Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2566
 
All Blogs
 
No. 1169 เด็กบ้านนอก เชียงใหม่

No.  1169  เด็กบ้านนอก เชียงใหม่
 

 
ย้อนหลังหลายสิบปี เราอยู่บ้านไม้ทรงโบราณในตัวเชียงใหม่ ด้านหน้ามีถนนคู่ขนานไป
กับคูน้ำรอบเมือง ไหล่ทางก่อนลงสู่คูเมือง เป็นป่าหญ้ารกบ้าง เตียนบ้างหน้าบ้านมีต้นฉำฉาใหญ่โน้มเอียงไปในคูน้ำ
พวกเรานำเชือกมะลิลาเส้นโต เกี่ยวต่อกับยางนอกจักรยานคล้องคาคบฉำฉาจนแน่น


 
ใช้สองมือจับเชือกแน่นปล่อยตัวไปข้างหน้าลอยลง ดำผุดดำว่าย ผลัดกันโหนเชือก บางคนลงน้ำแล้วขึ้นไม่ได้กางเกงในหลุด
 พวกเราจะใส่จนยางรอบเอวมันยืดเป็นของหายากเพราะไม่มีเงินซื้อเลยหลุดจากร่างง่าย 555


 
คูน้ำรอบเมืองด้านนอก เทศบาลตัดหญ้าให้เตียน อีกฝั่งที่บ้านเราอยู่ จะเป็นกำแพงอิฐโบราณหักพังไปตามกาลเวลา
อิฐโตกว่าอิฐงสมัยนี้หลายเท่า  แถวบ้านเรากลับมีต้นหญ้าปกคลุมค่อนข้างรก ตอนแดดร่มลมตก เราจะใช้เป็นที่เล่นเป็นสนามรบ
 พวกเริ่มเริ่มโต นมเริ่มแตกพานมั้ง
 เราจะแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ๆ ถอดเสื้อ 6 คนกับไม่ถอดเสื้อตอนนั้นไม่มีเสื้อแดงเสื้อเหลืองหรอก ค่อย ๆ คืบคลาน


 
เลียนแบบ เดวิด คร๊อกเก็ตนักผจญภัยรุ่นบุกเบิกอเมริกา
ฝ่ายผมวางแผนให้เพื่อน 3 คนคลานไปด้านหน้าแล้ว สงบนิ่งคอยมอง ไม่ต้องรุกคืบมากนัก
ส่วนผมจะค่อย ๆ ยืนโผล่ต้นหญ้าไม่ต้องกลัวอีกฝ่ายเห็น คาดว่าพวกมันจะไม่โผล่ขึ้นดู คงจะนอบราบฟังเสียงตามองมา


 
ผมเห็นยอดหญ้าด้านโน้นไหวจะส่งสัญญาณมือ ให้เพื่อนอีกสองคนย่องอ้อมไปด้านหลังอีกฝ่าย
ทุกสิ่งยังคงเงียบทุกคนก็ทั้งสองฝ่าย เราจะคลาน บนใบไม้แห้งมิให้เกิดเสียง คนทำได้เจ๋งจะได้เป็นเดวิด คร๊อกเก็ตต์
ครู่ใหญ่ข้าศึกใส่เสื้อ 3 คนยืนชูมือยอมแพ้ มีพวกเราถอดเสื้อใช้มือจี้ด้านหลังไว้ว่าจับได้แล้ว
  แต่ฝ่ายเราก็เสร็จพวกมัน 1 คนดันไปปวดฉี่นั่งคู้เข่าฉี่ดันไม่ค่อยออกฉี่ช้า เลยถูกพวกมันใช้มือจี้
พวกผมเลียนแบบเดวิด คร๊อกเก็ตต์ ที่เป็นแมวมอง ที่เคยอ่านหนังสือมาบ้าง
 
