟจุดผางประทีปที่วางไว้จนหมด |
| ในบ้านเราจะดับไฟฟ้าหมด ประตูรั้วเริ่มมีแสงไฟวับแวมดารดาษเรียงราย ซ้ายมือผางประทีปส่องวับแวมบนขอบบ่อนำกลม |
| เรายืนอยู่ในตัวบ้านผางประทีปส่องวับแวมที่ขอบระเบียงบ้านดูสงบงดงาม |
บอกตรง ๆ นะครับไม่ได้ขอพรจากพระจันทร์เลย 555 บางปีก็เดินไปดูตามกำแพงคูเมืองเชียงใหม่
 |
| |
| บางปีเราจะไปดูเขาลอยกระทงหยวกกล้วย มีธูปเทียนหนุ่มสาวเขาไปคู่กัน ยกมือไหว้พระแม่คงคาคงจะอธิฐานขออยู่ร่วมกัน |
ตลอดขีวิตการใดที่ทำผิดพลาดต่อพระแม่คงคาขออภัยด้วย (ทำนองนั้น)
...
...
โปรดสังเกตภาพข้างล่างหนุ่มสาวยังป้องกันโควิดใส่แมส แสดงว่าปัจจุบันยังมีประเพณีงดงามนี้อยู่
|
| วับสิบห้าค่ำหัวค่ำ หน่วยราชการจะใช้รถวางกระทงใหญ่ หลายสิบหน่วยงานมีนางนพมาศนั่งบนกระทงแห่เคลื่อนขบวนไปริม |
แม่น้ำปิงแล้วก็ให้ผู้ชายช่วยกันยกไปวางบนแพไม้ไผ่ผูกติดกันเป็นแพไม่ได้ปล่อยไหล
ข้างล่างเป็นภาพ พูลิม ณิชกานต์นักร้องฟ้อนรำได้งดงามร้องได้ไพเราะมากเลยขออนุญาตนำมาประกอบ
|
| จุดไฟบนแพงดงามให้คนชม |
วัดหลายวัดในตัวเมืองเชียงใหม่ จะปล่อยโคมลอยชนิดว่า วัดใดมีคนจุดโคมลอยสวยงามจะมีคนไปดูเยอะ
|
| มีอยู่ปีหนึ่งโรงเรียนเกณฑ์ให้ผมกับเพื่อน ๆ ที่เรียนอยู่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยแต่งลูกเสือไปเดินร่วมขบวนลอยกระทง |
| ผมก็ไปซิสนุกดี.. ปีนั้นเขาเคลื่อนขบวนไปริมน้ำปิงหน้าเทศบาลเมืองเชียงใหม่ |
|
| เมื่อเสร็จแล้ว ผมก็ลูกเสือก็เดินเที่ยวกับเพื่อนชื่อมานพ รักเรียนคนอ.ปายเป็นนักเรียนพักที่หอพักของแม่ |
| เราเดินเที่ยว ผมก็เดินไปชะโงกดูกระทงเล็กที่ลอยอยู่ในน้ำปิง |
| แต่บังเอิญเอามือปัดไปถูกหมวกหนีบลูกเสือของตนเอง ตกน้ำปิงจมหายไป ใจหายเสียดายแล้ววันที่ต้องแต่งลูกเสือไป |
| โรงเรียนจะเอาจากไหนใช้ดี เพิ่งนึกเรื่องนี้ก่อนจบเรื่องครับ |
| สรุปแล้ว พระจันทร์เจ้าครับของผมจบลงแบบนี้ อุ้ยแสบสีข้างถูๆไถๆ น่าจะเลือดซิบ ๆ แล้ว |
| |
| ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพทุกภาพเพราะตอนเป็นเด็กไม่มีเงินซื้อกล้องครับ |
| st ผู้เข้าชม 2,452,094. |
| ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ |
| |
| Diarist |
| |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์
ผมมาอยู่เชียงใหม่ช่วงอายุ 13-14
เมืองยังไม่ใหญ่โตและวุ่นวายแบบนี้
มีมุมเงียบสงบและสิ่งสวยงามเยอะมาก
ลอยกระทงเมื่อก่อนยังไม่มีการปล่อยโคม
ไม่มีประทัดยักษ์ ผมไปเดินครั้งนึงแถวสะพายนวรัตน์
จากนั้นก็ไม่ไปอีกเลย
หลังๆเวลาเทศกาลคนเชียงใหม่นอนอยู่บ้าน
ปล่อยให้คนต่างจังหวัดครองเมืองครับ 555