สองทุ่ม ค่อยแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน อาบน้ำที่เย็นเจี๊ยบแต่งตัวกินอาหารเย็นมีความสุขเรามิได้เล่นอย่างเดียว
แต่ก็ช่วยบ้านทำงาน
ปลูกผักใช้จอบขุดดินที่ว่างหลังบ้าน ยกร่องให้สูงขึ้นยาวให้ดินร่วนเอาขี้หมูแห้งโปรยเป็นปุ๋ยต้นหอมแดง
กระเทียมคะน้าผักกาดกวางตุ้งปลูกเป็นแปลงยาว


 
เช้าตรู่จะตักน้ำบ่อหน้าบ้านเทใส่ลำรางไม้ไผ่ที่ วางทอดยาวไปหลังบ้านตกใส่ตุ่มน้ำใช้กระป๋องฝักบัว
ตักน้ำรดผักตอนเช้ากลางอากาศหนาว ยามน้ำจากฝักบัวตกใส่ใบผักกาดกวางตุ้ง ใบจะลู่ตามน้ำหนักจากฝีกบัวแล้วดีดคืน
 ไอน้ำที่อุ่นลอยเรี่ยกับ แปลงผักต้องกับแสงอาทิตย์ส่องลอดต้นไผ่ซางเป็นลำ  สวย...
 
เสร็จแล้วรีบล้างเท้าหนาวเกินไปที่จะอาบน้ำรีบแต่งตัว   กินอาหารเช้าที่แม่หรือไม่ก็พี่สาวคนโตทำไว้ให้พวกเรา
อิ่มแล้วก็คว้าจักรยานปั่นไปเรียน
ครอบครัวเราฐานะไม่ค่อยดีเท่าใดบ้านก็เช่าเขาอยู่  ผมเลี้ยงไก่เก็บไข่ให้แม่ทำอาหาร บางครั้งแม่จะซื้อเนื้อ
เนื้อเค็มวัวตากแดดสีแดง จากตลาดมาทอด กินกับน้ำพริกแดงที่แม่ตำ  อร่อยเป็นมื้อพิเศษสุด ๆ


 
ผักที่ปลูกก็เก็บมาทำอาหาร  ใส่ไก่ ที่เลี้ยงไว้  ผมแหะ ๆ จัดการเองแหละตอนนั้นไม่คิดอะไรเท่าใด
 
บางทีแม่ก็ให้เงินไปซื้อปลาดุกปลาช่อนที่อาเจ็กคนจีนใกล้บ้านขายผมกำเงินไปซื้อให้แม่ทำกับข้าว
บอกตรง ๆ  มันคาวคงเป็นปลาจากหลายที่ บางตัวก็ตายแม่จะผ่าปลา เคล้าเกลือตากแดด...เลือกไม่ได้ก็กลั้นใจหยิบปลา
แดดเดียวทอดจิ้มกับน้ำพริกแดง น้ำพริกหนุ่มใส่ปากตามด้วยข้าวเหนียว
ไม่ชอบเลย..คาวจัด  
 
เคยกินข้าวบ้านน้าเพื่อนบ้าน ได้กินปลาดุกนาผ่าแบะ เคล้าเกลือตากแดดเดียว ทอดสุกกินกับน้ำพริกแดง
อร่อยด้วยน้าเล่าว่าไปทอดแหที่ทุ่งนาโน่นมาชักติดใจ


 
ขอเงินแม่ไปซื้อ ตัวเบ็ดที่เป็นเหล็กมีเงี่ยง  ตัวโตใช้เป็นเบ็ดก่อง(เบ็ดปักทิ้งไว้) 
ตัดไผ่ซางมาผ่าเป็นซีกเล็กยาว 80  เซนติเมตรเหลาตรงโคนกลม แล้วใช้มีดคมปาดกึ่งกลางให้แบนลงส่วนปลาย
ให้บางที่สุดบากหยักไว้ผูกเชือกกับเบ็ดทำไว้กว่า 20  อันตากแดดจนแห้ง


 
ใช้ด้ายตราสมอใช้ใบตำลึงมารูดให้เขียวตากแดดให้ปลาไม่เห็นสายเบ็ด  ผูกตัวเบ็ดเหล็ก คล้องข้างบนจนแน่น แล้วดึง
สายเบ็ดกับด้ายที่ผูกติดกึ่งกลางเบ็ดก่อง ให้ไม้เบ็ดโก่งตากแดดจนมีแรงดีด..


 
ที่บ้านเลยได้ปลา ดุก ปลาช่อนนาที่ผมหามาทำอาหาร  แม้ไม่มากแต่คงช่วยได้บ้าง


 
พอเริ่มแก่กล้า (ยังหนุ่มนะเออ)  ขอเงินแม่ไปซื้อแหที่ขนาดยาว 7 ศอกก็สามเมตรครึ่ง ไปทอดแหหาปลา ในทุ่งนา
หลังวัดป่าเป้า  เป็นวัดชาวไทยใหญ่
ผมกับเพื่อนจะเดินเรียบกำแพงวัดด้านนอก เดินผ่านดงต้นกระเจี๊ยบแดง เจอดอกกระเจี๊ยบสวยก็เด็ดใส่ย่าม
 
พ้นกำแพงวัดป่าเป้าไปนิดเดียวมีกองขี้เถ้ากองโตอยู่รีบเดินจากไปโดยเร็วที่สุด 555  ก็เป็นที่เผาศพนาน ๆ จะเผาสักครั้ง
ภาคเหนือในวัดมักจะไม่เผาศพในวัด
 
วันหนึ่ง เดินไปดูทำเลหาปลาคนเดียวกะจะมีปลาดุกที่ชอบหากินใกล้โคลนตมข้างล่าง  เป็นหนองน้ำขนาดกลาง



มีต้นไม้ใหญ่ กับต้นทองหลางคลุม ริมหนองน้ำมีหญ้าใบเหลืองเขียว คลุมอยู่รอบ
นั่งดูกว่าครึ่ง ชม. มีปลาช่อน ปลาขาวหางแดงโผล่มาฮุบแมลงปอแมงมุมน้ำบ้าง  ลมสงบ  อากาศค่อนข้างร้อน
ดูหนองน้ำแล้ว คงมีปลาดุกมากถ้าจะทอดแหต้องลงควานเอาเศษกิ่งไม้ ทำน้ำให้ขุ่น
แล้วนั่งรอนานหน่อย  กะให้ปลาดุกปลาช่อนเจอ กลิ่นดินใหม่ จะรวมกันหาอาหารที่หลุดมากิน  แต่เพื่อนไม่ได้ไปด้วย
เลยไม่มีคนคุ้ยดินกับเศษไม้ทิ้ง ส่วนผม 
ใครจะว่าหรือจะเรียกไงก็ได้  มะอาว  555 น่าจะมีปลิงควาย


 
 ไม่กล้าลงปลิงมันเยอะกลัวมันเกาะเข้า ต รูด...(เพื่อน ๆ บอกว่า ขี้แขะ(ขี้กลัว)นักหาปลากลัวปลิงได้ไง หุ หุ )
 
เมืองเชียงใหม่ มีร่องน้ำเล็ก ๆ ไหลผ่านถนนหลายสายอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าในฤดูหนาวชาวบ้านจะก่อกองไฟ
เล็ก ๆ  นั่งผิงไฟควันไฟจากกองไฟลอยขึ้นช้า ๆ  ป่ออุ้ยแม่อุ้ย ยืนรอใส่บาตรตุ๊เจ้า(ภิกษุ)
อากาศหนาวเย็นหมอกจากไอน้ำยามเช้าปกคลุมไปทั่วมีความสุขที่สุด


 
วันเสาร์อาทิตย์พวกเราจะปั่นจักรยานไปเที่ยว ตามสวนผักรอบตัวเมือง บางวันจอดรถพิงไว้บ้านคนรู้จัก ไปเที่ยวที่ทุ่งนา
ไปเล่นบนกองฟางที่เขามัดไว้เป็นฟ่อน กลิ่นหอมอ่อน ๆ


 
ชาวนาเก็บฟางข้าวให้ วัว กินแทนหญ้าสดในฤดูหนาว แทบจะมิได้เผาทิ้ง บนดอยสุเทพมีป่าไม้เต็งรังไม่รกทึบ
มีคนบุกรุกบ้างแต่น้อย ทำให้ป่าที่เรียงราย เว้าแหว่งเป็นฟันหลอแบบปัจจุบันที่ผ่านมาก็หลายเดือน
 
ยังจำตอนเด็ก มีเจ้าของโรงพิมพ์หนังสือรายหวยออก ฐานะค่อนข้างดีและหันเข้าเล่นการเมืองท้องถิ่น เริ่มบุกรุกดอย
ใกล้น้ำตกห้วยแก้วปลูกบ้านพัก..โชคดีมีคนคัดค้าน รุนแรง (มัน)เลย..ปล่อยร้างและรื้อถอนออกไป
แต่เดี๋ยวนี้ซิ  มีคนบุกรุกป่า ใช้วิธีลอบเผาป่าในจุดต่าง ๆ 


 
ทางการก็มิได้สนใจจริงจัง งบประมาณมีให้น้อยมาก
  แต่ชีวิตไม่สิ้นหวัง รอคอยให้คนรักบ้านเมือง ไม่บุกรุกป่า เผาป่า ไม่สร้างกฏพิเศษเพื่อได้สิทธิ์เหนือคนอื่น
รอคอยวันที่จะให้คนมีจิตสำนึก ถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตน
เราไม่หวังที่จะให้เชียงใหม่เหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อนโน้น..  ขอเพียงจับคนเผาป่า 
มาให้คนเห็นตัวคลุมหน้าในสื่อสาธารณะระบุชื่อ บ้านที่อยู่ บ้างน่าจะดีน่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่พวกที่เห็นแก่ตัวได้นะครับ
ป่าในเชียงใหม่ จะถูกเผาน้อยลง ควันไฟลดลง เพื่อให้การท่องเที่ยวได้รับการสนใจที่จะมีคนไปเที่ยวมากเหมือนเดิม
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 775/1380)
st ผู้เข้าชม  2,472,794.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
Diarist



Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2566
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2566 6:01:30 น. 20 comments
Counter : 617 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณอุ้มสี, คุณRain_sk, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกิ่งฟ้า, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณhaiku, คุณSweet_pills


 
เรื่องเล่าในวัยเด็ก มักจะนำมาซึ่งความสุขใจเสมอพี่ไวน์
เพราะโลกของเด็กไม่ค่อยมีอะไรต้องคิดมาก



โดย: หอมกร วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:8:43:42 น.  

 
เศรษฐกิจพอเพียง
ในน้ำมีปลา ในร่อง
.มีสวนผัก
ประมาณฯนี้เลย
ดีจัง..สบายๆ..แล้วแล้วอยากทานเนื้อทอด


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:8:47:33 น.  

 
และนี่เองเป็นสาเหตุ
ให้พี่ไวน์ใส่หมวก cowboy
เพราะเลียนแบบ เดวิด คร๊อกเก็ต
นักผจญภัยรุ่นบุกเบิกอเมริกา
ชิมิคะพี่ไวน์


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:9:06:09 น.  

 
บอลเคยโดนทากเกาะครั้งนึงครับ ยังดูดเลือดได้ไม่มาก พอดึงออกเลือดไม่หยุดครับ ไหลตลอด คนนำทางต้องเอายาเส้นมาแปะไว้ให้ครับ พอแผลหายแล้วจะเป็นไตๆและคันยิบๆ อยู่อีกนานเลยครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:13:15:20 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์
ในวัยเด็กพี่เล่นฝึกทหารพราน พี่น่าจะยึดอาชีพเป็นทหารนะคะ
คงโก้มาก เพราะหุ่นใช่เลยค่ะ คนภาคเหนือนี่คงไม่ชอบอาบน้ำ
ทุกวัน 55555…….ใช่แน่ๆ คนเลี้ยงไก่ก็ไมาพ้นเอามาทำเป็นอาหาร
เป็นธรรมดาค่ะ


โดย: จินดา IP: 58.8.113.73 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:38:54 น.  

 

ได้อ่านบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่ในอดีตผ่านเรื่องเล่าของพี่ไวน์ อยากย้อนเวลากลับไปได้จังค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:56:22 น.  

 
คูเมืองเมื่อก่อน
ยังเห็นคนเล่นน้ำกันเยอะมาก
ตอนหลังแทบไม่อนุญาตแล้วนะครับ
เพราะมีคนจมน้ำตายทุกปี
โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์

ส่วนปัญหาควัน ฝุ่น pm 2.5
มีมานานหลายปี
รายละเอียดเป็นยังไง ใครเป็นคนเผา
ยังไม่เห็นมีคนทำรายงานที่ละเอีัยดออกมาสักทีครับ
ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ประชาชน ชาวบ้าน หรือนายทุน ?




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:19:35:17 น.  

 
ฝากโหวตไว้กก่อนนะครับพี่ไวน์

เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาเม้นนะครับ มีนัดเล่นเกมส์ ไปก่อนแว้วววว


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:21:55:42 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ มาชมสวนผักสวยงามมากค่ะสมัยตอนเด็กๆ ที่ทุ่งนาใกล้บ้านแม่ก็จะปลูกหอม กระเทียม ผักกาดขาว ผักกาดจ้อน หรือผักกาดดอกเหลืองๆ ไม่รู้ทางภาคกลางเรียกว่าผักอะไรนะคะ ทางเหนือเรียกผักกาดจ้อน 555เอามาทำผักกาดจอล้ำลำ ค่ะ อิอิ ก็จะไปช่วยม่รดน้ำผักตอนเย็นทุกวันค่ะ ตอนเช้าต้องรีบไปโรงเรียนแม่ก็จะรดเอง สนุกดีค่ะ พอเกี่ยวข้าวแล้วก็จะมีทุ่งนามีซังข้าวเป็นกอๆพวกเราเด็กๆก็จะพากันมาวิ่งเล่นจนซังข้าวโดนเหยียบแบนเป็นสนามเด็กเล่นไปเลยค่ะ สมัยเด็กๆเล่นอะไรก็สนุกนะคะ

เรื่องเผาป่านี่เป็นปัญหาจริงๆค่ะ ลำปางตอนนี้ ค่า PM 2.5 เป็นอันดับหนึ่งไปแล้วควันเข้าตาแสบไปหมดค่ะ
ทางราชการต้องทำงานหนักคอยตรวจตราดูใครแอบเผาป่าก็จะโดนจับแต่ก็ยังมีคนเผาอยู่ดี

โหวต Diarist ให้ค่ะ







โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:13:12 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:13:41 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์ ขอบคุณมากนะคะที่ไปให้กำลังใจที่บล็อกค่ะ

น้องซีริวน่ารักมากค่ะ อัธยาศัยดี เป็นเก่งในทางโบราณคดีจริงๆ

ถ้าพี่ไวน์ไปทางเหนือได้แวะลำปางไปเที่ยวกรมทรัพย์ติดต่อกิ่งได้ค่ะจะพาเที่ยวค่ะ อิอิ

ขอแสดงความยินดีกับพี่ไวน์ด้วยนะคะกับรางวัลพิเศษตะพาบค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:12:06 น.  

 
น้ำป่าทำให้บัานในเชียงใหม่แถวดอยท่วมบ่อยมากครับพี่
ล้างยากเพราะเป็นโคลนด้วย

เพื่อเฟซส่วนใหญ่ของผมเป็นเสื้อแดง เสื้อส้ม
ไม่ค่อยมีเสื้อเหลืองครับ
เสื้อเหลืองที่มีก็ไม่ค่อยเห็นโพสต์เชียร์ลุงตู่สักเท่าไหร่ด้วย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:19:18:44 น.  

 
เด็กๆ เล่นกันสนุกสนานีจริงๆ ครับ เล่นกันเน้นออกกำลัง + จินตนาการ ตามที่เราต้องการ ไปดูหนังก็เลียนแบบตัวละครในหลังบ้าง

ปลิงนี่น่ากลัวจริงๆ ครับ เกาะทีหลุดยาก ต้องใช้ขี้บุหรี่ขยี้ (ได้ยินมาอย่างนั้นไม่เคยโดนเกาะหรอก) ผมได้ยินมาว่าเขาตัดงบเรื่องการดูแลป่าเละเทะเลยนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:22:54:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

หากไม่มีมลพิษจากการเผาป่่า เชียงใหม่ที่สวยมีเสน่ห์อยู่แล้วจะยิ่งน่าเที่ยวน่าอยู่นะคะ

บ้านในเมืองสมัยนี้ปลูกผักในกระถางบ้าง บนระเบียงหรือดาดฟ้าบ้าง
สวนผักสวยๆบนที่ดินกว้างๆ อย่างในภาพเป็นสวนผักในฝันก็ว่าได้ค่ะ
เนื้อเค็มทอด น้ำพริกตาแดง อาหารจากไข่จากไก่ที่เลี้ยง
เป็นสำรับที่อุดมสมบูรณ์มากโดยเฉพาะอาหารจากผักที่ปลูก
ทั้งสด สะอาด น่าอร่อยและน่าภูมิใจด้วยนะคะ

ขอบคุณพี่ไวน์สำหรับภาพบรรยากาศสวยๆค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:0:39:18 น.  

 

สวัสดีครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:1:21:33 น.  

 
มาแวะเก็บผักสดรับประทานค่ะ
ตาจะได้สว่าง
ตามโจทย์ ตะพาบ 321 mujg-upogliH09tduhouh

c;t,klj'dki[hko8jtrujw;oN


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:7:07:07 น.  

 
ที่ไปคุย แหะๆ ผมตั้งใจรออัพเลยครับ เมื่อก่อนเช้าๆ ไม่โกโก้ ก็กาแฟ ไม่งั้นก็ชา แล้วแต่อาหารเช้าด้วยล่ะครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ดื่มแล้ว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:9:57:34 น.  

 
ถ้าฟังจากหูฟัง
ผมว่าจะฟังชัดกว่าฟังจากมือถือครับพี่

งานซ่อมแซมบ้าน
เป็นงานหนักจริงๆครับพี่
ตอนนี้ผมซ่อมแซมร้าน
ต้องไปเฝ้าช่างทุกวัน
แค่งานแอร์ยังทำไปอาทิตย์กว่าเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:16:54:50 น.  

 
สัวสดีครับพี่ไวน์

อ่านแล้วเป็นบรรยากาศเชียงใหม่ ที่คนรรุ่นผมนึกไม่ออกแน่นอนครับ
เพราะทีแรกผมกำลังจะพิมเลยว่า เชียงใหม่ ไม่เรียกว่าเด็กบ้านนอกหรอกครับ อิอิ
กิจกรรมของเด็กสมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันมากเลยครับ สมัยก่อนเน้นอยู่กับธรรมชาติ ยิงนกตกปลา เล่นกับเพื่อนๆ
ส่วนสมัยนี้ ก็โต๊ะคอม หรือในห้าง อย่างสมัยผม เสาร์อาทิตย์ก็เรียนดนตรีอยู่ในห้างนี่แหละครับ

จากบล๊อก
คนร้องเพลงเค้าไม่ชอบกินของแบบนี้แน่นอนครับ popcorn งี้ ไอแล้วเสียงเพี้ยนหมด ^^
จริงๆ จะอยู่ใกล้ยอสหรือป่าว เพื่อนก็น่าจะเฉยๆ นะครับ
แต่อย่างว่าอ่ะครับ เค้าบอกว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว เพราะยอ่งสูงก็ยิ่งเหงา เพื่อนไม่ได้อยากจะนั่งกินข้าวกับเราเหมือนเมื่อก่อน


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:18:25:32 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:5:04:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.